พาดหัวกันแบบนี้เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะสงสัย ว่าอะไรมันจะขนาดนั้น จากเดิมที่เราเคยโปรโมทหรือเห็นบทความ วีดีโอ ต่างๆ นาๆ ของ League of Legend กันมาบ้าง ( หลังจากนี้ขอใช้ตัวย่อ LoL นะครับ ) ก็ปรากฏว่าตัวเกมก็ดูมีความน่าสนใจไม่น้อย รวมไปถึงระบบต่างๆ ภายในเกมก็ทำออกมาได้ดูน่าสนใจ ไม่เห็นว่าจะมีแววร่วงแต่อย่างใด
แต่ความเป็นจริงมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ มันก็เหมือนกับการที่เรามองดูรูปผู้หญิงคนนึงที่ตัวเธอในรูปช่างสวย เซ็ก เอ็กซ์ สะบัด แต่ในความเป็นจริงนั้น กลับหน้าตาต่างกับในรูปราวฟ้ากับเหว ( อันนี้กระทบใครก็ขอโทษด้วยนะครับ ฮ่าๆ ) ซึ่งตัวเกม LoL เองก็เปรียบได้เช่นเดียวกับกรณีข้างต้นเช่นกัน
ซึ่งถือเป็นความโชคดีของตัวผม ที่ได้มีโอกาสได้เข้าไปทดสอบเกม League of Legend ในช่วง Beta Test ที่ผ่านมา ซึ่งความประทับใจแรกที่ได้สัมผัส LoL นั้นขอบอกเลยว่า “เอาเวลาไปเล่นเกมอื่นดีกว่าเยอะ” ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ได้ฟังคำนี้แล้วก็คงจะคิดว่าแรงไปมั้ย แต่สำหรับตัวผมนั้นผมว่า ไม่เลย ครับ ซึ่งในวันนี้ผมก็จะพาเพื่อนๆ เข้าไปดูกับความ “เจ๋ง” ที่อาจจะทำให้ “เกมเจ๊ง” ของ LoL กันว่าเป็นอย่างไร
ความประทับใจแรกเมื่อ Login
หลังจากที่ทำการ Login เข้าเกม League of Legend เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาพบกับหน้าจอแรกเมนูหลัก ที่จะพาไปสู่หมวดหมู่เมนูอื่นๆ ปลีกย่อยกันต่อไป ซึ่งตรงจุดนี้ก็ถือว่าไม่มีอะไรสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่กลับกันในส่วนของ Interface ต่างๆ นั้นส่วนตัวแล้วผมมองว่ามันดูเหมือนเกมสมัยก่อนไปหรือเปล่า แต่ช่างมันครับ นี่แค่รายละเอียดเล็กน้อยๆ ไม่ต้องใส่ใจ
Summoner Profile
มาถึงส่วนที่สองกันบ้างกับ Summoner Profile ซึ่งจุดนี้ต้องขออธิบายกันก่อนสักนิดว่า ในเกม League of Legend นั้น ตัวผู้เล่นเราจะเปรียบได้กับ Summoner คนนึง ที่ในเวลาต่อสู้ เราจะสามารถเรียกเอา Hero ตัวต่างๆ ออกมาใช้ได้ ซึ่งในหน้า Summoner Profile นี้ก็จะเหมือนกับหน้าเก็บประวัติการเล่นของเรานั่นเอง รวมไปถึงการอัพสกิล หรือติด Rune อ๊ะ ฟังถึงตรงนี้แล้วงงใช่มั้ยครับ ทำไมผู้เล่นมีสกิลด้วย ทำไมมี Rune ด้วย ถ้าสงสัยเรามาตามดูกันต่อไปเลยครับ
Skill Tree
ถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างมาก กับเกมประเภทนี้ที่มีการอัพ Skill Tree สำหรับผู้เล่นเพื่อนำไปใช้ในการเล่นเกมจริงๆ ซึ่งสกิลที่ Summoner สามารถเลือกใช้ได้ก็มีมากกว่า 50 สกิล โดยจะแบ่งเป็น Active 12 สกิล และ Passive 42 สกิล
