ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ถ้าให้พูดถึง handheld game console ดังๆ จะเป็นเครื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Game Boy จากทางค่าย Nintendo เนื่องจากเป็น handheld console ที่ราคาไม่แพง มีเกมออกมาให้เล่นกันเยอะแยะมากมาย รวมถึงสามารถเล่นได้ต่อเนื่องสูงสุด 12 จากพลังงานถ่านขนาด AA 4 ก้อน ในสมัยนั้นเรียกได้ว่าบูมสุดๆ ไม่ต้องถึงขึ้นรวยก็สามารถซื้อหามาเพลิดเพลินกันได้แล้ว
ถัดจากนั้นมาแค่ปีเดียวเท่านั้น หรือช่วงปลายปี 1990 คู่แข่งตัวฉกาจของเกม Game Boy ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามและโด่งดังไม่แพ้ Game Boy เลยนั่นก็คือ Game Gear นั่นเองครับ
Game Gear เป็นเครื่อง handheld console ตัวแรกจากทางค่าย Sega ที่ วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 6 ตุลาคม 1990 เปิดตัวด้วยราคา 150 เหรียญสหรัฐ Game Gear มาพร้อมกับหน้าจอสีมีไฟ ที่เป็นสิ่งที่ Game Boy ไม่มี(สมัยก่อนถ้าจะเล่นเกม Game Boy ตอนกลางคืน จะต้องซื้อ Light Boy อุปกรณ์เสริมที่จะมีไฟส่องสว่างและแว่นขยายมาให้ด้วย) งานนี้จะการเล่นในตอนกลางคืนก็ไม่มีปัญหาแลัว แถมเป็นจอสีและ Graphic สุดสวย ทำให้โดนใจเหล่าเกมเมอร์วัยโจ๋ไปอย่างง่ายดาย
สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ภาพได้แบบนี้ก็สวดยวดแล้วครับ
ตัวเครื่องของ Game Gear มาในสีดำสุดสวย ด้าน Design เรียกได้ว่า เป็นเครื่อง Sega Mega Drive แบบย่อส่วนเลยก็ว่าได้ ( ย่อทั้งเครื่อง และ ความละเอียดภาพ ^ ^" ) มากับจอแบบ 4,096 สี ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 160 x 144 Pixel ความละเอียดนั้นจะเท่ากับ Game Boy เลย ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของ Game Gear เลย ลำโพงจะมีแค่ตัวเดียวเหมือนกับ Game Boy แต่เมื่อเสียบหูฟังเข้ากับตัวเครื่องก็จะให้เสียงแบบ Stereo Game Gear สีขาวสุด Rare ที่วางจำหน่ายแค่ 10,000 เครื่องเท่านั้น Game Gear สีแดง อีกหนึ่ง Limited Edition
ในด้านของการควบคุมนั้น เรียกได้ว่าจับถนัดกว่า Game Boy มากๆ เนื่องจากตัวเครื่อง Game Gear จะมาในแนวนอน ส่วนเครื่อง Game Boy จะเป็นแบบแนวตั้ง บางทีเล่นนานๆ อาจจะทำให้ปวดข้อมือ ปุ่มทีมีมาให้ใช้บังคับ ก็จะมี D-Pad,A และ B เหมือนกับเครื่อง Game Boy แต่ไม่มีปุ่ม Select มาให้
เกมของเครื่อง Game Gear นั้น มีด้วยกันทั้งหมด ประมาณ 390 เกมด้วยกัน เกมที่วางจำหน่ายพร้อมกับตัวเครื่อง มีด้วยกันเพียง 6 เกมเท่านั้น (ไม่นับเกม Columns ที่แถมมากับเครื่อง) ตลับเกมจะเป็นพลาสสิกสีดำ มีร่องเพื่อที่ทำให้ง่ายต่อการเอาเกมออกจากเครื่อง ราคาของเกมนั้นจะอยู่ที่ 24.99 ถึง 29.99 เหรียญสหรัฐ ส่วนเกมที่สุดฮิตของ Game Gear นั่น ก็หนีไม่พ้นเจ้าเม่นสายฟ้า Sonic The Hedgehog เกมคู่บุญสุดมันส์ของค่าย Sega สมัยผู้เขียนได้เกมนี้มาใหม่ๆ ก็นั่งเล่นทั้งวี่ทั้งวัน จบไปไม่รู้กี่รอบ รวมถึงเกม Puzzle อย่าง Columns และเกมอื่นๆ อีกมากมาย
