เท่าที่สังเกตในการแข่ง PVP ของระบบ Free League ก็มีทั้งเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ช่ำชองมาจากต่างประเทศ, มือใหม่ที่พัฒนาตัวเองเรื่อยๆ และคนที่ยังจับคอนเซ็ปต์ของการจัดทีมไม่ถูก ลองคุยๆ ในกิลด์ก็พบว่ามีอยู่พอสมควร
เข้าใจตัวหลัก และ Mercenary
ก่อนอื่นต้องเข้าใจจุดเด่นของตัวหลักแต่ละแบบก่อน ซึ่งจะส่งผลต่ออาวุธหลักและสกิลที่ใช้ ในจุดนี้เลือกไม่ยาก ลองเลือกให้ตรงสไตล์ที่เล่นดีกว่า บางคนอาจได้ยินว่า Bow และ Guitar เก่ง PVP หรือ Staff ได้รับความนิยมในแพตช์ปัจจุบันของเกาหลี แต่ถ้าไม่ใช่สไตล์ที่เราถนัด ก็มีสิทธิ์แพ้ง่ายๆ ถ้าดูในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ระดับ Div 1 นั้น อาชีพไหนๆ ก็ไต่เต้าไปถึงได้ทั้งนั้นครับ ขึ้นกับรูปแบบของทีมมากกว่า
ส่วน Mercenary เป็นหัวใจหลักของทีม แต่ต้องจับจุดเด่นของแต่ละตัวให้ได้ โดยเฉพาะพวก Class C ที่ความสามารถพลิกแพลง บางตัวควรลองนำมาใช้งานสักพักเพื่อให้เข้าใจ เช่น บางคนอาจคิดว่า Archer ยิงตัวอะไรก็ตาย แต่เอาเข้าจริงๆ ช่วง 30 – 50 ก็เริ่มยิงไม่ค่อยเข้า มีโอกาสโดนสตั๊นสวนก่อนก็มี
ข้อมูลตัวหลักและ Mercenary ดูได้ที่ atlantica.os.co.th
การโจมตีทางกายภาพด้วย Spear, Axe, Gun, Cannon, Guitar เป็นแบบกระจายความเสียหาย (Splash Damage) ถึงจะโจมตีเป้าหมายที่เลือกโดน 100% ของความแรง แต่เป้าหมายอื่นจะลดความแรงลง เช่น ปืน ยิงแถวหน้าลด 100%, แถวกลาง 50% และแถวหลัง 25% เป็นต้น
รูปแบบการจัดทีม ขั้น Advance
แบบ Basic เคยลงไปเมื่อ 2 ฉบับที่ผ่านมา คงพอเข้าใจแล้วว่าเลเวล 1 – 50 ควรจัดวางอย่างไร หลักๆ คือ ห้ามศัตรูบุกเข้ามาทะลวงตัวที่พลังป้องกันน้อยในแถวกลางและหลังได้ แต่ถ้านำไปใช้ใน Free League จะมีความซับซ้อนเพิ่มเข้ามาอีกหน่อย โดยเฉพาะในช่วง 20 – 49 แนะนำดังนี้ครับ
เลเวล 20 – 29
แบบที่ 1
ข้อดี : ป้องกันการโจมตีด้วยขวาน, สกิลโจมตีกากบาท แบบ Ravenging Melody หรือ Deep Insight ได้ในระดับหนึ่ง, ป้องกัน Silence ได้
ข้อเสีย : พวกที่ใช้ Gunner 2 - 3 ตัว จะเล่นทำให้สตั๊นได้ง่าย, โดน Spearman โจมตีโดนสองตัวเสมอ
เนื่องจากเป็นแถวตอนลึก จึงป้องกันการโดน Silence แถวหลังสุดได้ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการฟื้นพลังจากกองหลัง แต่ให้ระวังการสตั๊นให้ดี เพราะ Monk ช่วงเลเวลไม่ถึง 50 ยังแก้สตั๊นในแถวตรงไม่ได้
แบบที่ 2
ข้อดี : โดนโจมตีเป็นเส้นตรงได้ยาก
ข้อเสีย : ยังโดน Silence ได้, โดน Axe หรือสกิลโจมตีเป็นเส้นตรง
