สวัสดีครับเหล่าจอมยุทธ์ D9 ทั้งหลาย เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว D9 ก็จะเปิดช่วง Close Beta ให้เหล่าจอมยุทธ์ทุกท่านได้ท่องไปในยุทธจักรกันแล้วนะครับ และวันนี้ผมจะขอนำเสนอข้อมูลประวัติคร่าวๆ เกี่ยวกับวัดเส้าหลิน 1 ในสำนักฝ่ายธรรมะให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันเป็นเกร็ดความรุ้เล็กๆ น้อยๆ ครับ เอาละครับเพื่อเป็นการไม่รอช้า เราไปชมกันเลยดีกว่าว่า วัดเส้าหลินนั้น มีความเป็นมาอย่างไรกันบ้าง
ประวัติวัดเส้าหลิน
วัดเส้าหลินถูกสร้างขึ้นในปี พุทธศักราช 1038 ในสมัยของไท่เหอเจ้าผู้ครองรัฐวุ่ยเหนือ เนื่องจากวัดเส้าหลินนั้นตั้งอยู่บนยอดเขาเส้าซื่อ ซึ่งอยู่ด้านทางทิศตะวันตกของเทือกเขาซงซาน และพื้นที่แถบนั้นทั้งหมดถูกปกครองด้วยป่าไม้ และในภาษาจีนเรียกป่าไม้ว่าหลิน เมื่อเอามารวมกันจึงถือกำเนิดเป็นวัดเส้าหลินนั่นเองครับ
ช่วงที่สร้างวัดเส้าหลินแรกๆ นั้น ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างสักเท่าไหร่ จนกาลเวลาผ่านไปเป็นระยะเวลาถึง 32 ปีโดยประมาณ ในปี พ.ศ. 1070 ได้มีพระโพธิธรรมเถระ หรือ ตั๊กม๊อ พระภิกษะจากประเทศอินเดียได้เดินทางมาแสวงบุญยังประเทศจีนและเผยแพร่พุทธศาสนานิกายเซนที่วัดเส้าหลินเป็นครั้งแรก เนื่องจากเห็นว่าวัดเส้าหลินนั้นมีความสงบร่มรื่น เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรและการศึกษาธรรมะ ท่านจึงเข้าพำนักและดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเส้าหลินครับ
ปรมาจารย์ตั๊กม๊อ หรือ พระโพธิธรรมเถระ
หลังจากที่ปรมาจารย์ตั๊กม๊อเข้าดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินนั้น ก็ได้สร้างความศรัทธาเลื่อมใสแก่ชาวจีนเป็นอย่างมาก ด้วยการถ่ายทอดธรรมะและวิชากังฟูให้แก่หลวงจีนวัดเส้าหลินได้ฝึกฝนเพื่อออกกำลังกายและฝึกสมาธิ เนื่องจากเห็นว่าหลวงจีนส่วนใหญ่นั้นมีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถนั่งสมาธิวิปัสสนาและเจริญกรรมฐานได้อย่างเคร่งครัด จึงหัดให้หลวงจีนเริ่มฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงพร้อมกับการปฏิบัติธรรมนั่นเอง แต่แค่นั้นยังไม่พอ ปรมาจารย์ตั๊กม๊อยังพัฒนาวิทยายุทธของวัดเส้าหลินให้ลึกล้ำขึ้นมากกว่าเดิม จนกลายเป็นวิทยายุทธที่แข็งแกร่งไม่แพ้วิทยายุทธ์ใดในประเทศจีนครับ
วิทยายุทธ์วัดเส้าหลิน
สำหรับวิทยายุทธ์ของวัดเส้าหลินนั้น ไม่ได้เป็นการฝึกเพื่อใช้ในการสู้รบครับ แต่เป็นการฝึกเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เสริมสร้างสมาธิและปัญญารวมถึงความมีระเบียบวินัยด้วยครับ อีกทั้งยังสามารถใช้ป้องกันตัวด้วยนะครับ แต่อย่าเอาไปใช้ในการรังแกใครล่ะมันไม่ดีหรอกครับ
วิทยายุทธ์วัดเส้านหลินนั้นมีรากฐานแตกต่างจากสำนักอื่น โดยส่วนมากวิทยายุทธ์วัดเส้าหลินจะเน้นการใช้มือเปล่า หรือไม้พลอง ซึ่งเป็นวิทยายุทธ์ที่เลื่องชื่อที่สุดในกระบวนท่าทั้งหมด เกิดจากการประยุกต์ขึ้นจากธรรมชาติที่แวดล้อมผนวกกับวิทยายุทธ์ลมปราณที่เกิดจาการนั่งสมาธิ กลายเป็นกำลังภายในที่มีองค์ประกอบพื้นฐานอยู่หลายอย่างอันเป็นเอกลักษณ์
วิทยายุทธที่ขึ้นชื่อของวัดเส้าหลิน
วิทยายุทธของวัดเส้าหลินนั้นได้ถูกในไปใช้ในการแสดงหนังหลายๆ เรื่องที่เป็นหนังเกี่ยวกับกำลังภายในครับ ซึ่งวิชาเหล่านี้นั้นมักจะไม่ถูกดัดแปลงไปจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นชื่อกระบวนท่า และท่าทางทั้งหลาย สิ่งเหล่ายังคงความเป็นเอกลักษณ์ของวัดเส้าหลินที่ไม่ว่าจะพบเจอที่ไหนก็ดูออกเลยว่า นี่แหล่ะวิทยายุทธ์วัดเส้าหลิน วิทยายุทธ์ที่โด่งดังและเลื่องชื่อของวัดเส้าหลินนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่ผมจะขอยกตัวอย่างบางวิชาที่เป็นที่รู้จักกันดีนะครับ
เพลงหมัดอรุโณทัย เป็นวิทยายุทธที่ต่อสู้ด้วยมือเปล่า มีความรวดเร็วในการโจมตี ซึ่งเร็วกว่าศัตรูเมื่อปล่อยหมัดพร้อมกัน
วิชาตัวเบาวัดเส้าหลิน เป็นวิทยายุทธพื้นฐานเพื่อใช้ในการหลบหนีสัตว์ร้ายในป่า ที่วิ่งได้เร็วกว่า เมื่อใช้วิทยายุทธตัวเบา หลวงจีนจากวัดเส้าหลินจะสามารถลอยตัวอยู่กลางอากาศได้ในระยะเวลาหนึ่ง
วิทยายุทธ์คงกระพันเส้าหลิน หลวงจีนวัดเส้าหลินมักใช้ว่านชนิดหนึ่งผสมน้ำอาบชำระร่างกายทุกวัน ซึ่งว่านที่ใช้ผสมอาบน้ำนั้นจะมีสรรพคุณทางป้องกันร่างกายจากอาวุธทุกประเภทได้เป็นอย่างดี
วิทยายุทธลมปราณ เกิดจากการกำหนดจิตและกายรวมเป็นหนึ่ง ลมปราณจากการกำหนดพลังแฝงภายในร่างกายจะแสดงออกมาในรูปของเพลงหมัดและเพลงเตะที่มีความหนักแน่นและดุดัน
และทิ้งท่ายด้วยกระบวนท่าที่โดดเด่นที่สุดของวัดเส้าหลินครับ นั่นคือกระบวนท่าฝ่ามือ 18 อรหันต์ ซึ่งหลวงจีนท่านใดที่ต้องการฝึกวิชานี้ละก็จำเป็นที่จะต้องฝ่าด่าน 18 อรหันต์ 18 ค่ายกล และ 18 มนุษย์ทองคำเสียก่อน เมื่อผ่านได้แล้วก็จะสามารถฝึกวิชานี้ได้ครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ของวัดเส้าหลิน อาจจะถูกใจเพื่อนๆ บางคนก็ได้นะครับ และอีกไม่นานนี้ในวันที่ 22 มิถุนายน D9 เทพศาสตรา ศึก 9 มังกร ก็จะเปิดให้ได้ท่องยุทธจักรกันแล้วนะครับ เหล่าจอมยุทธทั้งหลายเตรียมตัวให้ดี แล้วเจอกันใน D9 ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/ ด้วยครับ