ถึงแม้จะรอคอยมานานจนเหงือกแห้งแต่ Borderlands ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย !! เกมนี้แจ่มยังไง เจ๋งยังไงมาดูรีวิวกันเลยม่ะ

แชร์เรื่องนี้:
ถึงแม้จะรอคอยมานานจนเหงือกแห้งแต่ Borderlands ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย !! เกมนี้แจ่มยังไง เจ๋งยังไงมาดูรีวิวกันเลยม่ะ

Borderlands

ประเภท: Action

ผู้พัฒนา: Gearbox Software

ผู้ผลิต: 2K Games

ผู้จัดจำหน่าย: -

เครื่องที่ต้องการ: P4 CPU 2.4GHz, 2GB RAM, nVidia GeForce 8600 Video Card, 8GB HD Space

เครื่องที่แนะนำ: Core2 Duo CPU 2GHz, 4GB RAM, nVidia GeForce 9800 Video Card

จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 4 คน

ESRB Rating: M 

    ต้องขอบอกตามตรงว่าถึงแม้ผมจะเป็นคนพรีวิวเกมนี้ แต่ว่าผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีโอกาสมาจับรีวิวเกมนี้ ไม่ใช่เพราะผมเกลียดเกมนี้หรอกนะ แต่เพราะผมคิดว่าผมอาจจะแก่ตายก่อนได้เล่นต่างหาก Borderlands ใช้เวลาการพัฒนานานหลายปีทีเดียว เราได้มีโอกาสเห็นเกมนี้เป็นตัวเป็นตนนับตั้งแต่ในงาน E3 2007 แต่กว่าเราจะได้เล่นกันก็ปาเข้าไปช่วงปลายปี 2009 แล้ว แถมได้ที่ได้เล่นยังต่างกับไอ้ที่เคยเห็นจากหน้าเท้าเป็นหลังมืออีกต่างหาก เอ๊ะ ยังไง? ไปดู...

เกมเต็มไปด้วยอารมณ์กวนๆ อย่างเช่นเจ้าหุ่นต๊องตัวนี้และเอ่อ...เสื้อผ้าน้อยชิ้นของเจ๊

    Borderlands เป็นเกมแนว FPS ที่นำความเป็น RPG เข้ามาผสมด้วยเล็กๆ ครับ โดยเนื้อเรื่องภายในเกมนั้นได้บอกเล่าถึงตัวละครทั้ง 4 ซึ่งก็คือ Hunter, Berserker, Siren และ Soldier ที่เดินทางมายังดาว Pandora เพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกัน แม้จะมีจุดหมายปลายทางต่างกันแต่พวกเขาก็ได้ตกลงที่จะร่วมทางกันผจญภัยบนดินแดนที่เต็มไปด้วย เอเลี่ยนจอมบ้าเลือด, ผู้อยู่อาศัยสุดเพี้ยน และอาวุธขยะเป็นล้านๆ (แน่นอนว่าเป็นที่สำหรับเหล่า Loot Hunters ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น) แต่เอาเถอะ ไม่ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรนั้น มันไม่จำเป็นสำหรับเราแม้แต่นิดเดียว ถ้าคุณต้องการที่จะเล่นเกมนี้ให้สนุก สิ่งเดียวที่คุณต้องทำก็คือ เดินหน้า ยิง และนองเลือด จริงที่ว่าเนื้อเรื่องซึ่งเป็น Background ของเกมนั้นน่าสนใจมากมายทีเดียว แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว คุณแทบไม่จำเป็นต้องรู้ด้วยซ้ำว่าดาวที่คุณเหยียบอยู่ชื่ออะไร หรือทำไมที่นี่ถึงเต็มไปด้วยพวกเพี้ยนๆ ที่แต่งตัวเหมือนกำลังจะไปงานคานิวัลที่ไหนสักแห่ง เพราะเกมนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเน้น Story เป็นหลักครับ ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เกมนี้มันคือ Diablo ที่ยัดความเป็น FPS เข้ามานั่นเอง และด้วยเหตุที่ว่าเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากมายให้สนใจนัก Quest ต่างๆ ภายในเกมก็จึงได้แปรผันไปตามเนื้อเรื่องเช่นกัน Quest หลักๆ ส่วนใหญ่ที่คุณจะได้เจอก็มักจะเป็น “ไปหาของสิ่งนั้นมาให้ที” หรือไม่ก็ “ไปกุดหัวไอ้เลวนั่นซะ” ซึ่งก็ดีตรงที่คุณไม่ต้องไปเสียเวลามากมายในการทำความเข้าใจว่าต้องไปทำสิ่งไหนหรืออย่างไร แต่ถ้าคุณเป็นคนใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ นี่คงเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ

ทำไมเราควรเล่นเกมนี้พร้อมกันหลายๆ คน ก็ดูขนาดของเจ้าตัวในภาพสิ

แม่เจ้า! มากันเพียบเล๊ยยยย

    แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้น่าสนใจมากมายอะไร แต่ทว่าในส่วนของ Gameplay นั้นสามารถที่จะเรียกได้เต็มปากเลยว่า “สุดยอด~~~~” ผมไม่เคยเห็นเกมไหนนะที่ยัดความเป็น RPG ลงไปในอินเตอร์เฟสที่เป็น FPS แล้วจะออกมาได้ลงตัวแบบนี้ จริงที่ว่าทักษะส่วนใหญ่ของตัวละครมักจะลงเอยที่เป็น Passive และมี Active Skill ให้ใช้แค่เพียง Class ละ Skill แค่นั้นเอง (ของ Siren คือความสามารถในการล่องหน Soldier เป็นทักษะที่ใช้เรียก Sentry Turrets ลงมาช่วยบู๊ สำหรับของ Hunter ก็คือการสั่งให้นกไปโจมตัตรู และสำหรับ Berserker ก็คือการเข้าไปอัดด้วยหมัดดุ้นๆ) ถึงกระนั้นก็ตาม เกมยังคงได้อารมณ์ RPG อยู่ไม่น้อยไม่ว่าจะเป็นการบู๊ล้างผลาญเพื่อดัน LV ของตัวละครหรือการออกเก็บ Items ขยะต่างๆ ที่คุณพบจากศัตรู ซึ่งถ้าคุณเคยอ่านพรีวิวเกมนี้มาก่อน คุณคงยังจำได้ดีแน่เกี่ยวกับคำโฆษณาเกี่ยวกับอาวุธสุดหลากหลายที่มีอยู่ในเกมเรือนแสน ผมเชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่า “มันทำได้จริงๆ เหรอ!!!” ผลก็ออกมาอย่างที่เห็นครับ Borderlands มีระบบ Generate Items ที่ทำได้ดังที่คุยไว้จริงๆ คุณจะได้เห็นอาวุธมากมายหลากหลายรูปแบบระหว่างการเล่น แม้รูปร่างหน้าตาจะไม่ได้หลากหลายมากมายชวนทึ่งอะไร แต่สิ่งที่ทำให้อาวุธแตกต่างก็คือความสามารถของมันครับ ปืนแต่ละกระบอกที่ได้รับจะมี Damage และ Effect ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณระบบ Generate Items ขั้นเทพของเกมจริงๆ ซึ่งถ้าคุณเป็นเหล่า Loot Hunters ด้วยแล้วล่ะก็ นี่คงเป็นสิ่งที่ทำให้คุณไม่อยากลุกขึ้นหนีไปจากหน้ามอร์นิเตอร์ได้เลยทีเดียว

