กลับมาพบกันอีกครั้งกับผมนาย Barrettez ที่คราวนี้ก็กลับมาเขียนบทความพิเศษให้แก่เพื่อนๆ ได้ชมกันอีกเช่นเคยครับ
วันนี้ผมได้เข้าไปเห็นมุกหนึ่งของ 9Gag ที่เกี่ยวกับ "5สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเกม" ซึ่งผมคิดว่าน่าสนใจมากๆ จึงนำมาเขียนนำเสนอในบทความนี้ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ
1."เกมเมอร์เป็นพวกไม่เข้าสังคม"
คนอื่นๆ หลายคน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ มักเข้าใจว่า เหล่าเกมเมอร์จะต้องขลุกอยู่แต่ในห้อง เล่นแต่เกม ไม่พบปะสังสรรค์กับใคร ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดครับ
ผมยืนยันเลยครับว่า เกมเป็นสื่ออีกอย่างหนึ่ง ที่สามารถเชื่อมต่อผู้คนจากที่ต่างๆ ให้มาเป็นเพื่อนกัน และไปเที่ยวเล่นกันได้ ผมได้รู้จักกับเพื่อนคนหลายคนจากการเล่นเกม และก็มีบางคนที่เป็นถึงเพื่อนซี้สนิทกันสุดๆ เลยด้วยครับ และผมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน ก็ต้องเคยมีเพื่อนใหม่ หรือเพื่อนสนิท หรือไม่ก็มีแฟนจากการเล่นเกมเลยด้วยเช่นกันครับ
\(^∀^)メ(^∀^)ノ
นอกจากจะได้เพื่อน แล้วการเล่นเกมยังได้สังคมอีกด้วย จากกลุ่มคนที่ชอบเกมเดียวกัน หรือมีความชอบอะไรที่เหมือนๆ ก็มารวมกลุ่มกันตั้งเป็นชมรม หรือสมาคมหนึ่งขึ้นมา เช่นกลุ่มแฟนคลับเกมนี้ๆ หรือกลุ่มแฟนคลับตัวละครในเกมตัวนี้ๆ และบางกลุมก็มีการจัดมิตติ้งบ้าง หรือมีกิจกรรมให้ทำร่วมกันบ้าง จึงเป็นการเสริมสร้างสังคมสำหรับคนเล่นเกมได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ
2."เกมเมอร์มีแต่พวกขี้เกียจ"
ด้วยความคิดที่ว่า วันๆ พวกเกมเมอร์ก็เอาแต่นั่งเล่นเกมไม่ทำอะไรอื่นเลย นั่นก็เป็นความคิดที่ผิดอีกเช่นกันครับ
เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนที่ Nintendo ที่พยายามผลิตเครื่องเกมในรูปแบบที่ผู้เล่นสามารถใช้การเคลื่อนไหวบังคับเกมมาโอยตลอด ซึ่งก็เป็นการกระตุ้นให้ค่ายอื่นๆ มีัการพัฒนาเครื่องเกมที่ใช้วิธีจับการเคลื่อนไหวในการบังคับ และด้วยวิทยาการสมัยใหม่ ที่ทำให้ตอนนี้มีอุปกรณ์สำหรับใช้เล่นเกมไปด้วยและเคลื่อนไหวร่างกายไปด้วยมากมาย เช่น Wii, PSMove และที่เด็ดที่สุดในเวลานี้คงไม่พ้น Kinect ที่สามารถจับการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกายได้ และเนื่องจากทางผู้พัฒนาเกมเองมีเกมออกมารองรับระบบเหล่านี้มากมายเช่นกัน ต่อไปก็คงไม่มีใครมาว่าพวกเกมเมอร์เอาแต่ขี้เกียจไม่ออกกำลังกายอีกได้แล้วล่ะครับ (เผลอๆ อาจจะสุขภาพดีกว่าคนทั่วไปซะอีก)
และนอกจากนี้ เกมบางประเภทก็มีการส่งเสริมให้เหล่าเกมเมอร์หันมาทำกิจกรรมในรูปแบบที่คล้ายกัน ยกตัวอย่างเช่น การเล่นเกมแนว FPS แล้วอยากเข้าไปอยู่ในเหตถการณ์จริงในนั้นบ้าง ก็มีกีฬา BB Gun ออกมารองรับในส่วนนี้ให้เพื่อนๆ ที่อยากยิงปืนบู้ๆ มันส์ๆ เสมือนจริงก็สามารถเข้าไปเล่นกันได้ แถมได้สุขภาพอีกด้วย นอกจากนี้เกมเมอร์หลายคนก็มีกิจกรรมยามว่างต่างๆ เช่นปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำด้วยครับ
3."เกมเมอร์ มีแต่ผู้ชาย"
ตามความเข้าใจของผู้คนทั่วไปนั้น เกมเมอร์จะมีแต่ผู้ชาย เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่เรียบร้อย ไม่น่ามาจับอะไรจำพวหนี้ แต่พวกเขาคิดผิดครับ
หากอิงตามสถิติที่นำมาอ้างอิงนั้น อัตราส่วนของเกมเมอร์ที่ทำการสำรวจพบว่ากว่า 35% ของเกมเมอร์เหล่านั้นเป็นผู้หญิง และนอกจากนี้ จากการสำรวจผู้หญิงทั่วไปพบว่า ในจำนวนผู้หญิง 10 คน จะต้องมีเกมเมอร์ที่เป็นเพศหญิงถึง 3 คน เทียบได้กับว่า 30% ของผู้หญิงที่ทำการสำรวจมาเป็นเกมเมอร์นั่นเองครับ
และในปัจจุบันนี้ เกมเมอร์หญิงก็มีอยู่มากมายด้วยกันที่เริ่มหันมาเล่นเกมแนวฮาร์ดคอร์แบบที่ผู้ชายเล่นกัน และบางคนก็มีความสามารถในการเล่นเกมสูงไม่แพ้ผู้ชายเลย แถมบางคนมีฝีมือสูงจนถึงระดับเป็นนักกีฬา E-Sport เลยด้วยซ้ำ การที่เริ่มมีผู้หญิงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการเกมก็นับว่าเป็นยุคสมัยใหม่ของเกมเลยก็ว่าได้ครับ
4."เกมเมอร์มักกินแต่อาหารประเภท Junk Food"
อันนี้ถือว่ามีส่วนใกล้เคียงอยู่ครับ บางทีผมก็เล่นเกมไปนั่งกินมันฝรั่งทอดไป แต่ก็แค่นานๆ ครั้งล่ะครับ เพราะสำหรับผมนั้นเวลาเล่นเกมก็กินข้า่วกินน้ำ ตามปกติแหละครับ
แต่หากจะเหมารวมว่าเกมเมอร์กินแต่อาหารประเภท Junk Food นั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากผลสำรวจนั้นพบว่า เวลาเล่นเกมแล้ว เกมเมอร์ส่วนใหญ่ก็มักจะกินข้าวเวลาเล่นเกมตามปกติ ไม่ก็เป็นพวกอาหารซีเรียลหรือไม่ก็เป็นธัญพืชกึ่งสำเร็จรูป ติดเกมมากหน่อยก็กินไปเล่นไป แต่โดยสรุปแล้วความคิดผมนั้น เกมเมอร์จะกินอาหารประเภทนี้ ก็แค่ช่วงที่อยากขลุกอยู่กับเกมอะไรสักอย่างช่วงนึงที่อยากรีบเล่นรีบจบเป็นพิเศษ ไม่ก็พวกเกมเก็บเลเวลเท่านั้น
5."เกมเป็นสิ่งบั่นทอนปัญญา"
เชื่อเลยว่าผู้ใหญ่หลายคน มองเกมเ้ป็นสิ่งบั่นทอนปัญญา แต่หากมองให้ดีๆ นั้นจะพบว่าเกม ให้อะไรมากกว่าที่เห็นภายนอกเสมอ
ผมก็เป็นคนนึงที่ขอค้านเลย เพราะเกมมันไม่ได้มีแต่บั่นทอนปัญญาแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นหลักๆ ก็พวกเกมแนว Puzzle ทั้งหลายที่ฝึกสมอง แม้แต่พวกเกม Facebook ทั่วไปมันก็เป็นสิ่งที่ช่วยสอนเรื่องการแบ่งเวลาเช่นกัน
และอย่างที่ผลสำรวจว่ามาแหละครับ เกมเมอร์ส่วนใหญ่เลยทีเดียว ที่เริ่มเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจากการเล่นเกม ที่ผมได้มาแน่นอนก็เป็นภาษาอังกฤษแหละครับ กับภาษาญี่ปุ่นในส่วนของคาตาคานะ และ ฮิราคานะ (เพราะพยายามสะกดชื่อตัวละคร)
นอกจากนี้ ถึงเกมบางเกมเนื้อหาจะมีแต่บู๊ลุยแหลก อาละวาดฟัดกับมอนสเตอร์แปลกๆ เอามันส์ไปทั้งเรื่อง แต่สำหรับบางคนที่สนใจเหล่ามอนสเตอร์เหล่านั้นก็มีการศึกษาหาข้อมูลของมอนสเตอร์เหล่านั้น ดีขึ้นมาอีกก็ไปศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เกิดเหตุการณ์, ประวัติตัวละครที่อิงจากนวนิยาย หรือจากบุคคลจริง อย่างตัวผมเอง ก็เริ่มอ่านนิยาย 3ก๊กจริงๆ จังๆ เพราะเล่นเกม Dynasty Warrior มานี่แหละครับ >w<
ขอขอบคุณรูปเต็มๆ จาก 9Gag ที่จุดประกายความคิดในการเขียนบทความในครั้งนี้จาก
http://9gag.com/gag/4200333
Thankyou for the really great idea for this content from 9gag.
http://9gag.com/gag/4200333