ประเภท: Action
ผู้พัฒนา: Aspyr
ผู้ผลิต: Lucas Arts
ผู้จัดจำหน่าย: –
เว็บไซต์: www.theforceunleashed.com
กำหนดวางตลาด: 3 พฤศจิกายน 2552
“ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน” ประโยคนี้ถ้าคุณไม่ได้อาศัยอยู่หลังเขาพระสุเมรุก็คงต้องรู้ว่ามันคือวลีที่เป็นสัญลักษณ์ของ “Star Wars” และไม่ใช่เพียงคอหนังเท่านั้นที่คุ้นเคยกับวลีนี้ เพราะคอเกมชาวพีซีอย่างพวกเราก็คุ้นกับมันดีไม่น้อย สาเหตุก็เพราะมีเกมจากจักรวาล Star Wars มากมายที่ประดังประเดเข้ามาให้ชาวพีซีเล่นไม่ขาดสาย จนพวกเราเริ่มตกเป็นศิษย์ Lucas Arts และเริ่มรู้สึกถึงพลังในกายโดยไม่รู้ตัว…
แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อประมาณปลายๆ ปีที่แล้ว เมื่ออาจารย์ที่เราเลื่อมใสกลับทิ้งพวกเราไปอย่างไม่ใยดี ด้วยการวางจำหน่ายเกม Star Wars The Force Unleashed เกมแอ็กชั่นมุมมองบุคคลที่สามเฉพาะบนเครื่องคอนโซลเท่านั้น! เหตุการณ์นี้ทำให้เราอยากเอากระบี่แสงไปเขวี้ยงหัวลุงลูคัสให้รู้แล้วรู้รอด มันทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนทรยศ หักหลัง ตรอมใจ อยากเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งด้านมืด และก่อนที่จะสายเกินไป Lucas Arts ก็ย้อนกลับมาช่วยพวกเราไว้ได้ทัน ด้วยวิธีการหยิบยื่นโอกาสในการสวมบทศิษย์ Darth Vader สุดบ้าพลังใน Star Wars The Force Unleashed ฉบับพีซี ที่จะพ่วงเนื้อหาใหม่ๆ มาให้เราเล่นอีกเพียบ!
การอัด Force แบบบ้าพลังถือเป็นจุดเด่นของเกมนี้
A long time ago, in a galaxy far far away…
ต้องขอเท้าความกันสักเล็กน้อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยทราบข้อมูลเกม The Force Unleashed มาก่อน ภายในเกมนี้คุณจะได้สวมรองเท้าของ Starkiller ซิทวัยแตกเนื้อหนุ่มผู้เป็นศิษย์ลับๆ ของ Darth Vader ซึ่งภารกิจที่เขา (คุณนั่นแหละ) ได้รับมาจากอาจารย์ชุดดำสุดโฉดก็คือการตามล่าสังหารเจไดที่เหลืออยู่ในจักรวาลทั้งหมดให้สิ้น เรื่องราวของเกมจะเกิดขึ้นระหว่างมหากาพย์ Star Wars ลำดับภาคที่ 3 (Revenge of the Sith) และ 4 (A New Hope) โดย The Force Unleashed จะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมเหตุการณ์และอธิบายเรื่องราวเบื้องหลังในจักรวาล Star Wars ช่วงนี้ทั้งหมด Darth Vader สร้างผลงานแสบสันต์อะไรไว้บ้าง, จักรพรรดิแอบทำอะไร, ฝ่ายกบฏก่อกำเนิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบทั้งหมดจะถูกเล่าผ่านสายตา Starkiller ซึ่งขอบอกว่ามันถูกเล่าออกมาได้ดีมากๆ เสียด้วย เพราะจุดเด่นของเกมนี้ตั้งแต่เวอร์ชั่นคอนโซลก็คือ “เนื้อเรื่อง” ครับ (บางคนถึงกับบอกว่ามันสนุกกว่า Star Wars ไตรภาคแรกรวมกันเสียอีก) ดังนั้นรับประกันได้เลยว่าเราชาวพีซีก็จะได้ประจักษ์กับเรื่องราวชั้นอ๋องที่อุดมไปด้วยความยิ่งใหญ่ ความสนุกสนาน ความรัก และความหลอกลวง ที่จะตรึงใจคุณไปอีกนาน
ทิวทัศน์ในเกมช่างยิ่งใหญ่ตระการตา
ศิษย์เอก Darth Vader นักล่าเหล่าเจได
เนื่องจากตัวละครที่คุณจะได้เล่นมีศักดิ์เป็นถึง “ศิษย์เอก” ของเจไดด้านมืดที่เก่ง (และเท่) ที่สุดในประวัติศาสตร์ Star Wars ดังนั้นพลังที่คุณร่ำเรียนมาจึงใช่ย่อยซะที่ไหน Starkiller จะมี Force ท่าถนัดให้คุณใช้อยู่ 3 ท่าหลัก อันได้แก่ Force Push พลังผลักมหาประลัยที่นอกจากจะส่งร่างของศัตรูไปแสนไกลแล้ว ยังทำให้เหยื่ออ่อนแอบางตัวถึงแก่ชีวิตทันที (สามารถกดชาร์จและปล่อยเป็นลูกพลังได้), Force Lighting พลังสายฟ้าฟาดของคนนิยมด้านมืดที่ทั้งแรงทั้งเท่ และ Force Grip ที่ทำหน้าที่เหมือนปืน Gravity Gun ให้คุณหิ้วสิ่งของหนักเป็นตัน (หรือศัตรู) และยกเหวี่ยงไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจชอบ Starkiller ยังสามารถนำ Force เหล่านี้ไปพลิกแพลงใช้ในรูปแบบอื่นได้อีกต่างหาก อาทิ การนำ Force Push มาระเบิดเป็นคลื่นพลัง ทำให้ฝูงศัตรูห้อมล้อมปลิวไปคนละทิศละทาง หรือการนำ Force Lighting มาทำเป็นเกราะไฟฟ้าเสริมความแกร่งให้เจ้าตัว เป็นต้น
เฮ่ พี่! ตัวอะไรอยู่ข้างหลังน่ะ
นอกจากลีลาในวิถีแห่งพลังแล้ว วิถีแห่งกระบี่แสงของ Starkiller ก็ดูเหมือนจะได้รับการฝึกปรือมาอย่างเยี่ยมยุทธ์ประหนึ่งพระเอกหนังกำลังภายใน (แถมอีตานี่ยังทะลึ่งถือดาบกลับหลังด้วยนะ) ลีลาการสะบัดไลท์เซเบอร์ของเขาทั้งลื่นไหล รวดเร็วและต่อเนื่อง สามารถเชื่อมต่อเป็นท่าคอมโบมหากาฬได้ (ขึ้นอยู่กับจังหวะการกดและการสลับปุ่มกันไปมาระหว่างปุ่มฟัน ปุ่มกระโดด ปุ่ม Force Push และปุ่ม Force Lighting) บางครั้ง Starkiller อาจควงกระบี่แสงอย่างต่อเนื่องจนแทบมองไม่ทันก่อนจะลงดาบ บางคราวเขาอาจผสมพลัง Force เข้าไปในคมดาบของเขา เช่น ใส่ Force Push เข้าไปในดาบสุดท้ายเพื่อส่งร่างศัตรูสู่ฟากฟ้า หรือใส่ Force Lighting ปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แสงดาบจนดูดร่างศัตรูให้หยุดชะงัก ที่กล่าวมาเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะยังเหลือท่าเจ๋งๆ แบบอื่นอีกเยอะให้คุณค้นหา
