บทความนี้ไม่ได้ทำเพื่อจะดักแก่ หรือเช็คอายุแต่อย่างใด แต่เพราะช่วงนี้มีกระแสของการครบรอบ 10 ปีเกม RO (Ragnarok Online) ประกอบกับกระแสการเปิดเกม Counter Strike ทั้งสองเวอร์ชั่น ทำให้มันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเมื่อครั้งสมัยที่ RO ยังไม่บูม (จนกลายมาเป็นยุคของเกมออนไลน์)
ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อ 10 กว่าปีก่อนทุกคนน่าจะมีความทรงจำจางๆ กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ว่าความสนุกในตอนนั้นมันมีอะไรกันบ้าง ซึ่งวันนี้ผมเลยจะขออาสาพาทุกท่านนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปเมื่อวันนั้นอีกครั้งครับ^^
ยุคทองของการจั่วการ์ด
ก่อนที่ RO จะบูม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เป็นยุคทองของการจั่วการ์ดจริงๆ ไม่ว่าจะเดินเข้าห้างไหน หรือมุมซอยไหน ก็ต้องมีร้านขายการ์ดให้เกลื่อน ซึ่งการ์ดที่นิยมกันมากๆ จะมีอยู่ 2 แบบคือ เมจิกเดอะแกเธอริง (Magic: the gathering) และ ซัมมอนเนอร์มาสเตอร์ (Summoner Master)
โดยการ์ดที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือการ์ดเมจิก ซึ่งเริ่มทำมาจำหน่ายในปี 1993 และกลายเป็นการ์ดที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ส่วนการ์ดซัมมอนเนอร์ เป็นการ์ดที่คิดค้นโดยคนไทยหลังการ์ดเมจิกได้รับความนิยมไม่นาน
ซึ่งความนิยมของยุคจั่วการ์ดนั้น คงไม่ต้องบอกว่ามากขนาดไหน เพราะผมเชื่อแน่ว่าบางคนอาจยอมถึงขั้นอดค่าข้าวกลางวันเพื่อขอได้ลุ้นซักซอง หรือบางคนก็อาจจะเคยฝาก “รอยหน้าผากไว้หน้าตู้กระจก” เพื่อขอจ้องการ์ดใบแรร์ที่อยากได้ครอบครองซะเหลือเกิน
อีกอย่างหนึ่งที่หากคนในยุคจั่วการ์ดยังพอจำได้ การสอบเพื่อเป็นกรรมการคุมแข่งการ์ดเมจิกนั้น มีความยากไม่ต่างจากการสอบของมหาลัยอินเตอร์เลยทีเดียว ซึ่งผมเชื่อว่าในปัจจุบันการสอบเป็นกรรมการ (Judge) ก็ยังมีความยากมากๆ อยู่ดี
การ์ดเมจิกเดอะแกเธอริง และการ์ดซัมมอนเนอร์มาสเตอร์
เกมยอดนิยมช่วงนั้น
ถ้าวกกลับเข้ามาในร้านเน็ต (สมัย 56k ที่มีเสียงอี้อ้อๆ) เกมที่เปรี้ยงสุดคงต้องยกให้กับ Counter Strike ที่ไม่ว่าร้านไหนก็ยิงกันแทบทุกจอ โดยเฉพาะร้านที่ LAN กันได้ จะฮอตฮิตมากเป็นพิเศษ ซึ่งในช่วงนั้นผมก็เป็นคนหนึ่งที่มักจะสิงอยู่ประจำแถวย่านเกษตร (แต่ก่อนหน้านั้นเกม Half-Life เองก็ฮิตไม่แพ้กัน)
นอกจาก Counter Strike แล้ว เกมที่มีสาวกอยู่จำนวนไม่น้อยก็คือเกม Championship Manager หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า CM ซึ่งเกมนี้ผมเองก็ติดหงอมเหมือนกัน ผมยังจำได้ดี ในวันที่ RO เปิดเทสครั้งแรกที่เซิร์ฟเวอร์อินเตอร์ ยังมีอยู่หลายเครื่องที่ไม่สนใจกระแส RO แต่ยังคงจับจองอยู่ที่เกม CM ซึ่งสมัยนั้นยังมีแต่ Text วิ่งไปวิ่งมา (แต่เร้าใจโคตรๆ)
ส่วนเกมที่เล่นเมื่อไหร่เกรียนเมื่อนั้น ก็ยังมีเกม Rune เกมที่เล่นคล้ายๆ Counter Strike เพียงแต่เปลี่ยนเป็นอาวุธระยะประชิด จำพวก ดาบ โล่ ขวาน ซึ่งภายในเกมจะมีอาวุธให้ได้เลือกเก็บมากมาย แม้กระทั่งแขนตัวเองที่ขาดออกมา ก็สามารถนำมาเป็นอาวุธสังหารคนอื่นได้เช่นกัน
ส่วนเกมที่มักจะเล่นกันเป็นหมู่คณะ เกมที่ผมจำขึ้นใจเลยก็คือเกม Battle Realms เกมที่ใช้วิธีการเลือกเผ่าแล้วสร้างยูนิตออกมาต่อสู้กัน โดยแต่ละเผ่าจะมีเทคนิคการเล่นที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อก่อนเวลาเล่นกับเพื่อน ก็มักจะต้องรอให้แต่ละคนมีร่ำรวยกันก่อนถึงจะบุกกันได้ (ผมจำไม่ได้ละว่า เผ่าอะไรซักอย่างนี้แหละ ที่มันปั้มหยินหยางโกงๆ หน่อย)
ปิดท้ายด้วยเกมที่สะใจขาโหดอย่างเกม Serious Sam เกมยิงมุมมองสไตล์ FPS ที่ต้องบุกยิงเหล่ามอนสเตอร์นับหมื่นที่ดาหน้ามาให้ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ซึ่งมอนสเตอร์ภายในเกมก็มีบุคคลิกแปลกประหลาดแบบสุดๆ โดยเฉพาะเจ้าปีศาจไร้หัวถือระเบิด ที่เสียงของมันเวลาปรี่เข้ามามันช่างน่ายิงทิ้งซะเหลือเกิน
////เกมเพิ่มเิติม///
Command & Conquer: Red Alert
เกมแนว RTS ที่สร้างความฮาและความเมามันส์โดยเฉพาะเวลาที่เล่นกับเพื่อนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสารพัดเทคนิคโคตรโกงต่างๆ ที่ผมจำขึ้นใจเลยคือการปักเสาไฟฟ้าต่อกันไปเรื่อยๆ จนไปช๊อตถึงฐานเพื่อน ซึ่งตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกเกมที่ฮิตกันอย่างกว้างขวาง
StarCraft
เกมนี้นอกจากจะปลุกวงการ E-Sport ที่เกาหลีให้บูมแล้ว ในไทยเองก็มีคนสนใจเล่นกันอยู่ไม่น้อย บางคนถึงขั้นดูรีเพลย์การแข่งของต่างประเทศได้เป็นวันๆ ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะเป็นนิยมเฉพา่ะแบบ LAN ในร้าน แต่หลังจากที่สามารถเชื่อต่อระบบ Battle Net ได้ ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนไทยไปติด Ranking อยู่จำนวนไม่น้อย (เงียบๆ หน่อยครับ ผมได้ยินเสียงคนกดนิวเคลียร์..)
Diablo ll
สุดยอดเกมที่ยุคนั้นใครไม่เล่น ออกจะเป็นคนที่ตกเทรนด์เลยก็ว่าได้ เพราะแทบทุกร้านจะต้องมีลงติดเครื่องไว้เสมอ ช่วงหลังๆ บางร้านมีติดโปรแกรมอำนวยความสะดวกพร้อม ไม่ว่าจะเป็น เมพแฮก, ปรับเปลี่ยนเลเวล, ปรับเปลี่ยนของ ส่วนตัวผมเองก็ติดหนักอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน (ที่ชอบเล่นสุดตอนนั้นก็คือ อาชีพบาบาเรี่ยน)
ถึงแม้ว่านี่อาจจะเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความสนุกในยุคนั้น ซึ่งตัวผมเองอาจจะไม่ได้นำมาพูดถึงทั้งหมด (ยังไงก็ต้องขออภัยด้วย) แต่เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยสัมผัสกันมาบ้างไม่มากก็น้อย และเมื่อเวลาเดินต่อไปจากนี้อีก 10 ปี เมื่อเรามองย้อนกลับมาอีกครั้ง รอยยิ้มแห่งความสุขของเราก็จะเกิดขึ้นที่ใบหน้าของเราแน่นอน เพียงแต่ว่าความสนุกนั้นอาจจะเป็นยุคของเกมออนไลน์ที่เรากำลังเล่นอยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้
ตอนนั้นใครทำอะไรกันอยู่ ก็มาแชร์กันได้นะครับ^^