
หากพูดถึงเกม RPG แนวแฟนตาซีจากตะวันตกที่เด่นๆ ในเวลานี้แล้วล่ะก็เวลานี้ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึงแต่ Elder Scroll V: Skyrim แน่นอน ด้วยดีกรี Game of the Year ประจำปี 2011 ที่เป็นเครื่องการันตีความสุดยอดของเกมได้เป็นอย่างดี แต่หากจะพูดถึงความเป็นแฟนตาซีแล้วล่ะก็ วันนี้ผมมีเกมหนึ่งที่อยากนำมาเสนอเพื่อนๆ โดยเป็นเกมที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายๆ กับ Skyrim แต่มีความเป็นแฟนตาซีสูงกว่ามาก เหมาะสำหรับขาแฟนตาซีจ๋าแบบผมแล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำเกมนี้ครับ Kingdom of Amalur: Reckoning

รู้จักกับเกมกันสักนิด
Kingdom of Amalur: Reckoning เป็นเกมแนว RPG ในรูปแบบ Open World โดยงานนี้ได้รวบรวมนักพัฒนาเกมชื่อดังมากมายภายใต้ชื่อ 38 Studio และ Big Huge Games โดยได้สุดยอดผู้คร่ำหวอดในวงการต่างๆ มาเข้าร่วมโปรเจ็กต์ด้วยเช่น
Ken Rolston, Mark Nelson และ Ian Franzier: ผู้ควบคุมการออกแบบ เกมที่เคยติดโผสุดยอด Game of the Year ในปีก่อนๆ อย่าง Elder Scroll IV: Oblivion และ Elder Scroll III: Morrowind, Fallout3 รวมไปถึงเกม Titan Quest อีกด้วย
Robert Anthony Salvatore: นักเขียนนิยายแนวแฟนตาซี ที่มีผลงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 เรื่อง แถมผลงานของเขายังเคยติดอันดับขายดีที่สุดของ New York Times มากถึง 22 ครั้ง ก็เป็นผู้แต่งเนื้อเรื่องรวมไปถึงการกำกับบทพูดของตัวละครและ NPC ต่างๆ
Todd McFarland: นักวาดคอมิกซ์ชื่อดังระดับโลก ผู้วาด Spider-Man อันโด่งดัง และเป็นผู้ให้กำเนิด Spawn นอกจากนี้ยังเป็นผู้ก่อตั้ง Image Comics, Reckoning มาช่วยออกแบบอนิเมชั่นทั้งฉากแอ็กชั่นสุดมันส์ ฝูงศัตรูอันโหดเหี้ยม และจินตนาการที่เสมือนมีชีวิตให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสกัน

ตัวละคร
เล่นสามารถเลือกเผ่าเล่นได้ทั้งหมด 4 เผ่าด้วยกันคือ Almain (noble Humans), Dokkalfar (Dark Elves), Ljosalfar (Light Elves)และ Varani (nomadic Humans) ซึ่งแต่ละเผ่า จะมีความสามารถพิเศษไม่เหมือนกันเช่นบางเผ่าอาจจะถนัดด้านการลอบฆ่า อีกเผ่าอาจจะถนัดด้านการทำยา เป็นต้น แต่ถึงยังไง เพื่อนๆ สามารถอัพเกรดความสามารถเหล่านี้ในเกมทั้งหมดได้อีกอยู่ดีครับ
นอกจากนี้ ในการสร้างตัวละครยังมีการเลือกนับถือเทพเพื่อจะได้รับค่าสเตตัสเสริม ตามแต่เทพที่เลือกบูชา ทำให้ตัวละครที่ผู้เล่นสร้างมานั้น ถึงจะเผ่าเดียวกัน แต่ความสามารถก็ยังต่างกันอยู่ดี
ผู้เล่นสามารถเลือกแนวทางการอัพ Ability เล่นได้ 3 สายด้วยกัน คือ Might, Finesse, และ Sorcery แต่เกมนี้พิเศษอยู่ตรงที่สามารถอัพสกิลข้ามสายได้ตลอดเวลา ทำให้ตัวละครของเพื่อนๆ มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ การจะเป็นนักดาบที่ยิงเวทย์ได้ จึงไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไปครับ ^^



เกมเพลย์
เกม Kingdom of Amalur: Reckoning จะมีลักษณะการเล่นคล้ายกับ Elder Scroll ภาคก่อนๆ และ Fallout 3 กับ Fallout New Vegas อยู่มาก ต่างกันที่มุมมองของภาพที่เป็นบุคคลที่ 3 (ถึงเกมอื่นจะสามารถปรับให้เป็นบุคคลที่ 3 ได้ แต่ระบบมุมมองหลักก็ยังเป็นบุคคลที่ 1 อยู่ดี) และที่สำคัญก็คือเกมนี้มีระบบต่างๆ น่าสนใจมากมายเช่น
- Reckoning Mode
เป็นระบบที่น่าสนใจและโดดเด่นเอามากๆ โดยการต่อสู้ของผู้เล่น จะได้รับค่า Fate เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อพอแถบค่า Fate เต็ม จะสามารถเลือกเข้าโหมด Reckoning ซึ่งบรรยากาศรอบข้างจะสโลว์โมชั่นหมด ให้เราฟาดฟันศัตรูได้เต็มที่ และสามารถจัดท่าปิดฉากหรือ Finishing Move สุดสวยงามใส่ศัตรูได้อีกด้วย

- ระบบสกิลระบบสกิลของเกมนี้ จะเป็นการเพิ่มความสามารถพิเศษให้กับตัวละคร ซึ่งเริ่มต้นมาแต่ละเผ่าจะมีไม่เหมือนกัน แต่สามารถเลือกอัพต่อได้ตามความต้องการและนอกจากเราจะได้รับแต้มสกิลเมื่อเลเวลอัพแล้ว ยังสามารถหาอัพแต้มสกิลได้จากการอ่านหนังสือ และจ่ายเงินให้กับผู้ฝึกสอน

- Destinyระบบ Destiny เป็นตัวกำหนดรูปแบบค่าสถานะ และการต่อสู้ และนอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมให้กับบาง Ability โดยการเลือก Destiny นั้นจะเหมือนกับการเลือกอาชีพ ซึ่งมี 3 สายด้วยกันคือ Brawler, Rogue, Initiate หรือพูดง่ายก็คือ อาชีพ Fighter, Rogue, และ Mage เหมือนกับ Dragon Age นั่นเอง ซึ่งแต่ละแบบจะมีอาชีพขั้นสูงขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งเพื่อนๆ จะสามารถเลือกได้ทุกครั้งหลังจากเลเวลอัพ โดยอาชีพขั้นสูงสามารถปลดล็อคได้เมื่ออัพ Ability สายนั้นๆ ถึงตามกำหนด อย่างเช่นอาชีพ Archsage จำเป็นต้องอัพ Ability สาย Sorcery ให้ได้ถึง 109 จึงจะสามารถปลดล็อคได้ และนอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถรีค่า Ability ทั้งหมดเพื่ออัพใหม่ได้เรื่อยๆ อีกด้วย


- Twisted of Fate
เป็นอีกระบบที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ เพราะการผจญภัยในเนื้อเรื่องของเรานั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เรียกว่า Twisted of Fate ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้ว จะได้รับการ์ด Tarot ที่บัฟเพิ่มค่า Status ให้กับเราได้อีกด้วย

- Craftหรือเรียกว่าระบบผสมของ จะมีด้วยกัน 3 แบบคือ Alchemy, Blacksmith และ Sagecraft โดยการผสมของนั้นจำเป็นต้องมีสูตรในการผลิตของนั้นๆ ต้องมีวัตถุดิบที่เพียงพอ และ ต้องมีสกิลตามระดับที่ต้องการด้วย โดยการผสมรูปแบบต่างๆ จะให้ของออกมาไม่เหมือนกันด้วย

- Flactionsระบบสังกัดที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งมีทั้งหมด 6 สังกัด ซึ่งแต่ละสังกัดก็จะมีเนื้อเรื่อง เควสต์ และไอเทมพิเศษ ต่างกันไปด้วยเช่นกัน

กราฟฟิกปรับเต็มสตรีมแล้ว สวยงามครับ แต่รู้สึกว่ายังไม่สุด สภาพแวดล้อมและโลกแฟนตาซีผมขอชมว่าสวยงามมากครับ แต่ที่รู้สึกไม่สุดอาจะเป็นเพราะว่า ภาพที่ออกมายังไม่ถึงระดับสมจริงเหมือน Skyrim ที่ออกไปก่อนหน้านี้ แต่ถ้าคิดได้อีกแง่นึงก็อาจจะเป็นเพราะต้องการทำให้เป็นแฟนตาซีก็ได้



เสียง
ขอชมเรื่องการพากย์ตัวละครครับ บทพูดเยอะมาก แคสติ้งจัดได้ว่าดีเลยทีเดียว ฟังแล้วสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ตัวละครได้เลยทีเดียว แต่ผมยังรู้สึกขัดกับดนตรีประกอบอยู่บ้างยังดึงอารมณ์ไม่มากพอ

ข้อเสียของเกมถึงจะดูเป็นเกมที่เหมือนจะเพอร์เฟคไปซะทุกด้าน แต่ข้อเสียของมันก็มีเหมือนกัน
- ถึงตัวเกมจะบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้อยู่เสมอๆ แต่การเลือกตอบ หรือเลือกกระทำอะไรอย่างที่อยากให้เป็น ก็ยังมีข้อจำกัดในวงของเนื้อเรื่องนั้นๆ อยู่ดี
- ระบบ หลอมไอเทมที่เหมือนจะหลาก หลายแต่กว่าจะได้มาซึ่งวัตถุดิบ ดีๆ มันยากมาก จนคิดว่าของสวมใส่ระดับ Unique (สีม่วง) ยังดรอปง่ายกว่าซะอีก
- ไอเทมที่มีรูให้ใส่อัญมณี มักจะเป็นไอเทมระดับ Common ถึง Rare แต่สำหรับผู้ที่ชอบเล่นของสวมใส่ระดับสูงอย่าง Unique ขึ้นไปแล้วล่ะก็ อัญมณีจะไม่ได้ใช้เก็บไว้ก็รกช่องเล่น
- Inventory ของเกมไม่มีระบบการจัดเรียงของ มีแต่เพียงการแยกหมวดเอาไว้ แล้วจะมีปัญหาในหมวด Misc ซึ่งของจะปนๆ กันเยอะมากเวลาต้องการจะแยกของทิ้งจึงลำบากอยู่บ้าง
- ในเกมยังมีบัคอยู่บางส่วน เช่นไอเทมที่หมดความสำคัญแล้วก็ขายหรือทิ้งไม่ได้ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีการแก้ไขในอนาคต
- จำนวนมอนสเตอร์ถึงจะหลากหลาย แต่จำนวนในการสู้ผมยังรู้สึกว่าไม่มากพอ สำหรับผมเลยรู้สึกว่ายังซัดกับมอนสเตอร์ได้ไม่เต็มที่

สรุป
เป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่ทำออกมาได้ดีมากครับ การนำเสนอดี เนื้อเรื่องลึกซึ้ง ถึงจะมีข้อเสียอยู่บ้างแต่ถ้าไม่นับเรื่องมอนสเตอร์ไม่เยอะพอแล้วที่เหลือก็แทบไม่มีอะไรที่ทำให้เจอแล้วถึงกับเสียอารมณ์อีก สำหรับคนชอบแฟนตาซีแล้วล่ะก็ ผมจัดว่าเป็นเกม RPG ตะวันตกที่มีความเป็นแฟนตาซีสูงมาก มีเควสต์ให้ทำมากมาย ดันเจี้ยนอีกเพียบ ถ้าจะเก็บเกมนี้ให้ได้ทุกเม็ดจริงๆ เล่นกันเกิน 100 ชั่วโมงขึ้นไปแน่ๆ ครับ และผมมั่นใจว่า Kingdom of Amalur: Reckoning อาจจะได้เป็นเกมที่มีการลุ้นตำแหน่ง Game of the Year ในปีนี้แน่นอนครับ


