รีวิว BloodRayne: Betrayal การกลับมาของแม่สาวแวมไพร์ในรูปแบบ 2D side-scrolling action สไตล์ Castlevania

แชร์เรื่องนี้:
รีวิว BloodRayne: Betrayal การกลับมาของแม่สาวแวมไพร์ในรูปแบบ 2D side-scrolling action สไตล์ Castlevania

     สวัสดีจ้า วันนี้ PuruZ ก็มีเกมมาให้เพื่อนๆ ชาว Console ได้ชมกันอีกเกมนะนะครับ นั่นก็คือ BloodRayne: Betrayal เกม 2D Side-Scrolling Action จาก Majesco ที่มาในรูปแบบ DLC บน PlayStation Network และ Xbox Live ครับผม ซึ่งเจ้าเกมนี้ได้คะแนนรีวิว จาก IGN ถึง 9/10 และ Joystiq ถึง 4.5/5 คะแนนครับผม จะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันเลย

     ก่อนอื่นก็ต้องขอท้าวความประวัติเกี่ยวกับซีรี่ย์นี้กันก่อนเลย BloodRayne นั้นเป็นเกม 3rd Person Action จากค่าย Majesco ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2002 ครับ มีด้วยกันถึง 2 ภาคด้วยกัน ได้แก่ BloodRayne, และ BloodRayne 2 ตัวเกมนั้นถูกทำลงใน Platform ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น PlayStation 2, Xbox, Nintendo GameCube, Mac OS และ  Microsoft Windows ครับ แต่ตัวเกมทำออกมาไม่ได้ดีเลิศเลอมากเท่าไหร่ หลายคนจึงอาจจะไม่ค่อยรู้จักกัน นอกจากนั้นยังเคยสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย
     แต่ BloodRayne: Betrayal กลับมาในรูปแบบ 2D Side-Scrolling Action ที่สื่อนอกตีว่ามีความคล้ายคลึงกับ Castlevania ครับ ซึ่งถือว่ามาค่อนข้างแปลกเลยทีเดียว เนื่องจากเปลี่ยนทีมพัฒนาจาก Terminal Reality มาเป็น WayForward Technologies ก่อนหน้าเกมวางจำหน่ายนั้นในงาน E3 2011 ที่ผ่านมาก็ได้มีกระแสตอบรับดีพอสมควรในด้านของ Gameplay ที่น่าสนใจและ BGM ที่ทำออกมาได้ดีครับ

Gameplay Trailer

     ในด้านของ Game Play นั้นไม่ซับซ้อนอะไรมากตามสไตล์เกม 2D Side-Scrolling Action ลุยไปเรื่อยๆ เพื่อผ่านด่านครับโดยตัวนั้นจะมีด่านให้เล่นกันจำนวน 15 ด่านครับ
     ทางด้านของ Action ตัวละครนั้น ก็ทำออกมาได้หลากหลายเลยทีเดียว ตัวละครเอกหรือ Rayne นั้นจะมาพร้อมกับอาวุธสองอย่างได้แก่ ดาบและปืนสั้น ซึ่งอาวุธดาบนั้นก็ไม่ใช่แค่ว่ามีท่าฟันอยู่ 2-3 ท่าเท่านั้น แต่มีท่าโจมตีต่างๆ อยู่มากมาย ซึ่งผู้เล่นสามารถผสมผสานท่าต่างๆ เป็น Combo ได้ โดยที่การบังคับก็ไม่ซับซ้อนมาก ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินไม่น่าเบื่อ แต่การโจมตีนั้นจะมีอาการหน่วงๆ อยู่บ้าง  ส่วนการเคลื่อนไหวของบางส่วนนั้นรู้สึกว่าจะใกล้เคียงกับซีรี่ย์ Rockman X เลย เนื่องจากมี Dash และกระโดดชิ่งกำแพง
     ด้านระบบต่างๆ ภายในเกม ตัว Rayne นั้นสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองได้โดยการจับศัตรูมาดูดเลือดเพื่อที่จะเพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวเอง รวมถึงมีระบบอัพเกรดความสามารถ เมื่อผู้เล่นเก็บสะสมหัวกะโหลกภายในฉากได้ในระดับหนึ่งก็จะสามารถเลือกอัพเกรดได้ว่าจะเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดหรือเพิ่มจำนวนกระสุนปืน นอกจากนั้นยังมีระบบ Online Leaderboards เมื่อผู้เล่น เล่นจบในแต่ละฉากแล้ว สามารถส่งคะแนนไปแข่งขันกันได้ในระบบนี้ การเก็บคะแนนให้ได้สูงๆ นั้นก็จะมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น จบฉากให้เร็วที่สุด, ไม่โดนโจมตี และ เก็บ Treasure ภายในฉากให้ครบ
     ในส่วนของด่าน แรกๆ อาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังๆ ก็จะมีอะไรที่ซับซ้อนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นกับดักต่างๆ รวมถึงทางเส้นทางหลอกที่เมื่อผู้เล่นพลาดไปในเส้นทางนั้นแล้วจะไม่สามารถไปต่อหรือย้อนกลับมาทางเดิมได้ (ผู้เขียนโดนดักควายมาแล้ว T T) ส่วนศัตรูภายในฉากนั้นก็ถือว่าสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้เล่นไม่ใช่น้อย โดยรวมแล้วถือว่าเป็นเกมที่มีความยากใช้ได้เลยทีเดียว แต่เสียอย่างตรงที่ว่าศัตรูภายในฉากนั้นมีไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่  ประมาณ 9 - 10 รูปแบบเท่านั้น
     ด้าน Graphic และ Artwork นั้นจะเป็นรูปแบบ 2D สไตล์ออกแนวการ์ตูนหน่อยๆ โดยมี Theme ออกแนวยุโรปช่วงยุคกลาง ซึ่งมีความคล้ายเคียงกับ Castlevania เลยทีเดียว สำหรับผู้ที่ชอบ Theme แบบนี้ก็น่าจะถูกใจกัน

     ทางด้านของ Sound และ BGM นั้น ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ถึงเสียง Effect ต่างๆ จะไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ แต่ BGM นั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว  ตัวเพลงนั้นจะเป็นแนว Metal กึ่งๆ Neo Classic หน่อยๆ คล้ายกับ Castlevania แต่ดนตรีจะหนักกว่า

สรุป


     BloodRayne: Betrayal ถือว่าเป็นเกม 2D side-scrolling action แนว Hack'n Slash ที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว ระบบตัวเกมเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนและสนุก, Art Work สื่อบรรยากาศได้ดี  รวมถึง BGM ที่ทำออกมาได้ดี เรียกว่าลบภาพของ BloodRayne ภาคแรกๆ ออกไปอย่างสิ้นเชิงเหมือนเกมใหม่เลย มีจุดให้ติก็เรื่องประเภทของศัตรูมีน้อยและ BGM ซํ้าซากไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคในระดับเกม DLC ราคา 14.99 เหรียญสหรัฐ  งานนี้ให้ 8/10 ครับ ใครที่ชอบเกมสไตล์นี้ก็ลองหากันมาเล่นดูนะครับ

ขอบคุณภาพประักอบรีวิวจาก http://www.ign.com

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