Diablo 3 : Demon Hunter ตอนที่ 2 Nightmare และ Hell สำหรับข้ามันก็แค่สวนหย่อม!

แชร์เรื่องนี้:
Diablo 3 :  Demon Hunter ตอนที่ 2 Nightmare และ Hell สำหรับข้ามันก็แค่สวนหย่อม!

     สวัสดีครับเพื่อนๆ ขอต้อนรับสู่ตอนต่อของ Demon Hunter Guide ครับผม ซึ่งในตอนนี้เราจะมาพูดถึงรูปแบบการเล่น, สกิลที่สำคัญ, เทคนิคการฟาร์มไอเทม และค่าสเตตัสที่ควรจะมีในการผ่านนะครับ ซึ่งจะไม่มีเทคนิคการปราบบอสเหมือนกับตอนที่แล้วเพราะ AI บอสไม่ต่างกันนะครับ

หากใครไม่ได้อ่านตอนที่แล้วเชิญทางนี้เลย http://www.online-station.net/news/guide/16892

ข้อควรรู้ก่อนเข้า Nightmare และ Hell 

     ขึ้นชื่อว่าเป็นระดับความยากที่เพิ่มขึ้นเพื่อนๆ ก็ต้องสงสัยแน่นอนใช่ไหมครับว่ามันแตกต่างกันแค่ไหน? ผมบอกได้เลยครับว่าแตกต่างกันมาก ซึ่งผมขอแบ่งมาเป็นข้อๆ ดังนี้

     1. ระดับความยากเพิ่มขึ้นเลือดและพลังโจมตีศัครูนั้นเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เช่นซอมบี้ตอนเริ่มเกม ใน Normal โจมตี 10 ใน Nightmare โจมตี 400-800 ใน Hell โจมตี 4000 เป็นต้น

     2. มอนส์เตอร์ระดับ Elite และ Champion เก่งกว่าบอสตามบทมาก

     3. สกิลของของ Elite และ Champion จะมีมากกว่า 1 สกิล โดยใน Nightmare มี 2 และ Hell จะมี 3 ซึ่งอาจจะมาเป็นคอมโบกัน อาทิเช่น Waller + Mortar เป็นต้น

     4. การจะลง Nightmare ได้ต้องมีเลเวล 30 ส่วน Hell ต้องมีเลเวล 50 ขึ้นไป และต้องเคลียร์ระดับความยากที่ต่ำกว่า 1 ระดับก่อนเพื่อปลดล็อก

     5. หากคุณลงความยากระดับ Nightmare และ Hell ครั้งแรกแล้วสู้ไมไ่ด้ไม่ต้องตกใจ เพราะมันเป็นเรื่องปรกติ

Skill ที่แนะนำในการเล่น Nightmare และ Hell

Active

Hunggering Arrow สกิล Primary ตลอดกาลไม่มีอันไหนดีกว่านี้อีกแล้วแนะนำให้ใช้ Rune อันที่ 4 Devouring Arrow ที่ถ้ากระสุนเกิด effect ยิงทะลุจะเพิ่มดาเมจ 70% ซึ่งถ้าเกิดทะลุ 3 ครั้งจะเท่ากับ +70% 3 ครั้งเลยทีเดียว

Rapid Fire สกิลนี้ไม่แนะนำให้ใช้ในการสู้ Mob นะครับเป็นสกิลสู้บอสที่ดีมากสกิลหนึ่ง แนะนำให้ใช้ Rune Support Fire เพื่อให้ได้ดาเมจสูงสุด

Elemental Arrow เป็นสกิลหมู่ที่ใช้ได้หลากหลายที่สุดโดยสามารถใช้ได้ทั้ง Ball Lightning (ไว้กวาดศัตรูในที่แคบ), Screaming Skull (ไว้ยิงวิ่งกับพวก Elite และ Champion), Frost Arrow (ใช้คู่กับ Passive Cull the Weak)

Multishot สกิลกวาดศัครูวงกว้างที่ดีที่สุดใช้ Rune อันแรก Fire at Will ที่ลดค่า Hatred ในการใช้ลงครึ่งนึงเท่านั้นนะครับเพราะ Rune ที่เหลือแม้จะมีดาเมจสูงกว่าแต่ก็ไม่เยอะเท่ากับเรายิง 2 ครั้งแน่นอน

Smoke Screen สกิลสำคัญที่สุดในการเล่น Nightmare และ Hell เพราะเมื่อใช้แล้วเราจะไม่โดนมอนสเตอร์เล็งเป็นเวลา 1 วินาที (Text เขียนว่า 2 แต่จริงๆ โดนลดแล้ว) ส่วน Rune ที่ใช้แนะนำให้ใช้เพิ่มความนานเท่านั้นครับ

Preparation สกิลรี Discipline สำคัญมากใน Hell เพื่อให้เราสามารถใช้ Smoke Screen ให้ได้นานที่สุดใช้ Rune อันสุดท้าย Back Up Plan ที่ทำให้มีโอกาส 30% ที่จะทำให้ใช้สกิลแล้วไม่มี CD เท่านั้นถ้ายังไม่ได้ไม่ต้องใช้ก็ได้

Shadow Power สกิลทำให้เราโจมตีแล้วดูดเลือดเหมาะสำหรับการเวลาถอยยิงหรือเวลาที่ไม่สามารถวิ่งกลับไปเก็บ Globe เพื่อเติมเลือดได้ แนะนำให้ใช้ Rune อันที่ 3 (Gloom) ลดดาเมจที่เราสามารถยืนยิงสวนได้เลย

Mark for Death สกิลคำสาปที่ทำให้ศัครูโดนดาเมจแรงขึ้น 12% ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ ทั้งสาปเป็นหมู่บนพื้น ทั้งสาปแล้วเมื่อเราโจมตีจะได้ 3 Hatred หรือแม้แต่ได้เลือด 1% ของดาเมจทุกครั้งที่โจมตีตัวที่เราสาป

Passive

Tactical Advantage สกิลเพิ่ม Move speed เมื่อใช้ Smoke Screen, Vault และ Backflip สำคัญมากในการวิ่งหนีออกมาจากวิงล้อม ผมแทบจะไม่เคยเปลี่ยนออกเลย

Vengence เพิ่มค่า Max Hatred และได้รับ Hatred 20 และ 2 Discipline ทุกครั้งที่เ็ก็บ Globe ได้สกิลนี้ช่วยให้เราสามารถใช้สกิลต่างๆ ได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้น นับว่าดีมากหากอาวุธเรายังไม่แรงจนสามารถยิงอีกฝ่าย 3 - 5 ครั้งตาย 

Steady Aim เพิ่มความแรง 20% ไม่เหมาะสำหรับลุยด่านเพราะมอนมักจะล้อมเราไว้เสมอแต่เป็นหนึ่งในสกิลที่ดีมากในการสู้บอส

Cull the Weak เพิ่มดาเมจใส่ศัตรูที่ถูก Slow 15% สกิลนี้แนะนำให้ใช้ต่อเมื่อใช้ Frost Arrow เท่านั้นครับ

Archery อีกหนึ่ง Passive ที่สำคัญไม่ต้องเปลี่ยนออกเลยครับอันนี้ดีที่สุดแล้ว

Ballistics เป็น Passive ที่เอามาคอมโบกับ Rapid Fire ครับ

 

ชุดสกิลที่แนะนำ

     บทนี้ผมจะขอแนะนำชุดสกิลที่ผมใช้ในสถาณการ์ณต่างๆ นะครับโดยผมจะเรียกชื่อสกิลด้วยชื่อ Rune เพื่อความง่ายต่อการเข้าใจนะครับ

สำหรับสู้ Mob ในกรณีดาเมจน้อย

Active

Devouring Arrow + Ball Lightning + Lingering Fog + Fire at Will + Vault + Marked for Death หรือ Back Up Plan

Passive

Tactical Advantage + Vengeance + Archery

      ชุดสกิลนี้เหมาะสำหรับหากดาเมจไม่เยอะมากเน้นการเคลื่อนที่ไปมาเพื่อเป็น Globe และยิงตอดไปเรื่อยๆ เป็น Build ที่เหนื่อยคนเล่นมากเพราะต้อง Vault และ Smoke Screen ให้ถูกจังหวะที่สุด

สำหรับสู้ Mob ในกรณีดาเมจเยอะ

Active

 

Devouring Arrow + Frost Arrow + Lingering Fog + Fire at Will + Back Up Plan + Gloom

Passive

Tactical Advantage + Cull the Weak + Archery

     ชุดสกิลนี้เรียกได้ว่าเป็นชุดสกิลบ้าพลังดาเมจเราสูงมากแล้วสามารถเปิด Gloom ยืินยิงแลกได้เลยแบบไม่ต้องกลัวศัตรูมาตีเราหาก Discipline หมดและไม่มี Preparation ก็วิ่งยิงด้วย Frost Arrow  เหมาะสำหรับเวลาใช้หน้าไม้ 2 มือมากครับ

สำหรับสู้บอส

Active

 

Devouring Arrow + Support Fire + Lingering Fog + Mortal Enemy (Mark for Death) + Back Up Plan + Bait the Trap (Captrops)

Passive

Ballistics + Steady Aim + Archery

     สกิลชุดนี้เรียกได้ว่าสามารถทำ DPS ได้สูงที่สุดแล้วครับเหมาะสำหรับสู้บอสทุกตัวยกเว้น Diablo (เจอ Diablo ให้เปลี่ยนเอา Steady Aim ออกเป็น Tactical Advantage แทน) วิธีการเล่นก็แสนง่ายวาง Bait the Trap แล้วใช้ใส่บอส Mortal Enemy เสร็จปุ๊บก็กด Support Fire ค้างเลยเราก็จะเห็นเลือดบอสเลือดลดไหลเป็นน้ำโดยที่ค่า Hatred ของเราแทบจะไม่ลดเลย(จาก Mortal Enemy) แต่ข้อควรระวังของสายนี้คือเราเป็นเป้านิ่งครับ ต้องระวังซักเล็กน้อยใช้ Lingering Fog คอนหลบสกิลหน่อยครับ

เทคนิคการฟาร์มไอเทม

      ในการฟาร์มไอเทมสำหรับ Demon Hunter นั้นผมขอแนะนำให้ฟาร์มกับ Azmadon ครับเป็นบอสที่เราสู้ได้ง่ายที่สุดและเป็นบอส Act 3 ซึ่งจะดรอปของระดับ 44 ใน Nightmare และ 54 ใน Hell ซึ่งถือว่าระดับไม่น่าเกลียดสามารถเอาไปขายเป็นเงินได้ชิ้นละหลายหมื่น (หรือบางครั้งก็ได้ของที่เราใช้เองด้วย) ซึ่งวิธีการฟาร์มนั้นทำได้ง่ายมากครับ หากเรายังเลเวลไม่ถึง 60 จะไม่มีสกิลที่เรียกว่า Nephalem Valor ซึ่งจะเพิ่มอัตราการดรอปไอเทมและเงินทุกครั้งที่ฆ่า Elite หรือ Champion ได้ซึ่ง Stack ได้สูงสุด 5 ครั้ง ซึ่งตรงนี้จะทำยากกว่าปรกติมาก และผมขอยกไปพูดถึงในบทความหน้านะครับ

     การฟาร์มไอเทมกับ Azmadon นั้นง่ายมากครับเพียงแค่เราเลือกเควส Kill Azmadon ในหน้า Change Quest บนความยากที่เราต้องการ วาร์ปลงจุดวาร์ปสุดท้ายซึ่งจะเป็น Map ก่อนถึงห้อง Azmadon โดยทางเดินจะเหมือนเดิมเสมอแต่มี Elite และ Champion สุ่มมาให้เราสู้ 1 - 3 กอง หากโชคดีจะได้ไอเทมสีทองตรงนี้ 1 - 2 ชิ้นครับ ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ใช้ชุดสกิลสู้ Mob อันที่สองจะฆ่าได้เร็วกว่า

      พอฆ่ามอนครบจนไปถึง Azmadon ให้เปลี่ยนเป็นชุดสกิลสู้บอสที่แนะนำ และใช้ Step ข้างต้นครับ โดย Azmadon จะไม่เดินมาโจมตีเราเพราะวุ่นกับ Templar และคอยปล่อยลูกไฟใส่เราซึ่งสามารถกด Smoke Screen หลบเอาได้เลย ซึ่งถ้าคุณมี Damage ถึง 4k จะสามารถฆ่า Azmadon ได้ในเวลาประมาณ 10 - 15 วินาทีครับ แล้วเราก็ Leave Game เลือกเควสใหม่ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ โดยสรุปรอบนึงเสียเวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น 

 

Recommend Status

Nightmare   HP 15k+

                      Armor 1.5k+

                      Damage 3.5k+

Hell               HP 40k+

                      Armor 3k+

                      Damage 8k+

                      

                      

                      

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