ขนาดของตลับ Game Gear เทียบกับ UMD
Columns เกม Puzzle ในตำนานสุดคลาสสิค
เม่นสายฟ้า Sonic เกมที่ชาว Game Gear ต้องมี
Spy VS Spy หักเหลี่ยมสปายสุดมันส์ เล่นได้สองคน สนุกมากๆ
Dragon Crystal เกม RPG ที่โด่งดังมากเกมหนึ่ง
The GG Shinobi เกม Action นินจาสุดมันส์
Lemming อีกหนึ่งเกมคลาสสิคที่ผู้เล่นจะต้องใช้สมองตลอดเวลา
จากประสิทธิภาพของมัน ทำให้ Game Gear เริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และในวันที่ 26 เมษายน 1991 เจ้า Game Gear ก็บินลัดฟ้าไปยังอเมริกา และ ยุโรป ให้เกมเมอฝั่งตะวันตกได้สัมผัสกัน ซึ่งก็เป็นที่ฮือฮาอย่างมากเลยทีเดียว หลายฝ่ายคิดว่าเจ้า Game Gear นี่แหละ มันจะมาแทนที่ Game Boy อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เนื่องจากเจ้า Game Gear นั้นได้มีข้อเสียอยู่หลายข้อ ทำให้ไม่อาจที่จะโค่นเจ้า Game Boy ได้อยู่หมัด Game Gear ได้สิ้นสุดการผลิตลงในปี 1997 ซึ่งทิ้งยอดขายทั่วโลกไว้ที่ 11 ล้านเครื่อง เท่านั้น ในขณะที่เจ้า Game Boy ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 118.69 ล้านเครื่อง (รวม Game boy Pocket, Game Boy Light และ Game Boy Color) ข้อเสียของเจ้า Game Gear มีดังต่อไปนี้
- Game Gear ใช้พลังงานจากถ่าน AA ถึง 6 ก้อน แต่สามารถเล่นได้แค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่ Game Boy ใช้พลังงานจากถ่าน AA แค่ 4 ก้อน แต่เล่นได้ยาวนานถึง 12-14 ชั่วโมงเลยทีเดียว เนื่องจาก Game Boy เป็นหน้าจอแบบ Dot Metrix และไม่มีไฟ ทำให้เล่นได้ยาวนานกว่า (ถึง Game Gear จะมี Ac Adapter มาให้ก็ตาม แต่ ถ้าพกออกไปนอกบ้าน ก็จะสามารถเล่นได้แค่แปปเดียว) สมัยก่อน ผู้เขียนเล่น Game Gear อยู่ที่บ้านซะส่วนใหญ่ ทำเอาหม้อแปลงพังไปนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว และเชื่อว่าหลายๆ คนที่เล่น Game Gear ต้องมีหม้อแปลงพังกันบ้าง
- ด้วยประสิทธิภาพของ Game Gear ที่ทำออกมาได้ที ทำให้มีราคาค่าตัวค่อนข้างสูง อยู่ที่ 149.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,750 บาทไทย (สมัยนั้น 1 ดอลลาร์อยู่ที่ประมาณ 25 บาท ด้านพ่อค้าที่นำเข้ามาขายที่เมืองไทยก็โก่งราคาซะลิบลิ่ว ) ส่วนเจ้า Game Boy มีราคาอยู่ที่ 89.99 เหรียญ หรือประมาณ 2,250 บาทไทย ซึ่งมีราคาถูกกว่าพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้เกมเมอที่กำลังทรัพย์ไม่พอ ไม่สามารถหาซื้อมาเล่นได้
- ถึง Game Boy จะประสิทธิภาพน้อยกว่า แต่ก็มีเกมให้เล่นมากมายหลากหลายกว่า Game Gear เพราะมีค่าย 3dr Party คอยทำเกมให้กับ Game Boy ค่อนข้างเยอะ ในขณะที่ Game Gear เกมส่วนใหญ่จะเป็นของ Sega