ซึ่งจุดนี้ก็ถือว่าเป็นจุดแปลกใหม่ที่น่าสนใจของเกมประเภทนี้มากๆ เลยนะครับ เพราะใน League of Legend นั้นตัว Summoner สามารถที่จะเลือกเอาสกิล Active เข้าไปใช้ได้เพิ่มอีก 2 สกิล รวมกับสกิล Hero แล้วก็เท่ากับว่าจะเป็น 6 ซึ่งมองดูแบบนี้แล้วก็ถือว่าเป็นการช่วยให้รูปแบบเกมมีการเล่นที่สามารถแปรเปลี่ยนและประยุกต์ใช้สกิลต่างๆ ควบคู่กันได้ต่างๆ นาๆ มากมาย แต่ข้อเสียใหญ่สุดๆ ของระบบนี้ก็คือ “ความสมดุล”
เพราะยิ่งถ้าตัว Summoner เรามีเลเวลสูงเท่าไหร่ ทั้งสกิล Active และ Passive ของเราก็จะทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงส่งผลอย่างรุนแรงในการเล่นเกม เพราะไม่ว่าคุณจะมีฝีมือสูงส่งมาจากไหน แต่ถ้าเจอคนที่เลเวลสูงกว่า สกิลโหดกว่า มันก็คงจะเป็นเรื่องยากมากที่คุณจะสามารถเอาชนะได้ และยิ่งถ้ากับคนที่ฝีมือสูสีกัน ตัวที่จะชี้วัดผลแพ้ชนะกันแบบชัดๆ ก็จะมาจากความต่างของสกิลของ Summoner นี่ล่ะครับ ดังนั้นจุดนี้มันก็เหมือนกับดาบ 2 คม ที่เป็นได้ทั้งจุดน่าสนใจของเกม และ จุดที่จะทำร้ายตัวเกม เพราะถ้ามองไปไกลถึงการแข่ง E-Sport มันก็คงจะเป็นการแข่งเกมที่ไม่ค่อย Balance เท่าไหร่นัก ยิ่งกับรอบ Online นี่ยิ่งแล้วใหญ่ งานนี้เลเวลใครน้อยโอกาสแพ้ก็สูงตามไปด้วยเลยล่ะครับ
Runes
เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่ง กับระบบ Runes พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเราสามารถที่จะใส่ Runes ให้กับตัว Summoner ได้ โดยความสามารถของ Rune นั้นก็มีตั้งแต่ Regen HP&MP, +ATK , + Magic ATK, เพิ่ม HP&MP, เพิ่ม Critical และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตรงจุดนี้ก็เหมือนกับการปรับแต่งตัว Summoner ของเราให้เหมาะสมกับ Hero ตัวโปรดของเราได้ ซึ่งจุดนี้ก็จะก่อให้เกิดรูปแบบการเล่นที่แปลกแหวกแนวขึ้นอีกมากมาย แต่ว่ามันก็จะเข้ากรณีเดิมอีกนั่นแหละครับ เพราะยิ่งคนเลเวลสูงเท่าไหร่ Runes ที่เค้ามีก็จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นเท่านั้น และ จำนวน Runes ที่ติดได้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การเข้าเล่น
ในเบื้องต้นเพื่อนๆ สามารถเข้าไปเล่น League of Legend กับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ด้วยการกดปุ่ม Play เพียงแต่ว่าเมื่อกดแล้วก็จะเข้ามาสู่หน้าจออีกหน้าจอหนึ่งซึ่งมีโหมดให้เลือกคลิ๊กมากมาย ซึ่งในตอนนี้ก็จะเปิดให้เข้าเล่นได้แค่ในโหมด Practice เท่านั้น แต่ถึงแม้ชื่อจะบอกว่า Practice แต่ก็เป็นการเล่นร่วมกับผู้เล่นอื่น ส่วนอีกโหมดใน Normal Game นั้นก็สามารถคลิ๊กได้ตามปรกติ แต่ก็แอบสงสัยว่าทำไว้ทำไม เพราะเมื่อคลิ๊กไปแล้วและกด Game Start แล้ว กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย T^T
