สวัสดีครับ ผมจะมาไขข้อสงสัยของระบบต่างๆ ภายใน C9 ที่แสนจะซับซ้อนแต่แฝงไปด้วยข้อมูลมากมายให้ค้นคว้า เอาล่ะครับ เราไปดูรายละเอียดของระบบต่างๆ เลยดีกว่า
ระบบดันเจี้ยน
เป็นอย่างที่ทราบกันแล้วว่าเกม C9 นั้นเป็นเกมแนวลงดันเจี้ยน เพราะฉะนั้น ทุกๆ อย่างของเกมนี้จะอยู่ภายในดันเจี้ยนต่างๆ ไม่ว่าการเก็บเลเวล ทำเควสต์ หรือล่าของ โดยทั่วๆ ไปแล้วประตูทางเข้าดันเจี้ยนที่เลเวลของตัวละครของเรานั้น จะเปิดให้ตัวละครของเราเข้าไปเล่นภายในดันเจี้ยนนั้นๆ ได้ก็ต่อเมื่อมีเลเวลถึงความต้องการขั้นต่ำของดันเจี้ยนนั้นๆ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเข้าสู่ดันเจี้ยนได้จาก Stage Entrance ต่างๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว ประตูทางเข้าของดันเจี้ยน มักจะนิยมอยู่ตามขอบของเมือง
ประตูวาร์ปเข้าสู่ดันเจี้ยน
เมื่อเข้าไปยังประตูนั้นๆ จะปรากฏดันเจี้ยนต่างๆ พร้อมทั้งเลเวลของดันเจี้ยนที่ตัวละครของเราสามารถเข้าไปเล่นได้ โดยที่ระบบดันเจี้ยนของ C9 นั้นจะมีองค์ประกอบดังนี้
Select Name: เป็นชื่อของดันเจี้ยนที่เราเลือก
Select Difficult: เป็นระดับของความยากของดันเจี้ยนที่เราเลือกไว้ ยิ่งมีระดับความยากเพิ่มขึ้นเท่าใด ก็จะมีมอนสเตอร์เพิ่มขึ้น ได้ EXP เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งอัตราการดรอปของไอเทมที่เพิ่มขึ้น
Loot Setting: ระบบการแบ่งของ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะจัดสรรของให้คนในปาร์ตี้แบบไหน
Allow Intrusion: ระบบที่เปิดให้ผู้เล่นที่มีเลเวลที่เหมาะสม สามารถที่จะบุกรุกดันเจี้ยนของเราได้ ซึ่งเมื่อเปิดโหมดนี้แล้ว ผู้เล่นคนอื่นที่เข้ามาบุกรุกสามารถที่จะมาฆ่าเราได้และยึดดันเจี้ยนของเราได้ โดยเมื่อเพื่อนๆ เปิดระบบบุกรุกนี้ จะได้รับโบนัสเพิ่มขึ้นอีก 25% ทั้ง EXPที่จะได้รับ อัตราการดรอป รวมทั้งใช้ Stamina น้อยลง
Allow Parties : อนุญาตให้ปาร์ตี้อื่นๆ เข้ามาในดันเจี้ยนของเราได้
ระบบบุกรุก (Intrude)
ระบบบุกรุกเป็นอีกหนึ่งระบบที่เพิ่มความมันในการเล่น โดยเมื่อเพื่อนๆ เปิดระบบนี้จะเป็นการเปิดให้ผู้เล่นอื่นๆ มา PK เราในดันเจี้ยนนั้นได้ ซึ่งมีเงื่อนไขอยู่ว่า ตัวละครที่จะบุกรุกดันเจี้ยนคนอื่นได้นั้น จะต้องมีเลเวล 25 ขึ้นไปเสียก่อน
โบนัสจากการ PK :
1. สามารถได้รับฉายาพิเศษ จากการฆ่าผู้เล่นถึงจำนวนๆ หนึ่ง
2. เมื่อทำการฆ่าผู้เล่นอื่นทุกครั้งจะมีเหรียญดรอป ซึ่งสามารถนำไปแลกเปลี่ยนกล่องสุ่มไอเทมได้
