การเลือกใช้ Rune แบบจัดเต็มใน League of Legends
สวัสดีเพื่อนๆ เหล่า Summoner ชาวไทยทุกท่านครับ วันนี้ผม Barrettez เจ้าเก่า จะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ Rune เช่นเรื่องการ Set Rune แบบเจ๋งๆ และวิธีการเลือกซื้อ Rune ที่เหมาะสมให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันนะครับ ^^
ระบบ Rune ในเกม League of Legend เป็นระบบที่เสริมความสามารถให้กับแชมป์เปี้ยนในเกมได้ในระดับหนึ่ง โดยการซื้อผลึก Rune จากร้านค้า ด้วยค่า IP ซึ่งสามารถหาได้จากการเล่นเกมทั่วๆ ไป มาใส่ในช่องสำหรับใส่ Rune โดยเมื่อ Summoner เราเลเวล 30 แล้ว จะมีช่องสำหรับใส่ Rune ทั้งหมด 30 ช่อง โดยแบ่งเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้
Mark 9 ช่อง Seal 9 ช่อง Glyphs 9 ช่อง Quintessences 3 ช่อง
ประเภทของ Rune
สำหรับผู้เล่นใหม่นั้นอาจจะสงสัยว่า "Rune ไหนทำอะไรได้?", "ทำไมต้องแบ่ง Rune เป็นสีต่างๆ?", "ควรจะเลือกใช้ Rune ไหนดี?" วันนี้ผมมีคำตอบมาให้เพื่อนๆ กันครับ
จากช่วงต้นบทความ เพื่อนๆ จะเห็นว่า Rune มีทั้งหมด 4 ประเภท โดยแต่ละประเภทก็มีความสามารถแตกต่างกันไปดังนี้
เป็น Rune ประเภทเสริมการโจมตีทั้งหลาย โดยจะเน้นการโจมตีทะลุเกราะกายภาพและเวทมนตร์, เพิ่มความเร็วการโจมตี, เพิ่มความสามารถในการโจมตีแบบ Critical และเพิ่มพลังโจมตีพื้นฐานด้วย
เป็น Rune ประเภทเสริมตวามสามารถทางการป้องกัน, พลังชีวิต และอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตกับมานา
เป็น Rune ที่เสริมความสามารถทางด้านพลังเวทมนตร์, ค่าพลังมานา, ลดเวลาคูลดาวน์, และพลังป้องกันเวทมนตร์
เป็น Rune ที่เสริมความสามารถโดยรวมในระดับที่สูงมาก นอกจากนี้ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่ Rune ชนิดต่างๆ ไม่มี เช่นเพิ่มค่าประสบการณ์, เพิ่มเงิน, ลดเวลาตาย เป็นต้น
วิธีเลือกใช้ Rune
การเลือกใช้ Rune แต่ละครั้ง นอกจากต้องเลือกให้เข้ากับความสามารถของแชมป์เปี้ยนที่จะใช้เล่นในเกมนั้นๆ แล้ว ยังต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบต่างๆ ของ Rune ด้วยดังนี้ครับ
Rune หลัก / Rune รอง
