Need For Speed: Hot Pursuit เกมแข่งรถสุดมันส์ที่ถูกนำกลับมาทำใหม่ แต่ยังคงไว้ในชื่อเดิม โดยที่ Need For Speed: Hot Pursuit ภาคเก่านั้นอยู่ในปี 1998 (ถ้าเพื่อนๆ คนไหนได้เคยเล่นคงจะนึกออกนะครับ) และเป็นภาคที่ 3 เลยก็ว่าได้ ถ้านับไล่มา (โดยที่ Need For Speed ภาคแรกวางจำหน่ายในปี 1994 และ Need For Speed 2 วางจำหน่ายในปี 1997) โดยที่ในภาค Hot Pursuit จะมีโหมดใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามานั้นก็คือโหมด ไล่ล่า เป็นโหมดที่เราจะได้รับบทเป็นตำรวจ มีหน้าที่ต้องไล่ล่าบรรดาขาซิ่งทั้งหลายภาคนี้จึงเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากเลยในสมัยนั้น แต่พอกลับถูกมารีเมคใหม่เพื่อนๆ หลายคนที่ได้ลองเล่นแล้วยิ่งถูกใจมากขึ้นเพราะด้วยกราฟฟิคที่สวยงามมากยิ่งขึ้น รถต่างๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างมากมาย โดยเฉพาะเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบเล่นฝ่ายตำรวจแล้วล่ะก็ยิ่งถูกใจเป็นอย่างมาก เพราะรถตำรวจแต่ล่ะคันที่เราทำการปลดล็อคออกมาได้นั้นขอบอกเลยว่าเด็ดๆ ทั้งนั้นเลย
ภาพเก่าของปี 98
ภาพของปี 2010
รูปแบบการเล่นเกม Need for Speed: Hot Pursuit เป็นลักษณะเล่นฉากต่อฉาก ตั้งแต่โหมดแข่งชิงที่ 1, แข่งกับเวลา, แข่งไล่ล่าและหลบหนี เป็นต้น ระดับความยากเกมนี้จะเพิ่มระยะทาง, เพิ่มความเร็วของรถยนต์ และจำนวนรถตำรวจที่มากขึ้นและถึงขึ้นบัญชีดำ สอดคล้องกับระดับเลเวลของผู้เล่นที่สูงสุดเลเวล 20 หากเลเวลของนักซิ่งยิ่งสูง ผู้เล่นจะถูกหมายหัวจากตำรวจและเป็นที่ต้องการตัวอันดับ 1 ขณะที่เลเวลของตำรวจจะเป็นหัวหน้าทีมมือฉมังที่เก่งกาจการจับนักซิ่ง สำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้งรถยนต์อันเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ EMP,เครื่องวางหนาม เป็นต้น ตำรวจยังสามารถเรียกกองกำลังสนับสนุนปิดกั้นถนนไม่ให้เหล่านักซิ่งแข่งกันต่อได้อีกด้วย การใช้งานจะเป็นประโยชน์อย่างมาก และยังสามารถทำได้ให้เปรียบอีกครั้ง ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ จะปลดล็อคเรื่อยๆ ระหว่างการเล่น
อยากจะซิ่งหรืออยากจะล่า ?
ในการที่เราจะเข้าสู่การแข่งขันนั้นหลังจากที่เราเข้าเกมไปแล้วจะมีเพียง โหมด Career เพียงโหมดเดียวเท่านั้นในการเล่นแบบ Single Player ไม่มีทั้ง Quick Race และ Custom Race ให้เราเลือก โดยหลังจากเข้าสู่โหมด Career นั้นตัวเกมจะตัดเข้าสู่แผนที่ของเมือง Seacrest โดยจะเป็นไอคอนของ Event ต่างๆขึ้นให้เราเลือกตามที่เกมกำหนดไว้โดยจะแบ่งเป็นการแข่งในส่วนของ Racer(นักแข่ง) และ Cop(ตำรวจ) แยกต่างหากกัน(ไอคอนรูปป้ายจารจรสีเหลืองคือ Event ส่วนของ Racer ส่วนไอคอนรูปป้ายทะเบียนที่เขียนว่า SCPD คือEventในส่วน Cop) ซึ่งการเล่นในสองส่วนนั้น ค่าประสบการณ์ที่เรียกว่า Bounty จะแยกเป็นส่วนของ Racer และ Cop ต่างหากเลย ซึ่งค่าประสบการณ์ที่ได้นั้นจะใช้ในการปลดล็อครถในเกมให้เรานำเอามาใช้ในการ แข่งขัน ซึ่งเมือค่าประสบการณ์ถึงค่าที่กำหนดเราก็สามารถนำรถที่เพิ่งปลดล็อคมาใช้ ได้เลยเพราะในเกมนี้นั้นไม่มีระบบเงินเพื่อใช้ในการซื้อขายรถอีกแล้ว และแน่นอนว่าเนื่องจากการตัวเกมนั้นที่ไม่มีระบบที่เกี่ยวกับเงินอีกแล้วก็ บอกลาการแต่งรถคันงามของเพื่อนๆ ไปได้เลยเพราะตัวเกมนั้นไม่อนุญาตให้คุณทำอะไร กับรถที่คุณเลยนอกเสียจากการเปลี่ยนสีของตัวรถตามที่กำหนดมาจากผู้ผลิตเท่านั้น
บอกลา A.I เดิมๆ ไปได้เลย
AI คู่แข่งหรือของตำรวจในเกมนี้นั้นจัดว่าเก่งเอามากๆ ไม่มีอีกแล้วกับการที่เพื่อนๆ ทิ้งคู่แข่งเป็นทุ่งหรือการที่ AI วาร์ปมาอยู่ข้างหลังเพื่อนๆ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเพราะ AI ของ Need for Speed: Hot Pursuit ในภาคนี้จะคอยไล่บี้ตลอดการแข่งขันเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ในส่วน AI ของนักแข่งในการเล่นเป็นตำรวจนั้นก็ฉลาดเอามากๆ เลยครับ แบบที่ว่าเพื่อนๆ อาจจะอดนึกในใจไม่ได้เลยว่า ตกลงนี้มันคนมาแอบเล่นใช่ไหม ไม่ใช่ AI อย่างที่เราคุ้นเคยกัน
เมือง Seacrest Country
เมืองอันกว้างใหญ่ไพศาลที่มาพร้อมกับทัศนียภาพอันงดงามมากมายไม่ว่าจะเป็น หาดทรายและชายทะเลอันเงียบสงบ ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนไปจนถึงทะเลทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เพื่อนๆ จะได้พบเจอผ่านการแข่งขันต่างๆ ภายในเกมนั่นเองเพราะว่าในการแข่งขันแต่ล่ะครั้งเราต้องอาศัยทางลัดบ้าง แต่ว่าทางลัดบางเส้นทางอาจจะทำให้เพื่อนๆ ช้าลงกว่าเดิมอีกไม่ว่าจะเป็น ขับรถลอดอุโมงค์ที่มีก้อนหินขวางทาง หรือแม้กระทั้ง ขับรถบนชายหายแต่ก็เจอทางเลี้ยวที่เต็มไปด้วยก้อนหินที่มีอยู่สองข้างทางเต็มไปหมด เส้นทางลัดที่ว่าบางเส้นทางอาจจะไม่ได้เป็นทางลัดเสมอไป อาจจะพาเพื่อนๆ ไปเสียเวลามากกว่า
การดริฟท์ ที่ง่ายยิ่งกว่าไล่สกัดนักซิ่ง
