สวัสดีครับ มาถึงตอนที่ 5 กันแล้วกับ Preview Hero ใน Dota 2 ซึ่งใน 4 ตอนแรกนั้นก็จะเป็น Hero สาย Intelligence ทั้งหมด และก็ได้จบลงไปแล้ว ต่อมาจะพาไปดู Hero สาย Strength กันบ้างนะครับ
Night Stalker
Str: 23 + 2.80
Agi: 18 + 2.25
Int: 16 + 1.60
นักล่าแห่งรัตติกาล ที่ภาค 2 หน้าตาเปลี่ยนไปมากจนเป็นค้างคาวเต็มตัวไปแล้ว เป็น Hero ที่โหดมากในช่วงต้นเกม โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่ฝ่ายตรงข้ามต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่โหดในช่วงต้นเกม จึงไม่ค่อยมีประโยชน์ในช่วงท้ายเกมเท่าไรนัก แต่ถ้าหากสามารถเก็บกวาด Hero ฝ่ายตรงข้ามในช่วงแรกๆ ได้อย่างต่อเนื่องละก็ จะทำเพื่อนที่อยู่ฝ่ายเดียวกันเล่นง่ายขึ้นเป็นกองเลยละครับ
Void - สกิลนี้มีประโยชน์ทั้งการสร้างความเสียหายให้กับศัตรู รวมไปถึงการทำให้เคลื่อนที่ช้าลงด้วย มีประโยชน์อย่างมากในการไล่ฆ่าศัตรูในช่วงแรก
Crippling Fear - เป็นสกิลที่ทำให้เป้าหมายใช้สกิลไม่ได้ แถมยังลดความแม่นยำในการโจมตีอีกด้วย ดังนั้น สกิลนี้จึงมีประโยชน์อย่างมากในการไล่เก็บฮีโร่สาย INT ในช่วงแรก
Hunter in the Night - เป็นสกิลที่ช่วยให้เคลื่อนไหวและโจมตีได้เร็วขึ้นในเวลากลางคืน
Darkness - ใช้เปลี่ยนช่วงเวลากลางวันให้เป็นกลางคืน เพื่อให้ผู้เล่นได้รับผลของสกิล Hunter in the Night รูปแบบการใช้สกิลนี้ทำได้หลายอย่างด้วยกัน ทั้งการเปลี่ยนกลางวันให้เป็นกลางคืนโดยฉับพลัน หรือยืดระยะเวลากลางคืนให้เพิ่มขึ้น
Slardar
Str: 21 + 2.80
Agi: 17 + 2.40
Int: 15 + 1.50
Hero สุดโหดอีกตัวที่ในภาค 2 นี้หน้าตาไม่ได้ต่างจากภาคแรกเลย มีสกิลวิ่งเร็ว ลดเกราะ แถมตี Stun แบบ Passive อีกต่างหาก Slardar จึงเป็นฮีโร่ไล่ฆ่าที่ดีมากๆ ยิ่งถ้าเจอพวกที่สามารถหายตัวได้หรือมีสกิล Windwalk ยิ่งไม่ต้องพูด โดนไฟเผาหัวเมื่อไหร่ หนีไม่พ้นแน่นอน
Sprint - เป็นสกิลที่ใช้เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่แบบชั่วขณะ มีประโยชน์ทั้งการหนีและไล่ล่าศัตรู มีประโยชน์สูงสุดในการใช้เป็นตัวเปิดเกม
Slithereen Crush - ใช้ในการทำให้เป้าหมายติดสถานะมึนงงได้เป็นกลุ่มเล็กๆ แถมด้วยอาการ Slow หลังจากที่ผลของ Stun หมดไปแล้ว
Bash - เป็นสกิลประเภท Passive ที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะความสามารถในการ Stun นั้นนานถึง 1 วินาที ต่อการติดผลของสกิล 1 ครั้ง และยังติดได้เรื่อยๆ อีกด้วย
Amplify Damage - การจุดไฟเผาหัวคู่ต่อสู้นั้น นอกจากจะเป็นการลดเกราะของเป้าหมายแล้ว ยังทำให้มองเห็นเป้าหมายในขณะที่ใช้สกิลประเภทหายตัวได้อีกด้วย
Doom Bringer
Str: 26 + 3.20
Agi: 11 + 0.90
Int: 13 + 2.10
คันหู ไม่รู้เป็นอะไร้~ เอ้ยไม่ใช่... ไม่รู้เป็นอะไรพอเห็น Doom Bringer ทีไร ผมนึกถึงเรื่อง "โบนกดดูม" ซะทุกทีไป มาภาค 2 หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะเลย แถมไม่พาโบนเพื่อนซี้มาด้วยซะอีก เมื่อเอ่ยชื่อนี้ฝ่ายตรงข้ามที่เป็น Hero ตัวนุ่มนิ่ม ต้องระวังให้ดีเลยล่ะ เพราะพลาดเผลอโดนสกิลทีเด็ด Doom ที่เป็น Ultimate ของเราเข้าไปนี่มีแววเดี้ยงเอาง่ายๆ
Devour - สำหรับการเล่นโหมด AP และต้องเจอกับฮีโร่ประเภท Nuker แล้ว อาจจะทำให้ Doom Bringer เก็บเงินได้ยาก สกิล Devour ก็จะเป็นตัวช่วยในการออกไอเทมได้เร็วขึ้น
Scorched Earth - เป็นการสร้างไฟในบริเวณที่กำหนด มีผลต่อตัวเองทั้งในการฟื้นฟูเลือด เพิ่มความเร็วในการเดิน และการโจมตี ส่วนผลของศัตรูที่จะเสีย HP เมื่อยืนอยู่ในบริเวณของสกิลอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ทำให้ยกเลิกการใช้ไอเทมฟื้นฟูพวกขวดน้ำ หรือยาเติมเลือดได้
