กลับมาอีกครั้งกับการผจญภัยในนครใต้น้ำอันน่าพรั่นพรึงอย่าง Rapture City ที่คราวนี้มีระบบใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยอย่าง Multiplayer
ไม่แน่ว่า BioShock 2 อาจเป็นเกมส์ที่ถูกคาดหวังไว้มากที่สุดในปีนี้เลยก็เป็นได้ แม้ว่าในงาน E3 จะไม่ได้มีโหมดทดลองเล่นให้เหล่าแฟนๆได้ทดสอบก็ตาม แต่ก็ไม่น่าผิดหวังเพราะมี Trailer ในโหมด single-player ให้ได้ตะลึงกัน ซึ่งเรื่องราวใน BioShock 2 นี้จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก 10 ปี แน่นอนว่าดินแดนสยองใต้มหาสมุทรอย่าง Rapture City กำลังจะทวงผู้อาศัยของมันให้กลับคืน โดยในการเล่นแบบ single-player นั้นจะมีเปลี่ยนตัวเอกจากที่เคยเป็นคนภายนอกเมือง Rapture มาเป็นตัวละครที่มีความสำคัญต่อนครสยองขวัญแห่งนี้ในการดำเนินเนื้อเรื่องแทน
ตัวเอกตัวใหม่ก็คือ Big Daddy นั่นเองครับ มาคราวนี้ไม่ใช่มาในฐานะตัวร้ายพระเอกชิดซ้ายเหมือนที่ผ่านๆมา ในภาคสองนี้ Big Daddy ของพวกเราจะมีเจตนาเป็นอิสระ (ไม่ใช่รักน้องต้องฆ่าเหมือนก่อนๆ) ซึ่งทำให้เขาเคลื่อนไหวได้เร็ว และว่องไวขึ้นมากกว่า Big Daddy ตัวอื่นๆ นอกจากนี้เขายังสามารถใช้อาวุธได้หลากหลาย, มีขอบเขตในการโจมตีด้วย Drill กว้างมากขึ้น หรือใช้ปืน rivet gun สำหรับ Plasmids ใหม่ๆ ซึ่งมีประสิทธิภาพสุดยอดในการต่อสู้ และ Big Daddy ในเวอร์ชั่นนี้ก็สามารถเลือกที่จะปกป้อง Little Sisters แล้วให้พวกเธอเก็บเกี่ยว Adam จากพวก splicers หรือไม่ก็ตัวเองจัดการสะสม Adam เองซะเลยก็ได้ ซึ่งจุดนี้เป็นข้อสำคัญที่แตกต่างจาก Big Daddy ตัวอื่นๆ
ในงาน E3 ครั้งนี้ ยังมีการแสดงโหมดใหม่ๆใน BioShock 2 อย่างโหมด multiplayer ซึ่งแตกต่างไปจากโหมด single-player ให้ได้รับชมกัน โดยเรื่องราวในการเล่นแบบ multiplayer นั้นจะเกิดขึ้นในระหว่างช่วงสงครามกลางเมือง 1 ปีก่อนเริ่มต้นเรื่องราวในภาคแรก ที่เป็นสาเหตุแห่งการล่มสลายของเมือง Rapture และต้นกำเนิดนครใต้น้ำของ Andrew Ryan ที่น่าสนใจก็คือมีสองวิธีการในการเข้าเล่นในโหมด multiplayer ครับ หนึ่งก็คือวิธีเบสิคโดยเลือกผ่านทาง menu เกมส์ ส่วนอีกหนึ่งก็คือ เข้าผ่านทางอพาร์ทเม้นต์ของ Jacob Morris (ตัวเอกที่เราใช้เล่นในโหมด multiplayer ผู้เป็นช่างเชื่อมโลหะที่อาจจะช่วยสร้างนครอย่าง Rapture ขึ้นมา) ซึ่งในห้องนั้นจะพบ visual representation ของการเลือกเล่นในโหมด multiplayer และข้อมูลเกี่ยวกับศิลปะแนว Art Deco อันเป็นลักษณะของเมือง Rapture ผู้เล่นยังสามารถมี Bathysphere เป็นของตัวเองเพื่อเอาไปใช้ในโหมด multiplayer ได้อีกด้วย