ในส่วนของศัตรูที่ Starkiller ต้องพานพบ ก็จะมีไล่เรียงไปตั้งแต่กองกำลังนิยมประชาธิปไตยที่บังอาจลุกขึ้นมาต่อต้านจักรพรรดิ, ทหารรับจ้างต่างดาว, เอเลี่ยนพันธุ์ประหลาดๆ ไปจนถึงกองพันพายุหรือ Strom trooper ของฝ่ายจักรวรรดิเอง (ตัวตนของ Starkiller ต้องเป็นความลับดังนั้นเราต้องเชือดไม่เลือกหน้า) Starkiller ยังต้องประมือกับคู่ปรับขนาดใหญ่ยักษ์อีกหลายชนิด อาทิ ตัว Rancor, หุ่นรบ AT-ST และศัตรูไซส์คับจอแบบยาน Star Destroyer ทั้งลำ ซึ่งในเหตุการณ์กำราบศัตรูพี่เบิ้มเหล่านี้ เกมจะให้คุณเล่นมินิเกมกดปุ่มตามจังหวะเพื่อให้ Starkiller ออกท่ามหาประลัย เช่น การกระโดดกระหน่ำ Force Push ใส่ Rancorพร้อมกัน 5 ลูกติด, เหวี่ยงกระบี่แสงผ่าหุ่น AT-ST ในดาบเดียว หรือแม้แต่การลากยานพิฆาต Star Destroyer ลงมาโหม่งปฐพี นอกจากนี้ศัตรูตัวฉกาจอีกชนิดหนึ่งที่ Starkiller ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือเหล่าผู้เจนจัดในวิถีแห่งพลังหรือ “เจได” รายอื่นๆ นั่นเอง ซึ่งฉากการประลองกระบี่แสงแต่ละครั้ง รวมถึงลีลาของ Starkiller ในการพิชิตพวกเขาเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึก “หวาดเสียว” แทนเหยื่อที่โดนหมอนี่อัดแน่ๆ
ค่าหัวฉันไม่คุ้มกับค่าพยาบาลแกแน่ Boba Fett
“ด้านมืดแห่งพลังคือเส้นทางสู่ความสามารถที่บางคนอาจจะมองว่า… เหนือธรรมชาติ”
ในเวอร์ชั่นคอนโซลที่วางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้ว หนทางของ Starkiller จะเป็นการผจญภัยไปตามหมู่ดาวมากมายในจักรวาล Star Was ตั้งแต่ดาวบ้านเกิดของชิวแบ็คก้าอย่าง Kashykk ดาวที่อุดมไปด้วยพืชพรรณและสภาพแวดล้อมพิสดารอย่าง Felucia บาร์เหล้าของพวกกุ๊ยในนครเมฆ Bespin และที่พลาดไม่ได้คือดาวพิฆาตดารานามว่า Death Star ไม่ต้องห่วงครับ เราชาวพีซีจะได้เหยียบพื้นผิวดาวเหล่านี้อย่างครบถ้วนไม่ต่างกัน แถมพวกเรายังจะได้ไปลุยกันต่อในดาวทรายอย่าง Tatooine และดาวที่หนาวเกินจุดเยือกแข็งอย่าง Hoth อีกสองดวงในเวอร์ชั่น Ultimate Sith Edition นี้ด้วย!
