จาก Dragon Nest ถึง Dungeon Striker เบื้องหลังการพัฒนากว่า 2 ปี และไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง

แชร์เรื่องนี้:
จาก Dragon Nest ถึง Dungeon Striker เบื้องหลังการพัฒนากว่า 2 ปี และไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง
     สวัสดีค่ะ พบกับบทความพิเศษประจำสัปดาห์กันเช่นเคยนะคะแต่จะไม่ได้พบกับขาประจำอย่าง Ohmdevilz นะ เพราะวันนี้ Bibiez ขอยึดพื้นที่ตรงนี้แทน (แค่สัปดาห์เดียวนะคะ 55+) โดยในบทความพิเศษประจำสัปดาห์นี้ เราจะยังมาเกาะกระแสกันกับเกมแนวดันเจี้ยน Dungeon Striker เกมน้องใหม่ล่าสุดจากค่าย Eyedentity หรือ ค่ายเกมผู้สร้างสรรค์เกมที่กระแสแรงไม่หยุดแม้แต่ในบ้านเราอย่าง Dragon Nest นั่นเองค่ะ 
     ต่อเนื่องจากข่าวที่จู่ๆ ทาง Eyedentity ได้ประกาศเกมแนวดันเจี้ยนน้องใหม่ Dungeon Striker ออกมาอย่างสายฟ้าแลบ รวมถึงยังได้มีการเผยคลิปและเกมเพลย์ออกมาให้เห็นกันไปแล้ว โปรเจคนี้นับว่าเป็นโปรเจคที่มาแบบม้ามืดเงียบๆ ไม่มีการปล่อยข่าวหลุดใดๆ ออกมาทั้งสิ้น ก็ได้สร้างกระแสฮือฮากันพอควรเลยสำหรับการเปิดตัวเกมนี้
 
สามารถดูคลิปและเนื้อหาเปิดตัวได้จากลิงค์ข่าวเก่า :
 
     ซึ่งในประเทศเกาหลีนั้น ทาง Eyedentity ผู้พัฒนา ได้จับมือกับทาง NHN เพื่อเปิดให้บริการ Dungeon Striker เป็นที่เรียบร้อยไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วยังได้ประกาศเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมทดสอบ CBT เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่ง ในขณะนี้ก็ได้มีการเปิดรับสมัครที่หน้าเว็บ http://ds.hangame.com จนถึงวันที่ 22 เมษายนนี้เท่านั้น และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่่ 24 เมษายน โดยที่ CBT ครั้งแรกนี้จะเปิดให้เข้าเล่นได้ตั้งแต่วันที่ 27 ถึง วันที่ 29 เมษายน ในช่วงเวลาจำกัดตั้งแต่ 16.00 - 22.00 (GMT+9 หรือเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมง) เท่านั้น 
     ทางทีมผู้พัฒนา ได้ซุ่มพัฒนาเกม Dungeon Striker เป็นระยะเวลานานถึง 2 ปี พร้อมๆ หลังจากการเปิดตัวของ Dragon Nest เกมพี่ใหญ่ในประเทศเกาหลี ซึ่งทีมพัฒนาเกมนี้นั้น ได้เป็นทีมที่แตกทีมออกมาจากทีมพัฒนา Dragon Nest อีกต่อ พร้อมเหล่าสต๊าฟภายในทีมถึง 50 คนที่ร่วมกันพัฒนาเกมนี้ขึ้นมา แต่การพัฒนาเกมต่างๆ นั้นจะเป็นอิสระซึ่งกันและกัน โดยที่ทีมพัฒนา Dragon Nest จะคอยเป็นพี่เลี้ยงช่วยให้คำแนะนำกับเหล่าทีมพัฒนา Dungeon Striker กันอีกต่อ
     โดยที่ Dungeon Striker ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา บนคอนเซปต์ 3 อย่างคือ "ฉากการต่อสู้ดุเดือดเร้าใจ บรรยากาศภายในเกมคอยช่วยเสริม และ เหล่าฮีโร่ตัวน้อยๆ คอยต่อสู้กับเหล่าร้ายด้วยอาวุธที่ล้ำยุค" โดยภายในเกมจะคงคอนเซปต์ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างบรรยากาศที่ออกแนวอืมครึมๆ มืดๆ  ธีมต่างๆ ภายในรวมถึงวิธีการบังคับที่มีความคล้ายคลึงกับ Diablo III ผสมผสานไปกับภาพลักษณ์ของตัวละครในรูปแบบ SD (ย่อส่วน) ในแบบน่ารักสดใส ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เกมส่วนใหญ่ที่ใช้ตัวละครแบบ SD จะนิยมมาในรูปแบบเกมสีสันสดใสน่ารักทั้งเกม ทั้งสองจุดที่ดูจะขัดแย้งกันนี้ ก็จะสามารถลงตัวกันภายใต้ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดและเร้าใจกับเหล่าฝูงมอนสเตอร์ทั้งหลาย
     และทางทีมผู้พัฒนา ยังได้เผยต่ออีกว่า นอกจากนี้แล้ว จากกระแสเกมรุ่นพี่อย่าง Dragon Nest ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมกันทั่วโลกนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ Dungeon Striker โดนบังหรือคิดจะไปทาบรัศมีแต่อย่างใด ด้วยระบบการต่อสู้ที่มันเร้าใจไม่แพ้เกมพี่ใหญ่อย่าง Dragon Nest และระบบการต่อสู้ที่จะต้องมีแบบแผนและมีการวางแผนในการรบที่มากกว่า ก็เป็นอีกสเน่ห์หนึ่งที่จะทำให้ Dungeon Stirker สามารถที่จะสร้างฐานผู้เล่นขึ้นมาเองได้อย่างไม่น้อยหน้าเช่นกัน 
     พร้อมทั้งระบบการควบคุมบังคบที่แหวกแนวกว่าเกมแนวดันเจี้ยนรุ่นพี่ สำหรับ Dungeon Striker นั้นมาพร้อมกับคอนเซปที่ว่า "แอคชั่นเกมนั้นจะต้องทำให้เล่นได้ง่ายที่สุด ควบคุมเพียงแค 1 มือก็เพียงพอแล้ว " ซึ่งเพื่อนๆ สามารถที่จะสนุกสนานกับเกมไปด้วยเพียงการขยับเมาส์เพียงมือเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้ Dungeon Striker นั้นมีการควบคุมต่างๆ ที่แตกต่างออกไปจาก Dragon Nest ที่จะต้องอาศัยการบังคับทั้งคีย์บอร์ด และ เมาส์ไปพร้อมๆ กัน 
     นอกจากนี้แล้ว สำหรับ Dungeon Striker เอง ก็ได้มีแผนวางขีดจำกัดของเลเวลเอาไว้สูงถึงที่เลเวล 99 และยังได้มีการแบ่งคลาสเป็นคลาสย่อยๆ ทั้งหมดอีก 19 คลาส จากคลาสหลัก 4 คลาส คือ Warrior, Ranger , Mage และ Cleric ก็ทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะเลือกแนวทางๆ ในการเล่นที่ถนัดได้ไม่ยากและมีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้น 

Mage

Ranger

Warrior

Cleric

     ด้วยระบบดันเจี้ยนที่มีรูปแบบที่แตกต่างออกไป ซึ่งผู้เล่นจะถูกสุ่มทั้งแผนที่ดันเจี้ยนและเส้นทางการเดินทางที่แตกต่างกันในแต่ละรอบที่เข้าเล่นนั้น ก็ได้เพิ่มอรรถรสในการเล่นให้ไม่ซ้ำซากกับดันเจี้ยนหน้าตาเดิมๆ เส้นทางวิ่งเดิมๆ มากขึ้น 
     โดยที่เมื่อผู้เล่นไม่ได้อยู่ภายในระบบดันเจี้ยน ผู้เล่นจะสามารถที่จะเข้าเมืองเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนไอเทมกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ โดยที่ในแต่ละเมืองในแต่ละแชแนลนั้นสามารถที่จะรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 1,000 คน นอกจากนี้แล้ว เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของเกมแนวดันเจี้ยนที่จะเน้นแต่สภาพโลกแบบปิด Dungeon Striker ยังได้เพิ่มระบบ Open World อีกหลายแมพ เพื่อที่ผู้เล่นจะสามารถรวบรวมวัตถุดิบในธรรมชาติ ค้นหาวัตถุดิบมาสร้างไอเทม รวมถึงยังสามารถที่จะเปิดฉากการต่อสู้ใน Open World จากเหล่าบอสที่บุกเข้ามาทำลายเมือง โดยเมื่อมีบอสบุกเข้ามา จะมีระบบแจ้งข้อความเตือนสมาชิกภายในกิลด์เดียวกัน ให้ทุกๆ คนเตรียมตัวช่วยกันจัดการบอสที่บุกรุกเข้ามาได้อีกด้วย (ท่าทางจะมันนะเนี่ย เก็บๆ ผักอยู่ บอสบุก อะจ๊ากกกก ><)
     นอกจากนี้แล้ว Dungeon Striker เองยังมีแผนที่จะพัฒนาลงแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างเช่น Tablet ภายในอนาคตอีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะสนุกสนานกับเกมได้ทุกสถานที่โดยไม่มีขีดจำกัด รวมถึงทางผู้พัฒนาเองยังมีโปรเจคที่จะทำให้มีระบบการต่อสู้แบบข้ามเซิร์ฟเวอร์กันได้ด้วยอีก ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Dungeon Striker จะมีอะไรมาทำให้เราประหลาดใจอีก (หลังจากที่ทำเซอร์ไพรส์ตั้งแต่เปิดตัวแล้วเนี่ย) รวมถึงทาง Eyedentity เองก็ได้มีการกระซิบบอกกับทางผู้สื่อข่าวที่ไปร่วมงานเปิดตัว Dungeon Striker ว่าทางผู้พัฒนาเองก็ได้เริ่มโปรเจคที่ 3 ต่อแล้วด้วย แต่จะเป็นโปรเจคอะไรนั้น คงต้องรอลุ้นกันต่อไปในเร็วๆ นี้
 
     แล้วพบกับบทความพิเศษประจำสัปดาห์ทุกวันจันทร์โดย Ohmdevilz เจ้าเก่าได้ในสัปดาห์หน้านะเจ้าคะ สวัสดีค่า~
 
ข้อมูลจาก This is Game
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