Dragon Nest เจาะลึกกันถึงกึ๋นสายอาชีพ Academic พร้อมเปรียบเทียบอาชีพคลาส 2 ทั้ง 2 สาย

     สวัสดีค่ะ หลังจากที่สาวก Dragon Nest เซิร์ฟเวอร์ไทยร้องเพลงรอกันมาพอสมควรกับสายอาชีพที่ 5 Academic ในที่สุดก็หมดช่วงระยะเวลาการรอคอยกันแล้วค่ะ สาวน้อย Academic จะเตรียมอัพเดตเข้าเซิร์ฟเวอร์ไทยในวันที่ 10 ตุลาคที่จะถึงนี้กันค่ะ

     ในจุดนี้หลายๆ คนอาจจะเริ่มตระเวนเก็บดาต้า เพื่อเตรียมเล่นหนูแว่นกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอีกหลายๆ คนก็เริ่มเก็บไอเทมคราฟท์ไว้เตรียมคราฟท์ชุดกันแล้ว แต่ก็ยังมีหลายต่อหลายคนอีกที่ยังลังเลว่า เอ… แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นคลาส 2 ตอนเลเวล 15 นี่จะเลือกสายอาชีพไหนกันดี อาจจะกล่าวได้กลายๆ ว่า Engineer นั้นเป็นสายที่เน้น ป้อม-ปืน-เป็ด ค่ะ และสาย Alchemist นั้นจะเน้นธาตุ ฮีลและบัฟเป็นหลักๆ แต่แค่นี้ก็ยังไม่เพียงพอ เราไปดูกันแบบเจาะลึกกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าอาชีพคลาส 2 ของหนูแว่นนั้น ไหนมีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร

จุดเด่นของแต่ละอาชีพ

Engineer

– เป็นสายอาชีพที่เรียกว่า แทบไม่ต้องประชิดตัวในการโจมตีเลย เนื่องจากสกิลที่เอื้ออำนวยในการโจมตีได้จากระยะไกล

– เป็นอาชีพที่มีสกิลป้องกันตัวได้ดีในระดับหนึ่ง ทั้งสกิลเรียกหุ่น เพิ่มความสามารถหุ่น และเรียกป้อมทั้งหลาย ทำให้เมื่อวางป้อมแล้ว ยังสามารถใช้สกิลอื่นๆ รุมโจมตีได้ต่อเนื่องอีก

มีหลากหลายสกิลที่ใช้เป็นสกิล DPS (Damage per Second) ในการโจมตีพร้อมกันได้อย่างรัวๆ อาทิ สกิลป้อม เป็ด ระเบิด มิสไซล์ผ รวมทั้งสกิลของอัลเฟรโด้เองที่สามารถมารวมตัวคอมโบกันได้อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง

– มีสกิลที่ดีในการ PvE (จัดการมอน) อยู่มาก

– สกิลหมดคูลดาวน์ค่อนข้างไว เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ

สกิลที่ทำให้ติดสถานะดีบัพจากบรรดาสกิลของเป็ด เช่น ลดความแรงของพลังโจมตีลง 40%, ทำให้ติดสถานะใบ้และปลดบัฟออก 2 สกิล รวมทั้ง สกิลที่ทำให้ติดสถานะช๊อค หรือแม้แต่ดีบัฟจากสกิลระเบิด หรือป้อมต่างๆ

มีลูกสมุนไว้คอยป่วน ทั้งหุ่นและเป็ด

Alchemist

– มีสกิลที่ดีในการ PvE (จัดการมอน) แบบหมู่มากไม่แพ้กัน

– มี DPS และดาเมจที่รุนแรงต่อการโจมตีแต่ละครั้งสูงมาก เทียบเท่ากับ Elemental Lord ได้เลย

– มีสกิลฮีลทั้งตัวเองและเพื่อนๆ ในปาร์ตี้

– สกิลหมดคูลดาวน์ค่อนข้างไว เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ เช่นกัน

– สามารถใช้ออฟจากธาตุมาเพิ่มความแรงของสกิลได้อีกอย่างมหาศาล (ธาตุไฟ/น้ำแข็ง และ พิษ)

– มีบัฟที่สามารถเพิ่มสเตตัสทั้งตัวเองและเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ได้ชั่วขณะหนึ่ง

#######################

จุดด้อยของแต่ละอาชีพ

Engineer

หุ่นและเป็ดไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิด โดยเฉพาะยิ่งเวลามอนสเตอร์เยอะๆ บางทีเหมือนจะงง ทำให้ยืนเฉยๆ ก็มี ทำให้ต้องเรียกใช้ใหม่บ่อยๆ

– ความคล่องตัวน้อยกว่า Alchemist เนื่องจากสกิลระเบิดมีดีเลย์ในการยิง รวมทั้งเวลาวางป้อม จะกลายเป็นเป้านิ่งระดับหนึ่งในการ PvP

– เรียกป้อมได้แค่ 3 ป้อม เพราะฉะนั้นจะต้องหมั่นคอยวางป้อมเสมอ และทำให้เพิ่มจุดอ่อนโดยเฉพาะในลาน PvP

– ต้องพึ่งพาบรรดาลูกสมุนเยอะพอสมควร (เป็ด-ป้อม-ปืน) ทำให้ถ้าโดนขัดจังหวะในการใช้สกิลเหล่านี้ อาจจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้โดยง่าย

– มีปัญหาในการโจมตีระยะประชิด เนื่องจากสกิลจะเน้นโจมตีจากระยะไกลเกือบทั้งหมด

Alchemist

– เอะอะก็ต้อง Bubble อะไรจะแรงก็ต้องสะสม Bubble แถมถ้ามีไม่พอ สกิลใช้ไม่อีกก็มี

– เป็นสายที่ต้องโจมตีในระยะ ค่อนข้างประชิดตัวพอสมควร รวมทั้งยังไม่มีสกิลป้องกันตัว ทำให้โดนรับดาเมจได้ง่ายๆ

– มีเงื่อนไขในการใช้สกิลที่เพิ่มดาเมจค่อนข้างเยอะ ซึ่งจะต้องคอยสะสมBubble จากการใช้สกิลสาย Alchemist เพื่อที่จะเพิ่มความรุนแรงของสกิลก่อนการใช้งาน

– ต้องอาศัยออฟจากชุดและเพลทมาช่วยในการเพิ่มความแรงของการโจมตี

แล้วข้อแตกต่างหล่ะ?

     สำหรับ Engineer แล้ว ไม่มีทั้งสกิลไว้ฮีลและบัฟเพื่อที่จะช่วยเหลือเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ แต่… ด้วยสกิลป้อม ก็ทำให้เพื่อนๆ สามารถอยู่รอดปลอดภัยเพิ่มขึ้นได้เช่น นอกจากนี้แล้ว สายนี้ยังเป็นสายทำคริและดีบัฟแบบมหาศาลอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นตัวเน้นทำดีบัฟ และเป็นสาย DPS ที่มาพร้อมกับสกิล DPS อีกเพียบ
      ส่วนสาย Alchemist นั้น อาจจะเรียกได้ว่า เป็นสายที่สามารถตุน Bubble ไว้เรียกใช้สกิลโดๆ ได้อย่างมหาศาล รวมทั้งสารพัดบัฟที่คอยสนับสนุนเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ได้อย่างเต็มรูปแบบ และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสายเน้นบัฟ ฮีล และ DPS ที่ดีสายหนึ่ง

แล้วสายไหนเหมาะกับการเล่นอะไรหล่ะ

คลิป Academic PvE : Engineer sub. Gear Master

     สำหรับสาย Engineer นั้นเหมาะสำหรับการไว้ตบตีมอนและลงเนสต์อย่างมาก เนื่องจากสกิลที่รุนแรงและต่อเนื่อง จากการใช้ หุ่น-เป็ด-ป้อม แต่ทว่าก็ต้องอาศัยความชำนาญมากพอตัวในการลง PvP เนืองจากจะต้องพึ่งเหล่าสมุนนี้ในการรบ ส่วนเมื่อแยกออกเป็นคลาส 3 ตอนเลเวล 45 แล้ว สาย Gear Master จะเป็นสายที่เน้น PvE เป็นหลักๆ และสาย Shooting Star จะสามารถใช้สกิล EX ช่วยในการ PvP ได้ง่ายขึ้น (แต่ก็ยังต้องฝึกคอมโบดีๆ เช่นกัน)

คลิป Academic PvE : Alchemist sub. Adept

     ส่วนสาย Alchemist นั้นเป็นสายที่เมื่อเทียบกับ Engineer แล้วจะเคลียร์มอนได้ช้ากว่า เนื่องจากสกิลที่ทำดาเมจรัวๆ น้อยกว่านั่นเอง แต่สายนี้จะได้เปรียบตรงที่ว่าไม่ต้องพึ่งพาอาศัยเหล่าสมุนมากนัก และเน้นฝีมือกับสกิลล้วนๆ ทั้งยังสกิลธาตุโดยเฉพาะสายไฟล้วนๆ ที่ทำดาเมจได้รุนแรงมาก ทำให้สายนี้สามารถครองลาน PvP ได้ง่ายๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

คลิปปะทะ Academic PvP : Engineer VS Alchemist

ความยากของของอาชีพ Academic

     อาชีพนี้ นับว่าเป็นอาชีพที่ทำให้เล่นได้สนุกสนานไม่รู้เบื่อ ทั้งสารพัดสกิลที่ไว้คอมโบกันเรื่อยๆ รวมทั้งเหล่าสหายคู่ใจ เป็ด ป้อม ปืน ที่จะมาคอยป่วนในสนามรบ แต่ทว่า ด้วยสกิลที่ค่อยช่วยหลบหนีในการโจมตีนั้นมีอยู่จำกัด ทำให้การเล่น Academic นั้นจะต้องอาศัยทักษะ และการใช้สกิลที่ถูกต้องในแต่ละสถานการณ์เยอะกว่าอาชีพอื่นๆ นอกจากนี้และ จะต้องคอยศึกษาระยะของสกิลให้ดี เนื่องจากถ้าพลาดก็จบเห่กันได้ง่ายๆ ค่ะ

สกิลอัลติเมตสายไหนดี?

Engineer

     สำหรับสาย Engineer นั้นจะมี 2 สกิลให้เลือกใช้ นั่นก็คือสกิล Demolition และสกิล Skyline

     เป็นสกิลอัลติเมตที่เรียกว่าแทบไม่เลือกใช้กันเลย เนื่องจากดาเมจเบากว่าอีกสกิล และเมื่อกดใช้สกิลนี้ จะเปลี่ยนปืนเป็นซูปเปอร์ปืนกลเพื่อที่จะยิงรัวๆ เป็นระยะเวลา 7.5 วินาที โดยคลิ๊กซ้ายเพื่อโจมตีแต่ละครั้ง และคลิ๊กขวาเพื่อปล่อยชอตพิเศษและจบการใช้สกิล แต่มีข้อเสียที่มหาศาลคือ เมื่อใช้สกิลนี้จะตกเป็นเป้านิ่งถึง 7.5 วินาที เนื่องจากเมื่อกดใช้สกิลจะเคลื่อนไหวไม่ได้ จนกว่าจะหมดการใช้หรือยกเลิกก่อน

     เป็นสกิลที่เรียกได้ว่าทั้งสาย Gear Master และ Shooting Star นิยมใช้เหมือนกัน (ยกเว้นสายไม่อัพเป็ด จะไม่ใช้สกิลนี้) เป็นสกิลที่จะขว้างเป็ดไปบนพื้นและเป็ดจะหมุนๆ โดยจะทำดาเมจ ณ ตรงพื้นที่ขว้างออกไป และโดยรอบๆ ใกล้เคียงกัน

Alchemist

     สำหรับสาย Alchemist นั้นจะมี 2 สกิลให้เลือกใช้ นั่นก็คือสกิล Frost Fangs และสกิล Poison Pool

     เป็นสกิลที่เรียกได้ว่าเป็นอัลติเมตที่แรงที่สุดภายในเกมในขณะนี้ (อ้างอิงจากเซิร์ฟเวอร์เกาหลี) โดยจะเรียกเหล่าน้ำแข็งงอกน้ำแข็งย้อยออกมารอบๆ ตัวผู้เล่น โดยจะใช้ 3 และ 5 Bubble ในการเพิ่มขนาด (ขนาดวงในการทำลาย 4->5 เมตร และดาเมจเพิ่มขึ้นจาก 40% ->80%) และทำให้เป้าหมายที่โดนติดสถานะเคลื่อนไหวช้าลง 50%

     เป็นอีกสกิลที่มีเงื่อนไขเช่นกัน โดยจะใช้ 3 และ 5 Bubble ในการเพิ่มดาเมจ จาก 50% -> 100% และทำให้เป้าหมายที่โดนติดสถานะติดพิษต่อเนื่อง

สรุป : ความแรงของสกิลอัลติเมตของสาย Academic เรียงได้ตามนี้จากแรงมากไปแรงน้อย Frost Fangs -> Skyline -> Demolition -> Poison Pool

ปิดท้ายด้วย สหายประจำกายของ Academic

Alfredo

     หุ่นประจำกายของหนูแว่น ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งสหายร่วมรบ (ใช้สกิลตีมอน แท๊งค์) และตัวเพิ่มภาระ (ลากมอนมาหาเรา) ในคราเดียวกัน ดังนั้นจะต้องเรียกใช้งานให้เป็น

Mecha-Ducks

     เหล่าเป็ดดำทั้งหลาย ทั้งเป็ดสามพี่น้อง และเป็ดที่อยู่ในป้อม ก็เป็นเหล่าสหายร่วมรบของหนูแว่น

Goo

     ลูกบอลเด้งดึ๋งสีขาวที่ดูไร้พิษภัย แต่ทว่าเมื่อจำนวน Bubble เพิ่มขึ้นเท่าไร เจ้าตัวนี้ก็จะน่ากลัวขึ้นมาทันทีเช่นกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก http://dragonnest.nexon.net

คลิป Academic PvP : Engineer VS Alchemistจาก selylibelle

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้