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาเรานำเมาส์ไปชี้ที่ Rune ในหน้าต่าง Rune แล้วจะพบว่ามีกรอบข้อความขึ้นมาบอกความสามารถของ Rune พร้อมทั้งข้อความเล็กๆ ที่บริเวณขวาบนของกรอบข้อความนั้นว่า Rune หลัก / Rune รอง ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทางในด้านของค่าความสามารถที่เสริมเข้ามาครับ เป็นที่แน่นอนว่า Rune หลัก จะเพิ่มความสามารถใ้ห้เยอะกว่า Rune รองอยู่แล้ว ตามตัวอย่างดังนี้ครับ (คลิกรูปด้านล่างเพื่อขยายได้นะครับ)
จากในรูปจะเป็นการยกตัวอย่าง Rune ประเภทเสริมพลังเวทย์ ซึ่งจากที่ผมพูดไปในหัวข้อก่อนหน้าว่า Rune ประเภท Glyphs จะมีความสามารถทางด้านเสริมพลังเวทย์ ซึ่งถือเป็นความสามารถหลักอยู่แล้ว ผิดกับ Mark ที่เสริมพลังโจมตีทางกายภาพซึ่งไม่ถือเป็นความสามารถหลัก จึงจัดเป็น Rune รองซึ่งเพิ่มค่าพลังเวทย์ได้น้อยนั่นเองครับ
ดังนั้น การเลือกใช้ Rune หลักจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดครับ
แต่ ถึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้ Rune รองจะเป็นทางเลือกที่ผิดเสมอไปครับ สำหรับผู้เล่นบางคน ที่ต้องการเน้นไปที่ค่าพลังนั้นๆ เป็นพิเศษ อาจจะใช้วิธีการเสริมความสามารถด้านนั้นๆ ไปอย่างเดียวเลยก็ได้ เช่น
ยกตัวอย่างการใส่ Rune เสริมพลังเวทย์ หากเน้นใส่ที่ Glyphs ที่เป็น Rune หลักจะสามารถเพิ่มค่าพลังเวทย์ได้ทั้งหมด +11 หน่วย
แต่หากใส่ Rune เสริมพลังเวทย์ลงไปในช่องอื่นที่เป็น Rune รองอย่างเช่น Mark จะเสริมพลังเวทย์ขึ้นมาได้อีก 5 หน่วย รวมทั้งสิ้น 16 หน่วย
และหากเปลี่ยน Quintessences จากเดิมไปใส่เสริมพลังเวทย์ จะเพิ่มพลังเวทย์ได้อีกมหาศาลซึ่งรวมจาก Glyphsและ Mark เดิมเข้าไปด้วยก็เพิ่มเป็น 31 หน่วย เลยทีเดียวครับ (ยังไม่นับใส่ Seal เสริมพลังเวทมนตร์ลงไปอีกนะครับ)
การใส่ Rune แบบนี้ก็ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างใดครับ แถมยังสามารถเห็นผลได้ดีมากๆ สำหรับผู้เล่นแชมป์เปี้ยนสาย Mage ที่สามารถยิงสกิลใส่ศัตรู ได้รุนแรงมากๆ ตั้งแต่ต้นเกมเลยล่ะครับ
หมายเหตุ ในการเลือกซื้อ Rune จากร้านค้าจะไม่มีบอกเอาไว้ว่า Rune ไหนเป็น Rune หลักหรือ Rune รอง จนกว่าจะซื้อมาแล้ว หากเพื่อนๆ อยากรู้ว่า ในค่าพลังเดียวกันซื้อ Rune แบบไหนดีกว่า ผมจะแนะนำให้เพื่อนๆ ทราบในหัวข้อถัดไปครับ ^^
เปรียบเทียบระดับความสามารถของ Rune
ในขั้นต้นนั้นผมได้กล่าวไว้คร่าวๆ ว่า Rune แต่ละประเภทมีความสามารถใดบ้าง คราวนี้ผมจะเปรียบเทียบให้เพื่อนๆ ได้ดูกันว่า Rune ประเภทไหน ซื้อแบบไหนดีที่สุดตามนี้เลยครับ
Mark
ดีมาก = โจมตีทะลุเกราะทางกายภาพ, โจมตีทะลุเกราะทางเวทมนตร์