เนื่องจาก Pandora มันกว้างมากๆ อย่าลืมหารถมาขับซักคัน

    อีกสิ่งหนึ่งที่ผม และเพื่อนร่วมรีวิวชอบมากจริงๆ ก็คือในส่วนของกราฟิกครับ แม้เราจะเสียดายเล็กๆ ที่ว่าจะไม่ได้เห็นกราฟิกสุดอลังการอย่างที่เราเคยเห็นใน E3 2007 แต่การเปลี่ยน Look มาเป็น Cel-Shade นั้นก็ให้ผลที่ยอดเยี่ยมและดูเข้ากับบรรยากาศเพี้ยนๆ ของเกมดีทีเดียว และที่สำคัญที่สุดก็คือ มันไม่กินสเปค” ครับ คุณสามารถที่จะรันเกมนี้ได้ลื่นปรี๊ดบนพีซี ระดับกลางๆ เท่านั้น (เครื่องเห่ยที่สุดที่ผมได้มีโอกาสลองก็คือ E2200 กับ 8600GT ซึ่งก็สามารถเล่นได้ลื่นดีที่ 1280*1024 แต่สูงกว่านั้นไปคงไม่ไหว)

ลูกซองประหลาดในภาพนี้เป็นผลมาจากระบบสุ่มอาวุธสุดเจ๋งของ Borderlands

    อีกอย่างที่ผมชอบในเกมนี้ก็คือ Voice Acting ของตัวละคร และ Soundtrack ครับ Sound สำหรับเกมนี้จัดได้ว่าได้อารมณ์มากๆทีเดียว บ่อยครั้งทีเดียวระหว่างการเล่นที่คุณจะได้ยินเสียงของตัวละครที่แหกปากออกมาระหว่างการต่อสู้ แน่นอนว่ามันไม่มีผลใดๆ ต่อ Gameplay แต่ว่ามันทำให้คุณอินไปกับฉากนองเลือดในเกมได้อย่างดีทีเดียว

หลายหัวดีกว่าหัวเดียวนะพรรคพวก

    และข้อดีที่สุดสำหรับ Borderlands ก็คือระบบ Multiplayer ครับ คุณสามารถที่จะลากเพื่อนอีก 3 คนเข้ามาร่วมก่อเหตุนองเลือดพร้อมกับคุณได้ (รวมคุณเองก็เป็น 4) แต่ไม่ต้องกลัวว่าเกมมันจะง่ายลงทันตาเห็นหรอกนะ เพราะทันทีที่มีเพื่อนของคุณเหยียบเท้าเข้ามาในเกมคนหนึ่ง เกมก็จะทวีคูณความโหดเข้าไปอีกเท่าตัว หรือก็คือยิ่งคุณมีเพื่อนร่วมทางมากขึ้นเท่าใด เกมก็จะโหดร้ายสำหรับคุณมากขึ้นเท่านั้นครับ และที่สำคัญที่สุดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ Borderlands สามารถที่จะ PVP กันได้ด้วย โดยทั้งสองคนสามารถที่จะตอบรับ PVP กันได้ด้วยการให้ผู้เล่นคนหนึ่งทำ Melee Damage ใส่อีกคนหนึ่ง และก็ให้อีกคนทำ Melee Damage ตอบรับ แค่นี้คุณก็สามารถก่อคดีนองเลือดกับเพื่อนของคุณได้แล้ว ง่ายมั่กๆ

    Borderlands มี Level Cap ที่ 50 ครับ แต่ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อ Level เต็ม 50 แล้ว เกมจะน่าเบื่อลงไปทันตาหรอกนะ เมื่อคุณจบเนื้อเรื่องหลักเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถที่จะเลือกเล่นต่อได้ด้วย และสิ่งที่คุณจะได้เผชิญก็คือ ศัตรูที่โหดขึ้นสูสีกับ Level ของคุณครับ ซึ่งเจ้าโหมดนี้จะเยี่ยมมากๆ ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมเล่นด้วย นี่ล่ะคือความสนุกของแท้สำหรับเกมๆ นี้

    แน่นอนว่ามีข้อดีก็ต้องมีข้อด้อยครับ เกมนี้มีข้อด้อยก็คือ Single Player จืดสุดๆ จริงที่ว่าสิ่งที่คุณจะได้พบใน Single Player มันก็ไอ้ที่คุณจะได้เจอใน Multiplayer นั่นล่ะ แต่การเดินทางคนเดียวบน Pandora นี่มันช่างหนาวเหน็บจริงๆ ให้ตายสิ

