9 เหตุผล ที่ทำให้ C9 เป็นหนึ่งในเกม Action MMORPG ที่พลาดกันไม่ได้ในชั่วโมงนี้

แชร์เรื่องนี้:
9 เหตุผล ที่ทำให้ C9 เป็นหนึ่งในเกม Action MMORPG ที่พลาดกันไม่ได้ในชั่วโมงนี้
     สวัสดีค่ะ หลังจากที่ชาวไทยรอคอยกันมานาน ในที่สุดก็ใกล้เวลาที่จะเปิดช่วงทดสอบ Continent of the Ninth หรือ C9 เซิร์ฟเวอร์ไทยกันเป็นครั้งแรกแล้วในวันที่ 20-22 สิงหาคมนี้ ซึ่งวันนี้เราจะไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า หลากหลายสารพัดเหตุผลที่ทำให้ C9 เป็นหนึ่งในเกมที่พลาดกันไม่ได้ในชั่วโมงนี้กันค่ะ ซึ่งบรรดาเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เคยอ่านผ่านตามาจากรีวิวฝรั่งสารพัดที่และหลากหลายเซิร์ฟเวอร์ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์เกาหลี จีน และ NA ค่ะ
1. เนื้อเรื่องที่ชวนให้น่าติดตาม
 
     เช่นเดียวกับเกม MMORPG ทั่วๆ ไปที่เมื่อเพื่อนๆ เข้าสู่เกมเป็นครั้งแรกจะมีการสอนเทคนิคพื้นฐานต่างๆ ภายในเกม ไม่ว่าการบังคับควบคุมหรือรายละเอียดพื้นฐานต่างๆ ที่ควรรู้ หลังจากที่เพื่อนๆ จบจากการสอนเทคนิคพื้นฐานต่างๆ แล้ว เพื่อนๆ จะถูกพาวาร์ไปยังท่าเรือ Waterford ซึ่งตั้งอยู่ในราชอาณาจักร Tampera ในทวีปแรก หรือ First Continent
ซึ่งเนื้อเรื่องของเกม C9 นั้นเป็นเรื่องราวของการต่อสู้กันระหว่าง "ความดี" และ "ความชั่วร้าย" โดยที่เหล่าตัวละครฮีโร่จะต้องดำเนินเควสต์เพื่อนที่จะเพิ่มเลเวลไปยังเลเวลถัดๆ ไป และระหว่างการทำเควสต์นั้นเพื่อนๆ ก็จะได้เพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องที่แสนจะลึกล้ำ พร้อมทั้งคัตซีนต่างๆ มากมาย และเนื้อเรื่องของเกมเองก็จะเติบโตเข้มข้นไปเรื่อยๆ ตามเลเวลของฮีโร่ที่เพิ่มขึ้นไปพร้อมๆ กัน 

Trailer เนื้อเรื่อง C9

2. เส้นทางการวิ่งที่เปลี่ยนได้ตามความยาก
     
     เมื่อพูดถึงเกมแนวดันเจี้ยน เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเบื่อว่า เฮ้ย เกมลงดันมาอีกแล้ว เพื่อนๆ อาจจะเบื่อที่จะต้องลงดันเจี้ยนเส้นทางเดิมๆ ตีมอนจุดเดิมๆ แต่สำหรับ C9 แล้ว เมื่อเพื่อนๆ ปรับความยากของดันเจี้ยนเพิ่มขึ้น ความโหดของดันเจี้ยนก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว นอกจากนี้แล้ว เส้นทางเดินของดันเจี้ยนจะเปลี่ยนทุกครั้งที่ปรับระดับความยากเพิ่มขึ้น ทั้งยังเหล่ากับดักสารพัดอย่างที่เพิ่มขึ้น อุปสรรคในเส้นทางและเหล่ามอนสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนตำแหน่งที่เกิด (ตามเส้นทางการวิ่งที่ถูกเปลี่ยน) รวมทั้งบอสก็เปลี่ยนตามความยากของดันเจี้ยน (และโหดขึ้นด้วย) ก็ทำให้เส้นทางวิ่งในดันเจี้ยนสำหรับเกมนี้ไม่น่าเบื่อกับอะไรเดิมๆ อีกต่อไป 
     นอกจากนี้แล้ว ดันเจี้ยนใน C9 เองยังสามารถปรับระดับความยากง่ายได้หลากหลายมาก ตั้งแต่ Normal > Hard > Expert > Master > Hell* > Nightmare* (2 ตัวหลังยังไม่มีในเซิร์ฟเวอร์ไทย) ซึ่งจะมีเพียงแค่ 3 ดันเจี้ยนแรกเท่านั้นที่จะยังไม่มีความยากระดับมาสเตอร์
3. ระบบการควบคุมและคอมโบที่อิสระ 
 