การควบคุมใน Need for Speed: Hot Pursuit ภาคนี้แตกต่างจากภาคที่ผ่านมากพอสมควร การดริฟท์สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เพื่อนๆ กดเบรกด้วยนิดหน่อยหรืออาจดึงเบรกมือแล้วก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเท่านั้นรถของเพื่อนๆก็จะไถลตามโค้งไปอย่างสวยงามเลยทีเดียว และในเมื่อการขับขี่มันง่ายขนานนี้แล้วเพื่อนๆ ก็ไม่ต้องไปนึกถึงระบบเกียร์ที่จะต้องลดเกียร์แตะเบรค อะไรทำนองนี้อีกเลย
ระบบ Autolog สุดเจ๋ง
จุดเด่นที่สำคัญของ Need for Speed: Hot Pursuit ถ้าไม่พูดถึงระบบ Social Gaming อย่างระบบ Autolog คงไม่ได้ ซึ่งระบบ Autolog นี้นั้นจะทำหน้าที่เชื่อมต่อเกมเข้าสู่ครือข่ายสังคมในเกมถ้าหากจะให้อธิบายง่ายๆ กับระบบ Autolog ก็เปรียบเสมือน Facebook ในเวอร์ชั่นของ Need for Speed: Hot Pursuit ซึ่ง ระบบ Autolog ช่วยอำนวยความสะดวกของเพื่อนๆ เป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการเลือกการแข่งขันให้เหมาะสมกับระดับเลเวลของเพื่อนๆ ในโหมดการเล่น Multiplayer ผ่านระบบ Autolog Recommend หรือใน ส่วนของการ Add Friend นั้นที่นอกจากจะเพิ่มเพื่อนแบบปกติเแล้วระบบ Autolog ยังมีการแนะนำให้เราเพิ่มเพื่อนที่อยู่ในรายชื่อของเพื่อนที่เราเพิ่มลงใน ลิสต์ไปแล้วอีกด้วย อีกทั้งยังมีระบบอย่าง Wall ที่ให้เราเอาไว้โพสสถานะหรือข้อความต่างๆหรือแม้แต่ให้เพื่อนของเรามาทิ้ง ข้อความต่างๆไว้ และยังมีในส่วนของ Photo ที่ตัวเกมนั้นจะมีโหมดถ่ายรูปไว้ในเกมโดยเราที่ถ่ายไว้นั้นจะถูกอัพขึ้น Wall ของเราเองโดยอัตโนมัติเพื่อแบ่งปันกับเพื่อนของเราอีกด้วยและที่เจ๋งสุดๆก็ คือระบบ Autolog นั้นจะทำการอัพเดทค่าสถิติในส่วนของเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดของเพื่อนเราในแต่ ละ Event ในโหมด Career และยังสามารถโพสไปที่ Wall ของคนที่เราเพิ่งทำลายสถิติเพื่อเป็นการท้าทายคู่แข่งของคุณได้อีกด้วย
รถหรูเอามาซิ่งตามสไตล์ Need for Speed
รถในเกมนี้จัดได้ว่าขนกันมาให้ได้เราได้ขับขี่กันเยอะมาก (น่าจะเยอะที่สุดใน ซีรี่ย์ Needfor Speed) ซึ่งแต่ละคันล้วนได้รับการสร้างออกมาได้เหมือนของจริงทุกประการตั้งแต่รูป ร่างยันเสียงสตาร์ทของเครื่องยนต์ของรถแต่ละคัน (เวลาที่เราเลือกรถก่อนจะเข้าแข่งจะมีเสียงสตาร์ทรถให้เราได้ฟัง) และที่น่าประทับใจก็คือนอกจากจะมีรูปร่างต่างสวยงามถูกต้องแล้วรถบางคันยัง มีฟังก์ชั่นต่างๆถูกต้องตามของจริงด้วย ตัวอย่างเช่น Bugatti Veyron 1.6 Grand Sport นั้นจะมีการปรับระดับชอง Spoiler หลังให้เหมาะสมกับความเร็วรถเป็นต้น ถึงแม้ในเกมมันอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบทางด้านแอร์โรไดนามิกส์ก็ตามแต่ก็ต้อง ชมที่ตัวเกมนั้นใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเป็นอย่างดีทีเดียว
โดยร่วมๆ แล้วถ้าเพื่อนๆ คนไหนเป็นสาวกของ Need For Speed สำหรับภาคนี้แล้วต้องห้ามพลาดเลยนะ
เครดิตข้อมูลบางส่วนจาก : www.vagabondteam.com