มาถึงส่วนเลือกห้องกันบ้าง ซึ่งหน้าจอนี้ต้องขอบอกเลยว่าทำออกมาได้ดูแย่มากเลยล่ะครับ ทั้ง Font สีสัน ความน่าสนใจ แรงดึงดูด หรือระบบ Search ที่ควรจะมีก็กลับไม่มี ซึงตรงนี้ดูแล้วก็รู้สึกเสียความรู้สึกพอสมควรเลยน่ะครับ แต่เอาน่า ทั้งหมดนี้มันก็แค่เรื่องรอง จุดสำคัญจริงมันอยุ่ที่ Game Play อยู่แล้ว
Game Play
ขอกล่าวเริ่มตั้งแต่เมื่อเราเข้าห้องกันมาเลยละกันนะครับ โดยเมื่อเราเข้าห้องและเริ่มเล่นเกมมาแล้วเราจะมีเวลาเลือกฮีโร่ เลือกสกิลActive 2 สกิล และเซ็ท Rune ประมาณ 1นาที 30 วินาที จากนั้นเมื่อเราและผู้เล่นคนอื่นๆ ทำการเลือกครบเรียบร้อยก็จะเข้าสู่การเล่นแบบเต็มตัวซะที
เมื่อเราเข้าเกมมาแล้ว บรรยากาศภาพกับสิ่งที่เราเคยเจอใน Screen Shot เก่าๆ หรือใน VDO นั้นช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งตอนแรกผมก็คาดว่าอาจจะเป็นเพราะคอมผมไม่ดี แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ เพราะ Spec คอมผมนั้นก็เล่น Aion แบบปรับภาพกราฟฟิคสูงสุดได้แบบลื่นฉิว และเมื่อลองปรับ Resolution รวมไปถึงกราฟฟิคต่างๆ ในเกมให้เป็นแบบดีที่สุด ก็พบว่า ภาพที่ปรากฏออกมานั้น มันไม่เหมือนกันที่เคยเจอมาเลยสักนิด T^T
โดยภาพกราฟฟิคของ League of Legend นั้นจะออกแนวการ์ตูนเซลล์เฉดสีสันสดใส ซึ่งจะคล้ายๆ กับ ECO โดยจะมีการตัดขอบดำให้ตัวละครดูเด่น การเพิ่มสีและแสงลงในตัวละครให้ดูสวยงามมากขึ้น ซึ่งมันช่างไม่เหมาะกับเกมแนวนี้เลยแม้แต่น้อย T^T
และถึงจะบอกว่าเป็นภาพในสไตล์การ์ตูนเซลล์เฉด แต่มันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ทั้งเอฟเฟคสกิล โมเดลตัวละครและสิ่งก่อสร้างนั้นกลับรู้สึกว่าเหมือนเกมเก่าๆ สมัย 4-5 ปีก่อนเกมนึงเลย ซึ่งตรงนี้อาจจะมาจากตัว Engine ที่ใช้พัฒนา League of Legend หรือว่าตัวเกมที่ยังไม่สมบูรณ์ก็ยังไม่ทราบได้
มาถึงส่วนของการควบคุมตัวละครกันบ้าง โดยในเบื้องต้นนั้น ทุกคนจะต้อง “งง” กับรูปแบบการบังคับแน่นอนครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นคำสั่ง Hold, Stop, Attack หรืออื่นๆ ที่เราเคยใช้นั้น มันได้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เหลือเพียงแต่การคลิ๊กซ้ายคลิ๊กขวาและการกดสกิลเพียงเท่านั้นเอง ซึ่งจุดนี้ถือเป็นอะไรที่ทำให้สาวก DotA เสียอารมณ์เป็นอย่างมาก
แต่ในส่วนของช็อตคัตการใช้สกิลนั้นก็ทำออกมาให้สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ โดยใช้รูปแบบเดียวกันกับ HoN คือใช้ปุ่ม Q,W,E,R และการใช้สกิลและใช้ปุ่ม A,S ในการใช้สกิลของ Summoner และรูปแบบการใช้เมาส์ก็เช่นเดียวกันกับ DotA ซึ่งจุดนี้ก็ใช้เวลาไม่นานในการที่จะเรียนรู้ จะมีก็เพียงแต่ปุ่ม Stop, Hold, Attack ที่หายไป จึงนับเป็นเรื่องยากมากๆ ในการที่จะควบคุมฮีโร่ในการ Last Shot และ Denied โดยใช้เพียงแค่เมาส์ตัวเดียว
