อีกแค่ไม่กี่วันแล้วนะครับ ก็จะถึงวันวางจำหน่ายของ Handheld Console ตัวใหม่ล่าสุด Nintendo 3DS ในประเทศญี่ปุ่น ในครั้งนี้กระผม PuruZ ก็จะนำรายละเอียดของเจ้าเครื่อง Nintendo 3DS มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ว่าเจ้าเครื่องนี้มันจะมีดีอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นเรามาดูเรื่องของจอภาพที่เป็นจุดขายของเจ้า 3DS กันก่อนเลย มันมีชื่อว่า autostereoscopic เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมสุดลํ้าของทาง Nindendo เลย ทำให้ผู้เล่นสามารถมองภาพเป็นแบบ 3 มิติได้โดยที่ไม่ต้องใช้แว่นตา ทำให้สะดวกสบายมาก ซึ่งใช้หลักการ Paralax ด้วยการนำภาพสองภาพมาซ้อนกันทำให้เกิดภาพแบบ 3มิติ เหมือนกับหลักการของภาพ 3 มิติ แต่เราไม่ต้องปรับโฟกัสสายตาให้เมื่อยตากันเล่นๆ ฉะนั้นถ้าปิดตาข้างนึงก็จะมองไม่เห็นภาพเป็นแบบ 3 มิติ และเพื่อนๆ บางคนอาจจะเห็น VDO กันมาบ้าง แต่มันก็ไม่เห็นเป็น 3มิติ เนื่องจากว่ากล้องนั้นมีเลนส์แค่เลนส์เดียว ด้านความละเอียดจอบนนั้นจะมีขนาด 3.53 นิ้ว ความละเอียด 800 x 240 Pixel (ตามหลักการภาพซ้อนของ3DS ซึ่งขนาดจริง จะอยู่ที่ 400 x 240 ) ส่วนจอล่างนั้น มีขนาด 3.02 นิ้ว ความละเอียด 320 x 240 Pixel ซึ่งก็มีความละเอียดมากกว่า NDS ที่มีความละเอียดแค่ 256 x 192 Pixel เท่านั้น (ความเห็นส่วนตัวของผม น่าจะทำให้มันละเอียดมากกว่านี้ซักหน่อย เนื่องจากว่าความละเอียดยังสู้กับ PSP ที่ออกมานานแล้วไม่ได้เลย) สามารถปรับระดับแสงได้ 6 ระดับ ในโหมด 2D และ 3 ระดับในโหมด 3D และสามารถปรับความตื้นลึกของ 3D ได้ด้วย
ด้านของขนาดเครื่อง จะมีขนาด 5.3 x 2.9 x 0.8 นิ้ว (พับจอลง) เรียกได้ว่ามีขนาดกระทัดรัด ไม่ใหญ่มากจนเกินไป ทำให้สะดวกต่อการพกพา ส่วน กล้องถ่ายรูป นั้นจะมา ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว แบ่งเป็นด้านนอก 1 ตัว และด้านใน 2 ตัว เพื่อที่จะรองรับระบบถ่ายภาพออกมาเป็นแบบ 3มิติ ความละเอียดนั้นจะอยู่แค่ 3 แสน Pixle หรือขนาด VGA (640x480) เท่านั้นเอง
ด้านการควบคุมนั้น ก็จะมาพร้อมกับปุ่ม D pad A B X Y L R กันอย่างครบครันเช่นเดิม และยังได้เพิ่ม Circle Pad หรืออนาลอก มาให้อีก 1ตัว เพื่อสามารถรองรับการควบได้มากขึ้น และยังมี Gyro Sensor และ Motion Sensor มาให้อีกด้วย
ส่วนของ CPU นั้นจะใช้ ARM11 2 ตัว ซึ่งแต่ตัวจะวิ่งอยู่ที่ 266 MHz ซึ่งแรงกว่า PSP เรียกว่าไม่ขี้เหร่เลย (ถ้าไม่นับ NGP นะ) ส่วน GPU จะเป็น PICA200 133MHz และตัวเครื่องจะมีความจุมาให้ 1.5 GB และยังรองรับ SD Card เหมือนเดิมจ้า
ด้านการเชื่อมต่อนั้นจะมากับ Wireless 2.4 GHz และแบบ IEEE 802.11 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ Internet โดยอัตโนมัติ เมื่ออยู่ใกล้กับ Access point แม้ว่าจะอยู่ในสถานะ Sleep Mode ก็ตาม
นอกจากด้าน Spec แล้ว 3DS ก็ยังมีลูกเล่นอีกมากมาย ซึ่งสร้างความแตกต่างและไม่เหมือนใคร เรามาชมกันเลยจ้า
