จับฉ่ายวาไรตี้ ตอน : 10 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Super Mario Bros.

แชร์เรื่องนี้:
จับฉ่ายวาไรตี้ ตอน : 10 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Super Mario Bros.
พูดชื่อมาริโอ ไม่มีเมาต่อท้าย  เพื่อนๆ ทุกคนก็มีอันต้องร้องอ๋อเป็นเสียงเดียวกัน  พร้อมภาพอันเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของช่างประปาลุงหนวดชอบกินเห็ดเตะเต่า ของเกมอมตะที่อยู่ยั้งยืนยงจนเพิ่งฉลองครบรอบ  25 ปีไปเมื่อไม่นานมานี้  แม้จะเป็นเกมอมตะขวัญใจคอเกมแบบนี้แล้ว  เชื่อไหมครับ ว่ายังมีเรื่องอีกสารพันมากมีเกี่ยวกับมาริโอ ที่คุณๆ อาจมองข้าม มิเคยรู้มาก่อน จนอาจอดที่จะทึ่งไม่ได้เมื่อแรกรับรู้ ว่ามีอะไรแบบนี้ด้วยนะ   ดังนั้นเนื้อหาในคราวนี้ขอฉลองร่วม 25 ปีของมาริโอกันไปเลย กับ 10 อันดับเรื่องที่คุณอาจไม่คุ้นไม่รู้มาก่อนของมาริโอ กันครับ~
 
อันดับ 10 : สถิติ และ อันดับ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาริโอ
สถิติมีไว้ให้ทำลายและบันทึกทับ อันดับมีไว้เพื่อช่วงชิงและรักษา เฉกเช่นเดียวกับมาริโอ ที่เป็นเกมที่มีสถิติบันทึกไว้มากมี   ทั้งจากสถิติกินเนสบุ๊คในฐานะเกมที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล กับยอดรวมทั่วโลกทั้งหมด 240 ล้าน ชุด   โดยแค่ภาคแรกก็ทำยอดไปได้ถึง 41 ล้านชุดแล้ว  ยังมีเกมรวมกว่า 200 เกม ที่มีมาริโอปรากฏกาย  และทำให้มาริโอเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีคนรู้จักมากที่สุด โดยจากผลสำรวจได้เผยว่า เด็กๆ ชาวอเมริกันรู้จักมาริโอกันมากกว่ามิคกี้ เมาส์ เสียอีกนะ !!!
 
อันดับ 9 : มี World ติดลบด้วย มันคือโลกใต้บาดาลสุดพิลั่น !!!
นอกจาก World ที่เริ่มจาก 1-1 และไปจบที่ World 8 ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ยังมีโลกติดลบ World -1 ปรากฏในมาริโอภาคแรกด้วย โดยเป็นบัคที่กระทำได้ในตอนจะจบ World 1-2 ด้วยการกระโดดให้จอเคลื่อนบีบมาริโอไปจนหลุดเข้าไปในโลก -1  ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือฉากต่อ  คือ World 1-3  หากแต่กลับกลายเป็นโลกใต้น้ำที่แหวกว่ายได้อย่างอิสระ  มี Sprite บางจุดที่มั่วเละ พร้อมกับการปรากฏผิดที่ผิดทางของศัตรูและตัวฉาก และหากเล่นต่อจนจบปราสาท สิ่งที่รออยู่คือการค้างของเกมที่ไม่สามารถไปต่อได้ บ่งบอกให้รู้ว่ามันไม่ใช่ฉากลับ หากแต่เกิดจากบัคเค้านะจ้ะ
 
อันดับ 8 : แรงบันดาลใจรอบกาย ถ่ายทอดออกเป็นเกม
โลกมหัศจรรย์ที่เปี่ยมสีสันหาใครเหมือน เปี่ยมสัตว์แปลกตา ย่อขยายตัวได้จากเห็ดที่กิน หลายคนรู้ว่าเป็นมาริโอ แต่หลายคนอาจคิดถึง Alice in Wonderland ที่ดูแล้วน่าเป็นแหล่งแรงบันดาลใจที่ดีของมาริโอ หากแต่ทางคุณ ชิเงรุ มิยาโมโตะ บิดาแห่งมาริโอ กลับกล่าวปฏิเสธ พร้อมยันว่าเห็ดมหัศจรรย์กินแล้วตัวโต มาจากความคิดตามเทพนิยายตำนานมากกว่าเอามาจาก Alice แต่หลายอย่างที่ปรากฏในเกม ก็มีแรงบันดาลใจจากชีวิตของเค้าจริงๆ เช่นเจ้าสุนัข วันวัน ใน Mario 3 ก็มาจากวัยเด็ก ที่เจอหมาดุร้ายน่ากลัว กระโจนหาหมายทำร้าย หากแต่ถูกดึงกลับติดจากโซ่ที่ล่าม และได้ถ่ายถอดความรู้สึกนั้นออกมาในเกม 
 
