Online Station

Preview : Dota 2 Heroes ตอนที่ 8

แชร์เรื่องนี้:
Preview : Dota 2 Heroes ตอนที่ 8
     สวัสดีครับ มาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว กับการ Preview Hero ใน Dota 2 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า ทีมผู้พัฒนานั้นยกเลิกแผนการพัฒนาเดิม แล้วปรับแผนการพัฒนาใหม่เพื่อจะปล่อยตัวเกมช่วงทดสอบออกมาให้เร็วที่สุด รวมถึงเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนขอรับ Key สำหรับสมัครในช่วงทดสอบกันแล้ว
     สำหรับตัวเกมในช่วงทดสอบนั้น ทางผู้พัฒนาก็ได้เผยแล้วว่า จะเป็นตัวที่ใช้ในการแข่งขัน The International Dota 2 Championships นั่นเองครับ ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ ซึ่ง Hero ที่เรานำมา Preview จนถึงตอนสุดท้ายนี้ ก็เป็น Hero ทั้ง 41 ตัวที่อยู่ในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้พอดี เรายังเหลือ Hero สาย Agility อีก 6 ตัวในตอนจบนี้ ไปดูกันเลยครับ
 
Anti-Mage
Str: 20 + 1.20
Agi: 22 + 2.80
Int: 15 + 1.80
     Hero ที่ว่องไวยากที่จะจับได้อีกตัวหนึ่ง ที่มาในภาค 2 นี้หน้าตาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปนัก แต่ที่เปลี่ยนแน่ๆ คือทรงผม จากหัวจุกเป็นโมฮอว์ก ด้วยลูกเล่นจากสกิล Blink ที่สามารถพลิกแพลงใช้ได้ทั้งรุกและรับ แล้วไหนจะสามารถ Burn Mana ของ Hero ฝ่ายตรงข้าม และยังทนทานต่อการโจมตีด้วยเวทมนต์ได้อีกทำให้ Anti-Mage ได้รับความนิยมไม่น้อย ถือเป็นของแสลงสำหรับ Hero สาย Intelligence อย่างแท้จริง
     Mana Break : ทุกครั้งที่โจมตีจะทำการ Burn Mana ด้วยตลอด และตัว Anti Mage เองนั้นก็ถือว่าเป็นฮีโร่ที่มีค่า Agi สูง ดังนั้น ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ ตัว Anti Mage ก็จะยิ่งโจมตีไวขึ้นมากเท่านั้นทำให้ Burn Mana ได้มาขึ้นด้วย
     Blink : สกิลเคลื่อนที่ในพริบตาที่เราสามารถพลิกแพลงใช้ได้ทั้งรุกและรับ หรือจะเอาไว้ไล่ฆ่า Hero ฝั่งตรงข้ามในขณะที่กำลังหนีก็ได้ หรือหากเรากำลังคลุกวงในแล้วคิดว่าไม่รอดแน่ๆ ก็ยังสามารถใช้หนีได้อีกเช่นกัน
     Spell Shield : สกิลที่จะช่วยให้เราสามารถต่อสู้กับฮีโร่สาย Nuker ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะดาเมจของสกิลที่ลดลงมากสามารถทำให้เราเอาตัวรอดจากสถานการณ์โดน Nuker โดนรุมกินโต๊ะได้ และยังช่วยให้เราสามารถเข้าไปคลุกวงในได้นานมากขึ้นอีกด้วย
     Mana Void : สร้างความเสียหายตาม Mana ที่สูญเสียไป จึงนับว่าเป็นอีกสกิลนึง ที่สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างมาก ยิ่ง Anti Mage ทำการโจมตีเป้าหมายและ Burn Mana ไปมากเท่าไหร่ ก็จะสร้างความเสียหายให้แรงขึ้นเมื่อใช้ Mana Void มากตามเท่านั้น
 
Razor
Str: 21 + 1.70
Agi: 22 + 2.00
Int: 19 + 1.80
     Hero สายฟ้าตัวมืดๆ ที่ในภาค 2 นี้ยิ่งดูเหมือนเสาไฟฟ้าเข้าไปอีก หลังจากที่ได้มีการปรับเปลี่ยนสกิลใหม่ยกแผงในภาคแรกก็ทำให้ Razor กลายเป็น Hero ยอดนิยมสำหรับผู้เล่นหลาย ๆ คนมากขึ้น สกิล Static Link และ Ultimate Eye of the Storm ทำให้การบวก 1-1 กับฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ยากเลย เพราะ Static Link สามารถดูดดาเมจจากฝ่ายตรงข้ามได้ และ Eye of the Storm นั้นยังลดค่าพลังป้องกันลงเรื่อยๆ ทุกครั้งที่โดนอีกด้วย
     Plasma Field : ทำการปล่อยสายฟ้ารอบตัว โดยจะกระจายออกจากตัวและเข้าหาตัวอีกครั้ง สายฟ้าจะทำ Damage แรงขึ้นตามเลเวลของสกิล
     Static Link : ทำการยิงประจุไฟฟ้าใส่ Hero เป้าหมาย และจะทำการสร้างบ่วงขึ้นมา ถ้าศัตรูอยู่ในบ่วงเรื่อยๆ จะถูกดูด Damage ไปให้ Razor เรื่อยๆ ถ้าวิ่งหนีออกจากบ่วง ถึงจะหยุดยั้งการดูดได้ แต่สกิลจะมีผลต่ออีกซักพักนึง
     Unstable Current : เพิ่ม Move Speed ตามเลเวลของสกิล และถ้ามีศัตรูใช้สกิลใส่ Razor จะทำ Damage ตามเลเวลของสกิล และ Purge เป้าหมาย
     Eye of the Storm : เรียกเมฆสายฟ้าอันบ้าคลั่งบนหัวของ Razor จะทำการโจมตีเป้าหมายรอบ ๆ ตัว โดยจะโจมตีเป้าหมายที่ HP น้อยที่สุดในบริเวณนั้นก่อน
 
Shadow Fiend
Str: 15 + 2.00
Agi: 18 + 2.00
Int: 20 + 2.40
     อีกหนึ่ง Hero ตัวแรงที่หลายๆ คนเลือกมาใช้กันบ่อยๆ มาในภาค 2 หน้าตาไม่ค่อยเปลี่ยนไปนัก มีความสามารถในการโจมตีและการ Debuff ฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ด้วยจุดเด่นของการลดค่าพลังป้องกันของสกิล Presence of the Dark Lord แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเลเวลสูงแค่ไหนโดนแบบนี้ก็ซีดได้เหมือนกัน ส่วนสกิลโจมตี Shadowraze เราสามารถกดใชได้ถึง 3 ระยะเลยอีกด้วย
     Shadowraze : เป็นสกิลที่มีประโยชน์มากตั้งแต่ช่วงแรกๆ ทั้งการหาเงิน และการกำจัดเป้าหมาย ด้วยความแรงแถมยังสามารถกำหนดระยะการใช้สกิลด้วยตนเองได้อีก
     Necromastery : เป็นสกิลที่ใช้สะสมวิญญาณของยูนิตที่ถูกเราฆ่า มาเพิ่มเป็นพลังโจมตี ซึ่งความสามารถในการเพิ่มแรงโจมตีนั้นมีประโยชน์อย่างมากตั้งแต่ช่วงแรกเลยครับ เพียงแต่ผู้เล่นจะต้องพยามยามยิง Last Shot ให้ได้มากที่สุด
     Presence of the Dark Lord : สกิลที่ใช้ลดเกราะของเป้าหมายโดยรอบ ซึ่งจะเห็นผลเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหากผู้เล่นเลือกใช้ไอเทมอย่าง Stygian Desolator ซึ่งมีความสามารถในการลดเกราะเป้าหมายลงเช่นกัน
     Requiem of Soul : เป็นการใช้สกิลโจมตีรอบตัว ซึ่งความแรงของสกิลจะขึ้นอยู่กับจำนวนดวงวิญญาณที่ผู้เล่นได้สะสมไว้จากสกิล Necromastery ยิ่งมีเยอะ ยิ่งโจมตีได้แรง
 
Faceless Void
Str: 23 + 1.60
Agi: 21 + 2.65
Int: 15 + 1.50
     จากภาคแรกที่ยังมีหน้า มาภาค 2 นี้ไร้หน้าจริงๆ แล้ว กับ Hero สาย Agility พันธ์ดุอีกตัวหนึ่ง จุดเด่นของ Hero ตัวนี้คงอยู่ที่ความสามารถของสกิล Time Lock ที่มีโอกาส Stun คู่ต่อสู้ และยังมีสกิล Time Walk ที่เทเลพอร์ตตัวเองไปยังจุดที่กำหนดได้ทั้งรุกไปข้างหน้าหรือถอยหนีเข้าที่ปลอดภัย
     Time Walk : สกิลกระโดดไกลของ Faceless Void มีประโยชน์อย่างมากในการไล่ฆ่าศัตรู ด้วยความสามารถในการทำให้เป้าหมายในบริเวณที่เรากระโดดเข้าไป เคลื่อนที่ช้าลงอย่างมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
     Backtrack : เป็นสกิลที่ใช้หลบการโจมตีทุกชนิด เมื่อได้รับการโจมตี Faceless Void จะมีโอกาสย้อนเวลาเสี้ยววินาทีกลับไปเพื่อหลบหลีกดาเมจนั้นได้ สามารถย้อนเวลาหลบได้ทั้งการโจมตีทางกายภาพและทางเวทมนตร์
     Time Lock : สกิลที่มีผลทำให้ Stun ชั่วขณะ และมี Bonus Damage จากการติดอาการ Stun ความสามารถจะคล้ายๆ กับสกิล Bash ของ Hero ตัวอื่นๆ
     Chronosphere : ฝาชีครอบเป้าหมายให้หยุดนิ่ง ไม่สามารถขยับหรือว่าทำอะไรได้ จะมีเพียง Void เท่านั้นที่เคลื่อนไหวภายในนั่นได้
 
Viper
Str: 17 + 1.90
Agi: 21 + 2.50
Int: 15 + 1.80
     จากมังกรดำๆ ในภาคแรก พี่แกคงได้ไปเป็นดารารับเชิญในเรื่อง AVATAR มา ทำให้ภาค 2 พี่แกกลับมาพร้อมสีสันแถมหน้าตาคล้ายเจ้ามังกรบินในหนังเป๊ะ Viper เป็นที่รู้จักกันดีของผู้เล่นที่นิยมเล่น Hero สายหรอย เพราะเมื่อเราหมายตาจะฆ่าใครสักคน Viper แทบจะไม่ทำให้เราผิดหวังในจุดนี้เลย ด้วยสกิลของมันใครที่โดนเข้าไปแล้วก้าวขาแทบไม่ออก แถมสกิลที่ใช้ง่ายอย่าง Poison Attack ที่โจมตีได้รุนแรง และทำให้เป้าหมายติด Slow จึงทำให้เราสามารถไล่ยิงได้เรื่อยๆ นั่นเอง และ Ultimate ที่สุดแสนจะเจ็บปวดอย่าง Viper Strike เมื่อใช้ร่วมกับ Poison Attack ใครโดนรับรองรอดยาก
     Nethertoxin : เพิ่มดาเมจแบบมหาโหดทำให้เราได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออีกฝ่ายเลือดเหลือน้อยลง ยิ่งใช้คู่กับสกิลที่ลดดาเมจแรงๆ แล้วละก็ แค่เลเวลแรกๆ เราก็สามารถที่จะจัดการฮีโร่ฝั่งตรงข้ามได้ด้วยการยิงแบบสบายๆ เลยทีเดียว
     Poison Attack : สกิลนอกจากจะทำให้เป้าหมายเคลื่อนที่และโจมตีช้าลงแล้ว ยังใช้ตอดฝ่ายตรงข้ามได้ดีตั้งแต่เลเวลแรกๆ ด้วยผลของพิษที่ลดเลือดได้เรื่อยๆ ย่อมทำให้ฝ่ายตรงข้ามพยามยามจะไม่เข้ามาประชิดตัว
     Corrosive Skin : สกิลนี้จะทำการสร้างเกราะพิษขึ้นมาเพื่อทำให้ศัตรูที่โจมตีเข้ามาติดพิษ มีผลให้เคลื่อนที่ช้าลงและลดเลือดไปในตัว แถมสกิลนี้ยังใช้เพิ่มความต้านทานเวทย์มนต์อีกด้วย
     Viper Strike : เป็นการโจมตีด้วยพิษที่ลดความเร็วและลดเลือดของเป้าหมายได้สูงมาก แถมมีค่า Cooldown ที่น้อยนิด ถือเป็นสกิล Ultimate ที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
 
