Demigod : อย่าเพิ่งคิดว่ามันก็แค่เกมโคลนนิ่งของ DotA มันมีอะไรเจ๋งๆ อยู่พอตัวเลยแหละ

แชร์เรื่องนี้:
Demigod : อย่าเพิ่งคิดว่ามันก็แค่เกมโคลนนิ่งของ DotA มันมีอะไรเจ๋งๆ อยู่พอตัวเลยแหละ

ประเภท: Strategy
ผู้พัฒนา: Gas Powered Games
ผู้ผลิต: Stardock
ผู้จัดจำหน่าย: -
เครื่องที่ต้องการ: Dual-Core CPU 2.4GHz, 512MB RAM, NVIDIA GeForce 6800 Video Card/ATI Radeon X1600, 8GB HDD Space 
จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 10
ESRB: T

ถ้าถามผมว่าในปี 2553 นี้ เกมไหนที่ต้องตาผมมากที่สุด… เกมเดียวที่ผมคอยก็คือ Demigod นี่เอง และเหตุผลที่หลายคนจับตามองเกมนี้กันก็เพราะทางทีมพัฒนาได้โฆษณาไว้ว่า “มันคือเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก DotA” และก็เพราะเหตุผลนี้เองที่ทำให้หลายคนตั้งหวังกับเกมนี้ไว้ค่อนข้างสูง
ในวูบแรกที่ได้สัมผัสกับเกมในโหมดการเล่นแบบ Skirmish กับกองทัพ AI บอกตรงๆ ว่าเป็นใครก็คงอดคิดไม่ได้ว่า “มันก็ DotA นั่นแหละ” ซึ่งก็คงไม่แปลก เพราะองค์ประกอบหลายๆ อย่างมันใกล้เคียงกับแรงบันดาลใจของมันเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันระหว่างเหล่า Demigod หรือวิธีเล่นที่เข้าใจง่ายๆ ซึ่งก็คือทำลายฐานทัพศัตรูให้สิ้นซาก แต่เร็วไปไหมที่จะฟันธง?

สำหรับบางคนที่ยังไม่แน่ใจกับรูปแบบของเกมนี้ ผมจะขออธิบายสักเล็กน้อย เนื่องจากเกมได้ไอเดียมาจาก DotA ดังนั้นจึงไม่มีโหมดแคมเปญนะครับ เน้นลุยเอามันส์กันล้วนๆ ในเกมนี้จะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย แต่ละฝ่ายมีผู้เล่นได้ 1 - 5 คน (ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นจริงๆ หรือ AI ก็ตาม) เลือก Demigod ที่ถูกใจแล้วเข้ามาลุยกันในฉากที่มีจุด Capture Point ให้ยึดเพื่อชิงความได้เปรียบ ผู้เล่นทำหน้าที่ควบคุมยูนิต Demigod ที่เลือกมาเพียงตัวเดียวเท่านั้น ส่วนยูนิตอื่นๆ นั้น AI จะสร้างและควบคุมเอง (Demigod สาย General สามารถสร้างยูนิตของตนเองได้ แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก) คุณจะได้ทองจากการสังหารศัตรูแล้วทำมาซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถให้ Demigod เช่น เกราะ, หมวก, ถุงมือ เหมือนกับเวลาเราเล่นเกม RPG นั่นแหละ หรือจะนำทองไปอัพเกรดฐาน เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับป้อม หรือยูนิตทหารของเราก็ได้ เมื่อผ่านการต่อสู้ Demigod ก็จะได้รับ EXP เพิ่มเลเวล จากนั้นก็เลือกอัพสกิลได้ตามที่ผู้เล่นต้องการ (มีผลเฉพาะในฉากที่เล่นอยู่เท่านั้น เมื่อจบการต่อสู้ก็เท่ากับเริ่มใหม่)

ทีนี้มาดูกันอีกหน่อยว่าสิ่งที่แตกต่างจาก DotA อยู่ตรงไหนบ้าง…

1. Capture Point จุดสำคัญที่จำเป็นต้องแย่งกันยึด คุณไม่มีทางเอาชนะได้แน่ ถ้าไม่มีการยึด Capture Point

2. ระบบ Skill Tree ของ Demigod มีความหลากหลายอย่างมาก แม้จะเป็น Demigod ตัวเดียวกันก็ตาม

3. การอัพเกรดกองกำลัง ถ้าคิดจะใช้ Demigod ตะลุยแหลกโดยไม่สนใจยูนิตอื่นเลย นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆ

4. การใช้ทีมเวิร์ค ทีมของคุณจะไปได้สวย ถ้ามีการเล่นที่สอดคล้องกัน สกิลของ Demigod มีประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าคุณรู้จักใช้สกิลของแต่ละตัวมาผสมผสานกัน

เหตุการณ์ชุลมุนเหมือนม็อบตีกัน คือสิ่งที่เกิดขึ้นแทบตลอดเวลาในเกมนี้

ถ้าคุณยังไม่ได้ Uninstall เกมทิ้งตั้งแต่จบศึกแรกใน Skirmish กับ AI และเริ่มพยายามปรับตัวให้ชินกับรูปแบบของเกมได้สำเร็จ คุณก็จะเริ่มพบว่าการต่อสู้เพื่อแย่งชิง Capture Point ภายในเกมคือสิ่งที่ช่วยทวีความเร้าใจในเกมการเล่นอย่างมาก ถ้าคุณสังเกตดีๆ จะพบว่า Capture Point ในแต่ละจุดนั้นให้ผลตอบแทนไม่เหมือนกัน บางจุดช่วยลด Cooldown ให้กับคุณ (เวลาที่ต้องรอเพื่อใช้สกิลเดิมอีกครั้งหลังจากใช้สกิลนั้นไปแล้ว) บางจุดช่วยเพิ่มค่า EXP ให้ หรือบางจุดก็ช่วยเพิ่ม Mana Regenerate (อัตราการฟื้นพลังเวทย์) ให้ สำหรับการเล่นกับ AI นั้นการเล่นกับ Capture Point คงจะไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่เมื่อคุณได้มีโอกาสก้าวสู่โลกออนไลน์ในโหมดมัลติเพลเยอร์ และได้เผชิญหน้ากับเหล่ายอดฝีมือ คุณจะได้พบว่าการเล่นกับ Capture Point นั้นส่งผลอย่างมากกับเกมการเล่น การปล่อยให้อีกฝ่ายคุม Capture Point ได้นานๆ นั้นไม่เป็นผลดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Capture Point ที่สนับสนุนให้กับตัวละครอีกฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น การปล่อยให้ศัตรูอย่าง Touch Bearer ที่เน้นการใช้สกิลเป็นหลักควบคุม Capture Point ที่ช่วยลดเวลา Cooldown อาจเป็นผลให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ต่อทีมคุณได้ เพราะมันจะสามารถใช้สกิล Combo ได้หลายชุดติดๆ กัน ผลลัพธ์ที่ได้อย่างดีสุดๆ ก็คือตายคนเดียว หรือผลลัพธ์อย่างแย่สุดๆ ก็คือตายยกทีม Capture Point ในเกมนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และไม่อาจละเลยได้เลย การมี Capture Point ทำให้คุณไม่สามารถที่จะยืนคอยหลังแนวรบเฉยๆ หรือวิ่งไปหลบคอยเก็บตัวเล็กตัวน้อยตามซอกหลืบแบบ DotA ได้ รูปแบบการเล่นใน Demigod จึงเป็นไปค่อนข้างที่จะเร็วและพลิกโผได้ตลอดเวลา

ฉากภายในเกมส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาได้งามตาทีเดียว

ในเมื่อเกมมีชื่อว่า Demigod เหล่า Demigod จึงเป็นหัวข้อหลักที่ถูกนำมาใช้เป็นประเด็นบ่อยที่สุดเมื่อมีการพูดถึงเกมนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า Demigod เพียงแค่ 8 ตัวมันน้อยและจำเจเกินไป หรือไม่ก็มีตัวใดตัวหนึ่งเก่งเกินหน้าเกินตาตัวอื่นๆ แล้วจริงๆ มันเป็นอย่างนั้นหรือไม่?