     C9 ได้ชื่อว่าเป็น Action MMORPG ก็ย่อมมาพร้อมกับการควบคุมที่อิสระ เพื่อที่จะได้แอคชั่นกันอย่างมันส์และมีอิสระแบบ 360 องศา พร้อมทั้งยังเป็นระบบเกมที่ไม่ล๊อกเป้าและเป็นเกมที่ใช้ภาพแบบมุมมองที่่ 3 ทำให้ขีดจำกัดในการมองเห็นรวมทั้งอิสระในการเคลื่อนไหวได้ถูกปลดล๊อกออกหมดโดยสิ้นเชิง
     และอาจจะเรียกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีระบบคอมโบค่อนข้างจะซับซ้อนมากที่สุดที่เคยมีมา นอกเหนือจากระบบการเดิมแบบปรกติที่บังคับโดย "W-A-S-D" และคำสั่งการใช้งานสกิลจากการกดปุ่ม 1-0 แล้วนั้น เกม C9 ยังได้เพิ่มขีดจำกัดของการใช้สกิลมากขึ้นไปอีก ด้วยรูปแบบการผสมผสานของการกดปุ่มที่หลากหลาย (มีการใช้ปุ่มกดอื่นๆ หรือการกดเมาส์เข้ามาผสมผสานเพิ่มเติมกับการกดพื้นฐาน) ซึ่งรูปแบบการกดสกิลที่หลากหลายนั้นทำให้มีการใช้ปุ่มบนคีย์บอร์ดครอบคลุมเกือบครึ่งหนึ่งของแป้นทั้งหมดกันเลยทีเดียว ทำให้การใช้สกิลแต่ละอย่างในเกมนี้สามารถเลือกได้ตามความถนัดและสถานการณ์กันอย่างอิสระและต่อเนื่อง
4. ระบบเควสต์ที่แปลกใหม่
 
     จากระบบ MMORPG เดิมๆ ที่เพื่อนๆ จะต้องคอยวิ่งไปคุยกับ NPC คนโน้นที คนนี้ที หรือแม้แต่ลงดันเก็บไอเทม ไล่ค่ามอนสเตอร์ตามกำหนด หรือแม้แต่ตามล่าหาของภายในดันเจี้ยน ก็คล้ายๆ กันหลายๆ เกม ลองมาเปลี่ยนประสบการณ์กับการทำเควสต์แนวที่ไม่ต้องไล่ฆ่าบ้าง สำหรับ C9 แล้วนั้น มีเควสต์หลากหลายแนวและรูปแบบมาก แม้กระทั่งเควสต์ที่ให้เราไปไล่ฆ่าเฉพาะบอส และจะต้องไม่โดนบอสจับได้ด้วย (มิฉะนั้นเราจะตายเสียเอง) หรือแม้แต่เควสต์ที่จะปกป้องสะพานเพื่อป้องกันการบุกรุกก็มี 
5. ภาพแอคชั่นที่สมจริงระดับ Next Gen
 
     สำหรับ C9 แล้ว นับว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่เน้นภาพแนวสมจริง ไม่ว่าทั้งการใช้เชดดิ้งต่างๆ ภายในเกม สีสันและบรรยากาศต่างๆ ภายในเกมไม่ว่าทั้งตัวละคร NPC หรือแม้แต่ฉากต่างๆ ก็ได้จำลองให้เสมือนจริง ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ถูกใจบรรดาสายผู้เล่นเกมประเภทฮาร์ดคอร์เน้นแนวสมจริงอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้แล้วยังเป็นอีกหนึ่งเกมในสาย Action ที่สามารถเล่นได้บนคอมพิวเตอร์ทั่วไป และไม่ได้ใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์มากมายในการเล่น นอกจากนี้แล้วทั้งเสียงประกอบเพลงเองและเสียงในระหว่างการต่อสู้ก็สมจริงมาก ขนาดเรียกได้ไว่าเมื่ออาวุธไปกระทบกับอะไรก็ตามก็จะเกิดเสียงตามนั้นกันเลยทีเดียว 

สเปคคอมพิวเตอร์ขั้นต่ำ

6. ระบบ PvP ที่สมดุลย์ทุกอาชีพ
 
     นับว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ C9 หนึ่งจุดกันเลยทีเดียวสำหรับการ PvP ซึ่งสกิลของแต่ละสายอาชีพนั้นจะมีจุดเด่นของแต่ละสกิลแต่ทว่าทุกๆ สกิลก็มีจุดอ่อนเช่นกัน ทำให้แต่ละสายอาชีพไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบมากกว่ากัน นอกจากนี้แล้วด้วยระบบ PvP แบบที่พึ่งพาไอเทมที่สวมใส่น้อยมากๆ ทำให้การต่อสู้กันแบบ PvP ขึ้นอยู่กับฝีมือและเทคนิคล้วนๆ ในการต่อสู้ ไม่ว่าทั้งการเลือกใช้สกิลให้เหมาะสมกับสถานการณ์รวมทั้งรู้จุดอ่อนของสกิลฝ่ายตรงข้ามด้วย