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับในบางกรณี เช่น ทีม Melee โดยเฉพาะคนที่ตั้งใจให้ฝ่ายตรงข้ามมัวแต่จะใบ้ Monk หรือ Shaman เพื่อหาโอกาสโจมตี แต่แบบนี้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น เพราะจุดบอดค่อนข้างเยอะ เหมาะกับคนชำนาญสักหน่อย
เลเวล 30 – 39
ข้อดี : คล้ายกับแบบแรกของ 20 – 29
ข้อเสีย : ยังคงมีปัญหากับพวกทีมสตั๊นอยู่ รวมทั้งการโจมตีด้วย Spear แต่ยังดีที่สลับแถวหลบได้อิสระมากขึ้น เพราะกองหน้าครบ 3 แถว
ตัวล่อแถวหน้าตรงกลาง แนะนำให้เป็นตัวที่ดึงดูดความสนใจศัตรู เช่น Viking จะทำให้ศัตรูเลือกศัตรูที่เล่นงานได้ลำบากกว่าเดิม
อย่าเอาแถวหน้าตรงกลาง ไปยืน 2 แถวหลัง เพราะจะกลายเป็นโดนสกิล Silence หรือ Freezing Axe ทั้งแถวได้ นอกจากนี้
เลเวล 40 - 49
ข้อดี : เหมือนแบบก่อนหน้านี้
ข้อเสีย : ข้อเสียใหม่เพิ่มเข้ามา คือ โดนเล่นงานด้วยปืนใหญ่โดนหลายเป้าหมายมากขึ้น
เนื่องจากช่วงนี้จะเริ่มมีคนนำปืนใหญ่เข้าทีมมากขึ้น ดังนั้นควรให้แถวหลังสุดเว้นตรงกลางไว้ เพื่อให้จำนวนที่โดนปืนใหญ่เล่นงาน ส่วนซ้าย และขวาหลังสุด เป็นพวก Shaman หรือ Monk
อีกวิธีที่ป้องกันปืนใหญ่ได้ คือ เว้นตรงกลางไว้ แต่มีข้อเสียตรงที่ศัตรูสามารถใช้ Silence ใส่ตรงกลาง เพื่อเล่นงานแถวหลังได้ ดังนั้น แนะนำให้สองแถวหน้าเต็ม ถ้าเจอพวกปืนใหญ่ที่ไม่ใช้ Archer ในทีม ค่อยให้ตัวตรงกลางเดินถอยมา
พวก Mercenary ระดับ C ให้เข้าไปดูที่ Quest Log แล้วติ๊กให้เหลือแค่ช่อง Recuiting ทั้งหมด จะเห็นเควสต์ Mercenary ที่เราสามารถรับได้ และสถานที่รับเควสต์ สามารถใช้ Auto-Move ไปได้
คลาส C ทั้งหมดมีดังนี้ : Beast Trainer (44), Witch (51), Exorcist (57), Princess (63), Phophet (70), Oracle (76), Inventor (84), Cannoneer (87), Lady Knight (95), Janissary (96)
ตัวอย่างการจัดทีม
ในที่นี้จะยกมาเฉพาะทีมเด่นๆ ที่พอจะสร้างได้ในช่วง Open Beta ช่วงแรก แต่อย่าเพิ่งไปหวังสูงว่า ต้องมี Spartan, Pirate, Elementalist เข้าทีมนะครับ อันนั้นต้องใช้เวลาสักระยะ ส่วนระดับ C ก็ต้องคิดให้ดีหน่อย เพราะค่าอัพเกรดแบบถูกสุดตอนเลเวล 20 ก็เสียทรัพย์มูลค่าเกือบ 4,000,000 Gold (ถึงจะหา Crystal จากการดรอปได้ แต่ถ้าเอาไปขายแทนที่จะอัพเกรดก็ยังดีเสียกว่า)
<class1> ศึกษาการจัดทีม ลองเข้าชมการแข่งใน Free League ก็ได้
ทีมผสม
เหมาะกับ : เก็บเลเวลทั่วไป
เรียกรวมๆ ว่า “ทีมเกาเหลา” ก็คงได้ เพราะมี Mercenary พื้นฐานเกือบทุกตัว เหมาะกับการเก็บเลเวล เน้นเล่นง่ายสบายๆ มีทั้ง Freezing Axe และ Silence ใช้เล่นงานศัตรูได้ จะเอาไปลง Free League ช่วงแรกก็พอไหว
เมื่อเล่นไปสักพัก พอใจพวกระดับ C ตัวไหนค่อยเอามาเข้าทีม เช่น เปลี่ยน Beast Trainer มาแทน Spearman เป็นต้น
