สวัสดีครับขาซิ่ง Level X ทั้งหลาย เหลือเวลาอีกนิดเดียวแล้วก่อนที่จะได้มันกันแบบไร้ขีดจำกัดกับ Level X ในวันที่ 3 มีนาคมที่จะถึงนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะฝึกเทคนิคต่างๆ กันไว้อย่างดีแล้วนะครับ และเทคนิคที่สำคัญที่สุดสำหรับการแข่งรถก็คือ การดริฟท์นั่นเอง วันนี้ผมเลยขอนำเสนอเกี่ยวกับต้นกำเนิดการดริฟท์ และประวัติของ Drift King (DK) ให้เพื่อนๆ ทั้งหลายได้ทำอ่านไว้เป็นความรู้กันนะครับ งั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าการดริฟท์มีประวัติความเป็นมายังไง และ DK นั้นเขาคือใครและเพราะอะไรเขาถึงได้ชื่อว่าเป็น DK ไปดูกันเลยครับ
ต้นกำเนิดการดริฟท์
การดริฟท์นั้นมีต้นกำเนิดมาจากกลุ่มนักแข่งตามถนนบนภูเขาแถบชนบทของญี่ปุ่น หรือเรียกกันว่า "โทเกะ" ตามข่าวลือที่ได้เล่ากันมาปากต่อปากเป็นเวลานานนั้น Keiichi Tsuchiya (เคอิชิ ทสึชิยะ) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดริฟท์คิงในตำนาน ในสมัยตอนที่เคอิชิยังไม่เป็นที่รู้จักนั้น เคอิชิได้ไปทำการแข่งรถกับกลุ่มนักแข่งทั่วไป และเขาอยู่ในอันดับที่รั้งท้าย เมื่อถึงทางโค้งเขาได้ตัดสินใจที่จะเหวี่ยงรถผ่านทางโค้ง ทำให้เหล่าผู้ชมที่เข้าชมในการแข่งครั้งนั้นตะลึงและรู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน และในภายหลังเคอิชิก็เรียกมันว่า “การดริฟท์” ซึ่งที่นี่มันอาจจะไม่ใช่แหล่งกำเนิดที่แท้จริงของการดริฟท์ แต่มันก็เป็นที่มาของชื่อและการแสดงให้คนอื่นเห็นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1977 นั่นเองครับ
คำนิยามของการดริฟท์
การดริฟท์ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Drifting หรือ Powersliding คือ รูปแบบการขับขี่รถยนต์ในทางโค้ง โดยการทำอันเดอร์เสตียร์ (Under Steer) เข้าหาโค้ง แล้วผ่านโค้งนั้นไปสำหรับการนี้โดยเฉพาะ การดริฟท์อาจทำเพื่อความสนุก ซึ่งมีจุดประสงค์ที่ผสมผสานระหว่างความสนุกกับการเสริมทักษะในการควบคุมรถ หรืออาจใช้ในการแข่งขันก็ได้
การแข่งดริฟท์นั้นเป็นการแข่งที่ดูจากพฤติกรรมการดริฟท์มากกว่าความเร็วที่วิ่งได้ต่อรอบหรือตำแหน่งที่เข้าเส้นชัย เกณฑ์การตัดสินหลักๆ จะขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ดังนี้ 1.มุมการเข้าโค้ง 2.ไลน์ 3.ความเร็ว และ 4. ลูกเล่นหรือสไตล์การดริฟท์ โดยปกติแล้วการดริฟท์ไม่ใช่วิธีทำให้ไปได้เร็วที่สุดในสนามแข่ง แต่ในบางครั้งการดริฟท์นั้นจะมีประโยชน์อย่างมาก เช่นในการแข่งแรลลี่ แต่ในการแข่งเซอร์กิตนั้น การดริฟท์จะทำให้รถไปได้ช้ากว่าการใช้เทคนิคธรรมดา การดริฟท์นั้นจะสามารถกระทำได้ง่ายกับรถที่เป็นระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง เพราะลักษณะการถ่ายกำลังและการถ่ายเทน้ำหนักของรถประเภทนี้เหมาะสมที่สุด
หลากหลายวิธีการดริฟท์
การดริฟท์นั้นแบ่งออกเป็นหลายประเภทแล้วแต่คนถนัดกันไปนะครับ ผมเลยขอยกตัวอย่างการดริฟท์มาให้เพื่อนๆ ดูสักหน่อยเผื่อจะได้เอาปรับปรุงใช้ใน Level X กันครับ
Branking Drif
