จาก Paladins สู่ Monks จากระบบ Rune สู่ระบบ Skill ดูเหมือนว่า Blizzard จะเอาจริงเอาจังกับ RPG เอกอย่าง Diablo III อย่างต่อเนื่อง ถึงกับขนทีมงาน Diablo III มากันทั้งขบวนไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าโปรแกรมเมอร์, ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ (Art director), หัวหน้าฝ่ายออกแบบ, และซีเนียร์โปรดิวเซอร์มา เพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจแฟนๆโดยเฉพาะ
อย่างแรกสุด ทีมงานตอบคำถามเกี่ยวกับการ Hack ซึ่งนับเป็นคำถามสุดคลาสสิคนับตั้งแต่ Diablo ภาคแรกจนถึงภาคต่อๆมา อย่างที่รู้กันว่าระบบที่มีช่องโหว่ทำให้ผู้เล่นหัวหมอสามารถทำการ Hack เอาไอเท็มเทพๆมาใช้มากมายก่ายกอง โดยที่พวกเขาไม่ได้พยายามแม้แต่จะเล่นเกมเลย Blizzard บอกว่า พวกเขาได้บทเรียนจาก Diablo II และ World of Warcraft และได้วางแผนป้องกันการ Hack สำหรับ Diablo III เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านระบบ PVP Blizzard ให้ความเห็นว่า ระบบไม่ควรซัพพอร์ตการ PVP แบบฆ่ากันจนเกินไป การที่คุณกำลังเดินอยู่ดีๆแล้วถูกใครก็ไม่รู้เดินมาเอาดาบฟันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สนุกเอามากๆ และยังทำให้ระบบการเล่นแบบเปิดกว้างมีจุดเสีย ผู้เล่นหลายคนที่รักสงบเองก็ไม่อยากเข้ามาเล่น อย่างไรก็ตาม Blizzard ยังคงมองว่าระบบ PVP เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งของการเล่นแบบเปิดกว้าง ต่อคำถามเรื่องนี้ Blizzard ยังคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วน Battle.net ทีมงานยอมรับว่าพวกเขาค่อนข้างที่จะ “ดอง” ระบบของ Diablo III เนื่องจากโฟกัสไปที่การซัพพอร์ต Starcraft II มากกว่า แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าระบบจับคู่ในภาคก่อนนั้นยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับ Diablo III ทีมงานต้องการให้ผู้เล่นและเพื่อนๆสามารถเข้ามาเล่นและทำภารกิจร่วมกันได้ง่ายขึ้น รายละเอียดอื่นๆนั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผยในตอนนี้
หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือเรื่องของ Class ซึ่งผู้เล่นให้ความสนใจกับ Paladin และ Necromancer เป็นพิเศษ งานนี้ Blizzard แอบเผยว่า พวกเขาอาจจะนำ Paladin กลับมาใน Diablo III ด้วย เช่นเดียวกับ Necromancer ที่เคยเปิดตัวในฐานะ non-player character ไปแล้วในเดโม Diablo III ผู้เล่นบางคนยังถามถึงชะตากรรมของ Tyrael เทวทูตที่ทำลายศิลาแห่งโลกในตอนจบของ Diablo II อีกด้วย แต่ Blizzard ไม่ได้บอกอะไรมากเกี่ยวกับตัวละครขวัญใจผู้เล่นตัวนี้ เพียงแอบแง้มว่า การกระทำของ Tyrel ทำให้เหล่าเทวทูตใน High Heavens ไม่พอใจ
คลาสใหม่อย่าง Wizard กำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับเปลี่ยน ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องของ Skill โจมตี (ที่นอกเหนือจาก skill ร่ายระยะไกล) เช่นการมาถึงของ skill ใหม่อย่าง Mirror Image – เวทย์มนตร์ที่สามารถสร้างร่างเสมือนได้ 8 วินาที แม้จะไม่ได้สร้างความเสียหายโดยตรง แต่ก็ช่วยหันเหความสนใจมอนสเตอร์ ทำให้ผู้เล่นมีเวลาไปไล่เตะมอนสเตอร์ตัวอื่นๆได้ หรือการตัดสินใจถอดเวทย์เก่าแก่อย่าง Chain Lightning ออก กระทั่งเวทย์ยิงเลเซอร์ (ยิงสายฟ้า) ยอดนิยมจากภาคเก่าก็ถูกถอดออกไปด้วยเช่นกัน
สำหรับ Barbarian ตัวชนแนวหน้าและตัวลุยบุกทะลวงสุดเถื่อนนั้น ได้รับการอัพเกรดท่า Whirlwind เนื่องจาก Blizzard เกรงว่าจะรับมือกับมอนสเตอร์ชื่อ Dune Dervish ไม่ไหว ส่วนความแรงนั้น เล่นเอามอนสเตอร์วัวในวีดีโอโชว์แตกเป็นกองเลือดไปเลย "นั่นแค่เลเวลต้นๆนะเนี่ย” Jay Wilson รีบบอกทันที Barbarian ในภาคนี้ใช้ค่า Fury (ค่าความบ้าคลั่ง) แทน Mana ในการต่อสู้เพื่อให้เข้ากับบุคลิกและ Skill ของตัวละคร เช่นเดียวกับ "Rage" ของ Warriors ใน World of Warcraft ค่า Fury ของเขาจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ฆ่ามอนสเตอร์สำเร็จ โดยจะแสดงให้เห็นในรูปวงแหวนสีส้ม แทนลูกแก้ว Mana สีน้ำเงินในภาคที่แล้ว
