Bumpy Crash : สายไหนเด่นอย่างไร ตีบวกแบบไหนให้เทพ วันนี้เรามีคำตอบให้ มาดูกันเลย

แชร์เรื่องนี้:
Bumpy Crash : สายไหนเด่นอย่างไร ตีบวกแบบไหนให้เทพ วันนี้เรามีคำตอบให้ มาดูกันเลย

    หลังจากที่ระบบตีบวกรถเข้ามา เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะหมดเนื้อหมดตัวกันเป็นแถวๆ เพราะอยากจะเทพ ก็ต้องกระหน่ำตีบวกให้รถแรงๆ กันไป แต่เพื่อนๆ เคยรู้บ้างไหมว่ารถ Bumpy แต่ละคัน นอกจากจะมีสกิลและธาตุแล้ว เรายังสามารถนำมาจัดสายการเล่นในรูปแบบต่างๆ ได้ จึงเป็นที่มาของหัวข้อที่เราจะพูดถึงกันในครั้งนี้

สายการเล่นรูปแบบต่างๆ

รถแต่ละคันความสามารถแตกต่าง

    คงจะแปลกใจไม่น้อย ที่ไม่คิดว่ารถ Bumpy จะมีสายการเล่น เพราะหากเราเอาไปเล่นแบบไม่คิดอะไรมาก ก็เพียงแต่คิดว่าชนให้โดนก็เป็นพอ แต่หากจะเล่นให้เป็นโปรแล้วละก็ ควรคำนึงถึงรูปแบบสายการเล่นด้วย ซึ่งหากเราเข้าไปในร้านค้าและสังเกตดูรถแต่ละคันแบบที่ยังไม่ตีบวก หรือใส่เครื่องประดับใดๆ เราจะเห็นว่า รถแต่ละคันนั้นต่างก็มีค่า Status ที่แตกต่างกันไป ถึงแม้จะเป็นรถในสังกัดธาตุเดียวกัน ก็จะมีค่า Status แตกต่างกันด้วย

    เมื่อเราดู Status ของรถแล้วเราจะรู้ได้ทันทีว่ารถคันไหนเหมาะกับสายการเล่นใดบ้าง ซึ่งสายการเล่นที่ผู้เล่นนิยมเล่นกัน จะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 สายใหญ่ๆ ได้แก่

    - สาย Power (พลัง)
    - สาย สนับสนุน
    - สาย สมดุล


    เห็นสายการเล่นแบบนี้อาจจะยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงมีสายการเล่นลักษณะนี้เกิดขึ้นมา เพราะในการเล่นแบบเป็นทีม หากเราเข้าใจหน้าที่ของตัวเองและใช้รูปแบบการเล่นที่ถนัด จะทำให้เกิดประโยชน์กับทีมเป็นอย่างมาก และสายการเล่นในรูปแบบที่เราได้ศึกษามานั้นจะมีการเลือกรถ Bumpy และการ Modify รถดังนี้

สาย Power (พลัง)

มีดีที่ความแรง

    สายการเล่นลักษณะนี้ไม่มีอะไรมาก คิดไว้เพียงแค่ ชน ชน แล้วก็ชนเท่านั้น สาย Power หรือสายบ้าพลัง เป็นสายการเล่นที่เรียกได้ว่าเป็นตัวทำเกม หรือตัวเปิดเกม เพราะสายนี้ เราจะต้อง Modify รถให้เน้นไปที่ค่า Power เท่านั้น หากเป็นรถธาตุไฟ จะยิ่งสร้างความเสียหายได้สูงมาก เพราะสกิลโจมตีธาตุในระดับ 2 มีความรุนแรงสูงนั่นเอง หรือจะเป็นรถธาตุอื่นก็ได้เหมือนกัน เพราะสกิลโจมตีของแต่ละธาตุต่างก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบของตัวเราด้วย ซึ่งวิธีการเลือกรถของสาย Power นี้ ให้เลือกรถที่มีค่า Power สูงๆ และใส่เครื่องประดับที่เพิ่ม Power เพิ่มเติมได้เข้าไปอีก ก็จะยิ่งทำให้ชนได้รุนแรงมากยิ่งขึ้น 