อันดับ 7 : ไฟของคุปปะ พ่นยิงแบบกลับด้าน !!!
คุปปะพ่นไฟได้ และเราก็เห็นจนชินตาตั้งแต่ภาคแรกเริ่ม 8 Bit ยันปัจจุบัน หากแต่ไฟแบบ Pixel 8 Bit กลับพิเศษตรงที่ มันกลับด้าน !!! แทนที่จะพุ่งไปหัวอยู่หน้า หางอยู่ปลาย แต่กลับด้านราวส่องกระจกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหากไม่แลดูสังเกตกันดีๆ ก็คงมองไม่ออกเหมือนกันนะนั่น แต่ไม่ว่าไฟจะกลับด้านหรือยังไง มันก็ถูกพ่นปล่อย และพุ่งออกไปได้ตามความคาดหวังอย่างที่มันเป็นละกัน
 

อันดับ 6 : เสียงพูดร้องของมาริโอ ให้เสียงภาษาอังกฤษ โดยนักแสดงมะกัน

มาริโอเป็นใบ้มาแต่ช้านานอย่างที่ข้อจำกัดของเกมเป็น จวบจนภาคหลังๆ ตัวเกมก้าวหน้าจนถึงขั้นใส่เสียงตัวละครลงไปได้ ทำให้เราได้ยินเสียงมาริโอพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำตัวเองจากประโยค “It’s me, Mario” ยันเสียงอุทานอย่าง “Mamamia” ทั้งหมดล้วนเป็นการให้เสียงโดยนักแสดงชาวมะกันนาม  Charles Martinet ซึ่งไม่เพียงแต่มาริโอเท่านั้น เขายังให้เสียงรวมถึง ลุยจี้ วาริโอ และตัวละครในวงศาคณาญาติเดียวกันด้วย จากนี้ไปหากได้ฟังเสียงมาริโอ แล้วอยากรู้ว่าหน้าตาคนพากย์เป็นเยี่ยงไร ก็ดูภาพหน้านาย Charles คนนี้ได้เลย 
 
อันดับ 5 : มาริโอมีหมวกเพราะวาดง่าย มีหนวดเพราะเห็นชัด !
 
อิมเมจ ช่างประปาลุงหนวด ใส่หมวก คาด เอี๊ยม เป็นแบรนด์ประจำตัวของมาริโอที่รู้จักและติดตาเรากันมา แต่เมื่อกล่าวถึงดีไซน์ต้นกำเนิด มันกลับอาจเป็นเรื่องน่าขันจากข้อจำกัดไป เมื่อเหตุผลจริงๆ ที่มาริโอสวมหมวกคือ มันวาดง่ายกว่า ทำง่ายกว่าให้เห็นเป็นเส้นผม เหตุผลที่มีหนวด คือ มันดูเด่นชัดกว่าปาก และเหตุผลใส่เสื้อยีนส์สวมเอี๊ยม คือ มันแสดงออกท่าทางการเคลื่อนไหวได้ชัดเจนกว่า  แต่แม้จะเกิดจากข้อจำกัดการวาดการแสดงผล  แต่เราก็ชินตาและรักอิมเมจของมาริโอ ที่เป็นแบบนี้กันแล้วละครับ 
 
 
อันดับ 4 : มาช่วย แล้วชูนิ้วกลางให้ เฮ้ย อะไรฟระ !
 
จำคิโนพิโอกันได้ไหมครับ คิโนพิโอคือประชากรหัวเห็ด อันเป็นพลเมืองหลักของนครคิโนโกะ คิโนพิโอรับแสดงรับเล่นหลายบทหลากบาท แต่ในภาคแรกๆ ทำหน้าที่คอยบอกหลังจบฉาก -4 ของแต่ละ World ด้วยประโยคคุ้นเคยแบบจับ copy paste ว่า “ขอบคุณมากที่มาช่วย  แต่เสียใจด้วยว่าเจ้าหญิงของเราอยู่ในปราสาทหลังอื่น”  นั่นไม่อะไร หากแต่ลองซูมไปดู Sprite แบบ Dot Pixel ดีๆ มีเซอร์ไพรส์ เพราะ เฮ้ยย!!! มันชูนิ้วกลางใส่ให้เราทั้ง 2 มืออยู่ แบบเห็นจะๆ ชัดๆ กันเลย ก็ไม่รู้ว่าเป็นมุกตลกร้าย จงใจ หรือ บังเอิญ แต่เห็นแบบนี้แล้ว น่าจับแทะหัว ไม่น่าช่วยออกมาเลยจริงๆ 
 
อันดับ 3 : ไม่ใช่ “โหม่ง” แต่เป็นกำปั้นเสย
 
คำว่า “โหม่งบล็อค” คงเป็นอะไรที่คุ้นเคยในโลกของมาริโอ แต่สิ่งที่เราเข้าใจเชื่อมาแต่ช้านานนั้นผิดเสียถนัด เพราะไม่ใช่การโดดโหม่ง แต่เป็นการกระโดดเอากำปั้นชูขึ้นเสย  เวลากระโดดชนบล็อกก็ดี กระโดดทำลายบล็อคก็ดี ไม่ใช่หัวของมาริโอที่ชน หากแต่เป็นกำปั้นที่เสยขึ้นไปทำลายต่างหาก ดังนั้นเราเข้าใจผิดกันมานานเลยว่ามาริโอกินเห็ดแล้วหัวแข็งโหม่งบล็อคพัง แต่จริงๆ มันเป็นกำปั้นนะเออ !
 
อันดับ 2 : เมฆสูง พงหญ้าต่ำ ภาพเดียวกันเลยนี่นา !!!
ภาพ Sprite เมฆขาวบนฟ้า พงหญ้าเขียวบนพื้น เป็นอะไรที่คุ้นตากันดีในมาริโอ แต่แม้จะอยู่ต่างตำแหน่ง แต่หากพินิจดูดีๆ แล้ว จะพบความจริงอันไม่น่าเชื่อเลยว่า ทั้งเมฆและหญ้า มีภาพ Sprite เดียวกัน  เป็นภาพที่ทำขึ้นมาทีเดียว แล้วโผล่แค่ส่วนปลายยอดใส่สีเขียวอ่อนทำเป็นพงหญ้า และโผล่พ้นหมดในสีขาวอยู่กลางฟ้าทำเป็นเมฆ  ซึ่งเหตุผลที่รีไซเคิล ใช้อันเดียวทำหลายแบบนี้ ก็อาจมาจากเหตุผลเรื่องความจุ และการประยุกต์ใช้ก็ว่าได้นะ
 
อันดับ 1 : จาก Jumpman สู่ Mario ต้นกำเนิดชื่อจริงมาจากเจ้าของที่ !
 
เชื่อหรือไม่ ชื่อมาริโอที่เราคุ้นหูกันนี้ แท้จริงแล้วไม่ได้มีชื่อตามนี้มาแต่แรก  ชื่อแรกเริ่มจริงๆ ที่คุณ มิยาโมโตะ ชิเงรุ ได้คิดเอาไว้ คือ “Jumpman” แถมแรกเริ่มเดิมที มาริโอก็เป็นช่างไม้เสียด้วยซ้ำ   แต่เมื่อจะนำมาใช้จริง  ทาง Nintendo ต้องการชื่อที่ฟังดูเข้ามากกว่านี้ ประจวบในเวลานั้นเองทาง Nintendo อเมริกา ต้องไปพัวพันกับปัญหาค้างค่าเช่าที่กับเจ้าของที่นาม Mario Segale อยู่พอดี  จึงจับพลัดจับพลู เอาชื่อ Mario ของนายนี้มาตั้งเป็นชื่อตัวเอก แถมเปลี่ยนอาชีพเป็นช่างประปากันซะอย่างงั้น แต่ถามเจ้าตัวรู้สึกยังไง เจ้าตัวกลับเผยว่าไม่ได้ปลื้มเสียเท่าไหร่นัก แม้ชื่อของเขาจะกลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่ประสบความสำเร็จที่สุดตัวหนึ่งก็ตาม 
แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