หากพูดถึงเดคที่เล่นง่ายที่สุด หรือเดคที่เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่ ผู้เล่นหลายๆ ท่านอาจนึกถึงเดคสีแดง (Mono Red) เป็นอันดับแรก (การ์ดที่มี Mountain เป็นค่าร่าย) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อสุดเท่ว่า "Red Deck Wins" แต่หากย้อนไปสัก 6-7 ปี สมัยผมเริ่มเล่น เดคสีแดงจะถูกขนานนามว่า "Red Burn" เพราะอาศัยการใช้ Spell โจมตีคู่ต่อสู้เป็นหลัก (ยิงเข้าตัวอย่างเดียว) จนบางคนถึงกับขยาดเดคสีแดงไปเลยก็มี แบบว่าไม่อยากเล่นด้วย กลัวหัวไหม้ lol และเรียกพวกเล่นเดคสีแดงว่าเป็น "Stupid Red Burn" คือไม่มีอะไรเลยนอกจากยิงกบาลแยกอย่างเดียว สิ้นคิดสุดๆ
แต่จริงๆ แล้วผมว่าเดคสีแดงนั้นเป็นเดคที่เล่นให้มีความแน่นอนยาก เพราะเป็นเดคที่หมดมือเร็วมาก (ร่าย Spell จนการ์ดไม่มีเหลือในมือ) และหากไม่สามารถทำความเสียหายได้มากพอ ก็อาจหมดทางชนะ หรือถ้าฝ่ายตรงข้ามมี Creature ตัวใหญ่เท่าบ้าน (พลังเยอะ) ก็พูดว่า "สิ้นหวัง" ได้เลย โอกาสพลิกเกมยากสุดๆ แถมพวก Sideboard หรือใบแก้ทางของเดคแดงนั้นก็มีเยอะมากจนน่ากลัว การเล่นเดคสีแดงให้มีประสิทธิภาพนั้นจึงต้องค่อนข้างใช้ฝีมือ เพราะพลาดแล้วจะไม่มีโอกาสแก้ตัว เป็นเดคที่มีการเล่นซับซ้อนกว่าที่คิด ผมขอแยกปัจจัยต่างๆ ในการเล่นเดคสีแดง เป็น 3 ข้อสั้นๆ ดังต่อไปนี้ครับ
1. Beginning Hand : ตอนเริ่มต้น 7 ใบแรกนั้นสำคัญมาก ควรจะคำนวณสเต็บเทิร์นต่อเทิร์นให้ดี ว่าสามารถเอาคู่ต่อสู้ลงได้หรือเปล่า หรือทำความเสียหายได้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามือไม่สวยแนะนำว่ายอม Mulligan ลุ้นใหม่อีกรอบดีกว่า เพราะถ้าเราไม่สามารถปิดเกมได้หรือทำความเสียหายได้มากพอ โอกาสชนะนั้นก็จะริบหรี่ลงไปด้วย เนื่องจากจะขาดความต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้อีกฝั่งได้คุมเกม ซึ่งนั้นหมายถึงเราแพ้ไปแล้วเกินครึ่งตัว หากเราสามารถปิดเกมได้ภายในการเล่น 4-5 เทิร์นจะเป็นการดีมาก หรือทำให้อีกฝั่งมีพลังไม่ถึง 5 เพื่อรอจั่วใบยิงมาปิดเกม ยิงโป้งเข้าตัว!