ก่อนอื่นเลยต้องขอชมในเรื่องสมดุลของเกมที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ไม่มี Demigod ตัวใดเลยที่ได้เก่งจนเกินไปหรือเห่ยจนเกินไป Demigod ทั้ง 8 ตัวมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไปในคนละรูปแบบอย่างชัดเจน ถึงแม้ภายในเกมจะมีการแบ่ง Demigod ออกเป็นสองประเภทคือ Assassin และ General (ซึ่ง Assassin จะเน้นความสามารถในการต่อสู้ตัวต่อตัวกับ Demigod อย่าง Action-RPG และ General จะเน้นทักษะในการควบคุมฝูงยูนิตอย่าง RTS) แต่ Demigod ทั้งสองประเภทก็ไม่ได้มีความสามารถดีแย่ไปกว่ากันเท่าไหร่เลย แม้ General จะต่อสู้ตัวต่อตัวแล้วอาจจะเสียเปรียบ Assassin แต่ General ก็สามารถทดแทนทักษะในการดวลตัวต่อตัวได้ด้วยกองทัพ Minion ที่ร้ายกาจไม่ใช่เล่น สรุปแล้วสมดุลในเกมนี้จัดได้ว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยมทีเดียว

ต่อมาขอพูดถึง Demigod ทั้ง 8 ในเรื่องประเด็นที่หลายๆ คนบอกว่ามันน้อยเกินไปสักนิด ถ้าถามว่าการที่มี Demigod เพียง 8 ตัวนั้นอาจก่อให้เกิดความจำเจได้หรือไม่?

มรณกรรมของเจ้ายักษ์ Rook ที่ค่อยๆ ทลายลงกลายเป็นกองอิฐ

แม้ Demigod จะมีเพียงแค่ 8 ตัว แต่ Skill Tree ของแต่ละตัวนั้นสามารถก่อให้เกิดรูปแบบการเล่นเฉพาะตัวได้หลากหลายมากมายทีเดียว (เท่าที่ลองเล่นในมัลติเพลเยอร์ ผมพบว่าแม้จะเป็น Demigod ตัวเดียวกันหมดทั้ง 10 คน แต่ Demigod ทั้ง 10 ตัวก็ไม่ได้มีตัวไหนที่เหมือนกันเลย ซึ่งความแตกต่างนี้ก็เกิดจากการอัพเกรด Skill Tree และรูปแบบการใช้งานสกิลที่ต่างคนต่างก็ใช้งานไม่เหมือนกัน) Demigod แต่ละตัวจะมีสกิลอย่างน้อยก็ประมาณ 6 สกิล การผสมผสานสกิลเข้าด้วยกันเพื่อทำ Combo ก็คืออีกสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างกัน (การเรียงลำดับใช้งานสกิลที่ต่างกันก็อาจจะให้ผลต่างกันในบางกรณี) เพราะฉะนั้นความจำเจในการเล่นจึงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าคุณรู้จักการใช้งาน Demigod และไม่ได้ยึดติดว่าต้องเล่น Demigod ตัวใดตัวหนึ่งในรูปแบบเดิมๆ

การปรากฏตัวของ Uncleanbeast มักจะมีผลตามมาก็คือบ่อพิษ

อีกสิ่งที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยก็คือระบบการพัฒนากองกำลังของคุณ ภายในเกมคุณสามารถที่จะพัฒนาความสามารถของสิ่งก่อสร้างและกองกำลังรบได้ คุณสามารถจะติดปืนใหญ่ให้กับป้อมปราการ พัฒนาให้กองกำลังมีการโจมตีที่หนักขึ้น หรือการป้องกันที่ดีขึ้น เสริมกองกำลังด้วยนักบวชหรือนางฟ้า หรือแม้กระทั่งเรียกพวกยักษ์ออกมาช่วยรบได้ในช่วงปลายเกม อาจจะจริงที่ว่าคุณสามารถลงทุนไปกับไอเทมเพื่อซื้อความเทพของตัวละครมาทดแทนความอ่อนปวกเปียกของกองกำลังได้ แต่ผลลัพธ์ที่อาจตามมาก็คือการถูกกองกำลังอันทรงประสิทธิภาพของอีกฝ่ายกดจนโงหัวไม่ขึ้นที่หน้าฐานทัพตัวเอง คุณจึงจำเป็นต้องแบ่งเงินที่ได้มาให้ดีว่าควรจะลงที่กองทัพหรือว่าตัวเอง แต่ขอบอกไว้อย่างหนึ่งว่า การเด่นคนเดียวในเกมนี้คือปัจจัยแรกที่พาไปสู่หายนะ

มีสายทักษะให้เลือกมากมาย ทำให้ Demigod แต่ละตัวมีความแตกต่าง

ทั้งหมดที่ผมว่าไปก็คือสิ่งที่ทำให้ Demigod กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ผมยอมรับว่ายอดเยี่ยม แต่เกมนี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี แน่นอนว่าเรื่องแย่ๆ ภายในเกมนั้นก็มีเหมือนกัน อย่างแรกเลยก็คือเอนจิ้นที่สูบทรัพยากรเครื่องแบบมหาศาล แม้ว่ามันจะช่วยให้เกมมีฉากต่อสู้ที่แสนดุเดือดก็ตาม ในช่วงแรกๆ ของเกมอาจจะไม่เห็นผลเท่าไหร่ แต่ทันทีที่ยูนิตเริ่มเยอะขึ้นในช่วงกลางถึงปลายเกม ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือการสะอึกของเกมแบบเป็นระยะๆ แม้คุณจะมีเครื่องระดับสุดยอดก็ยังคงมีปัญหานี้เกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง

อัพเกรดป้อมปืนเพื่อปกป้องพื้นที่ของคุณ

ข้อเสียอีกอย่างก็คือ AI ที่ออกอาการมึนให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง อาการมึนที่ว่าก็เช่น การวิ่งไล่ตามคุณที่กำลังปางตายมาจนถูกสังหารด้วยป้อมปราการ การยืนนิ่งไม่ทำอะไรเลยในบางครั้ง หรือไม่ก็การวิ่งหนีไปทั้งๆ ที่ได้เปรียบอยู่ ซึ่งจะว่าไปในส่วนนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นหลายคนชอบ แต่อย่างไรเสียมันก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของ AI ที่ชัดเจนแบบไม่ต้องพยายามก็สังเกตเห็น
หลังจากนำข้อดีและข้อเสียมาผนวกเข้าด้วยกันแล้ว ถึงแม้จะมีข้อเสียที่น่าหงุดหงิดใจหลายต่อหลายอย่าง แต่อย่างไรเสียเกมนี้ก็เป็นเกมที่ดีอีกเกมที่ไม่ควรพลาดโดยเฉพาะกับระบบการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ที่สนุกเร้าใจจนแทบวางไม่ลง

ไอเทมมากมายเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถของ Demigod ของคุณ

ความเห็นที่หนึ่ง : คะแนน 85/100

ข้อดี: การเล่นมัลติเพลเยอร์ที่สุดยอด, เหล่า Demigod ที่มีรูปแบบการเล่นหลากหลาย และระบบ Capture Point ที่ทำให้เกมดำเนินไปรวดเร็วและไม่น่าเบื่อ
ข้อด้อย: AI จอมมึน และเอนจิ้นที่เขมือบทรัพยากรมหาศาล
โดยรวม: ถ้าคุณเป็นพวกที่ชอบสนามรบแบบมัลติเพลเยอร์ละก็ เกมนี้เป็นตัวเลือกที่คุณต้องหามาครองให้ได้ด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบซิงเกิ้ลเพลเยอร์ขอแนะนำให้ลืมเกมนี้ไปได้เลย เพราะเกมนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเล่นเป็นทีมไม่ใช่เล่นคนเดียว

ความเห็นที่สอง  : 80%

ผมเองไม่ใช่แฟนเกม RTS หรือ DotA หรอกนะ แต่ก็ยอมรับจริงๆ ว่า Demigod ทำได้ผมรู้สึกสนุกเพลินเพลิดได้ดีจริงๆ การได้ร่วมต่อสู้พร้อมกับเพื่อนๆ ได้อารมณ์ตื่นเต้นท้าทาย สนุกสนานเฮฮาไปพร้อมๆ กัน Demigod แต่ละตัวนอกจากจากมีความเท่แล้วยังสมดุล และมีสกิลให้ใช้หลากหลายมาก การควบคุมง่ายดาย ไม่ต้องวุ่นวายกับฝูงยูนิตจำนวนมาก เรื่องที่อึดอัดใจที่สุดก็คือการกินสเป็กโหดไปสักหน่อยเท่านั้นเอง หวังว่าผู้พัฒนาจะออกแพตช์มาบ่อยๆ มีการเพิ่มฉาก เพิ่ม Demigod และปรับปรุงแก้ไขเกมอย่างสม่ำเสมอต่อไป

บทความนี้มาจากนิตยาสาร Future Gamer

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