กลยุทธ์การตลาด ของเกม PC - Console ยุคใหม่ แบบไหน Win ? แต่เราไม่ Win แน่นอน !

แชร์เรื่องนี้:
กลยุทธ์การตลาด ของเกม PC - Console ยุคใหม่ แบบไหน Win ? แต่เราไม่ Win แน่นอน !
บอกได้เลยว่า ปีนี้เป็นยุคทองของการเกมเลยก็ได้ เพราะว่ามีเกมออกใหม่เยอะแยะไปหมดเลยล่ะครับ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ทั้งเกม PC และเกม Console ออกมานับรวมๆ กันได้ก็ 30 กว่าเกมเข้าไปแล้ว ในเวลาแค่เพียงแค่ 3 เดือน ที่ผ่านพ้นไป เมื่อมีเกมออกสู่ตลาดมากมาย ทั้งค่ายเกมและผู้พัฒนาเกมต่างๆ ก็ต้องมีการปรับแผน ปรับกลยุทธ์ เพื่อแข่งขันกันทำตลาดกันเองด้วย ไหนจะต้องต่อกรกับพวกเล่นแผ่นผีหรือไฟล์ก๊อปปี้อีกบานตะไท ดังนั้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อนๆ จะพบกับกลยุทธ์การตลาดของค่ายเกมแบบใหม่ๆ มากมายซึ่งวันนี้ Barrettez เจ้าเก่าจะยกมาตีแผ่ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ
 
1.Limited Edition, Special Edition, Collector Edition และสารพัดสารเพจะ Editionอันนี้เป็นแผนการตลาดที่เพื่อนๆ ต่างคุ้นเคยกันดี และเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสากลโลก นึกอะไรไม่ออก Limited Edition ไว้ก่อน โดยหลักๆ มักจะเป็นกล่องเหล็กสวยงาม หรือใช้แพคเกจแปลกตา ให้เข้ากับธีมเกมของตัวเอง เพื่อสร้างจุดสนใจสำหรับแฟนๆ เกมนั้นได้เป็นอย่างดี ผมเองก็หมดไปกับของพวกนี้เยอะซะด้วยสิ โดยเฉพาะพวก Edition ทั้งหลาย ถ้ามีแถมสมุดรวมภาพ หรือพวก Concept Art มันยิ่งยั่วให้ผมที่ชื่นชอบการสะสมหนังสือภาพของเกมต่างๆ สรรหาซื้อมาครอบครองให้ได้ ถือว่าเป็นการตลาดที่ได้ผลเหมือนกันเพราะพวกแผ่นผี หรือโหลดเกมเล่นเอานั้น แทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสของสะสมเหล่านี้เลย

บางเกมก็มีหลายแพคเกจ ให้แฟนเลือกหาเลือกสะสมกันตามอัธยาศัยและกำลังทรัพย์ที่มีกัน

 

 

2.DLC
 
เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีใช้กันมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของเกม Gen นี้เลยก็ว่าได้ แต่ผมรู้สึกว่าหลังๆ มันชักจะถี่ขึ้น ถึงถี่มากเกินไปจริงๆ ในช่วงนี้ ยกตัวอย่างเช่น Final Fantasy XIII-2 ที่ DLC ออกถี่แทบจะรายสัปดาห์เลยก็ว่าได้ หรือบางเกม ยังไม่ทันวางตลาดก็มี DLC เผยออกมาให้เห็นแล้วก็มี ผมจึงมีคำถามในใจว่า "ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงไม่มีอยู่ในแผ่นตั้งแต่แรก ?" หรือ "ตัวเกมที่ปล่อยออกมาขายมันคือเกมที่ยังพัฒนาไม่เสร็จหรือไง ?" แถม DLC ออกมาถ้าลูกค้าอยากได้ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกด้วย จนเกมบางเกม DLC รวมกันแล้วราคาแพงกว่าแผ่นเกมซะอีก หากมองอีกแง่ในฐานะผู้พัฒนาเกมก็สามารถมองได้ว่าเพื่อป้องกันไม่ให้คนเล่น แผ่นก๊อบได้สิทธิพิเศษในส่วนนี้ไป แต่สำหรับมุมมองของลูกค้าอย่างเราๆ แล้ว เมื่อเราซื้อแผ่นเกมมาเราคือผู้อุดหนุนเขาแต่กลับต้องจ่ายเงินเพิ่ม ถ้าหากต้องการเล่นเกมนั้นๆ ให้สมบูรณ์ทุกกระเบียดนิ้ว
(อันนี้ผมไม่ได้พูดรวมถึงเกม ที่วางตลาดไปสักพักใหญ่แล้วค่อยออก DLC มาเสริมนะครับ)

