Warhammer 40,000 : สงครามแฟนตาซียุคอวกาศที่เหล่านักรบเปลี่ยนจากดาบมาเป็นเลเซอร์

แชร์เรื่องนี้:
Warhammer 40,000 : สงครามแฟนตาซียุคอวกาศที่เหล่านักรบเปลี่ยนจากดาบมาเป็นเลเซอร์

กลับมาสานต่อกับเรื่องราวความเป็นมาของอีกสามเผ่าพันธุ์ในจักวาล Warhammer 40K กันเลยนะครับ โดยสามเผ่าพันธุ์ที่ผมจะนำมาแนะนำให้รู้จักกันในครั้งนี้ก็คือ Ork เจ้าพวกตัวเขียวจอมป่วน กับเหล่า Eldar ผู้ลึกลับ ไปติดตามกันเลยดีกว่าครับว่าทั้งสองเผ่าพันธุ์มีต้นกำเนิดและที่มาที่ไปยังไง...ขอต้อนรับเข้าสู่ห้วงลึกในจักรวาลอันกว้างใหญ่...ที่สงครามและการนองเลือดยังคงอยู่เสมอมา

กำเนิดของเหล่า Ork จอมป่วนตัวเขียว

การจะพูดถึงการกำเนิดของเหล่า Ork นั้นผมต้องขออณุญาตเล่าถึง The Old Ones เสียก่อน... The Old Ones คืออะไร? The Old Ones ก็คือเผ่าพันธุ์โบราณที่นับได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์แรกที่พัฒนาตนเองจนถึงขึ้นสูงสุด และเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีบทบาทมากมายในเรื่องราวและการกำเนิดเผ่าพันธุ์อื่นๆ The Old Ones ยังเป็นผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ต่างๆ มากมาย บนดวงดาวทั้งหลายอีกด้วย
และจุดกำเนิดเรื่องราวของเราก็เกิดขึ้นเมื่อ The Old Ones ผู้ออกเดินทางไปในอวกาศได้พบเข้ากับ Necrontyr เผ่าพันธุ์อีกเผ่า ทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ในขณะที่ Necrontyr นั้นมีช่วงชีวิตที่แสนสั้นแต่เหล่า Old Ones นั้นกลับมีวงจรชีวิตที่แทบจะเรียกได้ว่าเกือบจะอมตะ และในขณะที่ Old Ones นั้นใช้ชีวิตบนความสงบและ”เข้าใจ” ถึงความเป็นไปและความรู้ต่างๆ เหล่า Necrontyr ในทางตรงกันข้าม... เต็มไปด้วยความรุนแรงและความริษยา แต่ถึงอย่างนั้นเหล่า Old Ones ก็คอยช่วยเหลือ Necrontyr...จนกระทั่งความริษยาและความทะยานอยากของเหล่า Necrontyr ถึงขีดสุดสงครามของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น... สงครามอันเป็นที่มาของการให้กำเนิดเผ่าพันธุ์ เช่น Necron, Eldar และ Ork รวมไปถึง... มนุษย์

ท้ายที่สุดสงครามอันยาวนานก็เกิดขึ้นและเหล่า Ork ก็ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่า The Old Ones เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ และอาวุธในการต่อสู้กับเหล่า Necron สงครามที่ถูกลืมเลือนที่ส่งผลให้อารยธรรมของกาแล็กซีต้องพังทลายลง ภายหลังสงครามสิ้นสุดเหล่า Ork ก็เริ่มก่อการกบฏ... และแยกตนออกเป็นอิสระและเมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่านไป... ความเป็นมาที่แท้จริงของเหล่า Ork ก็สูญหายไปจากประวัติศาสตร์พร้อมกับเหล่า The Old Ones…

The Waaagh !!!