LVL? Death - เป็นสกิลที่ใช้ฆ่าศัตรูได้ตั้งแต่เลเวล 5 โดยผู้เล่นจะต้องคำนวนช่วงเวลาการอัพสกิล และการใช้สกิลของฮีโร่ตัวนี้ให้ได้ ถ้าเลเวลของเป้าหมายสามารถหารตัวเลขของแต่ละสกิลได้ลงตัว จะเพิ่มโบนัสดาเมจขึ้นมา
Doom - สกิลท่าไม้ตายที่มีผลให้เป้าหมายไม่สามารถใช้สกิลใดๆ ได้ รวมถึงการลดค่า HP ที่สูงถึง 80 หน่วยต่อวินาที เป็นเวลา 16 วินาทีเลยทีเดียว
Sand King
Str: 18 + 2.60
Agi: 19 + 2.10
Int: 16 + 1.80
ราชาแมงป่อง ที่ภาค 2 ทำไมหน้าตากลายเป็นคล้าย Venomancer ในภาคแรกก็ไม่รู้ พบเจอได้บ่อยในหลายๆ ทัวร์นาเม้นต์ กับความสามารถในการ Stun ที่ไกลและเร็ว แถมมี Ultimate ที่รุนแรง ทำให้ Sand King เป็น Hero ยอดฮิตมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยล่ะครับ
Burrowstrike - สกิล Stun ที่ทำให้ตนเองพุ่งเข้าไปประชิดกับเป้าหมายได้ด้วย แถมถ้าเป้าหมายมากันเป็นกลุ่ม ตำแหน่งการยืนก่อนใช้สกิลก็อาจจะมีผลให้ Stun ได้ทั้งกลุ่มอีกด้วย
Sand Storm - เป็นการสร้างพายุทรายเพื่อพรางตัวผู้เล่น โดยผลของสกิลนี้ยังสร้างความเสียหายให้กับยูนิตฝ่ายตรงข้ามถึง 80 หน่วยต่อวินาทีอีกด้วย
Caustic Finale - เป็นสกิลติดตัวของ Sand King โดยจะมีผลเป็นพิษใส่เป้าหมายที่ฆ่าได้ และผลของสกิลนั้นจะระเบิดออกมาไปโดยยูนิตรอบๆ ตัว ซึ่งมีผลให้ใช้เก็บเงินได้ดีเหมือนกัน
Epic Center - สกิลนี้มีผลในการสร้างแผ่นดินไหว โดยศัตรูรอบตัวจะโดนแรงโจมตี 110 หน่วย เป็นจำนวน 10 ครั้ง แถมด้วยความสามารถที่ทำให้เคลื่อนไหวได้ช้าลงอีกด้วย
Earthshaker
Str: 22 + 2.50
Agi: 12 + 1.40
Int: 16 + 1.80
อีกหนึ่ง Hero ยอดฮิตที่ใช้กันตลอดทุกทัวร์นาเม้นต์การแข่งขัน มาภาค 2 หน้าตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังโหดอยู่ดี ด้วยความสามารถในการทำ Stun แบบ AOE ที่สูง รวมถึงความสามารถในการสร้างดาเมจและการชิงจังหวะเปิดเกมที่ดี ความสามารถในการดักโต้กลับฮีโร่ฝั่งตรงข้าม รวมไปถึงความสามารถในการปิดกั้นทางเดินของฮีโร่ฝั่งตรงข้าม จึงทำให้ Eartshakers นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ
Fissure - ใช้ได้ผลดีมากๆ ไม่ว่าจะใช้เพื่อ Stun หรือใช้เพื่อปิดกั้นทางหนีของคู่ต่อสู้ และหากเราอัพสกิลนี้มาควบคู่กับ Aftershock แล้วละก็ ในจังหวะที่กดใช้สกิลนี้ ยูนิตที่ยืนอยู่ติดตัวเราก็จะโดนดาเมจเพิ่มมากขึ้นจาก Aftershcok ด้วย
Enchant Totem - เพิ่มพลังโจมตีสูงขึ้นอีก 200% ในการโจมตีครั้งต่อไป อีกทั้งยังคอมโบคู่กับ Aftershock ได้อีกด้วย จึงทำให้สกิลนี้ นับเป็นอีกสกิลที่มีประโยชน์มากๆ อีกสกิลนึงเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะใช้ฟาร์ม หรือใช้ไล่ทุบฮีโร่ และแม้แต่ใช้ Stun ก็ยังสามารถทำได้
Aftershock - สกิลที่ทำให้เมื่อ Earthshaker ใช้สกิลแล้ว จะเกิดดาเมจรอบๆ แบบ AoE แถมติด Stun อีก 1.5 วินาที ดังนั้นสกิลนี้จึงจำเป็นมากๆ ที่จะอัพให้เต็มเป็นสกิลแรกๆ
Echo Slam - สกิลเปิดเกมสุดโหด ยิ่งอีกฝ่ายมียูนิตเยอะเท่าไหร่ในระยะ AoE เราก็ยิ่งใช้สกิลนี้ได้แรงมากขึ้นเท่านั้น และถ้า Hero อีกฝั่งเป็นพวก HP น้อยๆ ละก็ อาจจะตายได้ด้วยการใช้สกิลนี้เพียงแค่ครั้งเดียวเลยก็ได้
ก็ผ่านไปครึ่งทางของสาย Strength กันแล้วนะครับ พบกับอีก 5 ตัวที่เหลือได้ในวันศุกร์ครับผม สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