    ข้อต่อมาก็คือระบบการสื่อสารระหว่างผู้เล่นใน Multiplayer ครับ ในเกมนี้คุณไม่สามารถที่จะปรับไมโครโฟนให้ใช้เป็นแบบ Push talk ได้ เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมากๆ เมื่อคุณกำลังบู๊กับบอสล้างผลาญแต่ดันมีเสียงละครช่อง 7 แทรกผ่านเข้ามา หรือไม่ก็เสียงชวนระทึกอันเกิดจากการบู๊กันนอกจอระหว่างเพื่อนของคุณกับแฟนของเขา และจะแย่มากๆ ถ้าเพื่อนของคุณใช้ไมค์แบบสามเข่งร้อยที่ตัดเสียงรอบตัวไม่ได้แล้วดันเปิดพัดลมจ่อข้างตัวซ้ำอีกต่างหาก ระบบการสื่อสารจึงเป็นข้อเสียที่แย่ที่สุดที่ผมได้เจอมาในเกมครับ

สวมบทหนึ่งในสี่สหายแดนเถื่อน

     ข้อด้อยข้อสุดท้ายก็คือบักเล็กๆ น้อยๆ ครับ ยกตัวอย่างก็เช่นการที่คุณกำลังขับรถกินลมชมวิวอยู่เพลินๆ แล้วดันเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลไปสอยกับแนวหินข้างทางเข้า ผลลัพธ์ที่จะตามมาก็คือคุณ และรถจะติดแป้กอยู่ตรงนั้น และไม่สามารถไปไหนได้อีกครับ โชคดีที่ว่าคุณจะไม่ได้เจอกับบักตัวนี้บ่อยเท่าไหร่นักหรอก

     ถึงกระนั้นก็ตาม ผมยังคงยืนยันว่า Borderlands เป็นอีกเกมที่คุณพลาดไม่ได้ครับ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงจริงๆ

ข้อดี: ระบบ Gameplay สุดแนว, Multiplayer สุดแหล่ม, กราฟิกที่ไม่กินสเปคมากมายเท่าใดนัก, ระบบเสียงสุดเร้า และมุกฮาๆ ที่หาได้ไม่ยากในเกม

ข้อด้อย: ระบบสื่อสารระหว่างผู้เล่นที่ควรจะมี Push Talk, Single Player ที่ไม่น่าดึงดูดเลยสักนิด และบักเล็กๆ น้อยๆ ที่จะได้เจอระหว่างเล่น

โดยรวม: ถ้าคุณเบื่อกับการรับบทเป็น Grey Warden หรือไม่ก็การไปเดินไล่ส่องหัวซอมบี้ การไปเดิเล่นบน Pandora กับเพื่อนของคุณก็เป็นตัวเลือกที่ฟังดูดีไม่น้อยครับ แต่ผมไม่แนะนำให้ไปคนเดียวนะ เพราะมันจะทำให้คุณเกลียด Pandora ไปอีกนานเลยล่ะ

คะแนน 90%

ความเห็นที่ 2 จาก www://pc.ign.com

    เนื้อหาของเกมไม่น่าตื่นเต้นเท่าที่ควร แต่ก็ง่ายต่อการเข้าถึง และสนุกไปกับมัน สภาพแวดล้อมและการแสดงออกของตัวละครทำได้ดีมากๆ Soundtrack และบทพูดของตัวละครดูเข้ากันกับเกมดี รูปแบบการเล่นดูลงตัวได้อย่างเหลือเชื่อ สรุปก็คือ Borderlands เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าจดจำที่สุดอีกเกมหนึ่งของปี 2009 นี้

คะแนน 88%

    อ่านอีก 1 มุมมองจากความเห็นของทีมงาน Future Gamer ว่ามีความเห็นอย่างไรได้ใน  Future Gamer ฉบับ 158' ต่อนะครับ


แชร์เรื่องนี้: