สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้มีเวลาค่อนข้างจะเยอะ ก็เลยขอเปิดห้องเรียนของ Black Rogue ซะเลย ^ ^ และเมื่อเป็นห้องเรียนก็ต้องยาวอย่างแน่นอน แล้วก็ไล่กันไปทั้งแต่ง่ายไปยากกันเลย แล้วในวันนี้ซึ่งเป็นบทที่ 1 ของห้องเรียนนี้ ก็ต้องเรื่องของคำว่า “สายการเล่น” ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ อาจจะนึกว่ามันไม่มีอะไรนะครับ เพราะแค่คำว่าสายการเล่นเนียไม่ใช่แค่อัพสกิลแล้วจะแบ่งแยกกันเป็นสายการเล่นต่างๆ ได้ แต่สำหรับเกม Black Rogue มันไม่ใช่แค่นั้น มันแบ่งกันตั้งแต่สายสเตตัส สายอาวุธ สายสกิล แล้วยังแยกแตกออกไปอีกมากมายจนถึงขั้นงงกันไปเลยทีเดียว เอาเป็นว่าในบทที่ 1 นี้ขอเปิดบทเรียนเรื่องสายการเล่นต่าง แบบขั้นพื้นฐานกันก่อนเลยล่ะกันครับ
รู้จักสายสเตตัส ก่อนสายสกิล
เรื่องแรกก่อนเลยครับ ^ ^ เป็นเรื่องของค่าสเตตัสในเกม Black Rogue นั้นเอง ซึ่งตรงนี้คงต้องบอกว่าค่าสเตตัสของเกมนี้จะมีอยู่ 2 ค่า ก็คือ STR กับ INT โดยทั้ง 2 ค่านี้ เพื่อนๆ สามารถอัพเลือกได้อย่างอิสระ และอัพได้ก็ต่อเมื่อเลเวลอัพ แล้วจะได้รับแต้มเอาไว้อัพสเตตัสทั้ง 2 ครับ ต่อไปมาดูผลของค่าสเตตัสทั้ง 2 กัน
หน้าต่างแสดงสถานะพื้นฐานของตัวละคร
• ค่า STR : เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพให้กับตัวละคร (Phy. atk)
• ค่า STR : เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพให้กับตัวละคร (Phy. def)
• ค่า STR : เพิ่มปริมาณ HP สูงสุดให้กับตัวละคร (Max HP)
• ค่า STR : เพิ่มความสมดุลย์ทางกายภาพให้กับตัวละคร (Phy. balance)
• ค่า INT : เพิ่มพลังโจมตีทางเวทย์มนต์ให้กับตัวละคร (Mag. atk)
• ค่า INT : เพิ่มพลังป้องกันทางเวทย์มนต์ให้กับตัวละคร (Mag. def)
• ค่า INT : เพิ่มปริมาณ MP สูงสุดมให้กับตัวละคร (Max MP)
• ค่า INT : เพิ่มความสมดุลย์ทางเวทย์มนต์ให้กับตัวละคร (Phy. balance)
และนี้คือความหมายและผลของค่าสเตตัสทั้ง 2 ค่า คงจะเริ่มเข้าใจกันบ้างแล้ว เดี๋ยวเข้าเรื่องต่อไปกันครับ
รู้จักสายสกิลก่อนสายอาวุธ
เข้าเรื่องที่สองกันเลยครับ เป็นเรื่องของสายสกิลนะครับ แต่ขอบอกว่าเอาพื้นฐานไปก่อน ถ้าเอาละเอียดมันจะยาวมาก ถึงมากที่สุดเลยทีเดียว ..สำหรับสกิลจะแบ่งออกได้ 7 สาย (เฉพาะจีน) แต่หากจะให้แบ่งออกตามประเภทการใช้งาน ก็จะแบ่งได้เป็น 3 แนวทางการใช้งานครับ ดูกันเลยแล้วกันว่า 3 แนว มันเป็นยังไง
แนวกายภาพ