Morphling
Str: 19 + 2.00
Agi: 19 + 3.00
Int: 17 + 1.50
     ฝรั่งยังกรี๊ด เมื่อในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ผ่านมา Morphling ของทีม MiTH Trust ทำเอาทีมอื่นๆ ถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว มาภาค 2 หน้าตาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลย Morphling ถือเป็น Hero ที่โดดเด่นอีกตัวหนึ่ง เนื่องจากทำ Damage ค่อนข้างแรงและยังสามารถปรับเปลี่ยนค่า Status ระหว่าง Strength และ Agility ได้ตามความพึงพอใจของผู้เล่น Hero ตัวนี้ฟาร์มเงินและออกของแรงๆได้อย่างรวดเร็ว จากการใช้สกิล Waveform ที่มีความรุนแรงและถือเป็นสกิล AOE ขนาดย่อมๆ และผลของสกิล Waveform นั้นเมื่อใช้แล้วตัวเราจะพุ่งตามไปยังจุดหมายปลายทางด้วย สกิลนี้จึงเป็นสกิลหลักที่ควรควรอัพให้เต็มเป็นอันดับแรกเพื่อเอาไว้พุ่งเข้าไปใส่เป้าหมายเพื่อทำ Damage หรือเก็บเอาไว้พุ่งหนีศัตรูยามคับขันได้อีกด้วย
     Waveform : เป็นสกิลที่แรงมากๆ ซึ่งถ้าเราเล็งตำแหน่งที่จะเวฟได้ดีๆ เราจะสามารถทำดาเมจได้สูงมากๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถใช้เวฟตามเป้าหมาย หรือ เวฟหนี ก็ยังได้ จึงนับได้ว่าเป็นอีกสกิลหนึ่งที่ควรจะอัพให้เต็มที่ตั้งแต่แรก
     Adaptive Strike : 1 สกิล 2 คุณสมบัติ ซึ่งแล้วแต่ว่าเราจะต้องการใช้คุณสมบัติไหน ไม่ว่าจะเป็นการ Stun และผลักเป้าออกไปหรือการยิงดาเมจใส่เป้าหมายแบบรุนแรง
     Morph : เปลี่ยนความสามารถของตัวละครเราให้เป็นได้ทั้งตัวแทงค์และตัวทำดาเมจโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนสกิล Adaptive Strike ให้ขึ้นกับ Status ได้
     Replicate : ด้วยความสามารถของร่างปลอมสุดโกงที่มีเพียงพลังโจมตีลดลงครึ่งนึง แต่ความอึดดันเทียบเท่าฮีโร่ตัวจริง จึงสามารถทำให้จังหวะปะทะกันนั้น เราใช้ร่างปลอมหลอกตาอีกฝ่ายได้สบายๆ ไม่ว่าจะใช้ปลอมเป็นฮีโร่ฝั่งเรา หรือจะเนียนเป็นฮีโร่ฝั่งตรงข้ามเพื่อหวังตีฟรีก็ตาม
 
     ก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยนะครับสำหรับการ Preview Hero ทั้ง 41 ตัว แยกย่อยได้ 8 ตอน เขียนกันข้ามเดือนทีเดียว ตอนนี้เชื่อว่าหลายๆ คนก็กำลังตั้งหน้าตั้งตารอ Dota 2 กันอยู่ ก็ขอให้ได้ Beta Key กันทุกคนนะครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ

 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

Online Station