Atlantica : ทริกปราบมอนสเตอร์ดันเจี้ยนเลเวล 120 และ 124

แชร์เรื่องนี้:
Atlantica : ทริกปราบมอนสเตอร์ดันเจี้ยนเลเวล 120 และ 124

      ยิ่งเลเวลสูง มอนสเตอร์ก็พลังชีวิตก็มาขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่ว่าจะดันเจี้ยนเลเวล 112, 115, 120 หรือ 124 และดันเจี้ยนใหม่ในอนาคต บางทีก็รู้สึกว่าไม่เหมาะจะไปฟาร์มหาไอเทมเลย ไปวนเควสต์เดิมๆ จะดีกว่า แต่ถ้าเข้าใจหลักการปราบมอนสเตอร์บางประเภท การหาเงิน, หาของ และหา Work Load สำหรับสร้างของ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แถมยังได้ EXP ค่อนข้างดีอีกด้วย

วิธีกำจัดพวกมี 2 ร่าง

สถานที่ : บางตัวพบเห็นได้ใน Bulguksa ที่ทำเควสต์ Hwarang และส่วนใหญ่จะพบในดันเจี้ยน Mysteries Inn ที่ทำเควสต์เลเวล 120 และเควสต์อัพเกรด Hero II 

      คุณสมบัติ : เป็นมอนสเตอร์ที่ตายแล้วจะมีร่างที่ 2 ตามมา เช่น Dazzling Monk พอกำจัด ในเทิร์นต่อไปของฝ่ายศัตรู จะกลายร่างเป็น Enchanting Monk เป็นต้น บางทีร่าง 2 จะมาพร้อมกับสกิลหรือการโจมตีที่แรงกว่าปกติ ยิ่งถ้าเป็นบอสงูเควสต์ Hwarang ฟื้นมาตีติด 2–3 ครั้งซ้อน ก็ทำให้หลายคนทรุดได้ทันทีเหมือนกัน

      วิธีปราบ : มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนี้ ถ้าตายระหว่างโดนสกิลดีบัฟที่มีผลต่อเนื่อง ส่งผลในร่าง 2 ด้วย แม้จะไม่แสดงไอคอน แต่สกิลยังคงแสดงผลอยู่ สังเกตจากเลือดที่ลดต่อเนื่อง และอาการผิดปกติบางอย่างจากสกิล ผลดีบัฟจะอยู่นานเท่ากับการใช้สกิลใส่ร่างแรก เช่น ร่าง 1 โดน War Cry 5 เทิร์น แล้วร่างแรกตายทันทีหลังโดนสกิล ร่างสองจะได้รับผล War Cry อีก 4 เทิร์น

 

ถูกกำจัดร่างแรกระหว่างแช่แข็ง ร่าง 2 จะได้รับผลของการสตั๊น

สกิลแนะนำ

 

สกิลประเภทสตั๊น : เหมาะกับมอนสเตอร์หลายๆ ตัวในดันเจี้ยนที่สามารถติดสตั๊นได้ มอนสเตอร์ที่ตายระหว่างถูกแช่แข็ง จะยังคงรับผลของสตั๊นหลังจากคืนชีพ รวมถึงผลการลดความสามารถอย่างลด M.DEF ค้างอยู่อีก

Blazing Earth (Elementalist) : ผลของการลดเลือดจะส่งผลต่อเนื่อง รวมถึงผลลด VIT ทำให้ร่างให้ถูกลดเลือดทันทีเหมือนกับเพิ่งโดนสกิล

สกิลห้ามใช้สกิล : พวก Freezing Sphere, Mana Seal และอื่นๆ เมื่อใช้ใส่ศัตรูแล้วกำจัดได้ทันที เทิร์นต่อไปศัตรูจะยังคงใช้สกิลไม่ได้ เหมาะกับลูกน้องบอสบางตัวที่ใช้สกิลรุนแรงในร่างสองได้

War Cry (Spartan) : ใช้งานได้ดีหลายตัว เพราะผลสกิลยาวนาน และพวกบอสงูตัวสุดท้ายของเควสต์ Hwarang กับบอสที่คืนชีพได้ตัวอื่น ให้ใช้สกิลก่อนกำจัดร่างแรกได้ ผลของ War Cry จะทำให้บอสไม่สามารถโจมตีต่อเนื่องได้อีก

ทั้งนี้แนะนำให้ใช้ War Cry เลเวลสูงๆ หน่อย เพราะบอสบางตัวใช้สกิล War Cry เลเวล 1–20 ยังคงสามารถโจมตีติดสองครั้งได้อยู่ 

 

ซ้ายโดนหอกเลเวล 121 อัพเกรด +8 (1 ฮิต), ส่วนขวาโดนสกิล Blazing Earth ทีเดียว

ประเภทสายประชิด ถึกเวทย์

สถานที่ : หลายแห่ง โดยเฉพาะในดันเจี้ยนเลเวลสูง เช่น Van Gogh หรือดันเจี้ยน Coyote’s Valley (Squad)

คุณสมบัติ : มอนสเตอร์ช่วงหลังนอกจาก HP จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมี DEF พอสมควร กับ M.DEF มากขึ้นยิ่งกว่า ทำให้ศัตรูประเภทดาบ, หอก, ขวาน หรือเลื่อย เป็นตัวที่ใช้เวลากำจัดนานยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเป็นพวกมีสกิลโจมตีแรงๆ ก็ชวนจะทรุดเอาง่าย

วิธีปราบ : มอนสเตอร์ประเภทนี้ถึกจนแทบไม่มีทางแก้อยู่แล้ว นอกจากอาวุธตีบวกสูงๆ โดยไม่พึ่งพาสกิล แต่อันที่จริงมีสกิลหนึ่งที่ใช้งานได้ดี ซึ่งเป็นสกิลเฉพาะตัวของ Elementalist นั่นเอง 

สกิล Blazing Earth มีผลต่อสายประชิดฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด เมื่อใช้กับศัตรูที่ HP เต็ม จะลดค่า VIT ศัตรูก่อน แล้วค่อยสร้างความเสียหาย โดยผลการลด VIT จะไม่สนใจ M.DEF ของเป้าหมาย ทั้งนี้ ถ้าศัตรูบาดเจ็บมาบ้าง จะลด HP ได้ไม่มากนัก ดังนั้นในเทิร์นแรกควรกดผ่านเพื่อสะสม AP แล้วค่อยกดใช้ Blazing Earth ในเทิร์นต่อไป

สกิลลด VIT อื่นที่พอใช้ได้ในบางโอกาสก็มีอยู่บ้าง และบางสกิลมีผลรุนแรงกับบอสด้วย เช่น Broken Arrow (Punisher) ใช้กับพวกสายธนูที่พลังชีวิตยังเต็มได้ดี

 

ลด VIT ใส่ Gate ที่โดนโจมตีไปบ้างแล้ว ลด HP ได้เกือบ 20,000 

 

ในแผนที่ช่วงหลัง Elementalist จะมีความสำคัญยิ่งขึ้น แล้วยังใช้งานได้ดีใน PVP ด้วย เพราะ Mercenary แบบสายประชิดเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น สำหรับหลายคนที่ยังไม่มีทุนเลี้ยง Elementalist เพราะค่าของเควสต์และค่าสกิลที่สูงพอตัว ก็สะสมเงินไปก่อนนะครับ ถ้ามีเงินพอสมควรก็หาเข้าทีมด้วยก็จะช่วยให้เล่นง่ายขึ้นครับ

By.AIR

 

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