แนวนี้คือสกิลทั้งหมดที่มีผลทางกายภาพ ซึ่งแน่นอนว่าต้องสัมพันธ์กับค่า STR โดยตรง ได้แก่ สกิลสายเพลงกระบี่, สกิลสายเพลงทวน, และสกิลสายเพลงธนู นั้นคือการโจมตีทั้งหมดที่เป็นแบบธรรมดาไม่ว่าจะตีตรงๆ หรือใช้สกิล หากอยู่ในสกิลทั้ง 3 สายนี้ ก็ถือว่าเป็นแนวกายภาพทั้งหมด
แนวเวทย์มนต์
สกิลทั้งหมดที่มีผลทางเวทย์มนต์ ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับค่า INT โดยตรง ได้แก่ สกิลสายลมปราณน้ำแข็ง, สกิลสายลมปราณสายฟ้า และ สกิลสายลมปราณสายไฟ ทั้งหมดจัดอยู่ในแนวเวทย์มนต์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษของปาราณน้ำแข็ง, สายฟ้าและไฟดังนี้
• ลมปราณน้ำแข็ง : เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพ โดยนำความค่าความเสียหายที่ได้รับไปลดที่ MP
• ลมปราณน้ำแข็ง : เป็นปราณที่เหมาะกับค่าสเตตัสแบบสาย INT หรือ สายผสม
• ลมปราณน้ำแข็ง : สามารถใช้ได้ดีกับอาวุธทุกสาย
• ลมปราณสายฟ้า : เพิ่มความแม่นยำ, อัตราหลบหลีก และพลังโจมตีเวทย์มนต์ให้กับตัวละคร
• ลมปราณสายฟ้า : เป็นปราณที่เหมาะกับค่าสเตตัสแบบสาย INT หรือ สายผสม
• ลมปราณสายฟ้า : เหมาะกับอาวุธ ธนู, ทวน และกระบี่
• ลมปราณไฟ : เพิ่มพลังโจมตีทางกายภาพ, เพิ่มพลังป้องกันเวทย์มนต์ และ ลดอัตราติดสถานะผิดปกติต่างๆ ให้กับตัวละคร
• ลมปราณไฟ : เหมาะกับตัวละครที่อพค่าสเตตัสไปที่ STR หรือสายผสม
• ลมปราณไฟ : เหมาะกับอาวุธ ดาบ, ธนู และง้าว
เคล็ดปราณสุริยัน เป็นสกิลหลักที่เสริมพลังโจมทีทางกายภาพ
ปราณน้ำแข็ง โดดเด้นในเรื่องพลังป้องกัน แต่ระวังถ้าใส่ท่านี้เข้าไปจะเดินไม่ได้
แนวรักษา
เป็นแนวที่ไม่ค่อยเด้นชัดสักเท่าไร เพราะมีเพียงสกิลสายลมปราณเพียงสายเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ ปราณรักษา แน่นอนว่าไม่ใช่สกิลที่มีผลกับการต่อสู้โดยตรง แต่จะหนักไปเกือบทั้งหมดไปที่สนับสนุนการต่อสู้ ประมาณว่ามีสกิลฟื้นฟู HP /MP ชุบชีวิตผู้เล่นอื่น ขอได้เปรียบของแนวรักษาหรือเรื่องง่ายๆ ว่าพระของจีนก็คือ จะใช้อาวุธอะไรก็ได้ หรือแม้แต่ค่าสเตตัสก็เลือกอัพได้ตามใจ ถ้ากลับตายเร็วแบบไม่ทันได้ช่วยใครก็ตายซะแล้ว ก็อัพ STR หนักๆ หน่อย ถ้ากลัว MP หมด ก็อัพ INT ไป แต่ต้องบอกไว้ก่อนสายนี้มีสกิลเพิ่มปริมาณสูงสุดของ MP ด้วยนะ เพิ่มเยอะด้วย ^ ^ เอาละ หมด 7 สาย 3 แนวไปแล้ว ไปเรื่องต่อไปกัน
รู้จักสายอาวุธ ก่อนอัพสายสกิล
กลับมาที่เรื่องพื้นฐานสุดๆ อีก แต่ก็มองข้ามไม่ได้เลยเพราะแม้แต่ผู้ล่นระดับเชี่ยวชาญก็ยังมีอาการงงกับอาวุธ ฉะนั้นมือใหม่ยิ่งต้องมาดูกันว่าอาวุธแต่ละชนิดมันเป็นยังไงกันแน่ ตรงนี้ก็เพื่อจะได้เป็นก้าวแรกที่นำเพื่อนๆ ขึ้นสู่สุดยอดทำเนียบโร๊ค เอาล่ะมาดูกันว่ามันเป็นยังไงกันแน่