โครงสร้างทีม
ลำดับการจัดทีม
เลเวล 1 : Main (อะไรก็ได้), Swordsman, Spearman, Gunner
ถ้าตัวหลักเป็น Sword, Spear หรือ Axe จะใช้เป็นตัวชนได้ด้วย ส่วน Mercenary อาจเปลี่ยน Archer หรือเพิ่ม Spearman เข้ามาแทนบางตัว
เลเวล 10 : เพิ่ม Shaman
กรณี Main เป็น Staff ควรเลือกอาชีพอื่นเข้ามาแทน
เลเวล 20 : เพิ่ม Viking
อาจจะเพิ่ม Monk แทน หรือเพิ่มเข้ามาทั้งสองตัว แล้วเก็บตัวอื่นไปก่อน
เลเวล 30 : เพิ่ม Monk
จะเลือก Artillery ก็ได้ แต่ระวังข้อกำจัดเรื่องยิงตัวบินไม่ได้ และพบพวกปืนใหญ่ช่วงนี้จะพบกับพวก Ant Worker ที่ต้านปืนใหญ่
เลเวล 40 : เพิ่ม Archer
เลเวล 50 : เพิ่ม Artillery
เมื่อพวก Mercenary ถึงเลเวล 100 เราจะสามารถปล่อยพวกเขาไปหาของได้ ซึ่งจะเสีย Mercenary ตัวนั้นไป แต่พวกนั้นจะหาไอเทมดีๆ มาให้ และเป็นหนทางเดียว ที่จะได้ไอเทมสำหรับทำเควสต์ Mercenary ระดับ B (อีกทาง คือ ซื้อจากตลาด แต่ไม่มีใครปล่อยในช่วงแรกหรอกครับ)
ดังนั้น เราอาจเลือกใช้ Mercenary ระดับ D ทั้งทีม จนถึงเลเวล 100 แล้วค่อยไปปั้น Mercenary ระดับ C ก็ได้ เลือกใช้ระดับ C ตามทุนทรัพย์ที่มีก็พอ
สตั๊นTeam
เหมาะกับ : Free League
เป็นรูปแบบการเล่นที่นิยมใน PVP ทีมที่เน้นการสตั๊นโดยการทำ Combo 1, Combo 2 แล้วก็ Stun!! ยิ่งโจมตีศัตรูได้หลายเป้าหมาย ยิ่งมีโอกาสทำสตั๊นศัตรูทั้งทีมได้มาก ตัวหลัก คือ Gunner 2 ตัว
ข้อเสียหลัก คือ มักถูกอ่านทางได้ง่าย และถ้าเจอทีมคล้ายกันจะต้องวัดความสามารถของผู้เล่นค่อนข้างมาก
ลำดับการจัดทีม
ตัวหลักควรเป็นหน่วยยิงไกลเพื่อเสริมทีม ไม่ว่าจะเป็น Bow, Gun หรือ Cannon หรืออาจเล่น Instrument เพื่อเน้นลดพลังชีวิตศัตรูอย่างต่อเนื่องก็ได้
เลเวล 20
เลเวล 30
เลเวล 40
เลเวล 50
Snipe Team
เป็นทีมที่ออกมาแก้ทางทีมสตั๊นเป็นหลัก โดยใช้จุดเด่นที่เล็งโจมตีระยะไกลใส่ศัตรูที่เลือกได้ เป้าหมายหลัก คือ พวกตัวยิงไกลฝ่ายตรงข้ามทีละตัว จนฝ่ายตรงข้ามฟื้นพลังให้ไม่ทัน ไม่ควรเล็งตัวหลัก หรือสาย Staff ด้วย (ยกเว้นศัตรูจะเปราะจริงๆ)
ข้อเสียทีมนี้ คือ ช่วงเลเวลสูง จะเริ่มยิงศัตรูไม่ค่อยเข้า ถ้าอัพเกรดอาวุธไม่ดีจะเล่นลำบาก
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นนะครับ ยังมีทีมแปลกๆ อีกมาก ลองศึกษาจากผู้เล่นอื่นดู จะเข้าใจหลักการเลือกตัวละครมากขึ้น แล้วก็อย่าเพิ่งหวังสูงว่าต้องได้ Mercenary ระดับ C มาใส่ทันทีที่เลเวลถึงนะครับ มีอุปสรรคในหลายๆ เรื่องแน่นอน เอาให้ผ่านช่วงเลเวล 50 – 100 ไปก่อน ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาอะไรมาแทนที่ตัวเก่า สำหรับสเต็ปการเล่นจะเอามาอธิบายกันในโอกาสต่อไปครับ