Atlantica Online : เจาะลึกวิธีปราบเหล่าบอส

แชร์เรื่องนี้:
Atlantica Online : เจาะลึกวิธีปราบเหล่าบอส

          ไม่ว่าจะเควสต์หลักที่ให้เดินทางไปที่ต่างๆ ตามเนื้อเรื่อง หรือเควสต์จ้าง Mercenary พอจะจบเควสต์ ก็ต้องมาพบกับบอสเพื่อวัดความสามารถของผู้เล่น และการจัดทีมของเรา ซึ่งก็ท้าทายความสามารถของผู้เล่นได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่มีบอสตัวไหนเกินความสามารถของผู้เล่นจะสู้ได้หรอกครับ เพียงแต่ขึ้นกับตัวแปรหลายๆ อย่างมากกว่า


บอสก่อนถึง Bran Castle
          ถึงบอสช่วงแรกบางตัวจะโจมตีอย่างรุนแรง แต่ก็ปราบไม่ยาก เพราะวิธีหยุดทั้งมอนสเตอร์กับบอส มี 2 วิธีง่ายๆ
1. Combo สตั๊น ตามที่เคยอธิบายไปในเล่มก่อนๆ เมื่อศัตรูได้รับความเสียหายทางกายภาพครบ 3 ครั้งใน 3 เทิร์นจะติดสถานะสตั๊นแน่นอน ถ้าเล่นทีมที่มีพวก Gunner หรือ Cannon จะคุมการสตั๊นของศัตรูได้ง่าย
2. แช่แข็งด้วย Freezing Axe (Viking) เป็นสกิลหยุดบอสที่ดีมาก ถ้าปราบศัตรู 2 แถวแรก จนเห็นมอนสเตอร์ในแถวสุดท้าย ก็จะแช่แข็งทั้งแถวได้ (อัพเกรด Viking ตอนเลเวล 20)


ประเภทของบอสในเควสต์แบ่งเป็นสองแบบใหญ่ๆ คือ
1. เควสต์ทั่วไป บอสในห้องจะบังคับให้ผ่านคนเดียวเท่านั้น (ถ้าบอสเดินไปมาในฉากจะปาร์ตี้ได้)
2. เควสต์รับ Mercenary บอสจะผ่านแบบปาร์ตี้ และโหดกว่าบอสในดันเจี้ยนธรรมดา

บอสตั้งแต่ Bran Castle ขึ้นไป
ดันเจี้ยนแถว Bran Castle จะเป็นโซนพื้นที่เลเวล 48 ขึ้นไป จะแตกต่างกับก่อนหน้านี้ ตรงที่บอสจะเริ่มไม่ติดสถานะสตั๊นแล้ว รวมทั้งเหล่ามินิบอสทั้งหลายที่มาสร้างสีสันให้ดันเจี้ยน ก็ไม่ยอมติดสถานะ Freeze หรือสตั๊นจากคอมโบด้วยเริ่มจากบอสแถว Bran Castle ที่เป็นพวก Dracula ก็ทำเอาปาดเหงื่อไปหลายคน หลังจากนั้น Minotaur King หรือ Tiamat ก็พบความลำบากกันอยู่เรื่อยๆ


บอสตัวแสบอีกตัวหนึ่ง


          พอถึงบอสเควสต์หลักแบบ King Khufu บอสในช่วงเลเวล 70 ก็จะพบความแตกต่างของระดับชั้น ทั้งฟาดหนัก ใช้สกิลยิงกวาดรวดเดียวเสียกำลังไปร่วมครึ่งกอง ไหนจะบอสเควสต์ Oracle ในดันเจี้ยนเดียวกันอย่าง Incarnation of Amon แล้วยังบอสหลังจากนี้ ที่ทวีความโหดขึ้นเรื่อยๆ วิธีรับมือกับบอสมีหลายวิธี ดังนี้

1. ป้องกันสกิลของบอส
ต้นเหตุของการตายจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาจากสกิลของบอสที่โดนเป็นกลุ่ม และจะพบสกิลประเภทนี้เสมอในช่วงบอสหลังๆ อาจรวมถึงรองบอสของเควสต์ด้วย แน่นอนว่าพวกที่ทนต่อสกิลดีสุด คือพวกสายเวทมนตร์ แต่พวกกองหน้าจะป้องกันตัวไม่ได้ ก็ให้ใช้สกิลเหล่านี้เป็นหลักในการแก้ไขสถานกาณ์
1.1. Holy Guard
ทุกทีมควรจะมีสายสนับสนุนอย่าง Monk อย่างน้อย 1 คนอยู่แล้ว ซึ่งสกิล Holy Guard จะช่วยป้องกันสกิลต่างๆ จากบอสได้เป็นอย่างดี

ข้อดีอย่างหนึ่งของ Holy Guard เพียง 1 - 2 แถว จะทำให้บอสยังคงใช้สกิลอยู่ ซึ่งถึงโดนกองหลังที่เป็นสายเวทมนตร์ที่ M.Def สูง ก็เหมือนมดกัดอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดเป็น Silence จะทำให้บอสโจมตีปกติแน่นอน ซึ่งบางครั้งโจมตีแล้วฟลุ๊คโจมตี 2 – 3 ครั้งติด และโจมตีโดนทีละหลายตัว อาจทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิมก็มี