- Nintendo ตระหนักถึงข้อด้อยของ Game Boy และพัฒนาเครื่องให้ดีขึ่นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็น Game Boy Pocket ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด พกง่าย, Game Boy Light ที่มีจอภาพแบบ Back Light แล้ว และ Game Boy Color ทีทำออกมาเป็นจอสี แต่ทาง Game Gear กลับไม่ค่อยพัฒนามากเท่าไหร่ จนถึงปี 1997 ถึงแม้ว่าจะมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ มาแก้ปัญหาเรื่องการเล่นที่ไม่ต่อเนื่องก็ตาม
จะเห็นได้ว่าเครื่อง Console ของ Sega นั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างลํ้ากว่าเพื่อนมาตั้งแต่สมัย Mega Drive และ Game Gear แล้ว แต่ก็แลกมากับราคาค่าตัวที่แพงตามความลํ้าสมัย รวมถึงมักจะมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ ออกมามากมายซึ่งมีราคาค่อนค่างแพงอีกเช่นกัน (สมัยก่อน ที่ผู้เขียนเล่นเครื่อง Mega Drive ต้องไปซื้อตลับ Ram ที่เป็นอุปกรณ์เสริมที่มาราคาค่อนข้างแพง เพื่อนำมาเล่นเกมบางเกมที่ไม่สามารถเล่นได้ถ้าไม่มีตลับตัวนี้ เช่น Alien Storm เล่นเอาใส้แห้งกันเลยทีเดียว)
Super Wide Gear แว่นขยายสำหรับเครื่อง Game Gear TV Tuner อุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์มากสำหรับแฟนๆ ละครหลังข่าว
Car Adaptor ที่ออกมาแก้ปัญหาเรื่องไฟไม่พอ
VS Cable อุปกรณ์สำหรับเกมที่เล่นสองคน บ่อเกิดของคำว่าเพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้า Game Gear ก็ได้สร้างความประทับใจให้แก่เกมเมอร์รุ่นเก๋าไม่ใช่น้อย รวมถึงตัวผมด้วย เนื่องจากบางเกมของ Game Gear นั้น ก็มีความสนุกอย่างที่ Game Boy ให้ไม่ได้ และ Game Gear นั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นตัวกระตุ้น ทำให้วงการ Handheld Console เกิดการตื่นตัว จนหลายค่าย ก็พัฒนาเครื่อง Handheld Console ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปเรื่อยๆ เช่น Wander Swan, Neo Geo Pocket , Gameboy Advance จนมาถึง DS และ PSP ที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันนี้ รวมถึง Handheld Console ตัวใหม่ล่าสุดจาก Sony อย่าง NGP ที่เตรียมออกมาให้แฟนๆ ได้สัมผัสกัน Game Gear นั้นถือว่าเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือนสำหรับตัวผู้เขียน และคิดว่าเกมเมอรุ่นเก่าอีกหลายๆ คน ก็มีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับ Game Gear ที่ยากจะลืมเลือนด้วยเช่นกันครับ ^ ^
ข้อมูลบางส่วนและภาพประกอบจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Sega_Game_Gear
http://en.wikipedia.org/wiki/Game_Boy
hightech-edge.com
bluebuddies.com
retrogamer.net
albrito.com
บทความโดย PuruZ Online Sration