Waaagh! คืออะไร... Waaagh! คือสนามพลังจิตร่วมของเหล่า Ork ซึ่ง Ork ทุกตัวจะสร้างสนามพลังที่ว่านี้ออกมาและนอกจากนั้น Waaagh! ยังส่งผลกระทบต่อจิตของเหล่า Ork อีกด้วย มันทำให้ Ork รู้ว่า Ork ตัวไหนเป็นลูกพี่และเป็นหัวหน้าประจำการในการสู้รบ นอกจากนั้นเจ้าสนามพลังที่ว่าจะมีพลังมากขึ้นเมื่อเหล่า Ork กำลังรื่นเริง... และความรื่นเริงส่วนใหญ่ของเจ้าพวกตัวเขียวเหล่านี้ก็มักจะเกี่ยวกับเรื่องเดียว... การต่อสู้

นอกจากนั้นเจ้าสนามพลังที่ว่ายังส่งผลต่อความเป็นไปบางอย่างบนโลก เช่น ยานพาหนะหรือรถหุ้มเกราะสีแดงนั้นเคลื่อนที่เร็วกว่าสีอื่น... Waaagh! ทำให้เกิดปรากฏการณ์เหล่านี้... แต่ดูเหมือนเหล่า Ork จะไม่รู้ตัวแล้วก็คิดว่า ธรรมชาตินั้นรถสีแดงวิ่งเร็วกว่ารถสีอื่นอยู่แล้ว
นอกจากนั้น Waaagh! ยังหมายถึงการรวมตัวกันของเหล่า Ork เพื่อทำสงครามขนาดใหญ่มากๆ และยังใช้เรียกกองกำลัง Ork ขนาดใหญ่อีกด้วยครับผม

ศาสนาของเหล่า Ork

ถึงจะฟังดูไม่น่าเชื่อแต่ว่าเหล่า Ork ทั้งหลายก็มีเทพเจ้าที่นับถืออยู่นะครับ นั่นคือ Gork และ Mork ความแตกต่างของทั้งสองก็คือ Gork คือเทพแห่งความโหดร้ายอย่างเจ้าเล่ห์ นั่นหมายถึงเขาจะทุบคุณ “อย่างหนัก” เวลาคุณมองเขา และ Mork ก็เป็นเทพแห่งความเจ้าเล่ห์อย่างโหดร้าย และนั่นหมายถึงเขาจะทุบคุณอย่างหนักตอนคุณ “ไม่ได้” มองเขา โดยรวมๆ แล้วทั้งสองก็คือเทพแห่งการป้องกันและการโจมตี แต่จริงๆ เหล่า Ork ก็ชอบเถียงกันว่าสรุปแล้วเทพองค์ไหนทำหน้าที่อะไรกันแน่ และก็มักจะลงท้ายด้วยการอัดกันเละ จริงๆ แล้วทั้งสองอาจจะเป็นเทพองค์เดียวกันก็ได้...

ค่าเงินของเหล่า Ork

อาจฟังดูไร้สาระแต่ผมว่าเป็นอะไรที่สนุกๆ เลยเอามาเล่าให้ฟังกันครับ... ค่าเงินของเหล่า Ork ก็คือ “ฟัน” ครับใช่แล้วครับฟันของพวกเจ้าพวกตัวเขียวๆ เองนี่แหละครับ เหล่า Ork นั้นจะทำการสร้างฟันใหม่อยู่เรื่อยๆ และฟันเก่านั้นก็จะผุพังไปทำให้ไม่สามารถกักตุนฟันตนเองไว้เยอะๆ ได้ ทำให้แก้ปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงทำให้ราคาสินค้านั้นแน่นอนและเท่าเดิมอยู่ตลอดเวลา ในสังคมของเหล่า Ork Clan Bad Moonz นั้นรวยที่สุด... เพราะฟันของเหล่า Bad Moonz นั้นงอกใหม่เร็วที่สุดนั่นเอง ดังนั้นเวลา Ork ตัวหนึ่งจะปล้น Ork อีกตัวก็แค่อัด Ork ตัวที่โชคร้ายจนฟันร่วงหมดปากเท่านั้นเอง...

ลักษณะโดยทั่วไปของเหล่า Ork

 

สียอดนิยมของเจ้าพวกตัวเขียว...สีแดงทำให้เร็วขึ้น

รูปจากปกนิยาย....Warboss ของเหล่า Ork

 

กำเนิดเหล่า Eldar... Elf ยุคอวกาศ

อย่างที่เราทราบกันว่า Warhammer 40,000 คือแฟนตาซียุคอนาคต ในนวนิยายแฟนตาซีที่เราคุ้นเคยก็จะมีเผ่าต่างๆ ที่คุ้นหูเรา อาทิ... Dwarf คนแคระผู้คลั่งไคล้ในเรื่องการเป็นช่างตีเหล็ก, Goblin ปีศาจตัวเล็กๆ สีเขียวๆ และ Elf เผ่าสูงศักดิ์และทรนง ซึ่ง Elder ก็คือเผ่าที่เทียบเท่ากับเผ่า Elf ในแฟนตาซีคลาสสิกๆ อย่าง The Lord of the Rings ในส่วนเผ่า Elf แฟนตาซีนั้นก็จะแบ่งออกเป็นสามผ่ายย่อยๆ ได้แก่ High Elf, Dark Elf และ Wood Elf ซึ่งถ้านำมาเทียบกับ Warhammer 40k แล้วก็จะเท่ากับ Eldar, Dark Eldar และ Exodite (ซึ่งมีการกล่าวถึงเฉพาะในเนื้อเรื่อง แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายจริงๆ) แต่ Eldar จะมีฝ่ายที่ 4 เพิ่มขึ้นมาเรียกว่า Harlequin ที่แม้ในเกมจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ Eldar แต่จริงแล้วพวกเขาเป็นผู้ปกป้อง Black Library และนับถือ Laughing God, Harlequin เห็นว่าตนเองคือกลุ่มที่จะเป็นตัวกลางดึงเอาฝ่าย Eldar ซึ่งแตกแยกรวมกับเป็นหนึ่งอีกครั้ง
Eldar ในยุคปัจจุบันนั้นคือเหล่าประชากรลี้ภัย ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วกาแล็กซี เหลือเพียงซากของความยิ่งใหญ่และอำนาจในอดีตแต่ถึงอย่างนั้นเหล่า Eldar ก็ยังเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงอำนาจอยู่ดี... แต่ว่าหากย้อนกลับไปเมื่อเนิ่นนานมาแล้วหลายหมื่นปีก่อน... ในยุคที่เหล่า Eldar รุ่งเรืองถึงขีดสุดและตำนานการล่มสลายของเหล่า Eldar ก็เริ่มต้นขึ้น

ในอดีต... หลายหมื่นปีก่อนเหล่า Eldar เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอำนาจมหาศาล ปกครองส่วนสำคัญหลายจุดของกาแล็กซี ความเฟื่องฟูและความรุ่งเรืองของ Eldar นั้นดูจะไม่อาจจะถูกสั่นคลอนได้เลย และถึงแม้จะมีเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่มีเทคโนโลยีหรือกำลังทหารที่แข็งแกร่ง ก็ไม่มีใครที่สามารถคุกคามเหล่า Eldar ได้ แต่เมื่อเวลาแห่งการล่มสลายมาถึง... สาเหตุนั้นมาจากภายในมิใช่ศัตรูจากภายนอกแต่อย่างใด

The Fall of the Eldar - การล่มสลายของเหล่า Eldar

นานวันเข้า Eldar ยิ่งมีความหยิ่งยโส พวกเขามีทรัพยากรมากมายมหาศาลจนไม่ต้องมีการทำงาน Eldar ทั้งหลายเริ่มไล่ตามความความอยากรู้อยากเห็นและราคะและความปรารถนาส่วนตน ในไม่ช้าลัทธิที่บูชาความรู้ด้านมืดก็เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว ความพอใจทางกายภาพ ความสุขสบาย หรือความบันเทิงบนความรุนแรงเป็นสิ่งที่เริ่มขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว
Eldar ส่วนอื่นๆ จำนวนมากเริ่มไม่สบายใจกับการกระทำของเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ และด้วยความรังเกียจ Eldar ส่วนนึงเดินทางเดินทางออกจากศูนย์กลางของอาณาจักรไปยังที่ห่างไกล ในขณะที่บางส่วนยังคงอยู่และพยายามหยุดยั้งเส้นทางที่เผ่าพันธุ์กำลังเดินไป... เส้นทางแห่งการเสื่อมโทรม

ภายในโลกคู่ขนานหรือ The Warp กระแสจิตของกิจกรรมทั้งหลายของเหล่า Eldar ได้เริ่มรวมตัวกัน โดยได้รับพลังงานมาจากวิญญาณของเหล่าสาวกที่ตายลง และเมื่อความเลวร้ายของ Eldar มากขึ้นเรื่อยๆ การรวบรวมก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และแล้วในที่สุดมันก็รวมกันจนมีชีวิตขึ้นมา... ในที่สุดสำนึกแห่งความชั่วร้ายก็ถือกำเนิด Slaanesh ผู้กินวิญญาณและความหายนะของเหล่า Eldar เสียงกรีดร้องจากการกำเนิดของมันทรงพลังจนกระทั่งทำลายวิญญาณของเหล่า Eldar ทั้งหมดในระยะหลายพันปีแสง การกำเนิดของมันทรงพลังจนกระทั่งทำให้เกิดรูเชื่อมระหว่างโลกแห่งสสารและ The Warp ทำให้บ้านเกิดของเหล่า Eldar ตกลงสู่กึ่งกลางระหว่างนรก... และโลกแห่งสสาร ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ The Eye of Terror และเป็นที่อยู่ของเหล่า Chaos นั่นเอง Eldar บางส่วนที่รอดชีวิตได้ติดอยู่ภายใน The Eye of Terror และตกเป็นทาสของ Slaanesh
นับจากนั้นเป็นต้นมาช่วงเวลาดังกล่าวถูกเรียกขานในชื่อ The Fall Eldar ที่เหลือรอดกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาล จนถึงปัจจุบัน...

 

เหล่า Eldar ไม่ใช่พวกรักสงบและอ่อนแอ... ถึงแม้ในยุคปัจจุบันก็ตาม

อนาคตของเหล่า Eldar จะเป็นเช่นใด? ยากที่ผู้ใดจะทราบคำตอบ

เผ่า Eldar นั้นแบ่งออกได้ตามหน้าที่ Eldar Guardian ทำหน้าที่เป็น “ผู้พิทักษ์”

Tyranid คืออะไร?

Tyranid เป็นอีกหนึ่งเผ่าพันธุ์ใหม่เพื่อต้อนรับ Dawn of War 2 ผู้เป็นต้นแบบให้แก่สัตว์ร้ายต่างๆ มากมาย ต่อมาในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็น Alien หรือ Zerg ก็ล้วนแล้วมีต้นแบบและได้รับแรงบันดาลใจมาจากเจ้าอสุรกายตัวนี้ทั้งนั้นครับ

เจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้คืออสุรกายต่างดาวที่มีการคงอยู่เพียงเพื่อเป้าหมายเดียว...การดูดกลืน Tyranid จะทำการดูดกลืน DNA จากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเพื่อใช้ในการพัฒนาตนเอง พวกมันคงอยู่เพียงเพื่อกลืนกิน Tyranid จะออกค้นหาและดูดกลืนแหล่งพลังงานและทรัพยากรทั้งหมดที่ขวางทาง ด้วยพลังและจำนวนที่ไม่อาจต้านทานทำให้ดาวจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตกเป็นเหยื่อของ Tyranid…

เรื่องราวความเป็นมาของอสูรร้าย... Tyranid

เหล่า Imperium พบเห็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ Tyranid ที่กาแล็กซีทางทิศตะวันออกบนดวงจันทร์ชื่อ Tyran ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Tyranid นั่นเองครับผม กองกำลังของ Tyranid ส่งกองทัพขนาดใหญ่ภายใต้การนำของยานบินขนาดยักษ์ (ซึ่งเป็นยานบินรูปแบบสิ่งมีชีวิต) ในชื่อ Hive Fleet Behemoth เข้าโจมตีศูนย์กลางของกาแล็กซี... แต่ด้วยความเสียสละของเหล่า Space Marine กลุ่ม Ultramarine ที่ได้ชื่อว่าเป็น Space Marine ที่แข็งแกร่งที่สุดเหล่า Tyranid จึงต้องพบกับความพ่ายแพ้ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของ Ultramarine จำนวนมาก...

ต่อมาภายหลัง... เหล่า Tyranid รวบรวมกองกำลังและกลับมาอีกครั้งภายใต้การนำของ Hive Fleet Kraken และปรับเปลี่ยนแผนการรบจากการนำกำลังทั้งหมดรวมเป็นกลุ่มเดียวแล้วเข้าโจมตีเปลี่ยนเป็นการแบ่งเป็นกองกำลังย่อยจำนวนมหาศาลและเข้าโจมตีกลุ่มดาวต่างๆ ทั่วทั้งระบบ ทำให้กำลังเสริมไม่สามารถเดินทางไปถึงยังดาวต่างๆ ได้ทันเวลาสร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่เหล่า Space Marine แต่วิกฤติครั้งใหญ่ก็ยังไม่จบลงแค่นั้นเมื่อ Hive Fleet ลำใหม่ในชื่อ Hive Fleet Leviathan ปรากฏตัวออกมาและเข้าจู่โจมมนุษย์จากทั้ง 2 ทาง ในขณะที่แนวป้องกันของเหล่ามนุษย์ดูจะไร้สิ้นหนทางและความหวัง Tyranid ก็กลับเปลี่ยนความสนใจและเป้าหายไปที่อาณาจักรขนาดใหญ่ของเหล่า Ork และถึงแม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะหยุดยั้งเหล่า Tyranid ไว้ได้ชั่วขณะ แต่ก็ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน Tyranid จะกลับมา... พร้อมทั้งแข็งแกร่ง ดุร้าย และโหดเหี้ยมยิ่งกว่าที่เคยเป็น

รูปแบบการโจมตี... ของ Tyranid

Tyranid มักใช้รูปแบบการแทรกซึมเข้าสู่ดาวเป้าหมายก่อน... หลังจากเข้าโจมตียานอวกาศและเปลี่ยนให้กลายเป็นรังของตนเองแล้ว เมื่อภายหลังยานลำนั้นถูกค้นพบ Tyranid จะเข้าโจมตียานกู้ภัย บางครั้งจะสังหารลูกเรือบางส่วนแต่จะปล่อยให้เหลือผู้รอดชีวิต 1 คนเสมอๆ เป้าหมายของ Tyranid คือการแพร่เชื้อใส่ผู้รอดชีวิต

เชื้อที่ได้รับจะเริ่มเข้าไปเปลี่ยนแปลง DNA ของเหยื่อ ทำให้เหยื่อเกิดความต้องการที่จะสืบพันธุ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือเด็กที่ถูกเรียกว่า Genesteler Hybrid ซึ่งจะมีความจงรักภักดีต่อผู้ให้กำเนิดและเหล่า Genesteler Hybrid ก็จะเริ่มแพร่จำนวนและขยายพันธุ์และเริ่มรวมกลุ่มกันเป็น Genesteler Cult และเมื่อสมาชิกเริ่มเพิ่มมากขึ้นก็จะเริ่มขยายอิทธิพลภายในดาว โดยแทรกซึมเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญภายในรัฐบาลหรือกองทัพนอกจากนั้นเหล่าสมาชิกเหล่านี้ก็จะเริ่มส่งสัญญาณทางจิตเพื่อเป็นจุดบอดพิกัดให้แก่ Hive Fleet

และเมื่อ Hive Fleet เดินทางมาถึงดาวที่โชคร้าย เหล่าสมาชิกของ Genesteler Cult ก็จะเริ่มออกปฏิบัติการก่อการกบฏไปทั่วทั้งดวงดาวเพื่อบั่นทอนการป้องกันของดวงดาวจาก Hive Fleet ที่จะเข้าโจมตี Hive Fleet จะส่งสิ่งมีชีวิตลงมายังพื้นผิวดาวและเริ่มปรับเปลี่ยนสภาพพื้นผิวดาวรวมถึงระบบนิเวศเพื่อให้ง่ายต่อการดูดกลืน

และท้ายที่สุดเมื่อสิ้นสุดการรบ Hive Fleet ลงมายังพื้นผิวดาว ดูดกลืนชั้นบรรยากาศ สูบน้ำทะเล และแร่ธาตุทั้งหมดของดาวดวงนั้นจนกระทั่งเหลือเพียง...เศษซากก้อนหินที่ไร้สิ่งมีชีวิต

Hive Fleet อื่นๆ ในตำนาน...

แม้ว่า Hive Fleet ที่ปรากฏตัวให้เห็นจริงๆ นั้นจะมีเพียง 3 Hive Fleet แต่หากเราไปขุดตำนานจาก Codex ซึ่งเป็นเสมือนไบเบิ้ลของ Space Marine นั้นได้มีการอ้างอิงถึงสิ่งที่เราสามารถเรียกได้ว่าเป็นการปรากฏตัวของ Tyranid จาก Hive Fleet อื่นๆ

Hive Fleet Locust: ในนิตยสาร White Dwarf Issue 98 มีการอ้างอิงถึง Hive Fleet ที่ชื่อ 'Locust' ซึ่งทาง Ultramarine ได้ต่อกรไปก่อนหน้าที่จะเผชิญกับ Hive Fleet Behemoth
Hive Fleet Tiamet: Tiamet เป็นชื่อที่มาจากกลุ่มดาวที่มีดาว 7 ดวง ทั้ง 7 ดวงเป็นดาวแห่งความตาย ซึ่งหลังจากการค้นคว้าแล้วพบว่าสิ่งมีชีวิตบนดาวเหล่านี้มีต้นกำเนิดเดียวกัน ทีมค้นคว้าเองก็คิดว่าตนเองอาจจะติดเชื้อจากการที่ไปสำรวจกลุ่มดาวนี้ หลังจากนั้น Hive Fleet Kraken ก็มา และรายงานจากระบบสุริยะนี้ก็หายไป

Hive Fleet Ouroboros: Cardinal Miriamulus the Elder (Elder ในที่นี้แปลว่า “ผู้เฒ่า”) แห่งดาว Thracian Primaris ได้บันทึกถึงการรุนรานที่มีลักษณะคล้ายการรุกรานของ Chaos แต่หลังจากการนำเอาแผนการรุกรานของศัตรูมาศึกษาแล้วกลับได้ข้อสรุปว่าเป็นการรุกรานของ Tyranid ตอนแรกคิดว่าทาง Empire เป็นฝ่ายกำจัด Hive Fleet นี้แต่ภายหลังหลักฐานที่ขัดแย้งกันปรากฏขึ้น จึงทำให้มีข้อสันนิษฐานว่า Hive Fleet นี้เดินทางเข้าใกล้ Eye of Terror มากเกินไปจนติดอยู่ในนั้น
นอกจากนั้นยังมี Hive Fleet อีกหลาย Fleet อาทิ Hive Fleet Colossus, Hive Fleet Moloch, Hive Fleet Jormungandr, Hive Fleet Hydra, Hive Fleet Scarabus, Hive Fleet Harbinger, Hive Fleet Apophis และ Hive Fleet Acacia แต่ด้วยเนื้อที่จำกัดเราเลยไม่สามาถนำรายละเอียดของ Hive Fleet เหล่านี้มานำเสนอได้

การต่อสู้ของ Ultramarine และเหล่า Tyranid ชัยชนะเป็นของฝ่าย Ultramarine แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตนับไม่ถ้วน

ด้วยรูปร่างภายนอกดังที่เห็นทำให้ Tyranid มักถูกเรียกด้วยชื่อเล่นว่า “Bug”

ภาพแสดงลักษณะและรูปร่างของ Hive Fleet Leviathan

บทความนี้มาจากนิตยาสาร Future Gamer

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