Online Station

Ragnarok Online 2 ตำนานเทพกลับมาจุติ จุดพลิกผันของ Gravity กับการกลับมาสู่เจ้าบัลลังก์เกม

แชร์เรื่องนี้:
Ragnarok Online 2 ตำนานเทพกลับมาจุติ จุดพลิกผันของ Gravity กับการกลับมาสู่เจ้าบัลลังก์เกม

Ragnarok Online เกม MMORPG ระดับตำนาน ที่หลายๆ คนที่อยู่ในวงการเกมออนไลน์มาเกือบทุกคน อย่างน้อยก็ต้องเคยเล่นกันมาบ้าง มาในวันนี้ Gravity ผู้ที่เคยพลิกหน้าประวัติศาสตร์ เขียนตำนานของเทพในใจเกมเมอร์ไทยหลายๆ คน กำลังจะกลับมาสร้างหน้าใหม่ของวงการเกมออนไลน์อีกครั้งได้หรือไหม วันนี้เฟย์ขอพาเพื่อนๆ มาอ่านบทสัมพาษณ์คุณ Jeon Jin Su, CTO เกม และบทวิเคราะห์ Ragnarok Online II : Legend of the Second ว่าการกลับมาของ Ragnarok ในคราวนี้เป็นอย่างไรบ้าง

- ความเป็น Ragnarok ระบบคอมมูนิตี้ที่ขาดไม่ได้

หากเพื่อนๆ หลายๆ คนยังจำกันได้ คงเคยมีหลายคนถามคนที่เล่น Ragnarok ว่า "จะเล่นไปทำไมเป็นวันๆ" บางคนอาจจะบอกว่า "ไม่ได้เข้าไปเล่นเกม แต่เข้าไปคุยกับคนในเกมต่างหาก" เชื่อว่าบางคนน่าจะเคยได้ยินประโยคราวๆ นี้มาบ้าง ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นคอมมูนิตี้ หรือ สังคมในเกม ที่เกิดจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของระบบเกมที่สมดุล

      "สำหรับ Ragnartok การเข้าไปในเกมและคุยกับเพื่อนๆ และรู้จักผู้คนมากขึ้นแม้จะใช้เวลาสัก 3 - 4 ชั่วโมงนั้นปกติมาก เรื่องที่จะพบปะ พูดคุยนั้นมีมากมาย ผู้เล่นนั้นจะพูดคุยกันไปเรื่อยๆ นั้นแหละคือสเน่ห์ที่ทำให้ Ragnarok อยู่ได้มาอย่างยาวนาน" -- คุณ Jeon Jin Su กล่าว

เขายังบอกมาอีกว่า ตัวเกม Ragnarok 2 นั้นจะมีระบบที่ควบรวมความเป็นคอมมูนิตี้ของเกมในทุกๆ ส่วน เช่นเดียวกับ Ragnarok ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้อเกม และระบบของเกม ตัวคอมมูนิตี้จะถูกผนวกเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติ

ระบบคอมมูนิตี้ของ Ragnarok เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

- การอัพเกรดครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยระบบ Gamebryo

     สำหรับ Ragnarok 2 ที่กำลังพัฒนานั้น ได้เปลี่ยนตัว Engine ในการพัฒนาเกมใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น เรียกได้ว่า ตัวใหม่ที่เรากำลังจะเห็นนี้ ไม่เหมือนกับของปี 2007 เลย โดยทาง Gravity ได้เปลี่ยนตัว Engine จาก Unreal 2 เป็น Gamebryo ทำให้ภาพของตัวเกม เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งตัวละคร, Background, สไตล์ของตัวเกม จะเปลี่ยนไปทั้งหมด

"เนื่องจากการเปลี่ยนทีมพัฒนาทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนมุมมองที่ผู้เล่นจะได้เห็นตัวเกมใหม่ทั้งหมด แม้จะเป็นการเปลี่ยนเพียงรูปร่างภายนอกก็ตาม แม้คุณภาพของ Engine จะน้อยลง แต่ก็สามารถเข้ากับเครื่องของผู้เล่นได้มากขึ้น"

แน่นอนว่าสิ่งที่เราประทับใจใน Ragnarok 2 คงไม่ใช่เป็นเพราะมันคือ Ragnarok ในเวอร์ชั่น 3D เท่านั้น แต่มันคือความประทับใจในตัวเกมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบที่คุ้นเคย, ตัวอาร์ตเวิร์กของตัวละคร, สไตล์ของกราฟฟิค และอื่นๆ ที่มันล้วนแล้วแต่เป็น Ragnarok ด้วยเช่นกัน

- ตัวเกมที่หลากหลายเป็นส่วนหนึ่งของความมันส์

หากตัว Ragnarok 2 จะชูระบบคอมมูนิตี้เป็นหลัก หัวใจของเกมจะต้องอยู่ที่ตัวเนื้อเกม (Content) ไม่ว่าจะเป็นระบบเนื้อเกมต่างๆ อย่าง ระบบการ์ด ที่หลายๆ ชื่นชอบใน Ragnarok ระบบใหม่ๆ อย่าง Dual Life หรือ Kara System ที่ทำให้เกมมีสีสันมากขึ้น

- จะไม่เปิด OB จนกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์จะสมบูรณ์

การนำ Ragnarok 2 มาทำใหม่อีกครั้ง เกิดขึ้นจากบัคที่มีขึ้นมามากมาย ซึ่งทางทีมงานก็คงจะปฎิเสธไม่ได้ แต่ทางทีมงานได้สัญญาไว้ว่า การนำ Ragnarok 2 มาทำใหม่อีกครั้งคราวนี้จะพยายามให้ไม่มีบัค ซึ่งถ้ามี ทางทีมงานจะจัดการกับบัคอย่างรวดเร็ว

ด้านเซิร์ฟเวอร์ก็เช่นกัน ตัวเซิร์ฟเวอร์ของ Ragnarok 2 เดิมมีปัญหาอยู่เยอะ ซึ่งการทำใหม่จะทำให้ปัญหาของเซิร์ฟเวอร์นั้นน้องลงไปด้วย

Ragnarok 2 ในปี 2007

- การเปิด Open Beta

สำหรับ Close beta ทางทีมงาน Ragnarok 2 จะเปิด Close Beta ครั้งแรกน่าจะราวๆ เดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งทางทีมงาน Ragnarok 2 จะดูผลตอบรับจากผู้เล่นก่อนว่าผู้เล่นจะมีเสียงตอบรับมาอย่างไร หากผลการตอบรับออกมาดี ก็จะเปิด OBT ในอันดับต่อไป

    เป็นยังไงครับเพื่อนๆ จากบทความนี้คงจะทำให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจ Ragnarok 2 มากขึ้นไม่มากก็น้อย ยังไงก็ขอให้เป็นกำลังใจให้กับ Ragnarok 2 ต่อไป และคอยติดตามว่า Ragnarok 2 จะเป็นอย่างไรกันต่อไปครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากดูข้อมูลย้อนหลังของ Ragnarok Online 2 ก็สามารถดูได้ที่

http://game.online-station.net/ragnarok-online-2/news

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

Online Station