มารู้จักกับโปรดิวเซอร์ของ Vanquish อย่าง Atsushi Inaba ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเกม Action หลายเกม

แชร์เรื่องนี้:
มารู้จักกับโปรดิวเซอร์ของ Vanquish อย่าง Atsushi Inaba ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเกม Action หลายเกม

     แฟนๆ เกมแนว Action หลายคน คงจะรู้จักเกม Bayonetta และ Vanquish เป็นอย่างดี เนื่องจากตัวเกมนั้นทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งฉาก Action สุดมันส์ ,Movement ของตัวละคร รวมถึงระบบการเล่นที่แปลกใหม่ ซึ่งทำให้ตัวเกมนั้นโด่งดังไปทั่วโลกและได้เสียงตอบรับกลับมาค่อนข้างดีมาก

     การที่จะทำเกมดีๆ ออกมาได้หนึ่งเกมนั้น ต้องอาศัยฝีมือความสามารถของเหล่าบรรดา Developer ซึ่งบางทีเหล่า Gamer อาจจะสนใจตัวเกมมากกว่าและมองข้ามพวกเขาไป ในครั้งนี้ เราจะมาเจาะลึกประวัติผู้ที่อยู่เบื้องหลังเกม Action สุดมันส์เหล่านี้ ซึ่งเขาก็คือ Atsushi Inaba ผู้เป็น Executive director และ Producer จาก Platinum Games ครับ
     Atsushi Inaba ปัจจุบันเป็น Executive director และ Producer ชื่อดังจากบริษัทพัฒนาเกมที่ชื่อว่า Platinum Games เขาได้เริ่มมีชื่อเสียงมาตั้งแต่เขาเป็น CEO และ Producer อยู่ที่ Clover Studio บริษัทพัฒนาเกม ที่เป็นบริษัทลูกของ Capcom ซึ่งผลงานที่เป็นที่โด่งดังของเขาก็คือ Viewtiful Joe
     ย้อนไปในสมัยก่อน ก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานให้กับ Capcom ในช่วงปี 1992 เขาได้เข้าสู้ชีวิตนักพัฒนาเกมโดยทำงานให้กับค่าย Irem ในสมัยนั้นเกมที่โด่งดังของค่าย Irem ก็คือ R-Type นั้นเอง   Atsushi Inaba ได้เข้ามาร่วมพัฒนาซีรี่ย์นี้ 1 ภาคด้วยกัน ได้แก่  R-Type Leo นั่นเอง นับว่าเป็นเกมแรกเลย ที่เขาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา และ หลังจากนั้น เขาก็ได้ย้ายไปทำงานที่ Nazca Corporation บริษัทพัฒนาเกมที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 โดยกลุ่มนักพัฒนาจาก Irem ที่ลาออกจากค่าย Irem และในปี 1996 Nazca Corporation ก็ได้ถูกค่าย SNK ซื้อไป ซึ่งผลงานจากค่ายนี้ ได้แก่ Neo Turf Masters และ ซีรี่ย์ Metal Slug ที่โด่งดังนั่นเอง ตอนนั้น Atsushi Inaba มีผลงานจาก Samurai Showdown (Samurai Spirit) ในฐานะ Programmer
     หลังจากที่ Atsushi Inaba ได้ทำงานกับ SNK ได้ซักพัก วันหนึ่ง เขาได้อ่านนิตยาสาร Famitsu และเห็นประกาศรับสมัครงานจากทางค่าย Capcom เขาจึงตัดสินใจสมัครและได้บรรจุเป็นพนักงานของค่าย Capcom ในปี 1998 โดยที่เขาหวังไว้ว่าอยากจะมีส่วนร่วมในการพัฒนา Bio Hazard ภาคต่อไป (ต่อจากภาคแรก)
     หลังจากนั้น Atsushi Inaba ก็ได้มีผลงานออกมากมาย เช่น Phoenix Wright: Ace Attorney,Biohazard Code: Veronica Complete Edition ,Viewtiful Joe และเขายังได้ร่วมงานกับ Hideki Kamiya สร้างสุดยอดเกม Action จากค่าย Capcom ออกมา นั่นก็คือ Devil May Cry นั่นเอง
     Devil May Cry เป็นเกม Action บน Platform PS2 ที่วางจำหน่ายในปี 2001 เป็นผลงานแรก ที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเกม Console ตัวเกมทำออกมาเป็นแนว Stylish Action ที่เน้นการผสมผสาน Action หลายๆ ท่า จากตัวละครได้อย่างลงตัว ทำให้ได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีมาก ต่อจากนั้นในปี 2003 เขาก็ได้ร่วมพัฒนาเกม Action อีกเกมหนึ่งที่ชื่อว่า Viewtiful Joe  เกม Action ที่มี Theme แปลกแหวกแนวและ Gameplay ที่สนุก ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกเกมที่ประสบความสำเร็จในช่วงนั้นเช่นเดียวกัน
     หลังจากนั้น ในปี 2004 Atsushi Inaba, Hideki Kamiya และ Shinji Mikami รวมถึงพนักงานคนอื่นๆ ก็ได้ย้ายไปทำงานในบริษัทใหม่ เป็นบริษัทพัฒนาเกมที่อยู่ในเครื่องของ Capcom นั่นก็คือ Clover Studio นั่นเอง ซึ่ง Atsushi Inaba ก็ได้ทำในตำแหน่ง Producer ควบกับตำแหน่ง CEO ไปด้วย
     ผลงานจากทาง Clover Studio ได้แก่ Phoenix Wright: Ace Attorney Trials and Tribulations, Viewtiful Joe 2, Viewtiful Joe: Red Hot Rumble, Viewtiful Joe: Double Trouble!, okami และ God Hand  ซึ่งแทบทั้งหมดนั้นเป็นเกม Action ทั้งหมด ซึ่งเขาก็ได้สั่งสมประสบการณ์ การทำเกม Action มาเรื่อยๆ
     แต่ในปี 2006 ทาง Board ของ Capcom ได้ตัดสินใจปิดตัว Clover Studio เรื่องจากผลตอบรับที่ค่อนข้างแย่จาก Viewtiful Joe ภาคหลังๆ และ Okami ทำให้หัวหลักจาก Clover Studio ได้แก่  Tatsuya Minami ,Atsushi Inaba, Shinji Mikami และ Hideki Kamiya รวมถึงเหล่าหัวกะทิ ร่วมก่อตั้งบริษัทพัฒนาเกมขึ้นมาใหม่ ในนาม Seeds, Inc และมาเปลี่ยนชื่อทีหลังเป็น  Platinum Games และในปี 2008 ทาง Platinum Games ได้ประกาศที่จะทำเกมให้กับทาง SEGA ซึ่งเกมแรกที่ออกมาก็คือ MadWorld นั่นเอง
     MadWorld ถือกำเนิดเมื่อ 10 มีนาคม 2009  เป็นเกม Action เกมแรกของค่าย Platinum Games ที่ทำให้ SEGA โดยมี Atsushi Inaba นั่งอยู่ในตำแหน่ง Producer ตัวเกมนั้นเป็นเกม Action ที่สะใจแฟนๆ ขาโหดมากๆ เช่น นำป้ายจราจรมาเสียบหัวศัตรู จับกดหัวใส่ถังขยะที่มีไฟลุก ยิ่งทำจัดศัตรูตัวเดียวด้วยหลากหลายวิธีนั้น ก็ยังได้คะแนนโบนัสเพิ่มด้วย ส่วน Theme เกมนั้นจะมาเป็นภาพขาวดำ ยกเว้นเลือดอย่างเดียวที่เป็นสีแดงเท่านั้น
     เกมต่อมาของ  Atsushi Inaba ก็จะเป็นเกมแนว science-fiction role-playing ที่มีชื่อว่า Infinite Space ซึ่งได้ร่วมกันทำกับ Anime Studio ที่มีชื่อว่า Gonzo เกมนี้ก็มีกระแสใช้ได้ทีเดียว โดยทาง Famitsu ได้ให้คะแนนไว้ 34/40 (ผู้เขียนไม่เคยเล่นเกมนี้ จึงอธิบายไม่ค่อยได้ ต้องขอโทษด้วยนะครับ) และปลายปี 2009 เกม Stylish Action ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น นั่นก็คือ Bayonetta นั่นเอง
     Bayonetta เป็นเกม Stylish Action ที่โด่งดังเอามากๆ ด้วย Action ที่ทำออกมาได้ดี , การต่อ Combo ท่าที่สะใจ รวมถึงกราฟฟิคที่สวยงาม ทำได้เกมนี้ได้รับคะแนน 40 เต็มจากนิตยาสาร Famitsu หลายคนอาจจะบอกว่าเกมนี้มีส่วนคล้าย Davil May Cry ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะว่า Director ของเกมนี้ก็คือ Hideki Kamiya และในทีมพัฒนาก็มี  Atsushi Inaba ที่เคยร่วมงานกับทาง Hideki Kamiya พัฒนา Devil May Cry สมัยที่ยังอยู่ Capcom อยู่ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น "หัวเก่า" ของซีรี่ย์ Devil May Cry เลย