จีนเป็นอารยธรรมที่มีอาวุธที่มีค่าพลังหลักๆ อยู่ 2 ค่า ในอาวุธ 1 ชิ้น ในขณะที่ยุโรปจะมีเพียง 1 ค่าเท่านั้น และผมก็จะมาขอพูดถึงเฉพาะส่วนของจีนก่อน โดยค่าพลัง 2 ค่าที่ผมว่าไปนั้นก็คือ Phy. Atk. Pwr ซึ่งก็เป็นพลังโจมตีกายภาพ และค่า Mag. Atk. Pwr. อันนี้ก็เป็นพลังโจมตีทางเวทย์มนต์ครับ ก็เพราะเจ้าตรง 2 ค่าเนียละครับที่มันดันไปอยู่ในอาวุธชิ้นเดียวกัน ก็เลยทำให้เกิดสายการเล่นมากมายตามมาอีกมากมาย ตรงนี้ยืดยาวเอาเป็นว่ามารู้จักกับอาวุธก่อนดีกว่ามันเป็นยังไง จะได้เลือกสายถูกครับ ^ ^
สังเกตุค่าพลังของอาวุธ จะมี 2 ค่าหลักๆ
เพื่อให้เกิดความเข้าใจในบทความต่อไปเกี่ยวกับความหมายของคำ
• Pure STR คือ การเล่นแบบอัพค่าสเตตัสทั้งหมดลงไปที่ STR
• Hybrid คือ การเดินสายกลาง ประมาณว่าอัพมันทั้ง STR / INT เลย
• Pure INT คือ ทุ่มหมดใจให้กับ INT
ดาบ (Blade)
Blade (Pure STR)
• ข้อดี : เป็นสายที่โจมตีแบบธรรมดา และใช้สกิลสายดาบ / กระบี่ได้รุนแรงที่สุด อีกทั้งยังมีเลือดและพลังป้องกันสูงที่สุดในสายอาวุธทั้งหมดอีกด้วย
• ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับการโจมตีด้วยปราณมากๆ เพราะจะเบามาก และที่สำคัญคือ MP น้อยมาก
หากจะเล่นอาวุธสายดาบ + PURE STR คงจะต้องเป็นคนที่ชอบความอึดถึก เดินชนเลยทีเดียว แต่ก็ต้องแลกความอึดมาด้วยพลังโจมตีที่เกี่ยวกับปราณที่น้อยมาก ตรงจุดที่พลังโจมตีน้อยก็แก้ได้ด้วยการเข้าปาร์ตี้กับพวกที่เล่นปารณน้ำแข็ง หรือไฟ จะได้มีของแรงๆ ค่อยยิงอยู่ข้างหลัง ^ ^
Blade (Hybrid)
• ข้อดี : เป็นสายที่โจมตีด้วยสกิลดาบ คู่กับปราณจะรุนแรงกว่าการเล่นแบบ Pure STR และ Pure INT พอสมควร
• ข้อเสีย : หากโจมตีด้วยสกิลสายปราณจะไม่รุนแรงเท่า Pure INT
ผู้เล่นสายนี้ดูจะเดินทางสายกลางสักหน่อย เพราะจะสามารถเล่นและทำได้ดีทั้งสายโจมตี และซับพอร์ดเลย เป็นสายที่เหมาะกับ ปราณสายฟ้าคู่ปราณไฟ หรือจะเป็นปราณสายฟ้า คู่กับปราณรักษา
Blade (Pure INT)
• ข้อดี : เป็นสายที่โจมตีด้วยปราณได้รุนแรงที่สุด และมีปริมาณ MP ที่สูงมากที่สุดอีกด้วย จึงสามารถใช้สกิลได้มากครั้งและหลากหลาย
• ข้อเสีย : ถึงแม้จะโจมตีได้ปราณได้แรงมาก แต่จะโจมตีธรรมดา หรือใช้สกิลของดาบได้เบามา แถม HP ยังน้อยอีกด้วย
จริงๆ แล้วสายนี้ไม่ค่อยเหมาะที่จะเล่นสักเท่าไร เพราะดาบไม่เหมาะที่จะเล่นสาย INT อยู่แล้ว ถ้าจะเล่นสายนี้จริงๆ ควรเล่นกระบี่จะดีกว่า เพราะดาบมีพลังโจมตีปราณน้อยกว่ากระบี่
กระบี่ (Sword)
Sword (Pure STR)
• ข้อดี : หากเทียบกับดาบแล้ว กระบี่สายนี้จะโจมตีด้วยสกิลกระบี่ได้เบ่ากว่าดาบเล็กน้อย แต่ก็มีพลังป้องกันสูงที่สุดในอาวุธทั้งหมด
• ข้อเสีย : จะโจมตีด้วยปราณไม่แรงเลย อีกทั้งยังมีปริมาณ MP ที่น้อยจนถึงขั้นใช้สกิลประเภทปราณไม่เพียงพอได้
สำหรับสาย Pure STR กระบี่จะคล้ายๆ กับดาบเลย คือเล่นเอาถึกอึด อดทนสุดๆ มีหน้าที่เดินชนให้เพื่อนๆ ข้างหลังที่มีสกิลโจมตีแรงๆ ได้ใช้กันอย่างสบายใจ แต่ถ้าจะเล่นสายนี้แนะนำให้เล่นดาบจะดีกว่าครับ
Sword (Hybrid)
• ข้อดี : หากเป็นการโจมตีด้วยสกิลดาบ คู่กับปราณจะรุนแรงมากกว่าสายอื่นๆ แต่ก็เป็นสายที่สมดุลที่สุด
• ข้อเสีย : หากเป็นการโจมตีด้วยปราณเพียงอย่างเดียวจะไม่รุนแรงเท่าสาย Pure INT
เป็นสายสมดุล สามารถเล่นได้หลากหลาย จะเล่นเป็นโจมตี ป้องกัน หรือซับพอร์ดก็ได้ และเป็นสายที่เหมาะที่จะเล่นปราณสายฟ้าคู่กับปราณไฟ หรือจะเป็น ปราณสายฟ้าคู่ปราณรักษาก็ได้ (แทบจะเหมือนดาบเลย)
Sword (Pure INT)
• ข้อดี : หากเทียบกับดาบแล้ว จะเป็นสายที่โจมตีด้วยปราณได้รุนแรงกว่ามาก และมี MP ให้ใช้มากอีกด้วย
• ข้อเสีย : ไม่เหมาะที่จะโจมตีด้วยสกิลดาบ เพราะมันจะเบามากๆ แถม HP ยังน้อยมากอีกด้วย
สายนี้เป็นสายที่เหมาะมากๆ ที่จะใช้โจมตีในระยะไกล เพราะตัวจะบาง หากถูกเข้าประชิดได้จะเสียหายหนัก แต่ก็แลกมาด้วยพลังโจมตีสายปราณที่รุนแรง และอีกอย่างคือเป็นสายที่ต้องอดทนสักหน่อย เพราะจะเก่งในช่วงที่เลเวลกลางๆ สักหน่อย
ง้าว (Glaive)
Glaive (Pure STR)
• ข้อดี : ดูจากค่าพลังจะเห็นว่า ง้าวเป็นเป็นอาวุธที่โจมตีด้วยสกิลสายง้าว หรือโจมตีธรรมดาได้รุนแรงที่สุดในอาวุธทุกประเภทของจีน อีกทั้งยังมี HP สูงที่สุดอีกด้วย
• ข้อเสีย : หากเป็นง้าวสายนี้จะโจมตีด้วยสกิลสายปราณเบาพอสมควร และ MP มีปริมาณที่น้อย
ง้าวสาย Pure STR เหมาะที่จะเล่นแบบตะลุยวิ่งเข้าจน แต่ไม่ได้เข้าไปรับความเสียหายแบบพวกดาบนะครับ แต่เข้าไปเพื่อทำลายเป้าหมายถึงแม้จะไม่ดีเท่าสาย Hybrid ก็อึดกว่ามากครับ
Glaive (Hybrid)
• ข้อดี : สายนี้หากโจมตีด้วยสกิลของง้าวคู่กับสกิลปราณ จะรุนแรงกว่า Pure STR และ Pure INT มากทีเดียว อีกทั้งยังมี MP มากพอที่จะใช้งานได้งานสกิลที่หลากหลายขึ้น
• ข้อเสีย : หากโจมตีด้วยสกิลปราณเพียงอย่างเดียว จะสู้สาย Pure INT ไม่ได้ แน่นอนว่าหากโจมตีด้วยสกิลง้าวเพียงอย่างเดียวก็ไม่รุนแรงเท่าสาย Pure STR
เป็นสายที่เลือกเล่นได้ทั้งแบบโจมตี หรือซัพพอร์ดก็ได้ มีความยึดหยุนดี โจมตีแรง และอึดพอสมควร เหมาะที่เล่นเล่นปราณสายฟ้า คู่กับปราณไฟ หากจะเล่นแบบโจมตี แต่ถ้าอีกแบบก็ ปราณสายฟ้า คู่ปราณรักษา
Glaive (Pure INT)