3.Pre - Order

เป็นแผนการตลาดแนวใหม่ ที่เพิ่งจะเริ่มมีแพร่หลายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มองเผินๆ ก็ดูเรียบง่าย แต่แสบน่าดูเลยทีเดียว หลักๆ แล้วก็เหมือนการสั่งจองสินค้าล่วงหน้าก่อนวางจำหน่ายทั่วไป แถมโน่นแถมนี่ให้เพื่อเป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนสั่งจองก่อนโดยเฉพาะ แต่ทว่า... บางเกม จองกับร้านค้าร้านนึงได้ของแถมอย่างนึง แต่จองอีกร้านนึง ดันได้ของแถมอีกอย่างนึง เช่นอาวุธ หรือชุดพิเศษ ซึ่งก็มีหลายคนที่อยากได้ของแถมครบทุกชิ้นจนต้องไปตระเวณสั่ง Pre Order ตามร้านต่างๆ แต่สำหรับบางคนยังมีทางออกอยู่บ้างคือหลังจากได้แผ่นพร้อมของแถมมาแล้วก็อาจ จะเอาแผ่นที่ไม่ได้เล่นไปปล่อยขายต่อไป แล้วเก็บไอเทมพิเศษเอาไว้

แต่ยังไงก็ตามเรื่อง Pre Order ที่แต่ละร้านจะมีของแถมเฉพาะนั้นมีไม่บ่อยมากเท่าไรครับ

ยังดีที่ระบบนี้ยังไม่มีในประเทศไทย ไม่อย่างนั้นกระเป๋าสตางค์พรุนแน่นอนครับ >w<

 
 
4.เกมเก่าเล่าใหม่
 
เมื่อสมัย Street Fighter 4 เพื่อนๆ ที่ซื้อแผ่นเกมไปคงจะจำกันได้ กับการหักหลังซ้ำซ้อนของทาง Capcom จาก Street Fighter 4 อยู่ดีๆ ก็มีข่าวให้แฟนๆ ปลื้มโดยการเพิ่มตัวละครมาอีก 10 ตัว แต่แฟนๆ ต้องฝันสลายเมื่อ 10 ตัวนั้น ไม่มีโหลด DLC เสริม ใครอยากได้ต้องซื้อแผ่นใหม่เลยกับภาค Super Street Fighter 4 ที่วางจำหน่ายช่วงเดือนเมษายนปี 2010 แฟนๆ หลายคนที่อยากได้ตัวละครเพิ่มก็ต้องจำใจซื้อแผ่นใหม่มาอีกแผ่น พร้อมกับบ่นพึมพำในใจกันทุกคน แต่ยังครับ มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะในเวลาต่อมา Capcom ก็ออกแผ่นใหม่มาอีกในชื่อว่า Super Street Fighter Arcade Edition เพิ่มตัวละครอีก 4 ตัว ทำให้แฟนๆ ต่างสรรเสริญด้วยคำก่นด่ามากมาย บ้างก็ไม่ยอมซื้อเพราะกลัวจะโดนหักหลังอีก จนทาง Seth Killian ต้องออกมาเผยว่าจะไม่มีการออกเวอร์ชั่นใหม่อีกต่อไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความเชื่อใจจากแฟนๆ มากมายสักเท่าไรนัก ยอดขายของ Arcade Edition จึงตกฮวบฮาบไปกว่าเดิมแบบไม่ถึงครึ่งจากที่เคยทำไว้

5.Unlock

เป็นแผนการตลาดที่แฟนๆ บางส่วนกำลังดราม่ากันอยู่ในช่วงนี้ โดย Capcom เจ้าเก่า จากเคส Street Fighter x Tekken ในแพลตฟอร์ม PS3 และ XBOX360 จะมีการเพิ่มตัวละครพิเศษทั้ง 12 ตัว ที่แฟนๆต้องซื้อผ่าน DLC เท่านั้น ส่วนเครื่อง PSVita จะแถมตัวละคร 12 ตัวพิเศษให้ฟรีๆ เพื่อเป็นการปลอบใจสำหรับตัวเกมในเครื่อง PSVita พัฒนาช้ากว่าเครื่องอื่น ฟังแล้วดูดีจริงใจ จนเมื่อมีเกมเมอร์หลายคนรู้ความจริงว่า ตัวละครพิเศษทั้ง 12 ตัวนั้นมีอยู่ในแผ่นเกมตั้งแต่แรกแล้ว แต่ทาง Capcom ล็อคเอาไว้เป็น DLC ที่ลูกค้าต้องจ่ายซื้อเพื่อทำการปลดล็อคเอาออกมาใช้... คำถามที่อยู่ในใจของพวกเราทุกคนคือ "ทำไมเราถึงไม่ได้สิทธิ์ในแผ่นที่เราเสียเงินซื้อมาโดยสมบูรณ์ล่ะ ?" และแล้วทาง Capcom ก็ถูกจวกอีกรอบตามระเบียบ

 

6.Multiplayer

อีกแผนการตลาดแบบใหม่ที่ผมก็เพิ่งจะเคยพบเคยเห็น จากเกม Mass Effect 3 ซึ่งนั่นก็คือ หากเพื่อนๆ ต้องการจบแบบ True Ending (ไม่นับแบบจบ Good, Bad หรือเพื่อนรอด-เพื่อนตายนะครับ) เพื่อนๆ จำเป็นต้องทำให้ค่า Readiess เต็ม 100% ซะก่อน และประเด็นอยู่ตรงนี้แหละครับ ค่า Readiess จะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเล่น Mass Effect 3 แบบ Multiplayer เท่านั้น !! ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร ผมเองก็รู้สึกเฉยๆ เพราะเล่นได้หมดทั้ง Singleplayer และ Multiplayer แต่มีเกมเมอร์ตะวันตกหลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกมเมอร์ชาวตะวันตกหลายคนชอบเล่นแบบเนื้อเรื่องให้จบก่อนถึงค่อย ต่อด้วย Multiplayer การที่ตัวเองพยายามเล่นอย่างเต็มที่แล้วไม่ได้ฉากจบที่แท้จริง มันเป็นอะไรที่ขัดอารมณ์พวกเขามาก ประมาณว่าเล่นปูเนื้อเรื่องมาตั้งไกล แต่พออยากจะเอาฉากจบที่แท้จริงกลับต้องโดนป้ายเบรคให้หันไปเล่น Multiplayer ให้แถม Readiess เต็มก่อนแล้วค่อยกลับไปเล่นต่อเอาฉากจบที่แท้จริงอีกที ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก และขัดจังหวะการเล่นของพวกเขาสุดๆ เพราะบางคนถึงกับย้อนกลับไปเล่นภาค 1 - 2 เพื่อมาต่อภาค 3 ด้วยความรู้สึกต่อเนื่องสำหรับผมนั้นมองว่าหากผ่านไปนานๆ คนที่เพิ่งจะมาเริ่มเล่นทีหลัง หรือคนที่จะสร้างตัวใหม่ หากไม่มีคนเล่น Multiplayer ด้วยก็ไม่มีวันได้ฉากจบที่แท้จริงได้ ซึ่งในจุดนี้ทาง Bioware ผู้พัฒนาเองก็ไม่พอใจเช่นกันและชี้แจงว่าเป็นเพราะคำสั่งจากทาง EA ซึ่งทาง Bioware กำลังวางแผนจะทำการปรับเปลี่ยนระบบ Readiess ใหม่ เพื่อแก้ปัญหาในอนาคตครับ

อาห์... หากวันไหนไม่มีคนเล่น Multiplayer กับตูด้วย ตูคงไม่มีวันได้เห็นฉากจบที่แท้จริงแน่...

กล่าวโดยรวมแล้ว เรื่องแบบนี้เหมือนเป็นปัญหาที่ด้านความต้องการของทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายผู้ผลิตก็มองด้านยอดขายเป็นสำคัญ กลุ่มลูกค้าเองก็ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและความสมเหตุสมผลต่อราคาสินค้า เองด้วย ในยุคสมัยของการแข่งขันด้านการตลาดที่มีคู่แข่งสูง ทางผู้ผลิตเองก็อาจจะต้องงัดเอากลเม็ดหรือแผนการตลาดแปลกๆ เพื่อดึงยอดขายของตัวเองให้สูงขึ้น พวกเราเองก็ต้องทำใจยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับระบบการตลาดใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าครับ ^^

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