สำหรับตอนนี้เพื่อนๆ ก็คงเล่นไปจนถึงเลเวลสูงๆ กันแล้วละ เพราะว่าเกม Grand Fantasia นี้ทั้งง่ายและก็สนุก แถมมีการจัดกิจกรรมกันแบบไม่ขาดเลยทีเดียว สำหรับทริกที่ผมนำมาในวันนี้ก็จะเป็นวิธีการลงดันเจี้ยน Desterd Temple หรือว่าดันที่เพื่อนๆ เรียกกันง่ายๆ ว่า DT ครับ ส่วนจะทำไงบ้างนั้นไปดูกันเลย
พร้อมลุย DT
สำหรับเกม GFO เริ่มต้นดันแรกที่เราจะได้เข้าก็คือ Prairie Cave หรือ PC ที่ระดับเลเวลประมาณ 20-30 ดันต่อมาก็คือดันเจี้ยน Condemned Mine หรือที่เรียกกันว่า CM โดยดันนี้เลเวลที่ควรจะเข้าโดยประมาณคือ 30-40 ส่วนดันเจี้ยนที่เราจะพูดถึงในวันนี้ซึ่งนั้นก็คือ Deserted Temple ซึ่งดันเจี้ยน DT นี้เพื่อนๆ ควรมีระดับเลเวล 36-46 ครับ
ข้อมูลของ DT
แผนที่ของดันเจี้ยน
สำหรับดัน Deserted Temple จะตั้งอยู่ที่แผนที่ Red Ridge ที่พิกัด 718, 325ในพื้นที่เขตเมือง Jale ครับ โดยดันเจี้ยนนี้จะเป็นดันส่วนตัวที่สามารถเข้าได้ 1 ปารตี้หรือ 5 คน สำหรับระดับเลเวลที่ผมแนะนำให้เพื่อนๆ เข้านั้นเพื่อนๆ ควรจะเข้าตั้งแต่เลเวล 41 เป็นต้นไปครับ เพราะก่อนหน้านั้น ถ้ามาลุยอาจจะช้าทำให้เสียเวลามากกว่าครับ และที่สำคัญเลยคือคนที่ทำหน้าที่แท้งนั้นสมควรจะมีเลเวลมากกว่า 40 และใส่ชุดเกราะที่มีมากกว่าเลเวล 40 ครับ เพราะถ้าต่ำกว่านี้อาจจะสู้บอสไม่ผ่าน
อย่าลืมซื้อก่อนเข้าดันเจี้ยนนะครับ
ดัน Deserted Temple นี้เราสามารถหาซื้อใบดันเจี้ยนได้ที่บอร์ดบริเวณหน้าดัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ใบซึ่งเราต้องเลือกให้ตรงกับอาชีพของเราครับ สำหรับระดับเลเวลที่สามารถซื้อได้นั้นจะอยู่ที่ระหว่างเลเวล 36-46 ครับ สำหรับดันเจี้ยน Deserted Temple นี้จะมีบอสทั้งหมด 4 ตัวก็คือ Lache, Bric, Saguyins , Cassidy โดยบอสทั้ง 4 ก็จะมีวิธีสู้แตกต่างกันครับ
Lache
ค้างคาวสุดน่ารำคาญ
ตอนแรกเมื่อเราเข้าดันเจี้ยนมาก็จะมีมอสเตอร์ 2 ชนิดคือ ค้างคาว Seedy Gaze Bat กับกิ้งก่า Temple Crown Lizard โดยมอสเตอร์ทั้งสองตัวนี้จะเป็นมอสเตอร์ธรรมดาในโซนแรกครับสำหรับความสามารถของตัวมอนนั้น กิ้งก่าจะมีสกิลที่ทำให้เรามีโอกาสโจมตีพลาด 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนค้างคาวนั้นจะมีสกิลทำให้เราไม่สามารถได้รับผลจากการ Heal ได้และยังมีโอกาสยิงเวทมนต์ด้วย ดังนั้นเพื่อนๆ คนไหนที่เล่นเป็นพระก็ต้องแก้บัพให้เพื่อนก่อนถึงจะ Heal ได้นะครับ
บอสตัวใหญ่ดีมาก