Street Pass
Street Pass เป็นระบบที่ทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ใช้ 3DS เมื่อเดินผ่านผู้ที่ใช้ 3DS เหมือนกัน เช่นข้อมูลส่วนตัว, Mii รวมถึงถ้าเล่นเกมเดียวกันอยู่ ก็จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกม เมื่อทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันก็จะมีไฟ LED ที่มุมเครื่องกระพริบเตือน
Mii Studio
Mii Studio นั้น applications ที่ไว้สำหรับสร้าง Mii นั่นเอง ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ละเอียดกว่าของเครื่อง Wii และสามารถสร้างตัวละครแบบอัตโนมัติจากการถ่ายภาพหน้าคนได้ด้วย เรียกได้ว่าค่อนข้างเหมือนเลยทีเดียว
Street Pass Mii Plaza
เป็นระบบที่ทำการแลกเปลี่ยน Mii โดนอัติโนมัติเมื่อเดินผ่านผู้ที่ใช้ 3DS และยังโชว์ด้วยว่าเจ้าของ Mii คนนั้น เล่นเกมอะไรมาแล้วบ้างด้วย
SpotPass
SpotPass เป็นระบบที่เมื่อเราผ่าน Hot Spot หรือ Access point แล้ว เครื่องจะทำการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเพื่อรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากทาง Nintendo รวมไปถึง Ranking และ Ghost data ของบางเกมด้วย (อันนี้บ้านเราคงลำบากหน่อย เนื่องจาก Hot Spot ส่วนใหญ่ในบ้านเรา จะต้องทำการ Log in ก่อน แต่ที่ญี่ปุ่น ทาง Nintendo ได้จับมือกับผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อที่จะ Support ระบบนี้)
Game Memo
Game Memo เป็น Feature ที่ทำให้เราสามารถจดบันทึกข้อความระหว่างการเล่นเกมได้ โดยการกดปุ่ม Home เพื่อเข้าสู้หน้า Home Menu แล้วเลือกที่ Icon Game Memo โดยที่ Memo ของเรานั้นจะถูกบันทึกเป็น File รูปภาพลงใน SD Card เป็น Feature ที่เหมาะมากสำหรับการเล่นเกมประเภท RPG ที่ต้องจำข้อมูลค่อนข้างเยอะ
Friend List
ระบบ Friend List ของ Nintendo 3DS นั้นนอกจากจะโชว์ว่าเพื่อนเรากำลัง Online อยู่หรือเปล่าแล้ว ยังสามารถดูข้อมูลได้ด้วยว่าเพื่อนเรากำลังเล่นเกมอะไรอยู่ โดยเมื่อ 3DS ของเราเชื่อมต่อกับ Internet แล้ว เครื่องจะการส่งข้อมูลไปยัง Nintendo's Servers โดยอัตโนมัติ เมื่อมีข้อมูลอัพเดตจากเพื่อนของเราก็จะมีไฟเตือนสีส้มขึ้นที่เครื่อง
Activity Log
เป็นระบบที่บันทึกข้อมูลของ Activity ต่างๆ เช่น ระยะเวลาในการเล่นเกมทั้งหมดของเรา เล่นเกมอะไรไปบ้าง ใช้ Application ตัวไหนบ้าง รวมถึงตรวจจับจำนวนก้าวของเรา ที่เราเดินและพกเครื่อง 3DS ไปด้วย
3D Movies
เป็นระบบที่จะฉายภาพยนตร์ต่างๆ ในรูปแบบ 3D ที่ทาง Nintendo ได้จับมือกับ Nippon Television และ Fuji Television สำหรับในบ้านเราก็คงอดตามเคยล่ะครับ
Ar card และ AR Games
Ar card เป็นการ์ดที่เมื่อเรานำกล้องของเครื่อง 3DS ไปทำการแสกนแล้ว ก็จะมีตัวละคนแบบสามมิติ โผล่ขึ้นมา รวมไปถึงเป็น Mini Games ให้เราได้เล่นกันด้วย
System Specification
Weight
230 grams (8.1 oz)
Display
3.53 in (90 mm), 800 x 240 px (effectively 400 x 240 WQVGA per eye) at 24 bit color
