Dragon Nest ประเทศไทย ประเดิมใช้ระบบใหม่ Hybrid System ที่แรกในโลก!

     สวัสดีครับ หลังจากโหมโรงเปิดตำนานกันไปในตอนที่แล้วสำหรับ Dragon Nest ประเทศไทย คราวนี้จะพาไปดูระบบของเซิร์ฟเวอร์กันต่อเลย หลายคนคงลุ้นกันตัวโก่งสินะ ว่าไทยจะใช้ระบบ ABP หรือ FTG ซึ่งทีมงานก็ได้รับคำตอบจากทาง Asiasoft มาแล้วว่า เซิร์ฟเวอร์ไทยจะใช้ระบบ Hybrid System ที่รวมเอาทั้ง ABP และ FTG ไว้ด้วยกัน ซึ่งระบบนี้จะประเดิมใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ไทยเป็นที่แรกในโลกเลยทีเดียว

     Dragon Nest นั้นเป็นเกมที่มีระบบการเล่นค่อนข้างจะแปลกใหม่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของการจำกัดการเล่นต่อวันที่พวกเรารู้จักกันดีว่าระบบ FTG ที่ย่อมาจาก Fatigue หรือความเหนื่อย ที่มีขึ้นเพื่อจำกัดการลงดันเจี้ยนของผู้เล่นในแต่ละวัน ซึ่งหากผู้เล่นใช้ค่า FTG หมดแล้วในวันนั้น ก็จะไม่สามารถลงดันเจี้ยนได้อีกต่อไป ต้องรอให้ข้ามวันเพื่อให้ค่า FTG รีเซ็ตกลับมาก่อนถึงจะลงต่อได้ ซึ่งดูแล้วมันก็เป็นการจำกัดการเล่นกันมากเกินไป ทางผู้พัฒนาก็เลยทำระบบใหม่ออกมาอีกตัวนึงที่เรียกว่า ABP ซึ่งย่อมาจาก Altea’s Blessing Points ซึ่งจะเพิ่มค่า Bonus EXP และ Drop Rate หลังจบดันเจี้ยนทุกครั้งจนกว่า Point จะหมด ซึ่งเมื่อ Point หมดแล้วผู้เล่นก็จะยังลงดันเจี้ยนได้ตามปกติ แต่จะไม่ได้รับ Bonus EXP และ Drop Rate แล้ว แต่ระบบ ABP ก็ยังมีจุดบอดใหญ่ที่สำคัญอยู่ เพราะการลงดันเจี้ยนได้แบบไม่จำกัดก็ทำให้เกิดการฟาร์มของฟาร์มเงิน และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ทำให้เกิดช่องว่างของผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่ขึ้น (คล้ายๆ กับช่องว่างระหว่างวัยของเด็กกับผู้ใหญ่ประมาณนั้นแหละ)

ตำแหน่งของแถบ FTG และ ABP อยู่ฝั่งขวาที่เดียวกันเลย ส่วนทางซ้ายเป็นแถบ EXP
 
เงื่อนไข ข้อดี และข้อเสียของระบบต่างๆ
 
ระบบ FTG (Fatigue System)
     ปัจจุบันมี 4 เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, จีน และไต้หวัน
เงื่อนไขของระบบ FTG
   1. จำกัดการเล่นต่อวันด้วยค่า FTG ซึ่งถ้าใช้จนหมดแล้ว ในวันนั้นจะลงดันเจี้ยนต่อไม่ได้
   2. ค่า FTG ต่อวัน ในวันธรรมดาจำกัดที่ 700 และในวันเสาร์อาทิตย์จำกัดที่ 1000
   3. เวลาที่ใช้ในการลงดันเจี้ยน (ผลาญ FTG) เก็บเลเวลเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 2-4 ชั่วโมงต่อวัน
ข้อดีของระบบ FTG
   1. ทำให้คนที่มีเวลาเล่นเกมน้อยพัฒนาตัวละครได้เท่าๆ กับคนที่มีเวลาเล่นเกมมาก
   2. ช่วยรักษาสมดุลในระบบเศรษฐกิจของเกม
ข้อเสียของระบบ FTG
   1. เป็นการจำกัดการเล่นกันมากเกินไป
   2. เก็บเลเวลยาก และไม่ต่อเนื่อง

ระบบ ABP (Altea’s Blessing Point)
     ปัจจุบันมี 2 เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบนี้ได้แก่ อเมริกา และ SEA
เงื่อนไขของระบบ ABP
   1. ค่าประสบการณ์ปกติคือ 70% ของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ระบบ FTG (มอนสเตอร์ตัวเดียวกัน เซิร์ฟเวอร์ระบบ FTG ให้ EXP 100 เซิร์ฟเวอร์ APB จะให้ EXP แค่ 70)
   2. เมื่อใช้ค่า ABP จนหมดแล้วผู้เล่นก็ยังสามารถลงดันเจี้ยนได้ตามปกติ แต่ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะลดลงเหลือเพียง 40% เท่านั้น
ข้อดีของระบบ ABP
   1. ให้อิสระในการเก็บเลเวลเพราะลงดันเจี้ยนได้ไม่จำกัด
   2. เก็บเลเวล ไอเทม และเงินได้ง่าย
ข้อเสียของระบบ ABP
   1. ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่
   2. ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลจากการลงดันเจี้ยนได้ไม่จำกัด ทำให้มีการฟาร์มของฟาร์มเงินได้อย่างอิสระ

ระบบ Hybrid (FTG+ABP)
     ระบบใหม่ล่าสุดที่จะเริ่มใช้กับเซิร์ฟเวอร์ไทยเป็นที่แรกในโลก
เงื่อนไขของระบบ Hybrid
   1. เมื่อเลเวลยังไม่ตันจะใช้เงื่อนไขของระบบ ABP คือลงดันเจี้ยนได้ไม่จำกัด แต่ค่า EXP และ Drop Rate จะได้รับเต็มๆ เหมือนระบบ FTG (ไม่มีการหัก % แบบ ABP) และการลงดันเจี้ยนแต่ละครั้งจากเดิมระบบ ABP ที่จะหัก Point ทีละ 20-150 Point ก็จะปรับเหลือแค่ 3 Point เท่านั้น
   2. พอเลเวลตันจะปรับไปใช้เงื่อนไขของระบบ FTG ใช้แต้มลงดันเจี้ยนตามความเป็นจริง ซึ่งเมื่อแต้มหมดก็จะลงดันเจี้ยนไม่ได้
 
     ส่วนข้อดีข้อเสียจะเป็นอย่างไรเราจะได้เห็นกันเมื่อเกมเปิดให้บริการล่ะนะครับ หรือถ้าใครมีความคิดเห็นว่าระบบใหม่นี้น่าจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างก็ฝากคอมเมนต์กันไว้ได้เลยนะ ถือเป็นการช่วยกันถกไปในตัว ส่วนตอนต่อไปผมจะมีอะไรมาให้อ่านกันต่อก็ต้องติดตามกันให้ดีนะ เพราะบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้ สวัสดีครับ

คำที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับข่าว OS

คุณอาจสนใจเรื่องนี้