ประเภท: FIRST-PERSON SHOOTER
ผู้พัฒนา: REBELLION
ผู้ผลิต: EIDOS INTERACTIVE
ผู้จัดจำหน่าย: -
ถ้าหากเราจะพิจารณาถึงเนื้อหาของเกมแนวเดินหน้ายิงในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมานั้น จะพบว่าเป็นการยากเหลือเกินที่จะหาใครสักคนหรือทีมสักทีมมาจับเอา ‘สงครามเวียดนาม’ มาต่อยอดเสริมสร้างให้มันมีสีสันน่าติดตามที่มีอยู่เพียงหยิบมือ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มี Shellshock 2: Blood Trails ภาคต่อของ Shellshock: Nam’67 (ที่ได้รับการสรรเสริญคุณภาพด้วยคะแนนเฉลี่ยถึง 30%) ซึ่งไม่ได้กลับมามือเปล่า มันมีเนื้อหาที่น่าสนใจ เกมการเล่นที่ตื่นเต้นบ้าง และความหฤโหดระดับทะลุเพดานบิน
ใน Shellshock 2: Blood Trails คุณจะได้รับบทเป็น Nate Walker นายทหารเกณฑ์หน้าใหม่ที่ถูกบรรจุและถีบโด่งมายังสงครามเวียดนามแบบสดๆ ร้อนๆ จนกระทั่งได้พบกับ Cal Walker พี่ชายร่วมสายเลือดผู้ถูกส่งมาก่อนหน้า โดยตอนนี้พี่ของเขาอยู่ในสภาพที่ยับเยิน บ้าเลือด คลุ้มคลั่ง จนไม่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ‘คน’ อีกต่อไป เหตุการณ์เริ่มทวีความเลวร้ายเมื่อ Cal พี่ชายได้หลุดจากการจองจำ พล่านเตลิดไปตามป่าดงและ ‘แพร่เชื้อนรก’ ในทุกที่ที่เขาผ่าน เปลี่ยนทุกคนให้กลายเป็นซอมบี้ลมกรดกินสมองสดเป็นอาหารโดยไม่เลือกข้าง จึงเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องตามพี่ชายกลับมา พร้อมทั้งไขปริศนาของ ‘Whiteknight’ อาวุธลึกลับว่ามันคือสิ่งใดกันแน่
mini-game กดปุ่มตามจังหวะที่โผล่มาเป็นพักๆ แต่ความน่าเบื่อโดยรวมกลับต่อเนื่องไม่รู้จบ
หากจะพิจารณาในส่วนเนื้อเรื่องก็คงจะพบว่ามันค่อนข้างแปลกไปจากสารบบที่ควรจะเป็นพอสมควรกับการที่ใครสักคนบ้าพอจะจับเอา ‘สงครามเวียดนาม’ และ ‘ซอมบี้ตายซาก’ มากระจุกรวมกันได้อย่างประจวบเหมาะ สภาพป่ารกทึบ ซากวิหาร วัดโบราณ และสนามเพลาะ ถูกแซมด้วยเหล่าเวียดกงสลับกับซอมบี้กระหายเลือดที่จะโผล่มาเขย่าขวัญผู้เล่นชนิดไม่ต้องพักตั้งตัว หรือจะมองในเชิงเปรียบเทียบ เหล่าผีดิบไม่รู้จักตายนี้ก็ดูจะเหมาะสมกันดีเหลือเกินกับสถานที่และเวลาที่ถูกขนานนามว่า ‘นรกขุมสุดท้าย’
แต่ความโฉบเฉี่ยวทั้งหลายก็สลายไปอย่างรวดเร็ว เพราะตลอดทั้งเนื้อหา 8 ฉากที่คุณต้องเล่นนั้นมันช่างตื้นเขินไร้ซึ่งการออกแบบ เพียงไม่กี่นาทีคุณจะรู้ได้เลยว่าตัวเองกำลังวิ่งตรงจากจุด ก ไปยังจุด ข และกระหน่ำด้วยเหตุการณ์ซ้ำซาก จำพวก... ถูกปิดล้อมด้วยเวียดกงและซอมบี้มืดฟ้ามัวดิน ไปจนถึงช่วยเพื่อนทหารอเมริกันที่ไม่ชอบหลบในที่กำบัง แต่วิ่งแร่ออกไปรับกระสุนเพื่อป้องกันฐานที่มั่น ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ พร้อมเครื่องเคียงประกอบฉากอย่างซากศพเปื้อนเลือดแขนขาขาด ไส้ทะลัก หัวกระจุย และพุ่งติดหลาวให้คุณเจอเสียจนเอียนเจียนคลั่ง แม้มันจะดูน่าสะใจในเบื้องแรก แต่ความถี่และการปรากฏอย่างไร้รสนิยมก็ช่วยทำลายองค์ประกอบนี้จนราบไม่ต่างอะไรกันกับศพทหารที่ถูกระเบิดร่างจนเหลือแต่ตอ (ผมหวังอย่างยิ่งว่า มันจะไม่ถูกนำไปเป็นข้ออ้างเรื่องความรุนแรงในวิดีโอเกม)
ทางด้านศัตรูเองก็ไม่น้อยหน้า ทั้งเหล่าเวียดกงจนถึงผีดิบตายซาก นอกเหนือจากรูปแบบที่ซ้ำราวกับจะผลิตจากหลอดแก้วเดียวกัน แถมพวกมันยังงี่เง่าเอาเรื่อง โอเค พวกมันอาจจะรู้จักการตีโอบในฉากที่กว้างกว่า แต่บ่อยครั้งที่จะดิ่งเข้ามาดุ่ยๆ ไม่คิดจะใช้เครื่องกำบัง หรือแมกไม้ใดๆ เพื่อพรางตัว (ท่าทางโรคกลัวป่าจากภาคที่แล้วจะยังรักษาไม่หาย) ยิ่งกับซอมบี้ฉากหลังๆ นี่ไม่ต้องพูด อาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุดของมันคือการพุ่งเข้ามาสกรัมจากทั้งสิบทิศจนกว่าคุณจะตุ้มเป๊ะเละเป็นกองเลือดนั่นล่ะ ถึงสาสมใจ
ดินแดนเวียดนามจะเหม็นสาบชายหนุ่มอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวเพียงคนเดียวในเกมนี้... กลายเป็นศพ!
อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกสิ่งใน Shellshock 2: Blood Trails จะย่ำแย่เกินเยียวยา จังหวะจะโคนเรื่องราวมันดูสมบุกสมบันต่อเนื่องและเชยได้ใจ ความตื่นเต้นจากช่วงสยองขวัญท่ามกลางฝูงซอมบี้ผสมกับสงครามเวียดนามเองก็มีสีสันที่สดพอใช้ รวมถึงตัวเกมที่ขัดเกลามาในระดับที่ดีปราศจากบั๊กกวนใจ แต่เมื่อหันกลับมามองความตื้นเขินของเกมการเล่น การออกแบบฉากและตัวละครสุดหลวมโพรก และความสั้นเพียงห้าชั่วโมงจบปราศจากคุณค่าการนำกลับมาเล่นซ้ำนั้น อย่างดีที่สุดก็คงทำให้มันเป็นเพียงเกมเดินหน้ายิงดาดๆ ที่เอาไว้เล่นฆ่าเวลา ก่อนจะโละออกจากฮาร์ดดิสก์และลืมมันได้ในไม่กี่นาที ซึ่งมันน่าเศร้าเพราะรอยเลือดที่ประวัติศาสตร์สงครามเวียดนามได้ทิ้งเอาไว้ ก็นำเราไปสู่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ใช่ความว่างเปล่านั่นล่ะนะ
คัตซีนที่ถอดภาพสยองๆ จากหนังกระตุกจิตเช่นนี้ มันน่าขำมากกว่าจะน่ากลัวนะ
(หลังจากเจอมาเป็นรอบที่ 44...)
ความเห็นที่หนึ่ง : 61%
ข้อดี: กราฟิกงดงามพอใช้, จังหวะเหตุการณ์ตื่นเต้นดี, ได้รับการขัดเกลาที่ดีปราศจากบั๊ก, เลือดและศพเกลื่อนกลาดสะใจคอซาดิสม์, เนื้อเรื่องสงครามเวียดนามผสมซอมบี้เข้าท่าไม่หยอก
ข้อด้อย: เกมการเล่นตื้นเขินซ้ำซาก, AI ของศัตรูโง่ชนิดน่ามอบโล่, โหมดเล่นเดี่ยวสั้นใจหาย ซ้ำยังไม่มีโหมดผู้เล่นหลายคน
โดยรวม: ทำได้ดีกว่าภาคที่แล้ว แต่ไม่มากพอและพร้อมจะทำให้คนที่เล่นเสร็จลืมมันได้ในไม่กี่อึดใจ
ความเห็นที่สอง : 40%
Shellshock ภาคแรกเป็นเกม FPS ที่... โอเคในระดับหนึ่ง เนื้อเรื่องของภาคแรกนำเอาสงครามเวียดนามมาใช้ ซึ่งก็เป็นเรื่องอื้อฉาวระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ Shellshock 2: Blood Trails กับนำเอาความ “โอเค” มายำกับควาว “แนว” ด้วยการผสมซอมบี้เข้าไปกับสงครามเวียดนามจนกลายเป็นเกม FPS สยองขวัญไป (ไม่ใช่ FPS สงครามเวียดนาม) เมื่อนำไปประกอบกับกราฟิกที่สุดจะตกยุค ภารกิจที่สุดแสนจะซ้ำซาก แถมยังปราศจากสิ่งที่เราสามารถเรียกได้ว่าโหมด “มัลติเพลเยอร์” ทำให้ Blood Trails กลับน่าผิดหวังยิ่งกว่า Shellshock ภาคแรก... ยิ่งในเวลาที่เรามีเกม FPS ซอมบี้ที่ดีกว่านี้ให้เล่นอยู่แล้ว (อย่างโหมดซอมบี้ของ Call of Duty: World at War หรือ Left 4 Dead) ทำให้ Blood Trails ยิ่งไม่น่าแนะนำเข้าไปใหญ่