• ข้อดี : เป็นสายที่โจมตีด้วยปราณได้รุนแรงมากๆ แต่หากเอาไปเทียบกับทวนในสายเดียวกันแล้ว ดูจะเบากว่าเล็กน้อย มี HP ที่มากพอสมควน และแน่นอนสายนี้จะมี MP มากจนใช้แทบไม่หมดเลยทีเดียว
• ข้อเสีย : ไม่เหมาะที่จะโจมตีแบบธรรมดา หรือใช้สกิลสายง้าวเลย เพราะจะเบามากๆ และมี HP ที่น้อยกว่าสายอื่นๆ ของง้าว
หากชอบเล่นของยาว และรักที่จะเล่น Pure INT คงต้องบอกว่าง้าวไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะหากเป็นสายนี้และที่เล่นคล้ายๆ กัน ดูทวนจะโดดเด้นกว่าง้าวพอสมควร
ทวน (Spear)
Spear (Pure STR)
• ข้อดี : หากเป็นการโจมตีด้วยสกิลทวน หรือโจมตีแบบธรรมดา ดูทวนจะเป็นรองแค่ง้าวเท่านั้น ในเรื่อง HP สายนี้จะมีสูงมากๆ และมีบัพป้องกันเวทย์
• ข้อเสีย : สายนี้หากโจมตีด้วยปราณเพียงอย่างเดียวจะเบามาก และมีปริมาณ MP ที่น้อยจึงใช้สกิลได้ไม่หลากหลาย ที่สำคัญคือโจมตีช้า
เช่นเดียวกับง้าวเลยครับ คือทวนสายนี้จะเหมาะที่เล่นแบบลุยๆ วิ่งเข้าไปชนเพื่อทำลายเป้าหมายซึ่งๆ หน้า แต่ถ้าจะเล่นแบบนี้ดูง้าวจะเหมาะกว่า
Spear (Hybrid)
• ข้อดี : หากเป็นการโจมตีด้วยสกิลทวนคู่กับปราณ จะโจมตีได้รุนแรงกว่าสาย Prue STR หรือ Prue INT มากพอสมควร มีปริมาณ MP และ HP อยู่ในระดับกลางๆ
• ข้อเสีย : หากเป็นการโจมตีด้วยสกิลสายปราณ จะเบากว่าสาย Prue INT มาก แน่นอนถ้าโจมตีด้วยสกิลทวนเพียงอย่างเดียวก็จะเบากว่า Prue STR เช่นกัน และโจมตีได้ช้าซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของทวน ง้าวอยู่แล้ว
จัดเป็นสายที่น่าเล่นเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นทวน มีพลังโจมตีทั้งกายภาพ และเวทย์มนต์ที่สูง การเล่นสายกลางๆ อย่าง Hybrid จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว ในเรื่องสายปราณจะเล่นได้เหมือนกับง้าวเลย
Spear (Pure INT)
• ข้อดี : หากเป็นการโจมตีด้วยสกิลสายปราณจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดในอาวุธทุกชนิดเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่ามี MP เพียงพอที่จะใช้สกิลได้หลากหลาย แถมยังมี HP ที่มากพอสมควร ที่สำคัญมีพลังป้องกันเวทย์ที่สูงมาก
• ข้อเสีย : เป็นสายที่ไม่เหมาะที่จะโจมตีธรรมดา หรือใช้สกิลสายทวน เพราะจะเบามากๆ และโจมตีได้ช้า
Spear Pure INT ดูจะเหมาะที่สุดกำหรับคนที่รักความรุนแรงแบบเวทย์มนต์ เพราะสายนี้จะเป็นสายที่ยิงปราณได้แรงมากที่สุด แถมยังมีพลังป้องกันเวทย์สูงมากที่สุดอีกด้วย ปราณที่เหมาะสมกับสายนี้คือ ปราณไฟ กลับปราณสายฟ้า และอัพปราณน้ำแข็งอีกเล็กน้อยเพื่อเสริมจุดอ่อนในเรื่องของพลังป้องกันด้วย