คลิป PvP ในเกม C9

7. ระบบ PK ผ่านทางระบบบุกรุก
 
     อีกหนึ่งระบบที่อาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นในเกมแนวดันเจี้ยนมากนัก นั่นก็คือระบบ PK หรือ Player Kill ซึ่งเป็นระบบที่เปิดให้ผู้เล่นไล่ฆ่าผู้เล่นอื่นได้ โดยเพื่อนๆ สามารถที่จะเซทค่าดันเจี้ยนของเพื่อนๆ ได้ว่า จะเปิดให้มีผู้อื่นบุกรุกได้หรือไม่ ซึ่งการเปิดโหมดบุกรุกนี้ ทำให้ได้ค่าประสบการณ์เพิ่ม อัตราการดรอปที่เพิ่มขึ้นอีก 25% (ตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น) และเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้ามาบุกรุกดันเจี้ยนเราได้แบบสุ่ม ซึ่งทำให้ตัวเกมเพิ่มอรรถรสขึ้นไปอีกขึ้น นอกจากจะต้องจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์แล้ว ยังมีโอกาสได้ PvP ในดันเจี้ยนแบบลุ้นกันสนุกกันอีกด้วยค่ะ
8. รูปแบบค่าความเหนื่อยแบบใหม่
 
     เนื่องจากเป็นเกมแนวดันเจี้ยน ดังนั้นย่อมมากับระบบค่าความเหนื่อย โดยภายในเกมนี้นั้นจะใช้ค่าความเหนื่อยเหมือนเกมลงดันเจี้ยนเกมอื่นๆ แต่จะใช้ไม่เยอะในการลงดันเจี้ยนแต่ละครั้ง และมีจุดเด่นอยู่ที่ว่าในแต่ละวันจะมีโบนัสรายวันคอยสุ่มให้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งเพิ่มอัตราดรอป เพิ่ม EXP เพิ่มสเตตัส หรือเพิ่มเลือดและมานาชั่วคราว และนอกจากนี้แล้ว ยังมีโบนัสรายสัปดาห์อีก ทำให้เพิ่มความสนุกสนานในการลงดันเจี้ยนมากขึ้นไปอีก
9. ระบบภายในเกมที่มากมายให้ทำไม่รู้จักเบื่อ
 
     นอกจากระบบสำคัญๆ ในเกมเพลย์ต่างๆ แล้ว ภายในเกม C9 นี้เองก็ยังมีระบบต่างๆ มากมายที่ออกมารองรับและเพิ่มความสนุกสนานในการเล่น ไม่ว่าระบบค่าความสำเร็จหรือระบบฉายาต่างๆ ที่มีให้ตามล่าเก็บกันไม่หวั่นไม่ไหว ซึ่งมาพร้อมกับสเตตัสแถมแบบพิเศษที่ชวนให้ไล่ล่าเก็บ หรือแม้แต่ระบบตีบวกของที่ต้องลุ้นกันตัวโก่งในการตีบวก ทั้งยังระบบคราฟท์ของที่เปิดโอกาสให้เพื่อนๆ สามารถเลือกทำอาชีพรองได้ ไม่ว่าทั้งทำอาวุธ ช่างไม้ นักเล่นแร่แปรธาตุ ช่างตัดเย็บ หรือพ่อครัว นอกจากนี้แล้วยังมีระบบสะสมเหรียญไม่ว่าจากการบุกรุกไล่ฆ่าผู้เล่นอื่นหรือจากระบบ PvP เพื่อมาแลกกล่องสุ่มไอเทมภายในเกมได้อีก ก็นับได้ว่ามีหลากหลายระบบมากมายที่ทำให้เพื่อนๆ สามารถวิ่งวุ่นกันใน C9 ได้ทั้งวันกันแบบไม่รู้เบื่อค่ะ
     เอาหล่ะค่ะ หมดไปแล้วสำหรับหลากหลายเหตุผลที่ทำให้เพื่อนๆ อยากเล่น C9 เอาหล่ะค่ะ เตรียมศึกษาสกิลต่างๆ ให้พร้อม เลือกสายอาชีพที่ชอบ แล้วพร้อมตะลุยกันไปในโลกของ C9 ในวันที่ 20-22 สิงหาคมนี้กันค่ะ
 
ขอขอบคุณ SaintLucifer สำหรับคำปรึกษาและรายละเอียดของเกมค่ะ
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