2. นับเลขให้ชัวร์ : พลังของคู่ต่อสู้หรือ Life Point นั้นสำคัญมาก เราต้องกะให้แน่นอน ว่าแต่ละเทิร์นนั้นสามารถสร้างความเสียหายได้เท่าไหร่ และจะจบเกมได้เมื่อไหร่ ไม่ควรร่าย Spell ตามมีตามเกิด ต้องกะ Mana และการ์ดในมือให้พอดี เพราะฉะนั้นจังหวะการเล่นควรรีบลง Creature ไปกดดัน และโจมตีตอดพลังคู่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ คอยยิงตัวที่จะมาป้องกัน จากนั้นกะพลังของคู่ต่อสู้ให้ดี และดูการ์ดที่เราถืออยู่ว่าสามารถปิดเกมได้หรือไม่ ให้รอจังหวะที่ดีที่สุดแล้วทำ Damage ชุดใหญ่รวดเดียว (เอาแบบให้หงายตกเก้าอี้ไปเลย)
3. ใจต้องนิ่ง : ห้ามไปหวาดหวั่นกับการเล่นของฝ่ายตรงข้าม เช่น การลง Creature ตัวใหญ่ๆ หรือจำนวนมากๆ การยิงแลกหรือใช้ใบฆ่าแบบแหลกราญ โดยเฉพาะเวลาเจอเดคสีฟ้าที่ฝั่งตรงข้ามดัก Counter Spell หากเรากลัวและปล่อยให้เกมยืดยาว โอกาสชนะของเราจะน้อยลงเรื่อยๆ เวลาเจอเดคสีฟ้าเราจึงไม่ควรรีรอที่จะร่าย Spell หรือลง Creature เพื่อกดดัน (แต่ไม่ควรปล่อยหมดนะครับ เพราะอาจโดนใบล้างกระดานได้ เช่น Day of Judgement) ให้หนักแน่นเข้าไว้และเล่นไปตามสไตล์ของเรา ผมเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามหรือใครก็ตามที่ต้องโคจรมาเจอ Red Deck Wins นั้นน่าจะมีอาการเกร็งไม่มากก็น้อย เนื่องจากถ้าเกิดเล่นพลาดเพียงจังหวะเดียว ก็อาจรอเก็บเดคกลับบ้านเก่าได้เลย เพราะ Red Deck Wins นั้นมันซิ่งมาก!
หากย้อนไปยังคำถามข้างต้น ว่า "เดคสีแดงนั้นเหมาะกับผู้เล่นมือใหม่ไหม?" ผมก็ขอตอบว่าเหมาะครับ เพราะเดคสีแดง การ์ดมักจะมีราคาถูก (ผมว่าถูกสุดในบรรดาสีต่างๆ ของ MTG แล้วแหละ) การเริ่มจากเดคสีแดงจึงไม่ใช้ต้นทุนมาก เข้าทางคนที่อยากได้เดคราคาถูกและมีประสิทธิภาพ และขอแนะนำนิดว่าตอนจัดเดคสีแดงหรือ Red Deck Wins เราควรจะคำนวณเรื่องของ Mana Curve ให้ดี เดคนี้เป็นเดคเร็ว จึงไม่ควรมีการ์ดที่ใช่ค่าร่ายเกิน 4 (แนะนำว่าการ์ดแต่ละใบใช้ค่าร่าย 1-3 กำลังแหล่ม และใช้ Land 20-23 ใบกำลังดี) เมื่อทำเสร็จแล้วก็ลองฝึกเล่นดูครับ หรือลองดูจาก Clip นี้เป็นตัวอย่างก็ได้
ก่อนจากกันผมขอแนะนำ Red Deck Wins โดย Dennis Dowty ดีกรีอันดับ 1 จากการแข่งขัน 2011 StarCity Open Standard - St. Louis โดยเดคนี้สามารถพิชิตเดค Haunted Humans ได้ในรอบชิงชนะเลิศ และที่น่าตกใจก็คือในการแข่งขันครั้งนี้ ไม่มีเดค Wolf Run Ramp กับ Solar Flare ติด Top 8 เลย เดคอื่นๆ ที่เข้ารอบ Top 8 ของงานนี้ก็มีพวก UW Delver กับ Grixis Control แต่ก็โดนเจ้า Red Deck Wins ตบหมด!
Red Deck Win, MAIN DECK
Creatures [20]
4 Chandra's Phoenix
4 Goblin Fireslinger
3 Grim Lavamancer
1 Spikeshot Elder
4 Stormblood Berserker
4 Stromkirk Noble
Spells [19]
2 Arc Trail
3 Galvanic Blast
4 Gut Shot
2 Incinerate
4 Shrine of Burning Rage
4 Volt Charge
Lands [21]
18 Mountain
3 Rootbound Crag
SIDEBOARD [15]
2 Ancient Grudge
1 Arc Trail
4 Dismember
2 Hero of Oxid Ridge
2 Traitorous Blood
4 Vulshok Refugee