สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่น่ารักกันทุกคน วันนี้กระผม PuruZ จะมาทำการ Review เกม Fighting ที่เป็นที่โด่งดังมากๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น และเป็นเกมที่ถูกเลือกให้มีการแข่งจัดในงาน Tougeki Super Battle Opera ซึ่งเป็นงานแข่งกันเกมแนว Fighting ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เกมนี้ก็คือ Blazblue Continuum Shift II ภาคต่อของ Blazblue Continuum Shift ครับ ซึ่งในภาคนี้ได้มีการปรับสมดุลย์ของตัวละครให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมถึงมีโหมดใหม่ที่ชื่อว่า Abyss Mode ด้วยครับ ภาคนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามชมกันได้เลยครับ
Opening ใหม่ เราจะไม่ได้ยินเสียงร้องของ Kotoko อีกต่อไป
เริ่มจาก Opening ก่อนเลยครับ ผู้ที่น้องเพลง Opening ในภาค Continuum Shift II ไม่ใช่ Kotoko แล้วล่ะครับ หลังจากที่ร้องมา 2 ภาค โดยถูกเปลี่ยนเป็น Asami Imai นักร้องและนักพากย์ที่มือชื่อเสียงทั้งในวงการ Anime และเกม ซึ่งจะมากับเพลงที่ชื่อว่า Shinsou
โหมดใหม่ Abyss Mode มาวัดกัน คุณจะไปได้ไกลแค่ไหน
สำหรับภาค Continuum Shift II ได้มีโหมดใหม่เพิ่มเข้ามาซึ่งมีชื่อว่า Abyss Mode ซึ่งเพื่อนๆ จะต้องตะลุยฝ่าคู่ต่อสู้ไปเรื่อยๆ โดยจะมีค่าความลึกเป็นหน่วยวัดระยะทางบอกเราว่าเราไปได้ถึงไหนแล้ว เมื่อค่าความลึกครบทุกๆ 30 ก็จะมีคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือโผล่ออกมาเรื่อยๆ (เหมือน Survival Mode ของเกม Guilty Gear) เมื่อเพื่อนๆ สามารถจัดการคู่ต่อสู้ได้ ก็จะมี option เพิ่มความสามารถให้ตัวละครของเราเก่งขึ้น เช่น เพิ่มพลังโจมตี เพิ่มพลังป้องกัน เพิ่มเกจ Burst และอื่นๆ อีกมากมาย (ยิ่งเพื่อนๆ ไปได้ไกลมากเท่าไหร่ คู่ต่อสู้ก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน) ก็เรียกได้ว่าเป็นโหมดท้าทายความสามารถของเพื่อนๆ กันเลยล่ะครับ
ส่วนโหมด Story นั้น ก็จะเป็นเนื้อเรื่องเดียวกันกับภาค Continuum Shift แต่จะเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปด้วยนิดหน่อย (ต้องเล่นเนื้อเรื่องเดียวกับภาคที่แล้วให้จบก่อน) ซึ่งเนื้อเรื่องก็ยังชวนให้น่าติดตามเช่นเดิม เหมือนกับสมัยเกมซีรี่ย์ Guilty Gear เลยล่ะครับ
มาถึงด้านตัวละครใหม่ทั้งสามตัวบ้าง ในที่สุดก็ได้สัมผัสกันอย่างเต็มที่กันซักที กับ Makoto Nanaya, Valkenhayn R.Hellsing และ Platinum The Trinity ซึ่งทั้งสามตัวก็มีสไตล์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน เรามาชมกันดีกว่า ว่าทั้งสามตัวนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
Makoto Nanaya
แม่สาวกระรอกจอมบู๊ เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของ Noel Vermillion และ Tsubaki Yayoi. Makoto Nanaya มีจุดเด่นในเรื่องของการโจมตีระยะใกล้เนื่องจากมีท่าบุกมากมาย และแต่ละท่าก็ออกเร็ว และไม่ค่อยมีดีเลย์หลังจากการออกท่า การที่จะเล่นตัวนี้ให้เก่ง ต้องเป็นคนที่บุกเก่งและพลิกเพลงใช้ท่าต่างๆ ที่มาให้มากมายได้อย่างเหมาะสม (ต้องค่อนข้างหัวไวใช้ได้เลย) แต่ท่าที่ออกนั้นจะค่อนข้างสั้น ฉะนั้นถ้าบุกไม่ดี ก็อาจจะทำให้เข้าถึงตัวคู่ต่อสู้ลำบาก ท่า Drive ของ Makoto Nanaya จะเป็นการโจมตีด้วยหมัด ซึ่งจะมีหลอดระดับความรุนแรงถึง 3 LV เมื่อกดใช้ เพื่อนๆต้องกะจังหวะในการปล่อยปุ่ม D ให้พอดีกับที่เกจไปอยุ่ที่ Lv 3 พอดี ถึงจะต่อ Combo ได้ (ถ้าเพื่อนๆ นึกไม่ออก ก็นึกถึงเวลาที่เราเล่นเกม Pangya หรือ Mina no Golf ไว้นะครับ) ซึ่งต้องใช้สมาธิในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเราจับจังหวะได้ก็สบายครับ
Valkenhayn R.Hellsing
