Rohan : ตีแผ่ความสามารถทั้ง 4 เผ่าเล่นยังไงให้เทพ

แชร์เรื่องนี้:
Rohan : ตีแผ่ความสามารถทั้ง 4 เผ่าเล่นยังไงให้เทพ

     Rohan ในช่วง CBT ที่จะเปิดให้เราได้เลือกเล่นกัน 4 เผ่าก่อน โดยที่แต่ละเผ่าก็มีความแตกต่างกันไป ทั้งรูปร่างหน้าตา อาชีพ และทักษะที่ใช้ ซึ่งในจุดนี้เราจะต้องมาเรียนรู้กันก่อนเล่นจริงว่า สไตล์การเล่นของเรานั้นเหมาะกับเผ่าไหน เพื่อเป็นตัวเลือกในการเล่นจริง เราจึงได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนมาให้เพื่อนๆ ได้รับทราบ และจะได้เล่นกันได้อย่างไม่สับสน โดยเราจะเล่นก่อนคืน Human, Elf, Half Elf และ Dhan ซึ่งเรามีแนวทางการเล่นของแต่ละเผ่ามาให้ได้ ได้เลือกพิจารณากัน

Human

แนวทางการเล่น Human

     สำหรับเผ่ามนุษย์อย่างที่เราทราบกันดีว่ามีจุดเด่นในเรื่องของพลังป้องกันและพลังชีวิต ทำให้สายการเล่นของเผ่ามนุษย์นั้นเราสามารถเลือกเล่นได้ขึ้นอยู่กับความชอบ ว่าเราจะเลือกเล่นให้เป็นการเสิรมจุดเด่นให้ดียิ่งขึ้น หรือจะเพิ่มเติมในส่วนของจุดด้อยให้หมดไป เราจะแบ่งสายการเลือกอัพ Status ให้ดังนี้
     -สาย Str, Vit เป็นสายที่ช่วยเพิ่มเติมในส่วนของพลังป้องกันของตัวเองให้สูงยิ่งขึ้น โดยการอัพในรูปแบบนี้จะเหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการเลือกเล่นเป็นตัวชนให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ
     -สาย Str, DEX การเลือกอัพ Status ในรูปแบบนี้จะเป็นการเสริมในเรื่องของการโจมตี เพราะค่า DEX จะช่วยให้เราโจมตีไม่พลาด อีกทั้งยังเพิ่มความเสียหายเมื่อติด Critical อีกด้วย
     เนื่องด้วยไม่ว่าสายไหนๆ ต่างก็ต้องอัพค่า Str เพราะเผ่ามนุษย์จะต้องใช้การโจมตีกายภาพเป็นหลัก และ Status ที่เหลือต่างก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน แต่ข้อควรจำก็คือ ไม่ว่าจะเล่นสายใด พลังชีวิต เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเผ่ามนุษย์ เพราะไม่มีเผ่าไหนสามารถเป็นตัวชนได้ดีเท่ามนุษย์นั่นเอง

Skill ที่สำคัญ

     Skill ที่จำเป็นของเผ่า Human ในตอนที่ยังเป็น Knight นั้น อาจจะดูไม่ค่อยมากนัก เพราะเราสามารถเก็บแต้มสกิลไปเลือกอัพสกิลที่ดูมีประโยชน์มากกว่าในระดับสูง แต่เราก็ควรมีติดตัวเอาไว้ใช้งานบ้าง เพราะจะทำให้เราสามารถเก็บเลเวลได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

      Blaze หรือ Darkness เป็นสกิลบัฟธาตุลงไปใส่ในอาวุธ ทำให้มีพลังโจมตีและพลังป้องกันธาตุดังกล่าวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้ติดสถานะผิดปกติอีด้วย โดยสกิล Blaze จะทำให้เมื่อโจมตีจะดูดซับความเสียหายกลับมาฟื้นพลังชีวิตให้เรา และสกิล Darkness จะทำให้เป้าหมายมีโอกาสที่จะความเร็วในการโจมตีลดลง
      Rising Might สกิลบัฟที่จะช่วยเพิ่มค่า Str ให้กับเป้าหมายช่วงระยะเวลาหนึ่ง เป็นสกิลบัฟที่จะทำให้เราโจมตีได้รุนแรงขึ้น
      Protection สกิลบัฟที่ส่งผลให้พลังป้องกันเพิ่มขึ้น โดยคิดค่าพลังจากเครื่องป้องกันที่สวมใส่อยู่ ยิ่งเครื่องป้องกันมีค่า Defense มากก็จะได้รับโบนัสค่าป้องกันเพิ่มมากขึ้น
      Sharpen Blade สกิลบัฟที่จะเพิ่มพลังโจมตีให้กับ Knight เมื่อใช้อาวุธมือเดียวยกเว้นอาวุธประเภทมีดที่จะไม่ได้รับผลจากสกิลบัฟอันนี้
      Invoke เป็นสกิลที่จะเพิ่มค่าความเสียหายเมื่อติด Critical โดยจะคิดจากค่า DEX ที่เรามี ยิ่งเรามีค่า DEX มาก็จะทำให้ความแรงของ Critical เพิ่มมากขึ้น
      Bleeding เป็นสกิลโจมตีอันเดียวที่ดูจะมีประโยชน์มากที่สุดในคลาสของ Knight เพราะจะทำให้เป้าหมายติดสถานะเลือดออก โดยผลของเลือดออกนั้นความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับความเสียหายเมื่อเราใช้สกิลออกไปนั่นเอง ยิ่งเราโจมตีได้รุนแรง อัตราการสูญเสียพลังชีวิตก็จะสูงตามไปด้วย

Elf

แนวทางการเล่น Elf

     สำหรับการเล่น Elf นั้น ในช่วงแรก Elf จะมีอาชีพประจำเผ่าคือ Healer โดยการเลือกสายการเล่นเราจะต้องดูจากแนวทางการอัพสกิลของเรา เพราะสกิลบางประเภทมีเงื่อนไขในการใช้งานแตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถแบ่งสายการเล่นออกเป็น
     -สาย Int, Psy โดยการอัพStatus ในรูปแบบนี้เหมาะสำหรับสกิลของ Healer ทุกๆ สกิล เพราะสกิลเพราะสกิลทุกๆสกิล จะต้องการค่า Status ทั้ง 2 ค่านี้คิดความรุนแรงนั่นเอง แต่การอัพรูปแบบนี้จะทำให้ Elf มีพลังชีวิตน้อยลงไปด้วย
     -สาย Int, Vit เป็นสายที่เพิ่มเติมในส่วนของพลังชีวิตให้สูงขึ้น เหมาะที่จะเข้าไปลุยในสถานที่โหดๆ ได้ เพราะมีพลังชีวิตและพลังป้องกันเพิ่มขึ้นมานั่นเอง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นสายสนับสนุน
     สำหรับความรุนแรงในการโจมีของ Elf นั้นจะขึ้นอยู่กับค่า Int แต่ก็มีสกิลบางชนิดที่คิดความรุนแรงจากค่า Psy ด้วยเช่นกัน แต่หากมองโดยรวมแล้วค่า Int จะสำคัญมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้ความรุนแรงในการโจมตีแล้ว ยังทำให้ปริมาณการฟื้นฟูเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Skill ที่สำคัญ

     เมื่อยังเป็น Healer อยู่ Elf จะมีสกิลที่เน้นไปที่การรักษาและการสนับสนุน จะมีสกิลที่ใช้โจมตีเพียง 2 สกิล ซึ่งความรุนแรงไม่สูงมากนัก ทำให้การเล่น Elf ในช่วงแรกๆ เราจะต้องพึ่งพาปาร์ตี้จะทำให้เราสามารถดึงประสิทธิภาพของ Healer ออกมาได้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังมีสกิลที่เอาไว้ใช้สนับสนุนการโจมตีของเพื่อนในกลุ่มได้อีกด้วย

     Heal สกิลฟื้นฟูสกิลแรกที่เราจะได้เรียนรู้ โดยปริมาณที่ฟื้นฟูได้นั้นจะขึ้นอยู่กับค่า Int และ Psy
     Mind Blast เป็นสกิลสนับสนุนเพื่อนๆ ในกลุ่มได้เป็นอย่างดี เพราะผลของสกิลจะทำให้เป้าหมายไม่สามารถขยับตัวได้ 100% หากใช้งานร่วมกับผู้เล่นที่สามารถโจมตีระยะไกลได้จะเป็นประโยชน์มากเลยทีเดียว
     Group Heal อีกหนึ่งสกิลฟื้นฟู ที่จะส่งผลให้กับทีมของตัวเองทั้งหมด โดยปริมาณการฟื้นฟูจะขึ้นอยู่กับค่า Int และ Psy
     Instant Heal เป็นสกิลฟื้นฟูแบบฉับพลัน ที่จะไม่มีระยะเวลาในการร่าย ทำให้สามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ระยะเวลา Cooldown ค่อนข้างนานทำให้ใช้งานได้ไม่ต่อเนื่องนัก
     Magic Barrier เป็นสกิลบัฟที่ใส่ให้กับเป้าหมายที่เลือกไว้ โดยผลของสกิลจะทำให้สามารถป้องกันการโจมตี้ได้ในช่วงทีสถานะเกราะยังคงอยู่ โดยความหนาของเกราะจะขึ้นอยู่กับค่า Psy ของตัวผู้ร่าย
     Mental Barrier สกิลเพิ่มพลังป้องกันให้กับเป้าหมายที่เลือก โดยที่ค่าป้องกันที่เพิ่มขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับค่า Int ของตัวผู้ใช้ เป็นสกิลที่ช่วยให้โดนโจมตีเบาลง
     Revive เป็นสกิลที่จะทำให้สามารถฟื้นคืนชีวิตให้กับเป้าหมายที่ตาย โดยที่จะได้รับพลังชีวิตและค่าประสบการ์ณกลับคืนมาด้วย โดยที่ผลของสกิลนั้นจะขึ้นอย่กับระดับเลเวลของสกิล ยิ่งเลเวลสกิลสูงก็จะคืนค่าประสบการณ์ที่เสียไปตอนตายคืนกลับมาได้มากเช่นกัน