1990 โดนไปไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

    สำหรับสายพลัง เป็นสายที่จะต้องอาศัยการโจมตีที่รุนแรง เป็นคนทำเกม โดยการเข้าชนแต่ละครั้ง ควรที่จะคำนึงถึงการใช้คอมโบไอเทมต่างๆ ด้วย เพราะมันจะช่วยสร้างความเสียหายแบบต่อเนื่องได้มากเลยทีเดียวเชียว แต่ถึงกระนั้น สายพลังก็ไม่ควรที่จะชนแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเราอาจจะโดนสกิล Counter สวนกลับก็ได้ จึงควรที่จะระวังในจุดนี้ ซึ่งวิธีการก็ง่ายๆ ผู้เล่นส่วนมากมักจะชอบกด Counter Skill ตอนที่จะถูกชนแบบ Super Shot เกือบจะทุกคน เพียงแค่เราเว้นช่วงในจังหวะที่จะชนแบบ Super Shot และรอให้ผลของสกิล Counter หมด แล้วค่อยชนหรือจะใช้ไอเทมชนิดที่สร้างความเสียหายใส่ก็ได้ ก็จะทำให้เราสามารถชนได้แบบไม่ติดสกิล Counter

การตีบวกของสาย Power

    สำหรับการตีบวก ให้เราดูที่ความต้องการค่า Power เป็นหลัก เช่น หากเราต้องการจะชนให้หนักก็กดบวกที่ค่าพลัง แต่การตีบวกพลังใช่ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเสมอไป เพราะอย่าลืมว่าเราต้องทำหน้าที่เป็นตัวเปิดการโจมตี จะต้องมีพลังชีวิตไว้บ้าง อาจะเลือกที่จะบวกค่าความคงทนเพื่อเพิ่มพลังชีวิตก็ได้

สายสนับสนุน

แบบนี้เค้าเรียกหนูติดจรวด

    สายสนับสนุน (หรือเรียกตามหน้าที่ก็เรียกว่าสายหรอย สายตุ๊ด สายเนียน ก็ว่ากันไป) สายนี้ต้องอาศัยฝีมือในการเล่นพอสมควร เพราะสายการเล่นเราต้องพึงคิดเสมอว่า พยายามเจ็บตัวให้น้อยที่สุด ซึ่งรถ Bumpy ที่เหมาะกับการเล่นรูปแบบนี้คือรถที่มีอัตราการพุ่งชน ความเร็ว หรือ เบรก อย่างใดอย่างหนึ่งสูงๆ หรือจะมีครบเลยก็ได้จะเหมาะมากที่จะเล่นรูปแบบนี้ เพราะเราจะอาศัยความคล่องตัวของรถ ในการหลบหลีกการโจมตีรูปแบบต่างๆ ของคู่ต่อสู้ และหาจังหวะสวนกลับ ไม่ว่าจะเป็นการชน การใช้สกิล หรือแม้แต่วิ่งเก็บไอเทมมาคอยใช้ลดเลือดฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา

Strike !!!

    นอกจากนี้ในจังหวะตะลุมบอน สายสนับสนุนนี้จะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะการเล่นสายสนับสนุน เราไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปบวกกับฝ่ายตรงข้าม แต่คอยวิ่งอยู่รอบนอกรอโอกาส ซึ่งจะมีอยู่ 2 กรณีที่สายสนับสนุนจะต้องทำก็คือ หากเพื่อนในที่กำลังตกเป็นรองฝ่ายตรงข้าม ให้เราที่คอยอยู่วงนอกนั้น พุ่งเข้าไปชนในจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามจะเข้าไปชนเพื่อนของเรา เป็นการทำลายจังหวะเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนในทีมตั้งหลักและสวนกลับมาได้ ส่วนหน้าที่อีกอย่างก็คือ ทุกๆ ครั้งของการชนในแบบ Super Shot รถ Bumpy ที่ถูกชนมักจะกระเด็น ซึ่งหน้าที่ของสายสนับสนุนคือ ชนรถที่กระเด็นออกมานั้นส่งกลับไปหาเพื่อนเรา เป็นการชนส่งเพื่อให้เพื่อนเราจัดการต่อนั่นเอง จะเรียกว่าเป็นการรุมก็ไม่ผิด เพราะการชน 2 คนจะยิ่งช่วยให้จัดการได้ไวกว่าชนคนเดียว นอกจากนี้ยังสามารถวิ่งเก็บไอเทมสนับสนุนเพื่อน หรือปั่นป่วนฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี

การตีบวกของสายสนับสนุน

    สำหรับสายนี้การตีบวกความเร็ว เบรก หรืออัตราเร่ง จะช่วยให้ขีดความสามารถของรถสูงขึ้น ส่งผลให้เราสามารถทำหน้าที่สนับสนุนได้อย่างเต็มที่ หรือเราอาจจะตีบวกค่าความคงทนเพื่อลบจุดด้อยในเรื่องของพลังชีวิตที่น้อย ให้มีเพิ่มมากขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับค่า Status เดิมของรถที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นด้วย

สายสมดุล

ไม่เด่นไปทางใดทางหนึ่ง

    สายนี้เป็นสายสำหรับคนหลายใจ ที่ไม่อยากให้รถเด่นไปในทางใดทางหนึ่ง แต่อยากเล่นให้ได้หมดทุกๆ หน้าที่ในรถคันเดียว ซึ่งรถ Bumpy ที่มีค่า Status แบบสมดุลนี้จะมีเพียงไม่กี่คัน สังเกตได้จากค่า Status ของรถจะเท่ากันหมด หรือมีข้อแตกต่างกันเพียงน้อยนิด ซึ่งสายสมดุลนี้ เราสามารถ Mix ของแต่งกายเพื่อเพิ่มค่า Status ได้หลายรูปแบบ เพราะเราสามารถเป็นได้ทั้งสายพลัง เราก็ใส่เครื่องประดับที่เพิ่มค่าพลังเข้าไป หรืออยากทำหน้าที่สนับสนุนก็ใส่เครื่องประดับที่เพิ่มความเร็ว เราก็จะกลายเป็นสายสนับสนุนทันที แต่ยังไม่หมด สำหรับข้อดีของสายสมดุล หากสังเกตที่ค่าความคงทน จะเห้นว่าสายสมดุลจะมีความคงทนสูง ทำให้มีพลังชีวิตเยอะกว่ารถสายอื่นนั่นเอง

เลือดเยอะ โดนไม่สะเทือน

    แต่ถึงแม้รถสายสมดุลจะสามารถเล่นในบทบาทของสายอื่นๆ แทนได้ แต่ก็ใช่ว่าจะทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุด เนื่องจาก เพราะมีค่า Status ไปในทางสมดุลหากเรา Modify เป็นสายอื่น ก็อาจทำหน้าที่นั้นได้ไม่ถึงที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากเราใส่อุปกรณ์เพิ่ม Power ให้เป็นสายพลัง เราอาจจะชนได้รุนแรง แต่ก็แรงไม่เท่ากับรถที่เป็นสายพลังโดยแท้ เพราะรถสายพลังโดยแท้จะมีค่า Status ของ Power มากกว่านั่นเอง

การตีบวกของสายสมดุล

   สำหรับการตีบวกของรถสายนี้ เราสามารถตีบวกเพิ่มได้ทุกค่า ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้รถเราเด่นไปในทางไหน ด้วยค่า Status อื่นๆ เดิมทีที่มีอยู่อย่างเท่าๆ กัน จะช่วยลบจุดด้อยของรถในแต่ละจุดได้นั่นเอง นอกจากนี้ หากเราไม่พอใจเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงค่าที่เราได้ตีบวกไปให้เป็นค่าอื่นก็ยังได้ แต่ก็จะสิ้นเปลืองอยู่เหมือนกัน

อยากแรงส่วนไหนตีบวกเข้าไปเลย

    จะเห็นได้ว่า Status ของรถนั้น จะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นของเราด้วย เพราะหากเราเลือกรถที่มีค่า Status ไม่ตรงกับรูปแบบการเล่น อย่างเช่นรถที่มี Power น้อย แต่จะให้มาเล่นสาย Power มันก็จะไม่สามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การ Modify รถด้วยการใส่เครื่องประดับ และการตีบวก ก็จะยิ่งส่งผลให้การเล่นในแต่ละแบบมีประสิทธิภาพสูงขึ้นนั่นเอง

ขอบคุณบทความจากคุณ Aon ด้วยครับ

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