การดริฟท์ชนิดนี้ทำได้โดยการ เหยียบเบรกอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่โค้ง เพื่อที่ว่าจะได้ทำให้รถนั้นสามารถถ่ายเทน้ำหนักและทำให้ล้อหลังสูญเสียแรงยึดเกาะ จากนั้นก็ควบคุมการดริฟท์ด้วยพวงมาลัยและคันเร่ง การปรับอัตราการจับของเบรกก็ช่วยในการดริฟท์ได้นะครับ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของการขับในแต่ละคน โดยปกติแล้ว หากอัตราจับของเบรกค่อนข้างไปทางล้อหลังจะช่วยให้เกิดการดริฟท์ได้ดีกว่านะครับ
Power Over Drift
การดริฟท์ชนิดนี้ทำได้โดยการ เข้าโค้งทั้งๆ ที่เหยียบคันเร่งเต็มที่ก่อให้เกิดการโอเวอร์เสตียร์ เมื่อถึงโค้ง มันเป็นวิธีดริฟท์โดยทั่วไปสำหรับพวกขับเคลื่อน 4 ล้อนะครับซึ่งจะได้ผลดีกว่ารถขับเคลื่อนล้อหลัง
Inertia (Feint) Drift
เทคนิคนี้สามารถทำได้โดยการโยกรถไปในทิศทางตรงข้ามกับโค้งและหลังจากนั้นก็อาศัยแรงเฉื่อยของรถ เพื่อเหวี่ยงรถกลับมาในทิศทางของโค้ง จากการที่เราหักหัวออกนอกโค้ง และหักกลับมาอย่างเร็ว คุณก็จะได้มุมที่ดีกว่าในบางครั้งนะครับ การเบรกระหว่างที่เหวี่ยงรถไปในทิศทางตรงกันข้ามกับโค้งนั้นก็ช่วยในเรื่องของการถ่ายเทน้ำหนักเช่นกัน และจะำทำให้เข้าโค้งได้ดีกว่าเดิมอีก นักดริฟท์มืออาชีพหลายคนได้บอกว่า นี่เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ทำได้ยากที่สุดเลยนะครับ เนื่องจากรถมีโอกาสหมุนสูง
Handbrake/Ebrake Drift
เทคนิคนี้ค่อนข้างจะง่ายครับ ดึงเบรกมือเพื่อให้ด้านหลังสูญเสียแรงยึดเกาะและควบคุมการดริฟท์ด้วยพวงมาลัยและการเหยียบคันเร่ง มีบางคนถกเถียงกันในเรื่องนี้ว่าการใช้เบรกมือนั้น ก่อให้เกิดการดริฟท์หรือเป็นเพียงแค่พาวเวอร์สไลด์ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว การใช้เบรกมือก็ไม่ต่างจากเทคนิคอื่นๆ เพื่อดริฟท์ โดยทั่วไปแล้วนี่เป็นเทคนิดหลักสำหรับการดริฟท์ของรถขับเคลื่อนล้อหน้า นี่เป็นเทคนิคแรกที่มือใหม่จะใช้หากรถของเค้าไม่มีแรงกำลังมากพอที่จะทำให้รถสูญเสียแรงยึดเกาะด้วยเทคนิคอื่นๆ และเทคนิคนี้ก็ใช้กันอย่างมากในการแข่งดริฟท์เพื่อที่จะดริฟท์ในโค้งกว้างครับ
และนี่คือบางส่วนของเทคนิคการดริฟท์นะครับ ที่จริงแล้วมันมีอยู่มากมายเลยแล้วแต่เทคนิคของนักขับรถแต่ละคน แต่สิ่งที่ยกมาให้ได้อ่านกันน่าจะเป็นเทคนิคที่ใช้ได้ผลอย่างดีเยี่ยมใน Level X นะครับยังไงก็ทดลองใช้กันดูครับ ยิ่งฝึกมากยิ่งเก่งมากครับ
ประวัติ Drift King ผู้ที่นำการดริฟท์มาเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็น
เคอิชิ ซึชิย่า เริ่มต้นการแข่งในวัยหนุ่มเหมือนนักแข่งที่ยิ่งใหญ่ส่วนมาก เมื่อตอนที่เขาหัดขับรถเขาก็เริ่มต้นทดลองดึงเบรคมือเพื่อให้ท้ายปัดและใช้พวงมาลัยแก้อาการ ซึ่งทำให้เขารู้สึกสนุกและนั่นเป็นการสอนพื้นฐานการควบคุมรถไปในตัวด้วย เค้าไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถแข่งหรือมีครอบครัวที่ร่ำรวยเหมือนนักแข่งผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นซึ่งสิ่งนั้นสามารถเพิ่มพูนทักษะการขับเขาได้ แต่เขามีแค่แรงผลักดันที่อยากจะขับรถเป็นพื้นฐานเท่านั้น เขาเริ่มที่จะสร้างความรู้สึกที่ว่าทำอย่างไรถึงจะผ่านโค้งด้วยความเร็วที่สูงที่สุดโดยการขับบนภูเขาแถวบ้าน ซึ่งนี่ไม่ใช่ทางที่ปลอดภัยหรือเท่ห์ในการเรียนรู้การแข่งรถ อย่างไรก็ตามเขาก็เรียนรู้มากขึ้นจากการวิ่งแข่งบนภูเขา (Touge) เขาประสบอุบัติเหตุบ้างเช่นขับ รถสกายไลน์รุ่น KPGC10 ตกเขาหรือขับชนข้างกำแพง และการขับบนหิมะก็ได้เพิ่มพูนทักษะการควบคุมรถมากขึ้น ยิ่งเขาขับบนสภาพพื้นผิวที่ต่างกันมากเท่าไหร่เขาก็เริ่มที่จะดิรฟท์ผ่านโค้งได้อย่างสบายขึ้น เขาเริ่มดริฟท์ไม่ใช่เพราะเขาต้องการขับผ่านโค้งได้เร็วกว่าใคร แต่เพราะว่าเขารู้สึกตื่นเต้นกับมันมากที่สุด