Half Elf

แนวทางการเล่น Half Elf

     สำหรับแทวทางการเล่น Half Elf ในตอนที่ยังเป็น Archer นั้น จะมีค่า Status ที่สำคัญต่อการเล่นก็คือค่า DEX เพราะค่า DEX จะช่วยให้โจมตีได้รุนแรงขึ้น อีกทั้งเมื่อคิด Critical ก็จะเพิ่มความเสียหายขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเราจึงแบ่งสายการเล่นออกเป็น
     -สาย Dex, Agi การเล่นสายนี้เหมาะที่จะนำไปเก็บเลเวล เพราะนอกจากเราจะได้พลังโจมตีเพิ่มขึ้นเลเวล เรายังได้ค่าหลบหลีก ที่จำเป็นต่อการเก็บเลเวลอีกด้วย ทำให้เราไม่ถูกโจมตีจากมอนสเตอร์บ่อยนั่นเอง
     -สาย Dex, Vit สายนี้จะเป็นการเพิ่มเติมในส่วนของพลังชีวิต ซึ่งพลังชีวิตนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นเพื่อที่จะเผื่อการ PK เนื่องจากหากมีพลังชีวิตที่น้อย การที่จะไป PK กับผู้เล่นอื่นนั้นจะเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว

Skill ที่สำคัญ

     ในช่วงเลเวลต้นๆ เราจะมีอาชีพเป็น Archer โดยที่สกิลส่วนมากจะเน้นไปที่สกิลบัฟเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวเสียมากกว่า แต่ก็ยังมีสกิลที่เอาไว้ใช้โจมตีอยู่บ้าง แต่ที่ใช้งานแล้วเกิดประโยชน์จริงๆ กลับมีเพียงไม่กี่สกิลซึ่งสกิลที่เราควรให้ความสำคัญในช่วงต้นได้แก่

      Frozen หรือ  Darkness เป็นสกิลบัฟธาตุเข้าไปในอาวุธ ทำให้มีพลังป้องกันธาตุและการโจมตีเป็นธาตุนั้นๆ เพิ่มขึ้น โดยที่ยังมีสถานะผิดปกติติดไปด้วย โดยที่สกิล Frozen เมื่อโจมตีทุกๆ ครั้งจะมีโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะเคลื่อนที่ช้า ส่วนสกิล Darkness จะทำให้เป้าหมายโจมตีได้ช้าลง
      Long Shot เป็นสกิลบัฟที่จะทำให้เราสามารถโจมตีได้ไกลขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ถึงแม้จะไม่นานมากแต่ก็มีประโยชน์ ทำให้เราโจมตีได้ฟรีๆ หลายครั้งก่อนเป้าหมายจะถึงตัวเรา
      Enhanced Arrow สกิลบัฟที่ทำให้ความรุนแรงในการโจมตีจากลูกธนูเพิ่มขึ้น โดยที่ความแรงในส่วนนี้จะไปเพิ่มให้กับลูกธนูที่เราใช้งาน อาจจะดูเหมือนไม่มาก แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์
      Bleeding Shot เป็นสกิลโจมตีที่มีประโยชน์มาก เพราะจะทำให้เป้าหมายติดสถานะเลือดออก ซึ่งความรุนแรงนั้นจะขึ้นอยู่กับความเสียหลายที่เราทำได้ ยิ่งโจมตีได้รุนแรงสถานะเลือดออกที่ติดนั้นก็จะยิ่งสูญเสียพลังชีวิตเพิ่มมากขึ้น     
      Nimble สกิลบัฟเพิ่มค่า DEX ของเราให้สูงขึ้น โดยจะส่งผลให้พลังโจมตีและความเสียหายเมื่อเกิด Critical สูงยิ่งขึ้น
      Fatal สกิลบัฟที่จะนำค่า DEX ของเราไปคิดเป็นโบนัสความเสียหายเมื่อเกิด Critical โดยที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นยิ่งเรามีค่า DEX ที่สูงขึ้น Critical ของเราก็จะรุนแรงขึ้นตามเช่นกัน
      Evade สกิลบัฟเพิ่มค่าหลบหลีก ซึ่งค่าหลบหลีกจำเป็นอย่างมากในการเก้บเลเวล ยิ่งเรามีค่าหลบหลีกที่สูงขึ้นแล้วการที่จะหลบการโจมตีจึงไม่ใช่เรื่องยาก

