Online Station

Black Rouge : ตีแผ่ 6 อาชีพหลัก ฝั่งยุ่โรปอยากรู้มาดูกัน!

แชร์เรื่องนี้:
Black Rouge : ตีแผ่ 6 อาชีพหลัก ฝั่งยุ่โรปอยากรู้มาดูกัน!

     สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Black Rogue ผู้รักการเล่นฝั่งยุโรป วันนี้ผมจะมานำเสนอแนวทางการเล่นของฝั่งยุโรป เริ่มต้นกันด้วยสาย Melee ซึ่งแบ่งออกเป็น Warrior นักรบที่โหดโคตรถึกและ Rogue จอมโจรผู้แพรวพราวที่มีลูกเล่นหลากหลายและสกิลโจมตีระยะไกล, สาย Caster ซึ่งแบ่งเป็น Wizard จอมขมังเวทย์พลังทำลายขนาด Nuke ฝั่งจีนยังต้องชิดซ้าย และ Warlock หมอผีคำสาปสะท้านโลกันตร์ที่สามารถดีบัฟจนคู่ต่อสู้ย่ำแย่ และสายสุดท้าย Buffer ซึ่งแบ่งเป็น Bard นักดนตรีทั้งร้องทั้งเต้นบัฟกระจาย และ Cleric แม่ชีสาวฮิ๊ลสนั่นแถมด้วยสกิลทำลายล้างที่แรงที่สุดในเกม เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

สาย Melee  : Warrior

Warrior

     Warrior เป็นสายสกิลที่เน้นทางด้านการโจมตีระยะประชิด เป็นตัวชนแนวหน้ามีสกิลที่ดึงให้มอนสเตอร์หันมาสนใจและเป็นสายสกิลที่ใส่ชุด Heavy Armor และ Light Armor ได้ ซึ่ง Heavy Armor จะมีเพียงสายสกิล Warrior เท่านั้นที่ใส่ได้ ดังนั้นควรจะอัพแบบ Pure STR คือลง STR อย่างเดียว การเล่นของ Warrior นั้นจะมีอาวุธให้ใช้อยู่ทั้งหมด 3 ชนิดคือ

1. ดาบโล่ – สายนี้จะเป็นสายที่เน้นความถึกเป็นตัว Tank อันดับ 1 ในเกมเลยก็ว่าได้

2. ดาบใหญ่ – สายนี้จะเป็นสายที่เน้นพลังทำลายซึ่งรุนแรงมาก

3. ขวานคู่ – สายนี้มีความสามารถอยู่ระดับปานกลางโดยปกติจะเน้นอัพมาเพื่อใช้สกิลที่ทำให้เสียเลือดและติด Stun

ดาบใหญ่

สกิล Warrior ที่น่าสนใจ

    สกิลของ Warrior ทั้งหมดจะแบ่งเป็นหลักๆ ได้ทั้งหมด 4 สายคือ

1. สายทั่วไป จะประกอบไปด้วย สกิลสาย Frenzy Buster และ Guard Barrier
สกิลสาย Frenzy Buster จะมีสกิลเพิ่มพลังป้องกันกายภาพเวทมนตร์ สกิลที่ดึงมอน สกิลที่เพิ่ม Max HP ในชั่วเวลานึง, สกิลสำหรับตรวจจับ Rogue ที่หายตัว (ตรวจจับ Wizard ที่หายตัวไม่ได้) และสกิลสุดโหดอย่าง Sprint Assault สกิลนี้จะทำให้ติด Stun และ Knock Back มีโอกาสติดสูงมาก ซึ่งแต่ละสกิลล้วนมีประโยชน์มากๆ ครับ ส่วนสกิลสาย Guard Barrier เป็นสกิลที่สำคัญต่อเพื่อนๆ ในปาร์ตี้คือจะเป็นสกิลรับความเสียหายและกระจายความเสียหายจากเพื่อนๆ รวมทั้งบัฟที่เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและเวทมนตร์อย่างมหาศาลให้เพื่อนๆ

2. สายดาบโล่ จะประกอบไปด้วย สกิลสาย One-handed Lord และ One-handed Sword
สกิลสาย One-handed Lord จะเป็นสกิลติดตัวต่างๆ ของการเล่นดาบโล่ครับ มีทั้งเพิ่มโจมตี, อัตราบล็อก, พลังป้องกันและอัตราหลบหลีกคริติคอล ซึ่งเป็นสกิลที่ต้องอัพเพื่อจะอัพสกิลสาย One-handed Sword และสายสกิล One-handed Sword

3. สายดาบใหญ่ จะประกอบไปด้วยสกิลสาย Two-Handed Lord และ Two-Handed Sword สกิลสาย Two-Handed Lord เป็นสกิลติดตัวของสายดาบใหญ่ซึ่งมีสกิลเพิ่มอัตราคริ, เพิ่มโจมตี และยังมีอัตราการสะท้อนความเสียหายทางกายภาพ รวมถึงยังเป็นสกิลพื้นฐานในการอัพสาย Two-Handed Sword ส่วนสกิลสาย Two-Handed Sword

4 สายขวานคู่ จะประกอบไปด้วย สกิลสาย Dual Lord และ Dual Axe ...สกิลสาย Dual Lord เป็นสกิลติดตัวของสายขวานคู่ ซึ่งจะมีสกิลเพิ่มโจมตี, แม่นยำ และเพิ่มการป้องกันสถานะต่างๆ และเป็นพื้นฐานในการอัพ Dual Axe ซึ่งสกิลที่น่าสนใจคือสกิล Double Twist ที่ทำให้เสียเลือดและติด Stun, สกิล Axis Quiver ที่ทำให้ติด Stun

สาย Melee : Rogue

Rogue หน้าไม้

     Rogue เป็นสายสกิลที่มีลูกเล่นเยอะเช่นการปลอมตัวเป็นมอนสเตอร์หรือแม้แต่ตัวผู้เล่นด้วยกันและยังมีสกิลที่สนับสนุน Job War คือสกิลหายตัว สกิลติดตามเป้าหมาย ซึ่งสกิลเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นได้อรรถรสที่แตกต่างไปจากการเล่นฝั่งจีนโดยสิ้นเชิง และ Rogue นั้นสามารถสวมใส่ Light Armor ได้ และมีอาวุธให้ใช้อยู่ 2 ชนิดคือ มีดและหน้าไม้ ซึ่งหน้าไม้นั้นเหมาะกับการใช้เก็บเลเวลแบบคนเดียวมากครับ การอัพสเตตัสของสายนี้แนะนำว่าควรอัพแบบ Pure STR ครับ

Rogue สายมีด

สกิล Rogue ที่น่าสนใจ

    สกิลทั้งหมดของ Rogue จะแบ่งเป็นสกิลหลักๆ ได้ 3 สายคือ

1. สายทั่วไป จะประกอบไปด้วยสกิลสาย Stealth Expert Series, Stealth, Poison และ Mash Change สกิลสาย Stealth Expert Series เป็นสกิลติดตัวที่เพิ่มระยะเวลาในการหายตัว และเป็นสกิลพื้นฐานของสาย Stealth ซึ่งสกิลสายนี้จะมีสกิลหายตัว, ตรวจจับ Rogue ด้วยกัน (ใช้กับ Wizard ที่หายตัวไม่ได้), ส่วนสกิลสาย Poison จะเป็นสกิลเคลือบพิษลงอาวุธ ซึ่งจะสร้างพื้นที่พิษและวางกับดักด้วยพิษ และสกิลสายสุดท้าย Mash Change สกิลสายนี้เป็นลูกเล่นของสาย Rogue เลยก็ว่าได้ เพราะจะมีสกิลที่ทำให้เรากลายเป็นมอนสเตอร์แลงเป็นผู้เล่นด้วยกันเองได้อีกด้วย

2. สายหน้าไม้ จะประกอบไปด้วย สกิลสาย Crossbow Expert และ Crossbow สกิลสาย Crossbow Expert เป็นสกิลติดตัวของสายหน้าไม้ ซึ่งจะมีสกิลเพิ่มโจมตี, ระยะโจมตี, ลดความเสียหายทางกายภาพซึ่งคิดเป็น % และสกิล Crossbow Extreme ที่เพิ่มพลังทำลาย ซึ่งสกิลนี้เป็นบัฟที่รุนแรงมากแต่ก็แลกกับเลือด และพลังป้องกันที่จะหายไปส่วนสกิล Crossbow แถบจะทุกสกิลมีประโยชน์มากสำหรับการเล่นหน้าไม้ เพราะจะมีทั้งสกิลที่ทำให้ Knock Back และ Knock Down และยังทำความเสียหายเพิ่ม 50% เมื่อเป้าหมายล้ม

3. สายมีด จะประกอบไปด้วย สกิลสาย Silent Expert และ Dagger Charge สกิลสาย Silent Expert เป็นสกิลติดตัวของสายมีด ซึ่งจะมีสกิลเพิ่มโจมตี, แม่นยำ, เพิ่มระยะ และความเสียหายเมื่อติดพิษ (ใช้คู่กับสาย Poison), เพิ่มความเร็วและความเสียหายเมื่ออยู่ในสภาวะหายตัว และสกิล Dagger Desperate ที่เพิ่มพลังทำลายเยอะมาก แต่สูญเสีย Max HP และพลังป้องกันบางส่วน ส่วนสกิลสาย Dagger Charge เป็นสกิลโจมตีของสายมีด มีสกิลที่เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ชั่วขณะหนึ่งซึ่งเร็วมาก

สาย Caster : Wizad

Wizard

     Wizard เป็นสกิลสายทำความเสียหายที่รุนแรงที่สุดในเกมและมีการใช้ธาตุทั้ง 4 ในการโจมตีคือ ดิน, น้ำ, ไฟ, สายฟ้า ซึ่งธาตุไฟจะเป็นสกิลที่ทำความเสียหายได้สูงที่สุดส่วนน้ำ, ดิน และสายฟ้านั้นจะรองลงมาแต่มีการติดสถานะที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำบากมาทดแทน (Dull, Fear, Frostbite, Freezing, Knock Back) ซึ่งการเล่นควรจะเป็นแบบ Pure INT เพราะจะทำให้ได้ความเสียหายสูงสุดหรือไม่ก็สามารถ Hybrid ได้ในกรณีที่รู้สึกว่า HP มีน้อยเกินไป แต่เราสามารถทดแทนด้วยการยัดออพชั่น STR และ HP ให้ครบครับ

สาย Caster  : Warlock

Warlock

     Warlock เป็นสกิลสายดีบัฟสกิลโจมตีส่วนใหญ่จะเป็นการทำความเสียหายแบบ DoT (Damage Over Time คือทำความเสียหายเป็นระยะเวลาจำพวกเสียเลือด) สกิลดีบัฟต่างๆ มีหลากหลายเหมาะกับคนชอบ PVP ซึ่งการเล่นควรจะเป็นแบบ Pure INT เพราะจะทำให้ได้ความเสียหายสูงสุด และ Warlock จะมีโล่ซึ่งทำให้ถึกมากกว่า Wizard

Bard

     Bard เป็นสกิลสายบัฟ ที่มีทั้งเพิ่มพลังโจมตี ป้องกัน บัฟเพิ่มความเร็วและยังมีสกิลสำหรับฟื้นฟู MP อีกมีสกิลโจมตีที่รุนแรงพอๆกับ Nuke ของฝั่งจีน เป็นสายสกิลที่จำเป็นต่อการเล่นเป็นปาร์ตี้มากๆ สวมใส่ชุด Robe และถือพิณเป็นอาวุธ การเล่นของ Bard แนะนำให้เล่น Pure INT แต่ก็สามารถ hybrid 1 : 1 หรือ 1 : 2 เพื่อเพิ่ม HP

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

Online Station