เปิดใจโปรดิวเซอร์ Final Fantasy XIV กับข้อมูลเวอร์ชั่น 2.0 และการเปิดให้บริการในจีน

แชร์เรื่องนี้:
เปิดใจโปรดิวเซอร์ Final Fantasy XIV กับข้อมูลเวอร์ชั่น 2.0 และการเปิดให้บริการในจีน
     สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วกับบทความพิเศษประจำสัปดาห์ซึ่งสัปดาห์นี้เราจะยังอยู่ที่งาน ChinaJoy 2012 ที่เพิ่งจบลงไปพร้อมๆ กับการเปิดตัว Final Fantasy XIV : A Realm Reborn เวอร์ชั่น 2.0 หลังการยกเครื่องกราฟิกใหม่ และทาง Square Enix ได้นำไปเปิดตัวที่บูธของค่าย Shanda ในงานด้วย โดยโปรดิวเซอร์ นาโอกิ โยชิดะ ได้เดินทางไปโปรโมตด้วยตัวเองเลยทีเดียว ซึ่งก็ตามข่าวที่ผมได้ลงไปก่อนหน้านี้นะครับว่าค่าย Shanda คว้าสิทธิในการเปิดให้บริการเกมนี้ในจีนไปแล้วเรียบร้อย (อ่านได้ที่ http://www.online-station.net/news/game/29627) และนี่คือบทสัมภาษณ์นาโอกิ โยชิดะ โปรดิวเซอร์ของเกมเกี่ยวกับเวอร์ชั่น 2.0 และการเปิดให้บริการในจีน โดยทีมงานของ 17173.com สื่อเกมยักษ์ใหญ่แดนมังกรครับ
17173 : ช่วยเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของฟีเจอร์ต่างๆ ที่เคยมีในเวอร์ชั่นแรกกับเวอร์ชั่น 2.0 หน่อยสิครับ
 
โยชิดะ : ในเวอร์ชั่น 2.0 นั้นหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างก็จะเป็นอันเดียวกับที่มีในเวอร์ชั่นแรกอยู่แล้ว เช่น Chocobo แต่คราวนี้มันจะเจ๋งขึ้นอีก โดยจะมีการเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ในการใช้งานเข้าไป และกราฟิกเอนจิ้นของเวอร์ชั่น 2.0 (หมายถึง Luminous Engine) นั้นเราบอกได้เลยว่าเจ๋งที่สุดสำหรับเกม 3D MMORPG ในตอนนี้ด้วย นอกจากนั้นในส่วนของ Gameplay ก็จะมีการเล่นที่ออกแนว Interactive มากขึ้น เช่นระบบ Party-Activated Killer Moves จริงๆ มันยังมีอีกเยอะนะแต่ผมบอกแค่นี้ก่อนละกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือตัวละครตัวเดียวทำได้ทุกอย่างแหละ
17173 : ตัวเกมเวอร์ชั่นแรกนั้นเรียกได้ว่าล้มเหลวในญี่ปุ่นตั้งแต่เริ่มเลยนะ อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดเวอร์ชั่น 2.0 ขึ้นมาได้ล่ะ
 
โยชิดะ : หลังจากได้พูดคุยกับบรรดาเกมเมอร์และแฟนๆ แล้ว เหตุผลหลักเลยก็คือระบบการควบคุมของเกมที่ใช้ Mouse และ Keyboard นั้นค่อนข้างจะต่างจาก MMORPG เกมอื่นๆ อย่าง World of Warcraft หรือ RIFT นอกจากนั้นเหตุผลหลักอีกข้อก็คือปัญหาขาดแคลนคอนเท้นท์ ทำให้เราต้องคุยกับทีมพัฒนาเพื่อหาทางออกกันอีกครั้ง จนได้ข้อสรุปออกมาเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ซึ่งถึงแม้มันจะแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่ยังไงมันก็ยังเป็น Final Fantasy XIV อยู่ดี
17173 : แล้วระบบ PvP ล่ะครับ
 
โยชิดะ : ในเกมนี้จะไม่มีระบบ PvP หรือ PK แบบเสรีนะ เวลาจะ PvP ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะต้องยืนยันเพื่อจะต่อสู้กันเอง และภาคนี้ก็เป็นภาคแรกของซีรีส์เลยด้วยที่มีระบบ PvP ในความหมายของการ PvP จริงๆ ซึ่งบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่ายังไงก็ต้องลอง
17173 : งั้นเราก็พูดได้ใช่มั้ยว่าระบบ PvP ของ Final Fantasy XIV มันจะคล้ายๆ กับ World of Warcraft
 
โยชิดะ : เราจะมี PvP Arena ซึ่งจะคล้ายๆ กับใน World of Warcraft ซึ่งทีมที่ทดสอบด้าน PvP ของเราได้ทดลองเล่นใน World of Warcraft มาหลายครั้ง และคิดว่ามันน่าจะโอเค แต่โดยส่วนตัวแล้วผมเล่น Dark Age of Camelot นะ
17173 : มาถึงคำถามสำคัญแล้วล่ะ เวอร์ชั่น 2.0 จะเปิดให้บริการเมื่อไหร่ครับ
 
