ช่วงนี้ตามกำหนดก็เข้าสู่ช่วง Close Beta ของเกม WAR 2 กันแล้วนะครับ แนวทางการเล่นเบื้องต้นก็ตามที่อธิบายไว้บางส่วนในฉบับที่ผ่านมา กล่าวโดยรวมก็คือพยายามทำตาม Mission แล้วอ่านรายละเอียดเล็กน้อย ก็จะเริ่มต้นกับเกมนี้ได้อย่างสบาย ในตอนนี้เรามาต่อกับสิ่งปลูกสร้างในเกมนี้กันสักหน่อยดีกว่าว่า แต่ละอย่างมีบทบาทและความสำคัญอย่างไรบ้าง
Production Section
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า ยูนิตต่อสู้และต่อสู้ในเกม ไม่ได้แลกเปลี่ยนมาด้วยเงิน Gold จากภาษีของประชากรโดยตรง แต่มาจากทรัพยากร 4 ชนิด โดยแต่ละสิ่งที่สร้างจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้เลย จึงต้องสร้างทุกอย่าง เพียงแต่กำหนดสัดส่วนที่ต่างกันไป
จำนวนที่ว่างสำหรับสร้างแหล่งทรัพยากร รวมทั้งสำหรับยึดทรัพยากรโดยรอบ จะขึ้นตามเลเวลของ City Hall จึงควรให้ความสำคัญกับการอัพเดต City Hall เป็นอันดับต้นๆ
Farm
ใช้สำหรับผลิต Rice ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเลี้ยงทหารมาก โดยทหารจะใช้อย่างต่อเนื่องด้วย ทำให้เมื่อผลิตทหารมากๆ แล้วจะเสียข้าวไปตลอด
Steel Plant
ใช้สำหรับผลิต Steel เป็นแร่ที่มีความจำเป็นในช่วงแรก โดยเฉพาะการสร้างอาคารกับรถหุ้มเกราะ ถ้าขาดไปจะสร้างอาคารได้ช้าลงกว่าเดิม ความสำคัญของแร่นี้จะเริ่มลดลงในช่วงหลัง
Oil Refinery
ใช้สำหรับผลิต Oil มีความจำเป็นมากสำหรับการส่งทหารและพาหนะไปปฏิบัติภารกิจยังเป้าหมาย โดยเฉพาะช่วงหลังที่ต้องขนไปรุกรานพื้นที่อื่นบ่อยครั้ง รวมทั้งยังใช้จำนวนมากในการสร้างพาหนะบางอย่าง
Rare Metal Plant
ใช้สำหรับผลิต Precious Metal เป็นอีกแร่ที่สำคัญมากในช่วงหลัง ในการผลิตสิ่งของต่างๆ
ช่วงแรกผมแนะนำให้สร้างใกล้เคียงกันทั้ง 4 อย่าง แต่อาจสร้าง Steel Plant เยอะกว่าอย่างอื่นสักนิด อย่างเช่น ถ้าช่องว่าง 13 แห่ง อาจสร้าง Farm 2-3 แห่ง, Steel Plant 3-4 แห่ง, Oil Refinery 3 แห่ง และ Rare Metal Plant 3 แห่ง เป็นต้น เมื่อเริ่มสร้างทหารค่อยให้ความสำคัญกับ Farm มากขึ้น
บริหารทรัพยากรไม่ดี อาจจะขาดแคลนได้
Military Section
ส่วนของการสร้างอาคารต่างๆ เกี่ยวข้องกับการรบโดยตรง แนะนำให้สร้างทุกอย่างไล่กันไปก่อน เพราะล้วนแต่มีความจำเป็นทั้งนั้น พอสร้างครบ พื้นที่ที่เหลือก็ให้สร้าง Civilian House เพิ่ม จากนั้นก็พิจารณาจำนวน Arm Plant กับ Warehouse ตามความจำเป็น
City Hall
ศูนย์กลางของการดูแลเมือง ซึ่งมีคำสั่งสำหรับสั่งการและช่วยเหลือพลเรือนในเมือง รวมทั้งควบคุมการจัดการต่างๆ ทุกเลเวล จะยึดพื้นที่ได้อีก 1 แห่ง, เพิ่มแหล่งทรัพยากร 3 ช่อง และเพิ่มขีดจำกัด Gold ที่เก็บได้
Civilian House
บ้านพักของพลเรือน ใช้ผลิตคนงาน และจะเก็บภาษีส่วนหนึ่งแบบต่อเนื่อง เป็นแหล่งปัจจัยพื้นฐานที่ 5 ที่ควรสร้างจำนวนมากหน่อย เมื่อสร้างเสร็จจะยังไม่มีคนมาอยู่อาศัยทันที แต่จะทยอยเพิ่มขึ้นทีละนิด จนกว่าจะมีจำนวนประมาณ 80-90% ของค่า Moral
จำนวนประชากรในเมืองสามารถลดได้ถ้าเราปรับภาษีแพงเกินไป, เกิดหายนะบางอย่างแบบสุ่ม หรือค่า Morale ลดลง
Wall
กำแพงป้องกันเมือง ใช้ป้องกันศัตรูรุกรานได้ในระดับหนึ่ง แล้วยังสร้างยูนิตป้องกันมาเสริมที่กำแพงเมืองได้ โดยการอัพเกรดกำแพงจะได้ทั้งความทนทาน และพื้นที่สำหรับเพิ่มยูนิตป้องกัน ยังเป็นทางผ่านสำหรับอัพเกรด City Hall ด้วย จึงต้องอัพเกรดทั้งสองอย่างสลับกันไป
ยูนิตป้องกันบนกำแพงเมือง เช่น ปืน AA หรือสามารถโจมตีได้จากระยะไกลกว่ารถถังหรือเครื่องบินทุกชนิด จึงควรให้ความสำคัญไว้บ้าง ก่อนจะไปหาเรื่องเมืองอื่น
Research Center
ศูนย์วิจัยเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความสามารถในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะศักยภาพในการผลิตทรัพยากรทั้ง 4, เพิ่มความสามารถในการต่อสู้, เพิ่มระยะโจมตี, ลดเวลาในการสร้างของบางอย่าง เป็นต้น
Military Institute
สถานที่สำหรับจ้าง Officer หน้าใหม่แบบสุ่ม ทั้งระดับของทหารและค่าสเตตัส ยิ่งอัพเกรดสิ่งปลูกสร้างนี้ก็ยิ่งมีตัวเลือกทหารให้จ้างมากยิ่งขึ้น
Staff Headquarter
ที่พักของ Officer ยิ่งอัพเกรดระดับสูงจะสามารถใช้งาน Officer ได้หลายคนยิ่งขึ้น (มากสุด 10 คน) ทำให้คุมกองทหาไปรบ, ป้องกันเมือง หรือให้ไปค้นหาไอเทมได้ดียิ่งขึ้น
Trade Center
ใช้สำหรับซื้อสินค้าหรือแลกเปลี่ยนโดยใช้ Gold ในเกม เป็นการแลกเปลี่ยน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการขนส่งแร่ชั่วขณะ
Warehouse
ใช้ปกป้องทรัพยากรได้ระดับหนึ่ง จากการรุกรานโดยผู้เล่นอื่น โดยปรับแต่งได้ว่าจะให้คุ้มครองทรัพยากรชนิดไหนเป็นพิเศษ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มช่วงหลัง อาจสร้างไว้สัก 2-3 แห่ง เพื่อป้องกันจากการรุกรานของเมืองที่ระดับสูงกว่าได้ดี
General Headquarter
เลเวลของสิ่งปลูกสร้างนี้ ส่งผลต่อจำนวนกองทหารที่ส่งไปทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะตรวจสอบ, สอดแนม, ชิงทรัพยากร, ต่อสู้ และอื่นๆ
Arms Plant
โรงงานผลิตยูนิต โดยระดับทหารที่สร้างได้จะขึ้นกับเลเวลของสิ่งปลูกสร้างอื่น และระดับเทคโนโลยีบางอย่าง สิ่งปลูกสร้างนี้สร้างได้มากกว่า 1 แห่ง ถ้าต้องการปั๊มทหารอาจสร้างเพิ่มเป็น 2-3 ที่ เพื่อเร่งกำลังการผลิตก็ได้
ตอนสร้าง Arms Plant ครั้งแรก จะให้เลือกฝ่ายเป็นพันธมิตร (Allies) กับอักษะ (Axis) จะส่งผลเพียงชื่อยูนิตของฝ่าย กับทำให้ประกาศสงครามกับเมืองที่เป็นฝ่ายตรงข้ามและนานขึ้น ส่วนด้านรายละเอียดต่างๆ จะไม่ต่างกัน
Communication Center
เป็นสิ่งที่ต้องสร้างเพื่อเข้ากลุ่มกับเมืองอื่นได้ และเลเวลยังส่งผลต่อจำนวนกองทหารในกลุ่มที่ไปร่วมรบกับเราได้
ระดับเลเวลส่งผลต่อการสร้างรถหุ้มเกราะเบา
ระดับเลเวลส่งผลต่อการสร้างรถหุ้มเกราะหนัก
ระดับเลเวลส่งผลต่อการสร้างเครื่องบิน
ระดับเลเวลส่งผลต่อการสร้างเรือ (เฉพาะเมืองที่ใกล้ริมทะเลเท่านั้น)
เพิ่มความเร็วในการส่งทหารไปยังเป้าหมาย แต่ละเลเวลเพิ่ม 50%
เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับการรุกรานของข้าศึก ยิ่งเลเวลสูงยิ่งรู้ถึงความสามารถของกองกำลังของศัตรูมากขึ้น
TIP
การทำสงครามระหว่างเมือง ไม่ได้ตีมั่วอย่างอิสระ ต้องประกาศสงครามอีกฝ่ายก่อน ถ้าอีกฝ่ายไม่กดยอมรับทันที ต้องรอจนครบเวลาที่กำหนด ถึงเริ่มสั่งรุกรานเมืองศัตรูได้
- ถ้าเป็นฝ่ายเดียวกันจะบังคับให้เกิดสงครามภายใน 8 ชั่วโมง และโจมตีระหว่างเมืองได้อิสระนาน 24 ชั่วโมง
- ถ้าเราเลือกฝ่ายตรงข้ามกับศัตรู (เช่น พันธมิตร อีกคนอักษะ) จะบังคับให้เกิดสงครามภายใน 4 ชั่วโมง และโจมตีระหว่างเมืองได้อิสระนาน 48 ชั่วโมง
หมายเหตุ : ข้อมูลบางส่วนมาจากเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในเซิร์ฟเวอร์ไทย
ส่วนเรื่องอินเตอร์เฟซ ตัวเกมออกแบบมาให้เข้าใจไม่ยาก ช่วงแรกอาจจะชวนสับสนกับตัวเลขหน่อย แต่พอเล่นไปสักพักจะเริ่มชินมากขึ้น ด้านสงครามก็ไม่ต้องรีบร้อนนักนะครับ ก่อนอื่นต้องพัฒนาเมืองก่อน คงกินเวลาเป็นสัปดาห์ กว่าได้เริ่มส่งทหารออกเมืองไปรุกรานศัตรู ระหว่างนี้ก็ผูกมิตรกับผู้เล่นอื่นไว้ด้วยนะครับ