และในปี 2010 เกมสุดมันส์ อีก 1 เกมก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา นั่นก็คือ Vanquish นั่นเอง
     Vanquish เป็นเกม 3rd Person Action Shooting ที่มี Director เป็น Shinji Mikami และ Producer เป็น Atsushi Inaba ซึ่งเสน่ห์ของเกมนี้จะเป็นเกม Action ที่มีความเร็วสูงฝ่าเหล่ากระสุนมากมายนับไม่ถ้วน , มีอาวุธให้เลือกใช้กันหลายชนิด และระบบการอัพเกรดอาวุธ และกราฟิค ที่สวยงาม ทำให้ครองใจเหล่า Gamer ไปได้ทั่วโลกเลย

     และช่วงปลายปีนี้ เกมที่ 5 ที่ทำให้ SEGA จากฝีมือของ Atsushi Inaba ก็จะออกมาให้ Gamer ได้เล่นกันอีกครั้ง นั่นก็คือ Max Anarchy ซึ่งมี  Masaki Yamanaka เป็น Director และ  Atsushi Inaba  เป็น Producer  ตัวเกมนั้นทาง Atsushi Inaba ได้ออกมาเผยว่าเป็นเกมแนว Dogfight Combat Action ที่มีตัวละครให้เลือกกัน 4 ตัว 4 สไตล์ ตามความถนัดของผู้เล่น ซึ่งหนึ่งในนั้นมี Jack Cayman ตัวละครจากเกม Mad world อยู่ด้วย ด้าน Game play นั้นจะมีสไตล์คล้ายๆ กับ Bayonetta ในเรื่องการต่อคอมโบของท่าต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่น่าติดตามมากๆ ของปีนี้เกมหนึ่งเลย

     ก็เด็ดๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ สำหรับผลงานของ Atsushi Inaba  สุดท้ายนี้เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า Director ของเกมต่างๆ ที่ว่ามา ไม่ใช่ Atsushi Inaba ซะหน่อย ทำไมถึง เรียกว่าเป็นผลงานของ Atsushi Inaba ล่ะ ผมก็ขอบอกกับเพื่อนๆ กันว่า ถึงเกม จะมี Director ที่ดี แต่ถ้าขาด Producer ที่มีประสบการณ์ และฝีมือ เกมก็จะออกมาดีไม่ได้เลย  ถึงอยู่ตำแหน่ง Producer  ก็ถือว่าเป็นผลงานเกมของเขา แม้แต่ฝ่ายประสานงาน รวมถึงฝ่าย Sale ด้วยก็เช่นกัน เกมจะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีหลายคนที่ตัดสินจาก Director  เพียงผู้เดียว และไม่ได้นึกถึง Producer เลย ผมจึงหยิบเรื่องราวของ Atsushi Inaba มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันไงละครับผม ^ ^

 

อ้างอิงข้อมูลและภาพประกอบจาก

http://en.wikipedia.org/wiki/Atsushi_Inaba

http://en.wikipedia.org/wiki/Infinite_Space

http://en.wikipedia.org/wiki/Bayonetta

http://en.wikipedia.org/wiki/Anarchy_Reigns

http://en.wikipedia.org/wiki/Clover_Studio

http://www.famitsu.com

http://www.4gamer.net

http://www.ign.com

http://blog.livedoor.jp

http://egamer.co.za

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