ธนู (Bow)
Bow (Pure STR)
• ข้อดี : โจมตีด้วยสกิลสายธนูจะรุนแรงมาก เนื่องจากมีระยะโจมตีที่ไกลจึงได้เปรียบในเรื่องนี้มาก นอกจากนี้ยังมีความแม่นยำสูงที่สุดในอาวุธทั้งหมดอีกด้วย และเนื่องจากเป็นสาย Pure STR จัดอ่อนในเรื่องที่ HP และพลังป้องกันน้อยจึงตกไป
• ข้อเสีย : หากโจมตีด้วยปราณจะโจมตีได้เบามาก และมีปริมาณ MP ที่น้อย จึงทำให้ไม่สามารถใช้สกิลที่หลากหลายและเป็นเวลานานได้
เป็นสายที่เหมาะที่สุดสำหรับคนที่ชอบเล่นแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก อาศัยระยะยิง และพลังโจมตีกายภาพแบบดิบๆ สร้างความเสียหายให้กับเป้าหมายอย่างรุนแรง และถึงแม้จะใช้สกิลสายธนูไม่ได้ไม่มากเพราะ MP น้อย แต่ถ้านับเรื่องความแรง ก็ถือว่าแรงมากทีเดียว
Bow (Hybrid)
ข้อดี : สายนี้จะโจมตีด้วยสกิลสายธนู คู่กับปราณได้รุนแรงกว่าสาย Pure STR และ Pure INT ซึ่งแน่นอนว่าจะมี MP มากพอที่จะใช้สกิลได้ และมีความแม่นยำสูงตามแบบฉบับของธนู
ข้อเสีย : ไม่เหมาะที่จะโจมตีด้วยสายสกิลอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะหากจะโจมตีด้วยสกิลธนู ความรุนแรงก็จะน้อยกว่าสาย Pure STR หรือจะเป็นโจมตีด้วยปราณเพียงอย่างเดียวก็จะเบากว่าสาย Pure INT มาก นอกจากนี้พลังป้องกันยังน้อยอีกด้วย
เป็นสายโจมตีระยะไกลที่เหมาะที่จะเลือกเล่นสกิลธนู คู่กับปราณสายฟ้าและปราณไฟ ซึ่งนัเบป็นสายโจมตีของธนู แต่ด้วยความที่ตัวบาง การเข้าปะทะโดยตรงจึงไม่เหมาะหากโดนเข้าถึงตัวอาจจะล้มเอาง่ายๆ แต่หากมีสายแทงค์อื่นๆ ค่อยช่วย สายการเล่นแบบนี้จะน่ากลัวมากทีเดียว
Bow (Pure INT)
ข้อดี : หากโจมตีด้วยปราณ จะมีพลังโจมตีที่สูงมากๆ แต่ก็ยังเบากว่าทวน หรือง้วนอยู่ดี
ข้อเสีย : หากโจมตีธรรมดาหรือใช้สกิลธนู จะสร้างความเสียหายได้น้อยมาก แถม HP ยังน้อย และด้วยความที่ตัวบาง พลังป้องกันต่ำ จึงตายง่ายเป็นพิเศษอีกด้วย ที่สำคัญไม่มีสกิลป้องกันตัวเองดีๆ เลย
Bow PURE INT ไม่ใช่สายการเล่นที่แนะนำเลย ด้วยความที่มีจุดอ่อนมากมายกว่าจุดแข็ง แต่หากรักจะเล่นธนู แนะนำให้เล่นแบบ Pure STR หรือ Hybrid จะดูดีกว่าเยอะครับ
ยิงด้วยสกิลธนู จะรุนแรงมากหากเป็นสาย Pure STR
เอาละจบหัวข้อ “รู้จักสายอาวุธ ก่อนอัพสายสกิล” ซะที ครับ ซึ่งตอนนี้คงจะขอติดตรงอัพสกิลเอาไว้เป็นบทเรียนที่ 2 นะครับ แต่ต้องบอกว่าสกิลที่จะได้รู้จักก่อนในเล่มหน้าจะไม่เหมือนสกิลที่ได้รู้จักกันในเล่มนี้นะครับ ระดับความยากบวกงงจะมากกว่านี้อีก สรุปว่าเล่มหน้าเจอกันใหม่ในบทที่ 2 ของห้องเรียนแสนสนุกของ Black Rogue ครับผม ^ ^