ดี = เพิ่มความเร็วในการโจมตี, เพิ่มโอกาสโจมตีติดคริติคอล, เพิ่มพลังโจมตี, โจมตีทะลุเกราะกายภาพ&เกราะเวทมนตร์
ปานกลาง = พลังป้องกันทางกายภาพ, พลังป้องกันทางเวทมนตร์
พอใช้ = พลังเวท, พลังเวทต่อเลเวล, พลังโจมตีต่อเลเวล, มานาต่อเลเวล, ฟื้นฟูมานา, พลังโจมตีคริติคอล, พลังชีวิตต่อเลเวล
ห่วย = พลังชีวิต, พลังมานา, ลดคูลดาวน์, พลังป้ิองกันเวทมนตร์ต่อเลเวล
Seal
ดีมาก = พลังป้องกัน
ดี = อัตราฟื้นฟูมานา, อัตราฟื้นฟูพลังมานาต่อเลเวล, พลังชีวิตต่อเลเวล
ปานกลาง = พลังป้องกันต่อเลเวล, พลังชีวิต, พลังชีวิตตามเปอร์เซนต์, พลังเวทย์
พอใช้ = มานาต่อลเวล, อัตราฟื้นฟูพลังชีวิต, อัตราฟื้นฟูพลังชีวิตต่อเลเวล, พลังป้องกันทางเวทย์ต่อเลเวล, ความเร็วในการโจมตี, อัตราฟื้นฟูค่า Energy, อัตราฟื้นฟูค่า Energy ค่อเลเวล, พลังเวทย์, เพิ่มเงินที่ได้รับต่อ 10 วินาที
ห่วย = โอกาสคริติคอล, พลังโจมตีคริติคอล, พลังโจมตี, มานา, พลังป้องกันเวทย์, ลดคูลดาวน์๋, พลังโจมตีต่อเลเวล
Glyphs
ดีมาก = พลังป้องกันเวทย์, พลังป้ิงกันเวทย์ต่อเลเวล, พลังเวทย์ต่อเลเวล
ดี = พลังเวทย์, ลดคูลดาวน์, อัตราฟื้นฟูมานาต่อเลเวล
ปานกลาง = ลดคูลดาวน์ต่อเลเวล, พลังมานาต่อเลเวล, เพิ่มมานา, เพิ่ม Energy
พอใช้ = โจมตีทะลุพลังป้องกันเวทย์, เพิ่ม Energy ต่อเลเวล, อัตราฟื้นฟูมานา, ความเร็วในการโจมตี, พลังชีวิตต่อเลเวล, พลังป้องกัน
ห่วย = โอกาสคริติคอล, พลังโจมตี, อัตราฟื้นฟูพลังชีวิต, พลังชีวิต, พลังโจทตีต่อเลเวล, พลังโจมตีคริติคอล
Quintessences
ดีมาก = พลังเวทย์, เคลื่อนที่เร็วขึ้น
ดี = พลังโจมตี, พลังชีวิต, อัตราฟื้นฟูพลังชีวิต, พลังป้องกัน, โจมตีดูดเลือด, โจมตีทะลุเกราะป้องกันทางกายภาพ, โจมตีทะลุเกราะป้องกันทางเวทย์, พลังป้องกันทางเวทย์, เพิ่มเงินที่ได้รับต่อ 10 วินาที
ปานกลาง = ความเร็วในการโจมตี, โอกาสโจมตีคริติคอล, เวทมนตร์ดูดเลือด, ลดคูลดาวน์, โจมตีทะลุเกราะทางกายภาพและทางเวทย์, เพิ่ม Energy, พลังเวทย์ต่อเลเวล
พอใช้ = พลังชีวิตต่อเลเวล, อัตราฟื้นฟูมานาต่อเลเวล, อัตราฟื้นฟูมานา, อัตราฟื้นฟู Energy, พลังมานา, ลดคูลดาวน์ต่อเลเวล, เพิ่มค่าประสบการณ์, ลดเวลาตาย, เพิ่มพลังชีวิตเป็นเปอร์เซนต์
ห่วย = เพิ่มมานาต่อเลเวล, พลังโจมตีคริติคอล, พลังป้องกันเวทย์ต่อเลเวล, พลังโจมตีต่อเลเวล, พลังป้องกันต่อเลเวล, อัตราฟื้นฟูพลังชีวิตต่อเลเวล
แนะนำ Set Rune สำหรับผู้เล่นใหม่
สำหรับผู้เล่นใหม่นั้นอาจจะรู้สึกลำบากใจในการเลือกใช้ Rune เพราะ้ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ เช่นยังไม่มีแชมป์เปี้ยนหลักที่เล่นประจำ หรือกลัวมีค่า IP ไม่พอใช้ซื้อ Champion และอยากซื้อ Rune Set ที่ประหยัดที่สุด โดยสามารถใช้กับ Champion ได้หลายๆ ตัว วันนี้ผมจะมาแนะนำ Set Rune ที่ดีและใช้ได้กับแชมป์เปี้ยนได้หลายตัว มาให้เพื่อนๆ ได้ลองดูกันนะครับ
ก่อนอื่นเลย ถ้าไม่จำเป็น ผมไม่ค่อยแนะนำให้เพื่้อนๆ ซื้อ Rune ใช้เองก่อนจะสามารถซื้อ Rune ระดับ 3 ได้ เพราะจะเสียเงินในการซื้อ Rune ที่ต้องการเวลาเลเวล 20 ขึ้นไปแล้วนั่นเองครับ และถึงให้นำ Rune เก่ามาผสม ก็ต้องลุ้นสุ่มเอาเอง ไม่สามารถฟันธงได้ ว่าจะได้ Rune ที่ต้องการหรือไม่นั่นเองครับ
- Mark
เป็น Rune ที่ทำให้สามารถโจมตีทะลุเกราะป้องกันทางกายภาพ หรือทางเวทย์ได้ โดยขึ้นอยู่กับว่า เพื่อนๆ เ่ล่นแชมป์เปี้ยนสายกายภาพ หรือเวทย์เป็นหลักครับ และแม้แต่ตัว Tank หรือ Support ก็สามารถใส่ได้เช่นกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องใส่เฉพาะ Carry เสมอไป แถมยังมีโอกาสฆ่าได้อีกด้วย (เซ็ตละ 3690IP)
- Seal
Rune นี้จัดว่าเป็น Rune ที่ดีที่สุดสำหรับ Seal เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันสามารถเพิ่มพลังป้องกันได้สูงมาก เหมาะสำหรับแชมป์เปี้ยนทุกเพศ ทุกเผ่าพันธุ์และทุกสายการเล่นครับ Tank ทีุ่ถึกอยู่แล้วก็จะถึกยิ่งขึ้นไปอีก หรือแม้แต่ Carry ตัวบางๆ Rune นี้ก็จะทำให้เพื่อนๆ ตายได้ยากขึ้นในช่วงต้นเกมครับ (เซ็ตละ 1845IP)
-Glyphs
จัดว่าเป็น Rune ที่ช่วยให้ผู้เล่นมีพลังป้องกันทางเวทย์ฺเอาไว้สำหรับรองรับพลังเวทย์จากแชมป์เปี้ยนตัวอื่นๆ มากยิ่งขึ้น ทำให้ตายยากขึ้นอีกเช่นกันครับ (เซ็ตละ 1845IP)
- Quintessences
สำหรับ Rune ชุดนี้ อาจจะต้องซื้อแยกกัน ตามประเภทของแชมป์เปี้ยนที่เพื่อนๆ เล่นกันนะครับ อย่างเช่นสาย Tank หรือ Support ก็ให้ใช้เป็นเพิ่มพลังชีวิตไป เพื่อเสริมความแกร่งและตายยากขึ้นไปอีกขั้นนึง ส่วนแชมป์เปี้ยนประเภท Carry ก็ให้ซื้อแยกเป็นสายอีกเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะเน้นโจมตีทางกายภาพ หรือโจมตีทางเวทย์ครับ
สรุป : สังเกตได้ว่า Rune ที่ผมแนะนำสำหรับผู้เล่นใหม่นั้น เป็น Rune ที่เ้น้นการป้องกันตัวเองเป็นหลัก ซึ่งสามารถใช้ได้กับแชมป์เปี้ยนทุกตัว เว้นเสียแต่ Rune โจมตี อาจจะเปลี่ยนไปตามสายการเล่นของตัวเองครับ