ป้องกันสกิลของบอส

1.2. Silence
เป็นสกิลที่ยังมีผลกับบอสอยู่ เพียงแต่ในทีมต้องมี Archer อย่างน้อย 1 คน ถ้าบางทีมไม่ใช้ Archer เลยจะไม่มีโอกาสได้ใช้ ยกเว้นจะเก็บพวก Scroll of Silence ที่ได้จากกล่อง Scroll จากระบบตอนเลเวล 20 เอาไว้ (แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้กันจนหมดแล้ว)
Silence ผลจะสั้นเพียง 2 เทิร์นเท่านั้น นั่นคือ สกิลจะหมดผลเมื่อเข้าเทิร์นศัตรูครั้งที่สอง เท่ากับว่าหยุดได้แค่ตาเดียว แต่เมื่อตัวละครหลักเลเวล 80 หรือมีการอัพเกรด Archer ในช่วงนั้น จะใช้ได้นานขึ้นอีก 1 เทิร์น

2. กองหน้าต้องรอด
ส่วนใหญ่จะประมาทกับความเสียหายที่เกิดขึ้น พอโดนโจมตี 2 – 3 ครั้งต่อเนื่อง ก็ล้มกันระนาว บางครั้งรอด แต่ถ้าปางตายก็อาจฮีลไม่ทัน และไม่รอดในเทิร์นต่อไป ซึ่งถ้ากองหน้ายังขวางไม่อยู่ กองกลางก็หมดห่วง ยังไงก็ทนไม่ไหวแน่นอน เป็นเหตุผลที่กองหน้าไม่ควรตาย
ดังนั้น เมื่อพบบอสที่พลังโจมตีทางกายภาพสูงมากๆ แนะนำให้พยายามตั้งการ์ดเอาไว้เท่าที่จะทำได้ จะลดความเสียหายจากการโจมตีได้ในระดับหนึ่ง


ถ้าลืมตั้งการ์ด อาจจะตายหมู่ง่ายๆ

3. อย่ามองข้ามเรื่องสตั๊น
เหตุผลหนึ่งที่ใช้ Holy Guard แล้วถูกทำให้สตั๊นเพราะหลายคนลืมเรื่องการนับ Combo สะสมบนตัว ถึงจะเป็นแค่มอนสเตอร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีโอกาสสุ่มโจมตีจนเราติดสตั๊นได้ โดยเฉพาะตัวที่โจมตีเป็นเส้นตรงเหมือนปืน หรือโจมตีขวางเหมือนขวาน ถ้าชะล่าใจจะพลาดท่าง่ายๆ
กรณีถูกทำ Combo ทั้งที่จะกาง Holy Guard ให้หาจังหวะสะสม AP ของ Monk ไว้สัก 225 ขึ้นไป แล้วให้ส่งการกระทำให้ Monk เพื่อใช้ทั้ง Awakening และ Holy Guard ต่อเนื่องกัน แต่ถ้ารู้สึกว่า AP ของ Monk สะสมไม่ถึงแน่ ก็มีอีกทางเลือก คือ ยอมให้กองหน้าติดสตั๊น แล้วค่อยกาง Holy Guard
อีกวิธีที่ได้ผลดีในระดับหนึ่งสำหรับบอสที่สู้กันเป็นปาร์ตี้ คือ ให้เพื่อนที่ป้องกันตัวดีแล้ว ช่วยใช้ Holy Guard และใช้ Awakening ให้ ซึ่งก็ต้องเตี๊ยมให้ดีก่อนเข้าไปสู้กับบอส

กองหน้าสตั๊น แล้วตามด้วยสกิล เป็นสิ่งที่แก้ไขยาก


4. ปัจจัยอื่นๆ
- พวกฉายาเพิ่ม Status จากเควสต์ฉายา
- Blessing Potion ที่ได้รับจากกิจกรรม หรือ Item Shop (เปิดปิดการใช้งานได้ที่หัวข้อ My Info -> Character -> เลือก Blessing Potion แล้วติ๊กสถานะ Effect ออก)
- Scroll of Resurrection ใช้ฟื้นทั้งปาร์ตี้ ช่วยได้มาก หาได้จากกิจกรรม หรือ Item Shop ใช้ปลุก Mercenary ทั้งหมดของเรา
- Scroll of Dispel (ลบสถานะศัตรู), Awakening Scroll (แก้คอมโบสะสม) และ Scroll of Purification (แก้สถานะผิดปกติของฝ่ายเราทั้งหมด) ปกติเอาไว้สำหรับ PVP ก็จริง แต่เอามาประยุกต์ใช้งานใน หาได้จากกล่องจาก Free League หรือซื้อจากคนอื่นที่คราฟก็ได้ ถึงจะสิ้นเปลืองหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เงินจำนวนมากนัก
- สังเกตจุดอ่อนของบอส บางตัวแพ้การโจมตีด้วยกายภาพ แต่บางตัวแพ้การโจมตีด้วยเวทมนตร์ สังเกตค่าความเสียหายบนตัวบอสด้วย
5. เห็นท่าไม่ดีก็ยอมยกธง
ก่อนสู้บอสเราควรฝากเงินไว้กับธนาคารอยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลการหนีและตาย ดังนั้น ถ้าสู้กับบอสแล้วเห็นท่าทางว่าไม่รอดแน่ แนะนำให้ยกธงแล้วไปตั้งต้นใหม่ดีกว่า แต่ถ้าไม่รอดก็ยอมตายไป แล้วรีบกลับมาสู้ต่อ
กรณีสู้กับพวกบอสจ้างทหารที่เป็นปาร์ตี้ แล้วเกิดมีคนตาย ก็ให้เพื่อนถ่วงเวลาไว้จนกว่าคนที่ตายจะกลับไปถึงบอส จะได้ผ่านเควสต์ด้วยกัน

รูปแบบการโจมตีของบอสในช่วงหลังจะแตกต่างกันไปบ้าง ยิ่งช่วงหลังมากๆ ประเภทใส่บวกสิบทั้งตัวไม่รอดก็ยังมี แต่พวกบอสเหล่านั้นจะนำมากล่าวถึงในโอกาสต่อไปครับ

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