เพื่อนๆ เคยรู้สึกไหมครับ ว่าเกมในยุคนี้ที่เพื่อนได้ๆ เล่นจบแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกว่ามันจบ หรือว่าจบยังไม่สมบูรณ์ดี ผม Barrettez เองก็เป็นเหมือนกันครับ เล่นเกมๆ นึงจบแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกข้องใจอะไรบางอย่างเหมือนกับว่ายังเล่นมันได้ไม่เต็มที่ ผมจึงลองคิดเล่นๆ ว่าเพราะอะไรนะ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเล่นเกมไม่จบซะที หากเพื่อนๆ รู้สึกแบบเดียวกับผม ลองมาพูดคุยกันในบทความนี้หน่อยดีกว่าเนอะ ^^
1. ต้องเก็บ Collectable ให้ครบสิ !!
หาก เรายังจำความกันได้ ในสมัย Bio Hazard เกมจะมีการซ่อนไอเทม Files ไว้ตามที่ต่างๆ หากว่าเราเก็บไปเรื่อยๆ เราก็จะรับรู้ข้อมูลเนื้อเรื่องในส่วนนั้น และเมื่อเก็บครบได้ทั้งหมด ถึงจะรู้เรื่องราวทั้งหมดของเกม นั่นคือการจบเกมที่แท้จริง
และ ระบบนั้น ก็ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ กับเกมหลายต่อหลายเกม และบางที Collectable ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็ตาม หลายคนก็มองว่าการเก็บมันให้ครบ คือการเล่นเกมจบสมบูรณ์จริงๆ เพราะผู้เล่นได้สำรวจตัวเกมอย่างทั่วถึง 100% ตามที่ผู้พัฒนาตั้งใจไว้นั่นเอง
2. ต้องจบเกมโหมดยากสุดยอดให้ได้ต่างหากเล่า !!
ทุก ยุคทุกสมัย เกมมักจะมีการปรับระดับความยากโดยแบ่งเป็น 3 ขั้น หลักๆ คือ Easy, Normal และ Hard และโดยทั่วไป ผู้เล่นก็มักจะเริ่มเล่นจาก Normal ก่อนเสมอ มีน้อยคนนักที่จะเริ่มเล่น Easy แต่แรก ถ้าเกมไม่ยากจริงๆ
แต่ สำหรับยุคนี้ แค่ 3 ระดับมันน้อยไป บางเกมถึงกับมีระดับความยากพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก เป็น Very Hard บางเกมก็ยากหลุดโลก เป็นโหมด Nightmare, Hell หรือ Abyssmal ไปเลย เป็นต้น ประหนึ่งว่าโดนลูกเจี๊ยบในเกมจิกแล้วตายได้ทันที เพื่อเพิ่มความท้าทายกับผู้เล่น แต่ทำไม๊ ทำไม ถึงไม่ทำโหมดที่ง่ายกว่า Easy บ้างนะ..
จะเป็น Very Easy หรือโหมด Monkey สำหรับลิงยังเล่นผ่านก็ได้..
(แต่คิดว่าคงไม่มีหรอกมั้ง >_<)
3. ใครว่าล่ะ มันต้องได้คะแนน Achievement/Trophy เต็ม 100% สิ !!
เป็น อีกส่วนนึงที่หลายคนตั้งเป้าไว้ว่า ต้องได้มาให้ครบ ถึงจะเล่นเกมนั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์จริงๆ เพราะ Archievement ครอบคลุมไปถึงทั้ง Collectable และ โหมดยากสุดยอด แต่ยังไม่พอ เพราะ Archievemant มันจะพ่วงมาด้วยเงื่อนไขพิเศษที่ต้องทำให้ได้ถึงจะผ่านเสมอ เงื่อนไขยิ่งยาก แต้มยิ่งสูง เช่น เล่นเกมโดยไม่ให้เจ็บตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว, จบเกมให้ได้ใน 10 นาที, ฆ่าบอสโดยการโจมตีครั้งเดียว ฯลฯ ซึ่งก็เป็นอีกส่วนที่ท้าทายผู้เล่นอีกเช่นกัน
อันนี้คงไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ อีก..
4. ที่ 1 สิฟะ !! ตูต้องเป็น 1 ในใต้หล้า !!
มี เกมเมอร์จำนวนไม่น้อย ที่เล่นเกมจนได้ครบทั้งข้อ 1 - 3 แล้วแต่ก็ยังไม่หนำใจ เพราะความท้าทายในเกมยังคงมีอีกมาก แม้จะผ่าน AI มาเป็นร้อยจนทะลุปรุโปร่งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าได้กับการเป็นที่ 1 เหนือเกมเมอร์ทั้งมวลบนโลกไปได้แน่ ซึ่งเกมในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะมีการแฝงระบบ Multiplayer และ Leader Board ให้ผู้เล่นได้แข่งกันเอ และในจุดนั้นเอง เกมเมอร์ที่เน้น Multiplayer มักจะเชื่อว่า การก้าวไปถึงอันดับ 1 เหนือใครได้ หรือไปถึงอันดับตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ คือการเล่นเกมจบสมบูรณ์โดยแท้จริง
ไต่อันดับขึ้นไปจนกว่าจะเป็นที่ 1
5. จบเกมเฉยๆ มันก็แค่นั้น มันต้องจบ DLC ทั้งหมดด้วยสิ !!
Downloadable Content คือข้อสุดท้าย ที่ทำให้เกมเมอร์เล่นเกมไม่จบ ทุกครั้งที่มันออก ถึงแม้จะเล่นจบข้อ 1 - 4 แบบทะลุปรุโปร่งยังไง แต่พอ DLC ออกมาเกมที่เพื่อนๆ คิดว่าเล่นจบแล้ว มันจะไม่จบโดยทันที
บ่อย ครั้ง ที่ผมเล่นเกมจบเนื้อเรื่องแล้ว แต่ก็มีส่วนที่ค้างคาใจ และต้องไปต่อ DLC ถึงจะรู้เรื่องมากขึ้น และถึงแม้จะจบ DLC แล้วและภูมิใจที่ได้เล่นเนื้่อเรื่องสมบูรณ์เต็ม 100% แต่แล้วมันก็มี DLC เนื้อเรื่องเพิ่มมมาอีก และไม่รู้ว่ามันจะมีเพิ่มมาอีกเมื่อไร ทำให้บางที เกมที่เล่นจบไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่าเล่นจบแล้วจริงๆ...
แต่ ก็ไม่ใช่เรื่องแย่นะครับ การที่มี DLC เนี่ย ที่ผมพูดถึงเมื่อครู่ คือในแง่ของการเล่นเกมจบเฉยๆ แต่หากมองอีกมุมนึงแล้ว DLC นั้นทำให้ผู้เล่นได้พบเจออะไรใหม่ๆ ลองด่านใหม่ๆ แผนที่ใหม่ หรือแม้กระทั่งโหมดใหม่ๆ แต่เสียดายที่ต้องจ่ายตังเพิ่มเพื่อเอามันมานั่นเอง TTwTT
คดี DLC จะเยอะไปไหน ราคา DLC ทุกตัวรวมพันแพงกว่าค่่าแผ่นแท้แ้ล้วนะเฮ้ย !!
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ ต้องเล่นถึงระดับไหน ถึงจะคิดว่าจบเกมแล้วจริงๆ ลองมาแชร์กันดูนะครับ ^^