โยชิดะ : ผมคาดว่าเราน่าจะเปิด Closed Beta ครั้งแรกสำหรับเซิร์ฟเวอร์ญี่ปุ่นและอินเตอร์ได้ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคมนะ จากนั้นก็ Closed Beta รอบสองในช่วงฤดูหนาว และ Open Beta ในเดือนมกราคมปีหน้า และแน่นอนการที่เรามาร่วมโปรโมตที่บูธ Shanda ก็เพราะเรากำลังจะคุยกับ Shanda ถึงการเปิดเซิร์ฟเวอร์จีนด้วย ซึ่งเซิร์ฟเวอร์นี้จะมีฟีเจอร์เด่นๆ อย่างระบบ PvP, การป้องกันการใช้โปรแกรมช่วยเล่น และที่สำคัญภาษาในเกมจะเป็นภาษาจีนทั้งหมด แต่ก็จะเปิดให้บริการทีหลังด้วยเหมือนกัน
17173 : แล้วทำไม Final Fantasy XIV ถึงกลับไปใช้ระบบ Pay to Play ในปีนี้ซะล่ะ เพราะตอนแรก Square Enix บอกว่าจะให้เล่นฟรีจนกว่าเวอร์ชั่นใหม่จะออกมา หรือว่าตอนนี้พอใจกับตัวเกมเวอร์ชั่นแรกแล้ว
 
โยชิดะ : ถึงแม้คอนเท้นท์ของเกมในตอนนี้จะยังไม่ทำให้เกมประสบความสำเร็จ แต่หลังจากเราเก็บค่าบริการแล้วยอดผู้เล่นก็เพิ่มขึ้นนะ
17173 : แต่หลายๆ คนรวมถึงเราก็คิดว่าเกมจะเริ่มเก็บค่าบริการหลังเวอร์ชั่น 2.0 ออกอยู่ดี
 
โยชิดะ : 55+ เรามีสมาชิก 250 คนในทีมพัฒนานะ แล้วถ้าเรายังเปิดฟรีต่อไป.. (เหมือนจะบอกใบ้ว่าเป็นเหตุผลด้านการเงิน)
17173 : แล้วเซิร์ฟเวอร์จีนล่ะครับ
 
โยชิดะ : ตอนนี้ผมบอกได้แค่ว่าจะมีการเก็บค่าบริการในอัตราคงที่ด้วยเช่นกัน แต่รูปแบบว่าจะเก็บยังไงยังไม่มีการยืนยันออกมาครับ
17173 : ในช่วงแรกคุณพูดถึงลูกเล่นของการขี่ Chocobo เป็นไปได้มั้ยที่จะขี่ขึ้นไปบนฟ้า หรือลงไปใต้น้ำด้วย งี้แสดงว่าต้องมีเมืองลอยฟ้าสิ
 
โยชิดะ : ตรงนี้เรายังคุยกันอยู่ในทีมที่พัฒนานะครับ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องของเมืองใต้น้ำหรือเมืองลอยฟ้า ถ้าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นก็คงจะมาในเวอร์ชั่น 2.0 นั่นล่ะครับ ในภาค XI นั้นเราเคยขึ้นไปบนฟ้ามาแล้ว ส่วนเกมในช่วงหลังนี่ก็ชอบทำเมืองใต้น้ำกันเหลือเกิน แถมเกมเมอร์ก็ชอบนะ มันก็อาจจะมีหรือจะไม่มีก็ได้ครับเพราะยังไม่ได้ข้อสรุป
17173 : แล้วความเห็นส่วนตัวของคุณล่ะครับ
 
โยชิดะ : ถ้าจะไปลุยตลาดฝั่งอินเตอร์ล่ะก็ผมจะทำเมืองใต้น้ำก่อน แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบเมืองลอยฟ้านะ
17173 : ไปดูคู่แข่งสุดหินอย่าง Blade & Soul กับ ArcheAge กันหน่อยดีกว่า Final Fantasy XIV จะอยู่ตรงจุดไหนเมื่อเทียบกับสองเกมข้างต้น
 
โยชิดะ : ผมว่า Final Fantasy XIV นั้นมีความเป็น Unique ในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากกว่าสองเกมนั้นนะ ลองดู Final Fantasy VIII ที่มี Faye Wong มาร้องเพลง Eyes on Me สิ เกม MMORPG จากเกาหลีพวกเค้าเอาแต่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในตัวเกมโดยไม่ได้สนใจชีวิตจริงหรือวัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวเลย
17173 : คำถามสุดท้าย ช่วยบอกฟังก์ชั่นใหม่ของตัวเกมที่จะมากับเวอร์ชั้น 2.0 ซัก 1 อย่างสิครับ
 
โยชิดะ : มันจะมีระบบที่ผู้เล่นสามารถข้ามเซิร์ฟเวอร์ไปจบเควสท์หรือสิ้นสุดภารกิจได้ เราจะมี Guide ในเกมที่เต็มไปด้วยเนื้อหาต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้เล่นมั่นใจและรู้ว่าจะต้องไปไหน และต้องไปทำอะไรต่อเมื่อพวกเขาไปถึงแผนที่ใหม่
17173 : ขอบคุณมากครับที่สละเวลาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้
 
โยชิดะ : ขอบคุณครับ
     และนั่นก็เป็นบทสัมภาษณ์ส่งตรงจาก ChinaJoy ครับ ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีเรื่องอะไรมาให้อ่านก็รอติดตามกันนะครับ ดีไม่ดีอาจจะเป็นเรื่องที่เรากำลังอยากรู้ก็เป็นได้ สวัสดีครับ
 
บทสัมภาษณ์โดย 17173.com
แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาอังกฤษโดย MMOCulture
แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดย Ohmdevilz
 
SPECIAL PAGE CHINAJOY 2012

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