และในส่วนของ Item Shop ของ League of Legend นั้น ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดี มีการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน รวมไปถึงการทำจุดเชื่อมโยงการอัพเกรดไอเทม ทำให้เราสามารถอัพเกรดไอเทมได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องคลิ๊กไปคลิ๊กมาหรือต้องมาคอยหาไอเทมชิ้นอื่นๆ ให้ปวดหัว จะมีข้อเสียก็เพียงแต่ การซื้อไอเทมนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างช้า เพราะต้องเสียเวลาคลิ๊กหลายทีกว่าจะได้ไอเทมแต่ละชิ้น และการจะออกเมนูซื้อขายก็ไม่สามารถใช้ปุ่ม ESC ปิดได้ ต้องเอาเมาส์มาคอยจิ้ม จึงทำให้เสียเวลาทำมาหากินไปหลายวินาทีเลย
ส่วนรูปแบบการเล่นนั้นก็จะคล้ายคลึงและใกล้เคียงกับ DotA มากๆ จะมีปรับเปลี่ยนก็แค่ในส่วนของจุดเกิด Creep, Fog และทางเดินบางช่วง แต่เรื่องของ Game Play เมื่อเทียบกับ HoN หรือต้นแบบรุ่นพี่อย่าง DotA แล้วถือว่า "ทำออกมาได้ไม่น่าสนใจเลย"
เพราะตัวเกมนั้นค่อนข้างจะฝืนๆ และเอื่อยเฉื่อยแบบสุดๆ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยลื่นไหลของฮีโร่ และInterface ต่างๆ ที่ทำออกมาขัดกับตัวเกมพอสมควร บวกกับภาพกราฟฟิกที่ดูแล้วไม่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ และเสียง God Like หรือเสียงความอลังการของสกิลก็ถูกตัดออกไปหมด ซึ่งอารมณ์ในการเล่นนั้นจะคล้ายกับการเอาตุ๊กตาตัวเล็กๆ มาต่อยกันเสียมากกว่า เรียกได้ว่ารสชาติความ Hard Core ที่อยากให้มีนั้นกลับเลือนหายไปหมดโดยสิ้นเชิง
แต่ว่าอาจจะด้วยตัวเกมที่อยู่ในช่วง Beta Test ก็เป็นได้ จึงทำให้ตัวเกมออกมาในรูปแบบนี้ ซึ่งกว่าจะพัฒนากันได้แบบเต็มที่ชนิดที่เอามาชนกับ Heroes of Newerth ได้จริงๆ ผมว่าก็คงต้องแก้กันหลายจุดจริงๆ น่ะแหละครับ เพราะในตอนนี้ คนเล่น League of Legend นั้นก็ถือว่าน้อยมากๆ เข้าเกมไปเจอคนครีห้องไม่ถึง 10 ห้อง อาจจะด้วยเพราะ Game Play ที่ไม่มีความดึงดูดใจ ทั้งทางภาพ เสียง และเนื้อหา รวมไปถึงความเหลื่อมของสมดุล Skill, Rune เพราะเสน่ห์ของเกมแนวนี้ก็คือการที่ผู้เล่นใช้ฝีมือของตัวเองเต็ม 100% ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ ซึ่งเราก็ต้องรอดูต่อไปว่าในอนาคต LoL จะพัฒนาไปในรูปแบบไหน แต่ถ้าจะนำออกมาแข่งกับ HoN จริงๆ ละก็ผมว่าอาจจะต้องแก้ไขเกมกันแบบยกแผงเลยล่ะครับ แต่ถ้าหาก Eul และ Guinso ต้องการให้เกมออกมาในรูปแบบนี้จริงๆ ผมว่า LoL ก็คงจะไปไม่ถึงฝั่งฝันแน่นอนครับ ฟันธง !! ( จริงๆ HoN ก็ Beta Test นะแต่เกมสมบูรณ์กว่าเยอะ )