3. หากมีกิลด์ที่สังกัดอยู่ กิลด์ก็จะได้รับค่ากิลด์เพิ่มขึ้นด้วย
ระบบ PvP
อีกหนึ่งระบบที่เรียกกันได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของ C9 นั่นก็คือ ระบบ PvP ที่เข้มข้นและสนุกสนาน ซึ่งภายใน C9 จะมีโหมดการเล่น PvP หลากหลายรูปแบบให้ขานักสู้ได้เลือกตามความถนัดในการเล่น
Relay Match : โหมดการประลองโดยจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ทีมๆ ละ 8 คน โดยจะสู้กัน 1 - 1 ในแต่ละทีม ซึ่งภายในโหมดนี้เมื่อเพื่อนๆ สามารถชนะคู่ต่อสู้ได้ จะไม่ได้รับการเติม HP ให้เต็ม และจะได้รับ HP คืน 20% ของจำนวน HP ทั้งหมดในการชนะในแต่ละรอบ ซึ่งจะตัดสินกันเมื่อมีทีมใดทีมหนึ่งสามารถชนะอีกฝ่ายได้ครบทั้ง 8 คน จึงจะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะไป
Death Match : โหมดการประลองโดยจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ทีมๆ ละ 8 คน สามารถใช้บัฟของโหมด PvP ได้ ซึ่งทีมที่สามารถไปถึงเส้นชัยได้ภายในระยะเวลาที่กำหรือได้คะแนนมากกว่าเมื่อหมดระยะเวลาในการปะลอง จะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะไป
Team Match : โหมดนี้เป็นโหมดที่เปิดให้เล่นกันได้ตั้งแต่ 1 ต่อ 1 โดยจะสามารถตั้งจำนวนรอบที่จะต้องสู้กันได้ 2/3/5 รอบ โดยที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องต่อสู้กัน โดยที่ฝ่ายที่เหลือผู้รอดชีวิต จะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะไป
Ranking Match : เมื่อเพื่อนๆ ลงทะเบียนเล่นในโหมดนี้ จะถูกจัดคู่ต่อสู้โดยการสุ่มแบบอัตโนมัติ โดยเลือกจาก Rank/Grade ของผู้เล่นที่ใกล้เคียงมาเป็นคู่ต่อสู้ ทั้งยีงมีการสุ่มสนามในการต่อสู้เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นให้ลุ้นระทุกไปมากยิ่งขึ้น โดยที่การเล่นในโหมดนี้จะแบ่งออกเป็น 3 รอบ หากผู้เล่นสามารถที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ถึง 3 ครั้งก็จะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะไป และจะได้รับการเลื่อน Rank หรือลด ซึ่งก็จะขึ้นอยู่คู่ต่อสู้ที่เอาชนะได้ ซึ่งจะแปรผันไปตาม Rank/Grade ของคู่ต่อสู้
นอกจากนี้แล้ว อุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ ภายในเกมนี้ จะไม่ส่งผลใดๆ กับการ PvP ทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามก็ได้มีการปรับสมดุลไอเทมบางอย่างเพื่อให้สมดุลย์ยิ่งขึ้น
ระบบ Ultimate Fur y Skill
สามารถที่จะรับเควสต์เพื่อปลดล็อกใช้งาน Fury Skill ได้จาก Zeil โดยที่จะต้องเคลียร์เควสต์ให้หมดจึงจะสามารถใช้สกิลได้ครับ และเมื่อเคลียร์เควสต์ปลกล็อกสกิลหมดแล้ว เราจะยังได้รับ Legend มาเพิ่มอีกด้วย ซึ่งเจ้า Fury Skill ที่ว่านี้เป็นสกิลที่นับได้ว่ารุนแรงมากสกิลหนึ่งกันเลยทีเดียว ซึ่ง Fury Skill นั้นสามารถปลดล็อกได้จาดเกจ Fury ที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตัวละครของเราโดนโจมตี หรือได้รับดาเมจจากฝ่ายศัตรู โดยที่เกจของ Fury Skill นั้นจะอยู่ใต้หลอด HP ซึ่งจะสามารถใช้งานได้ต่อเมื่อเกจเต็ม
เพื่อนๆ สามารถที่จะเรียกใช้งานได้จากการกดปุ่มเมาส์ซ้ายขวาต่อเนื่องกัน โดยที่ขณะอยู่ในรูปแบบ Fury Formation นั้นจะเห็นเกจกระพริบๆ เรื่อยๆ จนกว่าค่าที่สะสมไว้ในเกจจะหมดไป
หลายๆ คน อาจจะสงสัยว่า เอ... เจ้า Fury Skill ที่จะใช้งานได้เมื่อเปลี่ยนเป็นรูปแบบ Fury Formation เนี่ยมีประโยชน์อย่างไร ขอบอกว่าเยอะมากเลย ตั้งแต่เพิ่ม Super Armor เอย เพิ่มความไวในการเคลื่อนที่ เพิ่มความเร็วในการโจมตี รวมทั้ง ยังเพิ่มความแรงของพลังโจมตีอีกด้วย ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังสามารถเพิ่มค่า Fury ได้จากอาหารจาก Artisan และไอเทม Aura of Fury ก็สามารถเพิ่มค่า Fury ในเกจได้ แต่ Fury Formation ก็มีข้อจำกัดนิดหน่อย นั่นก็คือ ไม่สามารถใช้งานสกิลนี้ได้ในArena ครับ
ระบบของสกิลที่หลากหลาย
เมื่อเพื่อนๆ เปิดเข้ามายังหน้าต่างสกิลแล้วเพื่อนๆ จะเจอหน้าต่าง Skill ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 แท็บครับ ส่วนในตาราง Skill นั้นเมื่อเพื่อนๆ กดไปที่รูปสกิล ก็จะมี Clip ตัวอย่างสกิลให้ดู พร้อมสอนวิธีการกดสกิลครับ
1. Action Skill พวกนี้เป็นสกิลประเภทที่เราต้องกดใช้นะครับ แต่ก็มี Key ลัดเหมือนกัน เราสามารถ setup ลากใส่ในช่องควิกสล็อตได้ตามแต่ถนัดเลยครับ และบาง Action Skill เองก็สามารถที่จะกดใช้งานได้แบบเดียวกับ Command Skill อีกด้วย
2. Command Skill สกิลในชุดนี้จะเป็นจำพวกการใช้ปุ่มหลักๆ นะครับ เช่น Q , E , F , Shift ควบคู่ไปกับการคลิกเมาส์ เป็นต้น แต่ล่ะอาชีพก็จะมี Combo ที่แตกต่างกันไป [ ตรงนี้ย้ำนิดนึงนะครับว่า เป็นไปได้ ก็จำแค่สกิลที่เราใช้ประจำก็พอครับ ] และมีบางสกิลที่ไม่สามารถลากลงควิกสล็อตได้
3. Passive Skill เป็นสกิลประเภทติดตัวครับ ก็จะมีพวกเพิ่ม Hp / Mp / Atk / Matk อะไรประมาณนี้ ก็อัพให้สุดกันไปเลยครับ แต่ก็ต้องคำนวณ SP ที่จะใช้ให้ดีด้วยนะครับ
แต่ถ้าเรากด p skill ผิดไป ก็สามารถซื้อใบ Reset Skill ได้ใน Cash Shop เช่นกัน
สกิลคูลดาวน์
เมื่อเพื่อนๆ ใช้สกิลแล้ว เพื่อนๆ จะต้องรอคูลดาวน์ของแต่ละสกิลให้หมดเสียก่อน จึงจะสามารถกดใช้สกิลนั้นๆ ได้ใหม่อีกครั้ง
เรียนสกิล
เพื่อนๆ สามารถที่จะเรียนสกิลหรืออัพเกรดเลเวลของสกิลได้ที่เทรนเนอร์ของแต่ละคลาสภายในเมือง ซึ่งเงื่อนไขในการเรียนสกิลนั้น จะมีทั้งเลเวลที่จะต้องถึงเพื่อเรียนสกิลนั้นๆ หรือมีค่า SP ที่พอเพียง มิฉะนั้นเพื่อนๆ จะเรียนสกิลไม่ได้ครับ
NPC
NPC ภายในเกมนี้ จะอยู่กระจัดกระจายทั่วๆ ไปในเมือง ซึ่งเพื่อนๆ สามารถที่จะค้นหา NPC ได้จากกล่องหน้าต่าง NPC ต่างๆ หรือถ้าหากเพื่อนๆ ไม่รู้อาชีพ NPC ที่ต้องการ ก็สามารถพิมพ์ชื่อเพื่อค้นหาได้ โดยเมื่อค้นหา NPC แล้ว ก็จะปรากฏสัญลักษณ์เครื่องหมายแสดงสถานที่ยืนของ NPC นั้นๆ บนแผนที่ครับ
นอกจากนี้แล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถค้นหา NPC ได้จากการเอาเมาส์ไปวางเหนือสัญลักษณ์ที่แสดงจุด NPC บนแผนที่ได้อีกครับ
ระบบฉายา
Auspices : คือฉายาที่จะได้รับเมื่อซื้อ Soul Fasion หรือได้รับจากการเปิดกล่องเงินและกล่องทอง ซึ่งเพื่อนๆ จะได้รับค่าพลังที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งสเตตัสพิเศษเมื่อใช้งานฉายานี้
Legend : คือฉายาที่จะได้รับจากการเคลียร์เควสต์ไปถึงจุดๆ หนึ่ง โดยที่จะได้รับค่าพลังที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งสเตตัสพิเศษเมื่อใช้งานฉายานี้ เช่นกัน
ระบบค่าความเหนื่อย (Fatigue)
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อระบบนี้ ซึ่งเป็นระบบที่มีในเกมแนวดันเจี้ยนส่วนใหญ่ ซึ่งในแต่ละวันนั้น เพื่อนๆ จะได้รับค่าความเหนื่อย 100 ที่จะรีเซตทุกๆ วัน และได้รับ 200 แต้มพิเศษในทุกๆ สัปดาห์ โดยที่การลงดันเจี้ยนทุกๆ ครั้ง จะถูกหักค่าความเหนื่อยออกไป
ระบบประมูลและแลกเปลี่ยน
อีกหนึ่งระบบที่จะต้องมีอยู่ในแทบจะทุกเกมนั่นก็คือระบบแลกเปลี่ยนและระบบประมูล ซึ่งระบบแลกเปลี่ยนก็เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้แลกเปลี่ยนไอเทมกันเอง โดยไม่ต้องผ่านระบบประมูล ส่วนระบบประมูลนั้น เป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถฝากขายของกับ NPC ได้ ซึ่งไอเทมที่ฝากขายนั้นจะหมดอายุในการฝากขายทุกๆ 24 ชั่วโมง และจะต้องฝากขายใหม่
เพียงแค่ระบบเบื้องต้นพวกนี้ เพื่อนๆ รู้เอาไว้จะได้มีประโยชน์ตอนเริ่มเล่นกันนะครับ แล้วเจอกันช่วง OBT นะครับ
พบกันใน OBT 9 ตุลาคมนี้
บทความโดย SaintLucifer
นิตยสาร Weekly online ฉบับที่ 482