ตัวอย่างการเซ็ต Rune (โดยรวม) สำหรับการเล่นในสายต่างๆ
สาย AP Carry
Mark : โจมตีทะลุพลังป้องกันเวทย์ Seal : เพิ่มอัตราฟื้นฟูพลังมานาต่อเลเวล
Glyphs : เพิ่มพลังเวทย์ต่อเลเวล Quintessences : เพิ่มพลัง AP
สาย Support
Mark : พลังป้องกันทางกายภาพ | โจมตีทะลุเกราะกายภาพ | โจมตีทะลุเกราะเวทย์ (ขึ้นอยู่กับรูปแบบการโจมตีของแชมป์เปี้ยนที่เล่น)
Seal : อัตราฟื้นพลังมานา | อัตราฟื้นพลังมานาต่อเลเวล | พลังป้องกันกายภาพ
Glyphs : อัตราการฟื้นฟูมานาต่อเลเวล | ลดคูลดาวน์ | พลังป้องกันเวทย์ต่อเลเวล
Quintessences : เพิ่มเงินที่ได้รับใน 10 วินาที | เพิ่มพลังชีวิต
สาย AD Carry
Mark : โจมตีทะลุเกราะกายภาพ Seal : พลังป้องกัน | พลังชีวิตต่อเลเวล
Glyphs : อัตราฟื้นฟูมานาต่อเลเวล | พลังป้องกันเวทย์ต่อเลเวล Quintessences : พลังโจมตี
สาย Tanker
Mark : โจมตีทะลุพลังป้องกันทางกายภาพ | โจมตีทะลุพลังป้องกันเวทย์ (ขึ้นอยู่กับรูปแบบการโจมตีของแชมป์เปี้ยนที่เล่น)
Seal : พลังป้ิองกันกายภาพ
Glyphs : พลังป้องกันเวทย์ | พลังป้องกันเวทย์ต่อเลเวล
Quintessences : ความเร็วในการเคลื่อนที่
สาย Jungler (เน้นสำหรับนักเดินป่าสายโจมตีกายภาพนะครับ)
Mark : โจมตีทะลุเกราะกายภาพ | ความเร็วในการโจมตี Seal : พลังป้องกันกายภาพ
Glyphs : พลังป้องกันเวทย์ ต่อเลเวล Quintessences : โจมตีทะลุเกราะกายภาพ | พลังโจมตี
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างการ Set ที่เห็นได้ทั่วไปนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับผู้มีประสบการณ์สูงแล้ว ก็สามารถเลือกใส่ Rune ที่แตกต่างกันออกไปได้ ไม่จำเป็นต้องเล่นตามที่แนะนำตายตัวก็ได้ครับ
เมื่อ Set Rune เสร็จเรียบร้อยก็ไปลุยกันเลย !!!
สำหรับวันนี้ก็หมดเพียงแึค่นี้แล้วล่ะครับ จะเห็นได้ว่า Rune นั้นถึงจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ นั้นการ Set แต่ละครั้งก็ต้องคิดให้ดีเช่นกัน ผมเองก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ในการนำไปใช้ปรับเปลี่ยนตามถนัด ไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับวันนี้ผมขอลาไปก่อนล่ะครับ สัปดาห์หน้้า ผมจะมีอะไรมาเสนออีกนั้นก็รอดูกันต่อไปนะครับ ^^ //
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://www.mobafire.com/league-of-legends/build/rune-tips-what-secondary-and-primary-means-and-more-24255