เมื่อเอ่ยถึง Avatar หนังที่ทำเงินมากที่สุดที่สามารถทุบสถิติยอดขายสูงสุด คงจะไม่มีใครจะไม่รู้จัก แต่เมื่อมาทำเกมแล้วกลับดับวูบสนิท เพราะขายได้เพียง 2.5 ล้านแผ่น รวมยอดขายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Xbox 360, PS 3 หรือแม้แต่ PC ซึ่งยอดขายนั้นบริษัท Ubisoft ตั้งเป้าเอาไว้สูงถึง 3.5 ถึง 5 ล้านแผ่น ซึ่งทางผู้บริหารระดับ CEO MR.Yves Gullemot เปิดใจกับนักลงทุนเมื่อไม่นานมานี้ว่า Ubisoft เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจุดสนใจไปยังเพิ่ม Franchises มากกว่าที่จะไปเสียค่าลิขสิทธิ์เกมอย่าง Avatar ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องเสียไปสำหรับการซื้อลิขสิทธิ์เกม
ซึ่ง MR.Yves Gullemot แถลงกาณ์ถึงเรื่องนี้ว่าเป้าหมายเราคือทำให้จำนวน Franchises นั้นเพิ่มขึ้นให้ได้มากที่สุด และเราก็จะเลิกหันไปสนใจเกมที่มีชื่อเสียงซึ่งทำให้ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ไปมาก ทำให้เงินลงทุนนั้นเสียไปไม่คุ้มค่า และเราจะให้ความสำคัญในการพัฒนาบริษัทของเราให้มีความยิ่งใหญ่และควบคู่ไปพร้อมกับคุณภาพ แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเราจะหยุดหาเกมใหม่ๆ แต่เพียงแค่เราจะใช้เงินลงทุนให้คุ้มค่ามากที่สุดแทนที่จะไปเสียค่าลิขสิทธิ์มากมายเพื่อซื้อเกมดัง แต่เราจะคัดเลือกเกมที่ดีพอ และพอจะทำเม็ดเงินเข้าบริษัทให้คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป"
หนังดังอย่าง Avatar ได้ทำเงินมหาศาล แต่ปรากฎว่า เกมที่สร้างมาจากหนังดังนั้นกลับกลายไม่ได้รับผลตอบรับเท่าที่ควร เมื่อนำมาสร้างเกมถึง 6 เวอร์ชั่น มันคงจะดีถ้า Ubisoft จะยกเกมในเครือที่มีอย่าง Splinter Cell,Ghost Recon, Prince of Persia, และ Assassin's Creed พัฒนาเข้าสู่ระดับที่สามารถเข้ากับ franchises และพัฒนาศักยภาพให้เกมเหล่านี้ทำเม็ดเงินเข้าสู่บริษัทซึ่งเกมเหล่านี้สามารถทำรายได้เข้าบริษัทได้มากมายเลยทีเดียวรวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่ Ubisoft เสียตังค์ซื้อลิขสิทธิ์เกมเหล่านี้มา ที่เตรียมตัวประกาศวางแผงอีกไม่นานนี้ นั่นคือเกม Surf's Up, Teenage Mutant NinjaTurtles, Lost, King Kong และ Naruto อีกด้วย
ถึงแม้ว่าเกมดังอย่าง Avatar จะไม่ทำให้ Ubisoft ขาดทุน แต่ก็ไม่สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทมากเท่าที่ควรนัก จึงทำให้บริษัทเปลี่ยนแนวความคิดใหม่ สร้างสรรค์ผลงานเก่าให้มีคุณภาพคับแก้ว แทนที่จะเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ แต่ยังมีหลายเกมที่สร้างมาจากหนังดัง สุดท้ายแล้วก็ดับไปซะทุกราย เร็วๆ นี้เพิ่งจะประกาศตัวไป แต่ดูท่าจะดับเช่นกันก็อย่างเกม Transformer ที่ไม่สามารถฮิตติดตลาดได้ และยังมีหนังที่เตรียมสร้างจากเกมดังอย่าง World of Warcraft ที่มีผู้กำกับดังอย่าง Sam Raimi เตรียมตัวผลิตขึ้นมาอีกเรื่องเช่นกัน เรามาลองดูซิ!! ว่าเกมที่ฮิตทั่วโลก จะดับได้หรือไม่