Dhan

แนวทางการเล่น Dhan

วิถีแห่งการเป็นนักฆ่า เราต้องดูที่จุดเด่นของ Dhan ก็คือพลังโจมตี ดังนั้นค่า Status ที่สำคัญของ Dhan ก็คือ Str ที่จะเพิ่มเติมในส่วนของพลังโจมตีให้สูงขึ้น ส่วนค่าอื่นๆ นั้นเราสามารถแยกออกเป็นสายต่างๆ ได้ดังนี้
-สาย Str, Agi การอัพในรูปแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถเก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยพลังโจมตีที่สูงแล้วเรายังมีค่าหลบหลีกที่เพิ่มขึ้นอีก จึงทำให้สามารถหลบกการโจมตีจากมอนสเตอร์ได้
-สาย StR, Vit เป็นสายการเล่นที่เพิ่มเติมในส่วนของพลังชีวิตให้สูงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่เล่นเพื่อต้องการจะ PK หรือทำสงครามต่างๆ เพราะพลังชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการ PK นั่นเอง

Skill ที่สำคัญ

ในช่วงแรกเราจะเป็น Assassin ซึ่งสกิลของ Assassin นั้นจะไม่ค่อยมีสกิลที่สำคัญอะไรมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสกิลบัฟที่ทำให้ความสามารถเราเพิ่มขึ้น ซึ่งควรที่จะมีไว้ใช้งาน เพราจะทำให้เราสามารถเก็บเลเวลได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

      Invenom เป็นสกิลที่จะใส่พิษลงไปในอาวุธ ทำให้เมื่อโจมตีแต่ละครั้งจะทำให้มีโอกาสทำให้เป้าหมายติดสถานะติดพิษ สูญเสียพลังชีวิตทุกๆ วินาที
      Parry เป็นสกิลบัฟที่ Dhan ทุกคนควรจะอัพ เพราะจะทำให้เมื่อสวมใส่อาวุธประเภทการ์ต้าจะทำให้มีโอกาสป้องกันการโจมตีได้
      Avoid เป็นบัฟที่จะเพิ่มค่า Agi ให้กับตัวละคร โดยที่เหมาะสำหรับคนที่เล่นมาทางสาย Agi จะทำให้ได้รับค่าหลบหลีกสูงขึ้นตามไปด้วย
      Quickness สกิลบัฟที่จะเพิ่มค่า DEX ให้กับตัวละคร โดยค่า DEX ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะทำให้ความแม่นยำและความเสียหายมี่เกิดจาก Critical สูงขึ้น
      Boot เป็นสกิลที่จะทำให้โอกาสการติด Critical เพิ่มขึ้น
      Deadly Blow สกิลบัฟที่จะนำค่า Agi มาคิดเป็นโบนัสความเสียหายเมื่อเกิด Critical และยังเพิ่มค่า Str ให้กับตัวละครด้วยช่วงระยะเวลาหนึ่ง
      Death Blow เป็นสกิลที่จะเพิ่มพลังโจมตีให้กับเราช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยจะคิดจากค่า M.Kill ที่เรามียิ่งมีค่า M.Kill สูงก็จะยิ่งโจมตีได้รุนแรงขึ้น

สรุปโดยรวมแล้วการอัพค่า Status ก็ขึ้นอยู่กับแนวทางการเล่นของเรา ส่วนการอัพสกิลนั้นก็ต้องคิดถึงการใช้งานของเราด้วยว่าจะนำไปใช้งานในสถานการณ์ใด เพราะแต้มสกิลเราสามารถเก็บไว้เพื่อไปใช้อัพสกิลของคลาสที่สูงกว่าได้ เราจึงต้องวางแผนการอัพไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ

By Aon

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