3.02 in (77 mm), 320 x 240 QVGA at 24 bit color
3D depth slider
6 brightness levels (2D)
3 brightness levels (3D)
Battery
3-5 hours for 3DS games and 5-8 hours for DS games, depending on screen brightness (1300 mAh)
Camera
One 2D front-facing and
two 3D rear-facing 0.3 MP (VGA) sensors
Physical controls
Push-buttons, D-pad, Circle Pad, touchscreen, volume slider, 3D depth slider, wireless communications switch
Connectivity
Integrated 802.11b/g, 3-axis accelerometer, 3-axis gyroscope, microphone
Card slots
3DS/DSi/DS, SD
Storage
1.5 GB Flash Memory Support SD Card
Memory
TBA
Processor
ARM11 x 2
Graphics
PICA200 by Digital Media Professionals
Dimensions
134 mm (5.3 in) wide × 74 mm (2.9 in) deep × 21 mm (0.83 in) high
Stylus
Extendable up to about 4 inches (100 mm)
Region Locking
Regional lockout for 3DS software between Japan, America and Europe/Australia
Preloaded applications
3DS Sound,
Mii Maker,
StreetPass Mii Plaza,
Face Raiders,
3DS Messaging System,
3DS Download Play,
3DS Camera,
AR Games,
3D Videos,
Internet Browser,
Activity Log
เรียกว่าน่าสนใจเลยทีเดียวครับ สำหรับเจ้า Nintendo 3DS นอกจากจะมาสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแบบ 3 มิติแล้ว ยังมีลูกเล่นน่าสนใจอีกเพียบเลย ถึงแม้ด้านความแรงกับ Graphic จะสู้ทางด้าน NGP ไม่ได้ก็ตาม ทาง Nintendo กะทาง Sony ไม่ค่อยจะออกมาฟัดกันตรงๆ ซักเท่าไหร่ เนื่องจากเจาะตลาดกันคนละกลุ่มกัน ถ้าด้าน Graphic ก็ต้องยกให้ Sony เขา ส่วนด้านลูกเล่นแปลกๆ ใหม่ๆ ก็ต้องยกให้ทาง Nintendo ก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไหน จะดึงกลุ่มลูกค้าของอีกฝ่ายได้มากกว่ากัน ในตอนนี้ ถ้าจะถามว่า 3DS นั้นดีหรือไม่ ถ้าดูจาก Spec และลูกเล่นก็ถือว่าดีครับ แต่จุดขายของเครื่องนี้อยู่ที่ระบบ 3 มิติ ซึ่งก็ต้องตัดสินด้วยตาของเพื่อนๆ ทุกคนล่ะครับงานนี้ ตัวเครื่องจะวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2011 ราคา 25,000 เยน และวางจำหน่ายที่ อเมริกาในวันที่ 27 มีนาคม 2011 ราคา 249.99 เหรียญสหรัฐ ถ้าตีเป็นเงินไทยแล้ว เครื่องอเมริกาจะถูกว่าค่อนข้างเยอะ ซึ่งเครื่องอเมริกาจะอยู่ที่ประมาณ 7,637 บาท ส่วนญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่ 9,290 บาท งานนี้หลายคนคิดว่ารอซื้อเครื่องอเมริกาดีกว่า แต่ทาง Nintendo ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเขาทำการล็อค Zone ของเกมไว้นะครับ ฉะนั้นก่อนจะซื้อก็คิดกันให้ดีๆ นะจ๊ะ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Nintendo_3DS
http://www.nintendo3dsinfo.com
http://www.bit-tech.net
http://www.vg247.com
http://www.3dsthailand.com
http://www.andriasang.com
http://nexgadget.com