Blizzard ยังได้ทำการปรับเปลี่ยน Skill ของ Witch Doctor ด้วย Blizzard สั่งปลดสกิลที่ Witch Doctor สามารถ summon สุนัขซอมบี้มาใช้ จากนั้นก็สั่งระเบิดพวกมันทิ้งเพื่อสร้างความเสียหายแก่ศัตรูรอบๆ ไปแล้วเรียบร้อย Wyatt Cheng อธิบายว่า “มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องไปสาปตายหรือเผาสุนัขของเราเองทิ้ง และผู้เล่นหลายๆคนคงทำใจลำบากที่จะต้องทำแบบนั้น เราชอบระบบการ summon สุนัขซอมบี้ และเรากำลังพยายามหาทางออกว่า มีวิธีอื่นไหมที่จะเอามันมาช่วยต่อสู้โดยไม่ต้องระเบิดมันทิ้ง อาจจะใช้ Skill อื่นๆช่วยเพิ่มความสามารถให้มันแทน หรืออาจจะใช้ระบบหินรูนช่วยก็ได้” ใจเย็นๆครับ Blizzard มันเป็นแค่สุนัขซอมบี้ เราโอเคทีเดียวที่จะเผามันทิ้ง -- อีกเรื่องคือระบบศพแมงมุม ที่ตอนแรกทีมงานตั้งใจจะให้ Witch Doctor เสกฝูงแมงมุมโจมตีศัตรู ก็เปลี่ยนเป็น Skill ระเบิดซากศพให้แตกออกมาเป็นลูกแมงมุมนับร้อยๆแทน
นอกเหนือจากคำถามเรื่อง Class ก็หนีไม่พ้นเรื่องระบบ gameplay หนึ่งในคำตอบที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากคือ ระบบ loot ไอเท็ม ใน Diablo ภาคก่อน เมื่อคุณฆ่าบอสได้แล้วไอเท็มตกพื้น คุณอาจจะถูกผู้เล่นนู๊บๆที่เดินผ่านมาฉกไอเท็มไปหน้าตาเฉย! แต่ Diablo III ได้แก้จุดอ่อนอันยิ่งใหญ่ โดยให้ผู้เล่นมองเห็นไอเท็มนั้นได้เฉพาะตัว ฉะนั้น ถ้าคุณฆ่าบอสได้ ก็จะมีแต่คุณเท่านั้นที่สามารถมองเห็นไอเท็มนั้น และคนอื่นๆจะเห็นก็ต่อเมื่อคุณทิ้งมันลงพื้นเท่านั้น ส่วนคำตอบที่ชวนให้หัวเสียเป็นอย่างยิ่งคือระบบหินรูน เนื่องจากไม่มีข้อมูลใดๆเลยทั้งๆที่จั่วหัวไว้แล้วแท้ๆในงาน Blizzcon
อาชีพที่ 5 ซึ่งเป็นอาชีพสุดท้ายใน Diablo 3 จะยังไม่มีการเปิดเผยใดๆทั้งสิ้นจนกว่าจะถึงปีหน้า เราหวังเอามากๆว่าน่าจะเป็นอาชีพโจมตีระยะไกล แต่ Blizzard ก็หาได้เปิดเผยรายละเอียด บอกเพียงแต่ว่าอาชีพใหม่จะมีลูกเล่นในการยิงสไตล์ต่างๆ – ไม่ว่าจะยิงแบบช้าๆ ยิงอย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งยิงในวิถีโค้ง เป็นต้น ตกลงมันอาชีพอะไรกันแน่???
นอกจากนี้ก็ยังมีรายละเอียดเก็บตกอื่นๆ ซึ่งทาง Blizzard เปิดเผยให้เราได้รู้ เช่น
- ไม่มีระบบ map editor "Diablo 3 ใช้แผนที่แบบแรนด้อม แล้วเราจะเอา map editor มาทำไม" Leonard Boyarsky บอกเราว่างั้น
- มอนสเตอร์ทุกตัวมีโครงกระดูก (!!) – ถ้าคุณหวดมันแรงเกินไป ร่างมันจะแหลกเหลวจนโครงกระดูกกระจายให้เห็น
- ตัวละครใน Diablo III มีบทพูดมากขึ้น และจะมีความแตกต่างกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลงสู่ quest ของแต่ละอาชีพ
- เราอาจจะได้เห็น Horadric Cube ในรูปแบบที่ต่างออกไป Wyatt Cheng บอกว่า "เราชอบการใช้งานของมันและอยากคงไว้ในภาคนี้ แต่อาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบของมันเล็กน้อย"
- Jay Wilson เคยพูดเป็นนัยๆว่า Diablo III จะมีระบบที่คล้ายๆระบบ “ตีอาวุธ” ด้วย แต่ข่าวคราวของเรื่องนี้ก็เงียบหายเป็นเป่าสาก บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับระบบหินรูนก็เป็นได้
- นักพนันต้องชอบใจแน่ เพราะ Diablo III จะยังมีระบบ Gambling เหมือนเดิม เพียงแต่จะมีการปรับเปลี่ยนในหลายๆส่วน เนื่องจากผู้เล่นหลายคนสับสนกับระบบดังกล่าวในภาคที่ผ่านมา ซึ่ง Blizzard เองก็อยากทำให้มันดีกว่านี้
- จะมีไอเท็มที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานเฉพาะอาชีพ เช่น อาชีพนักรบอย่าง Barbarian เขาจะไม่สวมแค่ เข็มขัด อีกต่อไป แต่เขาจะแบกขวานยักษ์ทรงพลังที่มีแต่เขาเท่านั้นที่จะใช้มันได้
- ระวังมอนสเตอร์ตัวใหม่ที่ชื่อ Fallen Lunatic ไว้ให้ดี มันจะวิ่งตรงมาหาคุณด้วยความรัก(?) แล้วใช้มีดแทงพุงตัวเองจนระเบิดออกดังตูม! ...เดาสิว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง