ย้อนกลับไปเมื่อในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2007 ที่ได้มีการเปิดเผยเกม Ragnarok II ออกมาสู่สายตาประชาคมโลกเป็นครั้งแรกนั้น แต่จนแล้วจนรอดในตอนนี้ ก็ยังไม่มีผลงานที่เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์แล้วออกมาให้แฟนๆ ได้ผลโฉมกันสักที ซึ่งก็ได้ทำให้ผู้เล่นที่เฝ้ารอคอยเกมนี้นั้นเริ่มจะผิดหวังและมีภาพลบในตัวเกม Ragnarok II เพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งทาง Gravity Games ได้ให้สัญญาว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ก็จนแล้วจนรอดอีกครั้ง ในการทดสอบที่เปิดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคม ในปี 2010 นั้น ก็ยังไม่ได้แสดงความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะพลิกรูปโฉมเกม Ragnarok II ออกมาเป็นที่แน่ชัดสักเท่าไรนัก
กลับมาในปีนี้ หลังจากที่ทาง Gravity ปล่อยให้แฟนๆ ร้องเพลงรอไปเรื่อยๆ ในที่สุด Ragnarok II ก็ได้เข้าสู่ช่วง Open Beta ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา ซึ่งคลิปที่เห็นด้านบนก็เป็นตัวอย่างฉากคัทซีนล่าสุดที่ทาง Gravity ปล่อยออกมาโชว์ให้แฟนๆ ได้ดูกัน และทางเว็บไซต์เกม ThisIsGame.com ได้ไปสัมภาษณ์เปิดใจกับ Mr. Kim ผู้ดูแลโปรเจค Ragnarok II เพื่อที่จะสอบถามให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอุปสรรคทำให้ Ragnarok II ไม่ได้คลอดซะที
Mr. Kim ได้เข้าดูแลโปรเจค Ragnarok II ในวันที่ 2 ตุลาคม ปี 2009 ซึ่งมันไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะตัดสินใจอะไรได้ง่ายๆ แล้ว เพราะทางสื่อก็ได้เริ่มประโคมข่าวของ Ragnorok II รวมทั้งได้ถูกรวบว่าเป็นภาคต่อของ Ragnarok ซึ่งทำให้มีแรงกดดันในหลายๆ อย่าง ที่ทำให้ Mr. Kim จะต้องผลักดัน Ragnarok II ให้ประสบความสำเร็จให้ได้
แต่หลังจากที่ Mr. Kim ได้เข้ามารับหน้าที่ดูแลแล้ว ภาพรวมของ Ragnarok II ตอนนั้นยังค่อนข้างที่จะสับสนและตัวเกมเองนั้นอยู่ในสภาพไร้ทิศทางรวมถึงการทำงานของทีมงานพัฒนาที่ค่อนข้างสะเปะสะปะ ถึงแม้จะมีแผนตารางภายในของทางผู้พัฒนาเกมที่ถูกวางไว้อยู่แล้วก็ตาม ทาง Mr. Kim ได้ตัดสินใจที่จะรื้อโปรเจคใหม่ทั้งทีมพัฒนาและวางแผนช่วงระยะเวลาของงานใหม่ทั้งหมด ซึ่งโปรเจค Ragnarok II ก็ได้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หลังจากการจัดการให้ทุกๆ อย่างลงตัวเรียบร้อยแล้ว
เพื่อที่จะให้ทันกับกำหนดการที่ถูกเร่งรัดด้วยระยะเวลาที่จำกัดนั้น ทีมงานข้ามชาติจากประเทศจีนและบริษัทอื่นๆ ในเกาหลีได้ถูกว่าจ้างเพิ่มเพื่อที่จะช่วยกันระดมกำลังพัฒนาเกมให้เสร็จทันตามแผนที่วางขึ้นใหม่รวมถึงช่วยผ่อนภาระงานจากสต๊าฟเดิมให้เบาลง ซึ่งในที่สุดหลังจากที่ยกเครื่องกันใหม่ก็สามารถที่จะดำเนินโปรเจค Ragnarok II ได้กันในที่สุด แต่ถึงแม้จะมีการว่าจ้างคนภายนอกมากเท่าไร ทางทีมผู้พัฒนาก็ยังทำงานเลย 4 ทุ่ม แทบจะทุกวันอยู่ดี
ซึ่ง Mr.Kim ได้กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานนั้น มีทั้งปัญหาสต๊าฟลาออกเนื่องจากไม่มีเวลาให้คู่หมั้นแล้วต้องเลิกร้างกันไป หรือแม้แต่หัวหน้าฝ่ายศิลป์ที่ทำงานหนักมากจนมีปัญหาถึงขั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวช่วงคอและหลังได้กันเลยทีเดียว จนถึง ตัว Mr. Kim เองที่ถูกหามส่งโรงพยาบาลเนื่องจากทำงานหนักเกินไปเช่นกัน (เป็นทีมงานที่ทรหดกันจริงๆ - -')
นอกจากปัญหาความไม่พร้อมของทีมงานนั้น ยังตามมาด้วยปัญหาของเอนจิ้มเกมเป็นของแถมอีกต่อ ซึ่งเอนจิ้นดั้งเดิมของ Ragnarok II นั้น คือ Unreal 2.5 แต่หลังจากการพยายามแก้แล้วแก้อีก ทางทีมผู้พัฒนาก็ประสบปัญหากับเอนจิ้นตลอดระยะเวลา จึงทำให้ทางผู้พัฒนาได้เปลี่ยนไปใช้ Zero Ding Engine แทน ซึ่งเป็น เกมเอนจิ้นที่ถูกพัฒนาโดยคนเกาหลีเอง แต่ก็จนแล้วจนรอดอีกครั้ง ก็ยังไม่เวิร์คอยู่ดี ซึ่งทำให้ เปลี่ยนมาใช้ Gamebryo Engine แทน (ซึ่งเอนจิ้นนี้ ได้ถูกใช้ในเกม Warhammer Online ด้วยเช่นกัน)
และเพื่อที่จะเข้าใจถึงแก่นแท้ของตำนานและโลกของ Ragnarok นั้น Mr. Kim ได้เข้าไปเล่นเกม Ragnarok เอง เพื่อที่จะเข้าใจถึงธรรมชาติ ความสนุก ในมุมมองของผู้เล่นเอง รวมทั้งได้พูดคุยกับนักวาด Rannarok เวอร์ชั่นการตูนอีกด้วย แต่สุดท้ายแล้ว Mr.Kim ก็ตัดสินใจที่จะใช้ชื่อแผนที่ ชื่อสกิล รวมถึงชื่อมอนสเตอร์เหมือนเดิมเกือบทั้งหมด เพื่อรักษาความเป็นภาคต่อเอาไว้ให้ครบถ้วน
สิ่งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดนั้น คือระบบการ์ด ซึ่งในเกม Ragnarok Online นั้น Mr.Kim ได้ตระหนักว่า จำนวนสล๊อตของการ์ด และการ์ดในอุปกรณ์นั้นจะจำกัดการใช้งานกับอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ ไป ซึ่งทำให้การใช้งานมันสั้นมาก เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น การ์ดมอนสเตอร์จะถูกใช้งานกับตัวละครแทน
สำหรับ Raid Dungeon 20 คน นั้น บอสตัวสุดท้ายจะปล่อยลูกน้องออกมาช่วยต่อสู้เมื่อมีเลือดต่ำกว่า 5% ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นนั้นจะต้องเหนื่อยในการต่อสู้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่ง Mr.Kim ได้แนะนำให้พยามยามจำกัดลูกน้องของบอสแค่ให้พ้นทาง แล้วจดจ่อในการจัดการบอสให้มากที่สุด
Mr. Kim ยังได้กล่าวถึง Raid Dungeon ใน Ragnarok II ว่า จะไม่ซีเรียสขนาด World of Warcraft แน่นอน ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่ผู้เล่นสามารถที่จะสนุกสนานในการเล่นมากกว่ามุ่งหน้าที่จะเคลียร์ดันเจี้ยเพียงแต่อย่างเดียว
ที่มา : mmoculture / thisisgame