การดริฟท์ผ่านโค้งไม่ใช่วิธีที่จะขับผ่านโค้งได้เร็วที่สุดในทุกๆโค้ง และนี่เป็นที่ๆ ซึชิย่าถูกสวมมงกุฏในฐานะ Dori Kin หรือ Drift King ในการจัดแข่งขันการดริฟท์ของนิตยสารออพชั่นซึ่งตัดสินการแข่งขันโดยดูที่สไตล์และเทคนิคที่ใช้ในการดริฟท์ และภายหลังก็ได้ตัดสินกันที่ไลน์ดริฟท์และมีการแข่งที่โค้งมากขึ้นซึ่งความยากจะมีมากกว่า ย้อนกลับไปในปี 1977 เคอิชิ เริ่มการอาชีพการขับรถแข่งของเขากับรถแข่งมากมายในการแข่งขันรุ่นสมัครเล่นต่างๆ การแข่งโดยใช้รถที่มีกำลังเครื่องยนต์น้อยนั้นยากแต่ก็เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ ต่อมา เคอิชิได้มาขับรถ โตโยต้า AE86 รุ่นปี1984 ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัทผลิตยาง ADVAN ระหว่างการขับแข่งลงเขามากมาย เคอิชิ ดิรฟท์ผ่านโค้งและใช้ความเร็วที่ดีกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ ซึ่งเทคนิคที่เค้าใช้ทำให้เค้าเป็นดริฟท์คิง แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่เค้าได้รับการยกย่องว่าเป็นคนแรกที่ดริฟท์ การพัฒนาของเขาเพิ่มพูนขึ้นพอๆกับชื่อเสียงของเขา ในขณะนั้นเขาเป็นนักขับรถแข่งอาชีพแล้วและเค้าก็ยังไปแข่งนอกกฎหมายตามภูเขาซึ่งทำให้ชื่อเสียงเค้าโด่งดังมากขึ้น หลังจากที่มีการออกวีดีโอโดยมีการปรากฏของ เคอิชิ และการที่เขายังไปแข่งนอกกฎหมายที่ภูเขาทำให้ใบขับขี่ของเขาถูกยึด สำหรับนักขับรถแข่งมืออาชีพนี่เป็นสิ่งที่น่าอายมาก แต่สำหรับเขากลับกลายว่าเป็นประโยชน์ ทำให้แฟนๆของเขาและชื่อเสียงของเขาขยายมากขึ้น คุณอาจเรียกเขาได้ว่ากบฏ หรือว่าเขาเป็นเพียงคนที่มาจากที่ๆไม่มีใครรู้มาเพื่อความสำเร็จโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าและไม่มีภูมิหลังของการแข่งรถมาก่อน เขายังคงผูกพันกับรถเก่าๆที่เขาใช้ชีวิตการแข่งขันโดยเติบโตมากับมัน,ดริฟท์ และ พบพานชัยชนะกับมัน นั่นคือโตโยต้า AE86 คุณสามารถชมมันได้จากวีดีโอที่พูดถึงรถรุ่นนี้ซึ่งชื่อว่า AE86Club ทางโตโยต้าเองก็รู้สึกว่าเค้าเป็นบุคคลที่เป็นตัวแทนรถนี้ และมอบ AE86 TRD ให้แก่เขา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับประวัติต้นกำเนิดการดริฟท์ เทคนิคการดริฟท์ และประวัติของดริฟท์คิง หวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้สาวก Level X ทั้งหลายได้นำไปใช้กันในเกมได้นะครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมละก็สามารถติดตามได้ที่ www.levelx.in.th นะครับ แล้วเจอกันวันที่ 3 มีนาคมนี้ เวลา 16.00 น. นะครับขาซิ่งทุกท่าน
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก http://th.wikipedia.org/ , www.corollaclubrace.com และ www.cm-club.com ด้วยครับ