เมื่อเราลุยเข้ามาจนถึงห้องบอสที่อยู่ด้านล่างของดันเจี้ยน DT ก็จะมาพบกับบอส Lache เป็นตัวแรกครับ โดยบอสตัวนี้จะเป็นบอสที่สู้ได้ง่ายที่สุดในบอสทุกตัวเลยครับ สำหรับบอสตัวนี้ก็จะมีสกิลทั้งหมด 3 สกิลด้วยกันครับ โดยจะมีสกิลดังนี้คือ สกิลแรก ใบ้แบบกายภาพระดับ 3 สำหรับสกิลนี้จะทำให้เราไม่สามารถใช้สกิลโจมตีแบบกายภาพออกมาได้ แต่ยังสามารถร่ายเวทมนต์ได้อย่างปกติครับ โดยสกิลนี้บอสจะสุ่มใช้ออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นครับ และเมื่อบอสมีระดับเลือดต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ก็จะใช้สกิล Weak 3 ที่จะลดพลังโจมตีและป้องกัน 30 เปอร์เซ็นต์และ ลดเลือด 60 ทุก 2 วินาที นานถึง 8 วินาที โดยสกิลนี้จะเป็นสกิลหมู่ในระยะใกล้ๆ ครับ นอกจากนั้นแล้วสุดท้ายบอสก็ยังจะมีสกิลโจมตีเดี่ยวที่ทำให้ตัวละครเราติดสถานะมึนอีกด้วยครับ
Bric
ถ้ามีสกิลหมู่ดีๆ จะไปไวมาก
หลังจากปราบบอสตัวแรกสำเร็จแล้ว ในโซนต่อมาเราก็จะเจอกับมอนสเตอร์ชนิดใหม่ครับ โดยจะมีมอสเตอร์ 3 ชนิดคือ Saffron Warrior, Saffron Guard, Black Bone Mecha Soldier สำหรับตัวแรก Saffron Warrior จะมีความสามารถโจมตีแบบหมู่ในระยะใกล้ๆ ส่วนอีกตัวคือ Saffron Guard จะมีความสามารถในการใช้สกิลที่จะติดสถานะ Paralysis 3 ส่งผลให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ – 50 และความเร็วการโจมตีลดลง 40 เปอร์เซ็นต์ และตัวสุดท้าย Black Bone Mecha Soldier นั้นไม่มีความสามารถใดๆ แต่จะมี Hp ที่เยอะและโจมตีในระยะไกลแทนครับ
ยืนซะเด่นเลยบอสตัวนี้
จากนั้นให้เราลุยไปจนถึงห้องบอส Bric เลย สำหรับบอสตัวนี้นั้นจะมีลูกน้องยืนอยู่ข้างๆ 2 ตัวครับ ซึ่งถ้าเราจะสู้กับบอสก็ควรจะกำจัดลูกน้องทั้ง 2 ก่อนโดยเริ่มให้คนแท้งเป็นคนเรียกบอสไว้ ส่วนคนอื่นก็ให้รุมไปที่ตัวลูกน้องทั้ง 2 จากนั้นค่อยมาลุยกับบอสครับ สำหรับบอสตัวนี้จะมีสกิลเรียกลูกน้องที่เป็นเสือออกมาได้เรื่อยๆ ซึ่งบอสจะสามารถเรียกได้มากสุดคือ 2 ตัวครับ ตรงนี้ถ้าเรามีเลเวลสูงก็ปล่อยผ่านไปก็ได้แต่ถ้าเลเวลไม่สูงก็ควรแบ่งหน้าที่มาคอยที่ลูกน้องซักคนหนึ่ง สำหรับสกิลต่อมาของบอสตัวนี้ก็คือสกิล War Cry โดยจะลดค่า Hit ของเรา 30 เปอร์เซ็นต์ และถ้าเราตีบอสจนเหลือ Hp ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์บอสก็จะใช้สกิล Pain 3 ออกมาซึ่งจะเป็นการเพิ่มระยะเวลาในการร่ายเวทมนต์เป็น 2 เท่าครับ ดังนั้นสำหรับบอสตัวนี้คนที่เป็นพระจะต้องอยู่ในระยะห่างในช่วงหลังๆ เพื่อที่จะ Heal ได้ต่อเนื่องครับ ไม่งั้นโดนสกิล Pain ไปอาจจะ Heal ไม่ทันได้ในช่วงท้ายครับ
Saguyins
รุมไปทีละตัวสบายๆ
สำหรับโซนสุดท้ายจะมีมอสเตอร์จำนวนพวก Imp อยู่ 2 ชนิดครับ ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้จะไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก โดยมอสเตอร์ 2 ชนิดนี้จะมี Hp ที่เยอะและพลังโจมตีที่รุนแรง พร้อมทั้งความสามารถในการยิงเวทมนต์ได้ แต่มอสเตอร์ 2 ชนิดนี้จะมาที่ละ 1 ตัว หรือ 2 ตัวให้เรารุม โจมตีก็จะผ่านไปได้ง่ายๆ ครับ
รุมบอสก็ระวังลูกน้องบอสด้วย
มาถึงบอสตัวที่สามกันแล้วนะครับ กับบอส Saguyins สำหรับบอสตัวนี้จะอยู่ลึกสุดของดันเจี้ยน DT นี้เลย สำหรับสกิลของบอสตัวนี้นั้นจะมีด้วยกัน 2 สกิลด้วยกัน คือสกิลเรียกลูกน้องและสกิลสตันหมู่ในระยะใกล้ สกิลแรกสกิลเรียกลูกน้องนั้นจะเรียก Skeleton Magus ออกมาครับ ซึ่งมอสเตอร์ที่ออกมาจะมีสามารถใช้สกิลที่จะทำให้มีโอกาสพลาดในการใช้สกิล 60 เปอร์เซ็นต์ด้วยนะครับ ดังนั้นต้องคอยตีกำจัดครับไม่งั้นถ้าเกิดติดขึ้นมาแล้วจะทำให้สู้บอสยากขึ้นและเมื่อบอสเลือดเหลือน้อยก็จะเริ่มใช้สกิลสตันหมู่ในระยะใกล้ ซึ่งบอสจะใช้รัวมากๆ ครับ ดังนั้นถ้าอาชีพไหนมีอาวุธที่โจมตีระยะใกล้เมื่อบอสเลือดเหลือน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ก็ให้ถอยออกมายิงในระยะไกลก็จะปลอดภัยครับ
กล่องหน้าตางี้แหละตีเลย
และสุดท้ายหลังจากลุยผ่านบอส ทั้ง 3 ตัวและทำเควสต์ครบหมดแล้วเราก็จะได้เข้าไปลุยกับบอสใหญ่ Cassidy ครับ โดยบอสใหญ่ตัวนี้จะมีสกิลที่โหดๆอยู่เยอะพอสมควรเลยละครับ เริ่มต้นเราต้องหาไอเทมที่เราจะใช้วาร์ปเข้าไปในห้องบอสเสียก่อนโดยเราจะต้องตีมอสเตอร์ที่เป็นกล่องครับ สำหรับกล่องนี้จะสุ่มเกิดที่บอสทั้ง 3 ตัว และเมื่อเราตีกล่องก็จะได้ไอเทม Energy Crystal ครับ โดยไอเทมนี้เราจะต้องมีคนละ 1 ชิ้นและไปคุยที่บอลแสงก็จะสามารถวาร์ปไปที่ห้องบอสใหญ่ได้ครับ
Cassidy
บอสตัวใหญ่มาก
สำหรับบอสใหญ่ บอสตัวนี้จะมีสกิลเรียกลูกน้องออกมาเป็น Temple Defender Spirit ซึ่งจะออกมาอย่างต่อเนื่องเลยละครับ โดยตัวลูกนี้นอกจากสร้างความรำคาญแล้วบางทียังดูด Mp ของเราด้วย เมื่อเราสู้กับบอสไปเรื่อยๆ จนบอสมีเลือดน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์บอสก็จะเริ่มใช้สกิลหมู่ที่จะทำให้เกิดอาการหลับหมู่ออกมา พร้อมกับโจมตีออกมาเป็น เวทมนต์ด้วย โดยสกิลนี้จะทำให้หลับนานมากถึง 12 วินาทีเลยทีเดียวซึ่งบอสจะใช้สกิลนี้บ่อยมากๆ ดังนั้นไม่ควรให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนแท้งอยู่ใกล้บอสในช่วงเลือดน้อยเลยครับ
ดังนั้นถ้าเรามีอาชีพที่โจมตีระยะไกลอย่างธนูหรือว่านักเวทย์ก็จะสู้ได้ง่ายขึ้นครับ ส่วนอาชีพอื่นนั้นก็ให้เตรียมอาวุธพวกปืนหรือธนูมาด้วยก็จะช่วยยิงได้ครับ นอกจากนั้นแล้วบอสยังใช้สกิล Daze 3 ที่จะทำให้พลังโจมตีเวทมนต์ลดลง 30 พลังป้องกันเวทมนต์ลด 30 และลด Mp 60 ทุกๆ 2 วินาที ซึ่งสกิลนี้จะใช้ออกมาในระยะใกล้ๆ ดังนั้นคนแท้งก็ต้องพยายามใช้ MP ให้คุ้มค่าที่สุดครับ โดยเมื่อโดนสกิลนี้ก็ให้รีบกดสกิลให้ MP หมดไม่งั้นก็จะโดนดูด MP จนหมดแทนครับ
ไอเทมที่น่าสนใจใน DT
สำหรับดันเจี้ยน Deserted Temple เมื่อเราสู้บอสใหญ่จนจบแล้วก็จะผ่านเควสต์ที่เราซื้อมาหน้าดันเจี้ยนครับ โดยเมื่อเราส่งก็จะได้ไอเทมสีเขียวหรือฟ้าระดับ 35-45 มา นอกจากนั้นดันเจี้ยนระดับ DT ยังมีโอกาสได้สัตว์ขี่ชนิดถาวรด้วยนะครับ
ของที่ดรอปในดันเจี้ยนนี้ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นไอเทมระดับ 36-46 ครับ ดังนั้นถ้าใครอยากได้ไอเทมดีๆ ก็มาลุยหากันได้ครับเลยครับสำหรับดันนี้ สำหรับของอีกชนิดที่ทำให้ดันเจี้ยน Deserted Temple นี้น่าสนใจก็คือไอเทม Saphael’s Spirit of the Sky และ Saphael’s Spirit of the Earth ครับ ซึ่งไอเทมทั้ง 2 ชนิดนี้จะสามารถหาได้ในดัน DT นี้ครับ สำหรับ ไอเทมนี้นั้นจะใช้ในการทำชุดเซ็ตระดับ 40 ดังนั้นถ้าใครอยากใส่เซ็ต 40 ละก็เข้ามาลุยหากันได้เลย
การจัดปาร์ตี้
การจัดปารตี้เพื่อจะลงดัน DT นั้นจะต้องมี พาราดินที่เป็นคนแท้ง 1 คนครับ โดยจะต้องมีเลเวลมากกว่า 40 และใส่เกราะที่มีระดับมากกว่า 40 ด้วย ส่วนถ้าอยากจะใช้อาชีพเบอร์เซิร์กนั้นจะต้องมีเลเวลสูงๆ เลยละครับ แนะนำให้มากกว่า 45 ขึ้นไป ส่วนอีกอาชีพนั้นให้เป็นครีริกหรือเสกก็ได้ครับ ไม่แตกต่างเท่าไรนักแต่ถ้าจะให้ดีคริริกก็จะดีกว่าครับเพราะมีบัพเพิ่มพลังโจมตี สำหรับอีก 3 คนที่เหลือนั้น แนะนำให้มีนักธนูหรือนักเวทมนต์อย่างน้อย 1 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นอาชีพอะไรก็ได้ครับ แต่ต้องมีอาวุธประเภทธนูหรือปืนติดมาด้วยเท่านั้นเอง
ไว้ลุยกันใหม่นะครับ
สำหรับดันเจี้ยนนี้นอกจากจะทำเควสต์แล้วยังจะเป็นดันเจี้ยนทำเงินได้เป็นอย่างดีเลยละครับและสุดท้ายก่อนจากก็ขอขอบคุณ Coconut และ WeSky กิล CluBDeaTh เซิร์ฟเวอร์ Rainbow ที่มาช่วยในการลุยดันเจี้ยน DT นี้นะครับ สำหรับตอนนี้ก็หมดหน้าแล้วละ ไว้พบกันใหม่เล่มหน้าละกันนะครับ