ข่าวประชาสัมพันธ์จากค่ายเกม
วันนี้ทางทีมงาน Thailand League of Legends ขอนำเสนอข้อมูลสุดพิเศษ กับโหมดที่ผู้เล่นหลายคนตั้งตารอกันนะครับ ซึ่งจะเป็นโหมดไหนไปไม่ได้นอกจาก Ranked Mode โดยวันนี้เราจะนำข้อมูลเกี่ยวกับ Ranked Mode มาตีแผ่ในทุกแง่มุมกันนะครับผม
Ranked Mode คืออะไร ?
Ranked Mode คือโหมดเกมส์การแข่งขันจัดอันดับความสามารถของผู้เล่น ที่จะเปิดให้เล่นเฉพาะเหล่า Summoner ที่มีเลเวล 30 และมี Champion อย่างน้อย 16 ตัวละคร ไว้ในครอบครอง (รวมถึง Champion ประจำในแต่ละสัปดาห์ด้วย สำหรับการเล่น Ranked แบบทีมเท่านั้น) จึงจะสามารถเลือกเล่นในโหมดนี้ได้ โดยผู้ชนะในโหมดนี้ นั้นจะได้รับแต้มแห่งความสำเร็จ (Elo Rating)โดยแต้มเหล่านี้นั้นจะแสดงให้ผู้เล่นคนอื่นได้เห็นถึงระดับความสามารถของเรา ก็ต่อเมื่อเราเก็บคะแนนสะสม (Elo) ได้เกินมากกว่า 1250 ก็จะแสดงในหน้าประวัติของผู้เล่นนั้นๆ อีกด้วย
Ranked Mode แตกต่างจาก Normal Game ยังไง ?
ข้อแตกต่างระหว่าง Ranked Mode กับ Normal Game นอกเหนือจากเรื่องของการจัดลำดับแล้ว สิ่งที่แตก ต่างจาก Normal Game สามารถแบ่งได้ 4 ข้อดังนี้นะครับ
1) การแบนตัวละคร (Banning Phase) - ในช่วงต้นเกมส์เวลาของการแข่งขันใน Ranked Mode นั้นคนที่ เป็นกัปตัน(ผู้เล่นคนแรกของแต่ละฝั่งที่มีค่า Elo สุงสุด) จะเป็นคนที่ทำการแบนตัวละครที่ไม่พึงประสงค์ของ ทีมฝ่ายตรงข้าม 3 ตัว โดยทีมสีฟ้าจะได้เริ่มแบนก่อนเสมอ และแต่ละฝั่งจะไม่สามารถใช้ Champion ซ้ำกันได้อีกด้วย!!
2) การเลือก Champion - แต่ละทีมจะสลับกันเลือก Champion ช่วงหลังจากที่แต่ละฝ่ายได้ทำการแบนตัวละครแต่ละฝั่งครบทั้งสองทีมแล้ว โดยทีมแรก(สีฟ้า) จะได้เลือกหยิบ Champion ก่อน 1 ตัว และฝั่งสีชมพูจะได้สิทธิในการเลือก 2 ตัวในการเลือกครั้งแรก
3) การแลกเปลี่ยนตัว Champion - ในโหมดของ Ranked Game นั้นสามารถให้เพื่อนร่วมทีมเลือกตัว
ละครที่เราต้องการก่อน เพื่อแย่งไม่ให้อีกฝ่ายเลือกใช้ได้ แต่จะสามารถแลกตัวละครกันได้ ก็ต่อเมื่อจบการ เลือกตัวละครของทั้งสองฝั่ง แต่มีเงื่อนไขคือเราและเพื่อนต้องมีตัวละครนั้นๆ ทั้ง 2 คนด้วย
4) บทลงโทษการออกจากเกมส์ ระหว่างเลือกตัว Champion - ในขณะที่ทำการเลือกตัวละคร หากมีฝ่ายใดฝ่ายนึงออก ฝ่ายที่กดออกนั้นก็จะโดนระงับการเล่นชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แล้วพบกันใน Field of Justice
League of Legends ผงาด