เรื่องฟ้องๆ กลับมาอีกแล้วครับวันนี้ แต่ไม่ใช่ Activision กับ Infinity Ward นะ แต่เป็นเรื่องของผู้ใช้คนหนึ่งกับ Sony คือว่าเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา Sony ได้มีการปล่อยเฟิร์มแวร์ 3.21 ออกมาให้เจ้าของเครื่อง PS3 ได้อัพเดตกัน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ นั่นก็คือ “ถอดถอนความสามารถในการติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น Linux” ด้วยเหตุผลทางด้าน “ความปลอดภัยของผู้ใช้เอง”
และแน่นอนจากการกระทำดังกล่าวทำให้เจ้าของเครื่องไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ในระบบปฏิบัติการนั้นได้อีกต่อไปหากไม่ได้ทำการถ่ายโอนข้อมูลไว้ ซึ่งเรื่องลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นแล้วจนมีการฟ้องร้องกันนี่เอง นาย Anthony Ventura โจทก์หนุ่มแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินใจส่งฟ้องหมู่ SCEA ต่อศาล North District of California โดยเจ้าตัวเชื่อว่า Sony ทำไปเพื่อป้องกันเหล่าแฮคเกอร์ใช้ประโยชน์จากความสามารถดังกล่าวในการก็อปหรือขโมยเกมกับเนื้อหาอื่นๆ ต่างหาก “การตัดสินใจของ Sony ที่จะตัดความสามารถรองรับระบบปฏิบัติการอื่นนั้นทำไปเพื่อความต้องการของตัวเองต่างหากและยังทำให้ลูกค้าเสียหายอีกด้วย”
การฟ้องร้องหมู่ครั้งนี้ยื่นต่อศาลในนาม “ผู้เสียหายทั่วโลกที่ซื้อ PS3 ตั้งแต่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2006 จนถึง 27 มีนาคม ค.ศ. 2010 และยังไม่ได้ขายต่อในช่วงเวลานั้น” โดยตามคำร้องกล่าวว่าความสามารถดังกล่าวนั้น “มีประโยชน์อย่างสูง” ตามคำร้องระบุว่านาย Anthony ยังไม่ได้อัพเดตเฟิร์มแวร์ดังกล่าวจึงยังสามารถใช้งานความสามารถดังกล่าวได้ แต่ผู้ที่ไม่ได้อัพเดตเฟิร์มแวร์ PS3 ล่าสุดจะไม่สามารถเข้าใช้งาน PlayStation Network เล่นเกมออนไลน์ของ PS3 และเล่นเกมหรือดูภาพยนตร์ Blu-ray ที่ต้องใช้เฟิร์มแวร์ 3.21 ได้เลย
การฟ้องร้องของนาย Anthony ต่อ Sony นั้นเรียกร้อง “ค่าเสียหายแก่โจทก์และผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมสิ่งที่ไม่ได้กล่าวถึงอย่างการใช้คืน การคุ้มครองชั่วคราว ค่าทนาย และค่าใช้จ่ายการฟ้องร้อง” โดยมูลค่าทั้งหมดนั้นไม่ได้กล่าวถึง แต่เอกสารข้อมูลในศาลกล่าวว่า “เกินกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”
Credits: http://kotaku.com/5526847/playstation-3-owner-files-class-action-suit-against-sony-for-dropping-other-os