คุณพ่อบ้าน 1 ใน 6 เทพตำนาน ที่คอยรับใช้ Rachel Alucard. Valkenhayn R.Hellsing มีจุดเด่นในเรื่องของระยะการโจมตีที่ค่อนข้างยาว ซึ่งถือว่าค่อนข้างได้เปรียบเวลาโจมตีคู่ต่อสู้ เพราะเราจะได้ก่อน เนื่องจากระยะที่ยาว ตัวละครเคลื่อนที่ได้ไม่ไวนัก แต่ก็ไม่ถึงกับอืด แต่เสียตรงที่เวลา Dash บนพื้น จะเป็นการกระโดดเข้าไปคล้ายกับ Hakumen ซึ่งบางคนอาจจะไม่ค่อยถนัด รวมถึง Combo ต่างๆ อาจจะกดค่อนข้างยาก เพราะมีบาง Combo ตัวเราจะไขว้ซ้ายขวาตลอดเวลา ซึ่ง Command จะต้องกลับซ้ายกลับขวาไปมาด้วย ถึงจะลำบากแต่ก็แลกมาด้วยการโจมตีที่ถือว่าแรงพอใช้ ท่า Drive ของ Valkenhayn R.Hellsing จะเป็นการแปลงร่างเป็นหมาป่า ที่ทำให้เคลื่อนไหวและโจมตีได้อย่างรวดเร็ว (บาง Combo ต้องสลับไปมาระหว่างรางคนและร่างหมาป่า อาจจะทำให้เล่นยากซักหน่อย) โดยที่จะมีเกจแปลงร่างอยู่ด้านล่าง เมื่อเราแปลงร่าง เกจจะลดลงเรื่อยๆ และเมื่อเกจหมดก็จะกลายร่างเป็นร่างคนเหมือนเดิม
Platinum The Trinity
น้องหนูสุดโมเอะ 1 ใน 6 เทพ เช่นเดียวกับ Valkenhayn R.Hellsing และ Hakumen. Platinum The Trinity เป็นตัวละครที่มี Besic ค่อนข้างดี ระยะการโจมตีใช้ได้ ความเร็วการเคลื่อนไหวก็อยู่ในระดับโอเค แต่การจะเล่นให้เก่งนั้น ค่อนข้างยากนิดนึง เนื่องจากว่าท่า Drive ของ Platinum The Trinity จะเป็นการใช้อาวุธในการโจมตี ซึ่งมีด้วยกันประมาณ 4 แบบ เมื่อเราใช้อาวุธอย่างที่ 1 หมดไปแล้ว (ใช้ได้ประมาณ 4 ครั้ง ) ตัวละครจะทำการเปลี่ยนอาวุธเป็นแบบที่ 2 ให้เอง (เลือกเปลี่ยนเองไม่ได้ มันจะมาตาม Loop ของมัน ) จึงทำให้ Combo ที่ใช้อาวุธนั้นมีค่อนข้างหลากหลายมากๆ ผู้เล่นจะต้องทำการ Set Up แผนการเล่นซักนิดนึง แต่ถ้าเล่นได้แล้ว Platinum The Trinity จะเป็นตัวที่เก่งเช่นกัน เนื่องจากบาง Combo จะสามารถโจมตีได้อย่างรุนแรงมากๆ
มาดูด้านระบบการเล่นของภาคนี้กันบ้าง อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าภาคนี้มีการปรับสมดุลย์ตัวละครค่อนข้างเยอะ บาง Combo ที่เคยใช้ได้ในภาคที่แล้ว ก็จะมาใช้ในภาคนี้ไม่ได้ ต้องฝึกหา Combo ใหม่ๆ มาใช้กัน จึงเรียกว่าเหมือนได้เล่นเกมใหม่เลย (มาถึง เข้า Training กันรัวๆ )
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในระบบการต่อสู้ของภาคนี้คือ ถ้าเราอยู่กลางอากาศ เราจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้ได้ เว้นแต่จะเปิด Barrier ถึงจะกันได้ ซึ่งทำให้ผู้เล่นต้องมีความระมัดระวังในการบริหารเกจ Barrier ไม่ฉะนั้นถ้าเกจหมด เข้าสู่สถานะ Danger เหมือนไหร่ก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ ฮ่าๆๆ ระบบการต่อสู้ในภาคนี้จะเน้นในเรื่องการทำ Wall Combo มากขึ้น เนื่องจากท่าต่างๆ บางท่าจะทำให้ศัตรูเด้งที่กำแพงแล้วเราสามารถต่อ Combo ได้อีก ซึ่งจะทำให้โจมตีได้รุนแรงมาก และ Combo ส่วนใหญ่ จะต้องใช้ใน Wall เท่านั้น ส่วน Combo ที่ใช้กลางฉากก็จะทำให้มีความรุนแรงลดลง หรือถ้าเลวร้ายที่สุด ก็ถูกตัด combo ออกไปเลย ก็นับว่าเป็นความท้าทาย (ในการบุก) และความกดดัน (เวลาอยุ่ใน Wall) อีกแบบหนึ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในภาคนี้
สรุป
Blazblue Continuum Shift II ก็ยังถือว่าเป็นเกม Fighting ที่ทำออกมาได้ดีเช่นเคย การปรับ balance ต่างๆ ของตัวละครนั้นทำให้ตัวละครต่างๆ ไม่มีความได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก และระบบการต่อสู้ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ทำให้สนุกไปอีกแบบ รวมถึงการปรับสมดุลของท่าและ Combo ของตัวละคร ทำให้ไม่ซํ้าซากเหมือนภาคเก่า (เพราะต้องมานั่งหัด Combo กันใหม่) ข้อเสียของเกมนี้ คิดว่ามีแค่จุดเดียวก็คือ ความยากในการเล่น (ให้เก่ง)เพราะเกมนี้จะมีจังหวะในการโจมตีและทำ Combo ค่อนข้างยาก ต้องจับยังหวะดีๆ แต่ถึงอย่างไรก็ยังง่ายกว่าซีรี่ย์ Guilty Gear อยู่พอสมควร เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบเกม 2D Fighting นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ควรพลาดครับ