ยอมตายซะดีๆ เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกันทั้งสองฝ่าย
การผจญภัยครั้งใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้จะเล่าถึงเรื่องราวของ Starkiller ยามที่เข้าสู่ด้านมืดเต็มตัวและต้องเปลี่ยนบทบาทตัวเองมาเป็นมือสังหารให้จักรพรรดิ (จะเป็นเพราะอะไรไปลุ้นกันเอาเอง) ซึ่งงานแรกที่เขาได้รับก็โหดหินใช่ย่อย เพราะเขาต้องข้ามรุ่นไปตามเก็บอาจารย์ของอาจารย์ตัวเองอีกทีหนึ่ง ซึ่งก็คือ “Obiwan Kenobi” ขจัดทายาทสืบสกุลของ Anakin นามว่า “Luke Skywalker” และไล่สับนักล่าค่าหัวที่บังอาจมาขัดขวางภารกิจของเขาอย่าง “Boba Fett”
จากตัวอย่างเกมที่ผ่านตามา พวกเราได้เห็น Starkiller ในชุดลุยทะเลทรายสุดเถื่อนย่ำเท้าไปตามผืนทรายบนดาว Tatooine จุดมุ่งหมายของเขาคือวังของมาเฟียอวกาศ Jabba the Hutt เพื่อขอข่าวสารข้อมูลบางอย่าง ระหว่างทางเขาจะได้เชือดเหล่า Jawa และมนุษย์ทรายอย่างพอหอมปากหอมคอ และเมื่อถึงเหตุการณ์เผชิญหน้ากับ Jabba จึงทำให้เราประจักษ์ว่าทักษะเจรจาของ Starkiller ห่วยแตกยิ่งนัก เขาจะต้องลุยกับตัว Rancor ในกรงใต้พื้นวัง ซัดกับฝูงองครักษ์หมูป่า ต่อกรกับ Boba Fett ที่ขนอาวุธแสบสันต์มาสารพัดชนิด และในตอนท้ายของภารกิจบน Tatooine เขาจะได้ประลองดาบกับ Obiwan ในท่าปล่อยยานอวกาศ ส่วนภารกิจบน Hoth ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมามากนัก เท่าที่ทราบคือ Starkiller จะได้ลุยในฐานทัพลับของฝ่ายกบฏ (แบบที่เห็นในภาพยนตร์ภาค The Empire Strike Back) และประมือกับ Luke Skywalker ที่ในตอนนั้นยังเป็นเพียงลูกเจี๊ยบหัดบินในวิถีพลัง
จุดจบของผู้ต่อต้าน Darth Vader
“The Force will be with you…always.”
Force Unleashed ยังมีระบบเก็บเลเวลและพัฒนาทักษะต่างๆ เพื่อเสริมความเก่งกาจของตัวละคร มันมีฉากที่สวยงามและยิ่งใหญ่อลังการเป็นพื้นหลัง (และอาจจะสวยกว่าเดิมบนพีซี) แต่มันก็ยังมีจุดน่าปวดหัวเกี่ยวกับระบบล็อกเป้าศัตรูที่ไม่เอาอ่าว รวมทั้งระบบการใช้ Force Grip ควบคุมสิ่งของที่ไม่ได้ดั่งใจเอามากๆ ข่าวร้ายก็คือนอกจากข้อดีทั้งหลายแหล่บนเวอร์ชั่นคอนโซลแล้ว ข้อเสียจุกจิกกวนใจที่กล่าวถึงก็น่าจะตามมาหลอกหลอนให้เห็นบนเวอร์ชั่นพีซีเช่นกัน ปัญหาเหล่านี้จะทำให้การเข้าสู่วิถีแห่งพลังของชาวพีซีสะดุดมากน้อยแค่ไหนคงต้องรอดูกันต่อไป แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า The Force Unleashed เวอร์ชั่นพีซีจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเฉกเช่นเกมพอร์ตดีๆ เกมอื่น เตรียมตัวปลดปล่อยพลังได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้
กระบี่แสงสำแดงเดช
Lightsaber คือกระบี่ด้ามโลหะผสมที่มีลำแสงพลังงานยาวประมาณ 1 เมตรเป็นคมดาบ ภายในด้ามบรรจุผลึกคริสตัลพิเศษนามว่า Adegan ซึ่งหล่อหลอมออกมาได้จากการใช้พลัง Force ของเหล่าเจได สีของลำแสงดาบที่เกิดขึ้นก็จะเป็นไปตามสีของผลึกคริสตัลประจำดาบเล่มนั้น นอกจากนี้ภายในตัวดาบยังมีสนามพลังป้องกันความร้อนเพื่อไม่ให้พลังงานแผดเผามือของเจไดเสียเอง Lightsaber เป็นอาวุธที่ใช้งานได้ยากมากหากอยู่ในมือของผู้ที่ขาดทักษะ แต่หากอยู่ในมือของเหล่าเจไดผู้เจนจัดมันจะเป็นอาวุธที่ทรงพลานุภาพที่สุด เพราะมันสามารถใช้ปัดป้องการโจมตีได้ทุกชนิด อีกทั้งยังไม่มีสสารใดที่มันตัดไม่ขาด