ในอพาร์ทเม้นต์หรือเซฟเฮ้าส์แห่งนี้ เป็นที่ที่ผู้เล่นสามารถ loadouts เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่สนามต่อสู้ครับ ผู้เล่นสามารถเลือกอาวุธกับ plasmids ที่ต้องการมารวมกันได้ ซึ่งทำได้ทันทีไม่ต้องกลับเข้าไปเลือกในเมนูให้เสียเวลา (หรืออีกวิธีก็คือ เลือกจากลิสต์ของการ loadout หลังจากที่ได้การตายในการต่อสู้) นอกจากนี้ถ้าหากผู้เล่นกำลังคิดว่าทำไมการเข้าถึงอาวุธและ plasmids มันถึงได้ชักช้าล่ะก็ กลุ่มคนที่มีส่วนได้เสียในผลลัพธ์แห่งสงครามกลางเมือง Rapture นาม Sinclair Solution จะเสนอให้คุณเข้าร่วมกับพวกเขา (สำหรับแฟน BioShock คงจำกันได้ว่าในภาคแรกนั้นจะมีบาร์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Sinclair Spirits อยู่) แต่ความเกี่ยวพันมันไม่ได้จบแค่ที่การชักชวนเท่านั้นครับ ในการจบการต่อสู้ในโหมดนี้ บริษัทจะทำการประเมินการต่อสู้และความแข็งแกร่งของคุณจากนั้นก็นำไปจัดอันดับ ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้สิทธิ์ในการได้อาวุธและ plasmids ที่มากขึ้น ตรงนี้คล้ายๆกับเกมส์ Modern Warfare แต่ในการประลองกับผู้เล่นคนอื่นที่มีสกิลคล้ายกันจะมีความง่ายกว่าครับ
เดโมที่ได้ดูในงาน E3 ครั้งนี้เป็นการเล่น multiplayer ในโหมด Free for Fall ที่รองรับผู้เล่นมากกว่า 10 คน โดยมีร้าน Kashmir Restaurant จากภาคแรกเป็นฉากหลัง ทั้งนี้ทีมพัฒนาต้องการจะแสดงให้เห็นจุดเชื่อมต่อไปยังภาคแรกเพื่อความสมเหตุสมผล โดยมีการปรับปรุงภาพให้ดูเหมาะสมต่อการเล่นในโหมด multiplayer มากขึ้นกว่าเดิม ในระหว่างการต่อสู้นั้นพวกเราได้ค้นพบว่า การใช้ plasmids เพื่อโจมตีในภาคนี้ได้แบ่งออกเป็นสองอย่างก็คือ โจมตีอย่างรวดเร็วกับชาร์ตพลังก่อนค่อยโจมตี แน่นอนว่าอย่างหลังแม้จะช้าและเปิดช่องให้ศัตรูสามารถโจมตีได้ แต่ก็สร้างความเสียหายได้มากกว่าแบบแรก ซึ่งการใช้ plasmids นั้นก็ยังคงต้องเสีย Eve เช่นเดิมครับ นั่นก็คือเหตุผลที่คุณต้องหาเครื่องขายของอย่าง Circus of Value ที่มีอยู่กระจัดกระจายในแต่ละแผนที่ให้เจอ และด้วยความที่ทางค่ายไม่ต้องการทำลายความต่อเนื่องในการต่อสู้ ดังนั้นหาก Eve ของคุณหมดก็แค่เดินไปหาเครื่องขายนี้ ซื้อ และเติมให้เต็มอีกครั้งเท่านั้น ไม่ต้องโหลดเข้าโหลดออกให้เสียอารมณ์ โดยความสะดวกแบบนี้ยังรวมไปถึงการแฮคเข้าระบบตัว turrets ที่บินไปมาเพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสังหารผู้เล่นอื่นเช่นกัน โดยเพียงแค่เดินไปหาเจ้าตัวนี้ แฮคมันซะ รอสักครู่ให้เกจเต็ม จากนั้นมันก็พร้อมกลายเป็นอาวุธชั้นดีให้กับคุณแล้วล่ะ
ทว่าในขณะที่คุณอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับการแฮค turrets เพื่อใช้งาน ผู้เล่นคนอื่นอาจจะกำลังหาสิ่งนี้อยู่ มันคือ diving suit สำหรับ Big Daddy นั่นเอง ใช่แล้วในโหมด multiplayer นี้คุณเองก็สามารถเล่นเป็น Big Daddy ได้เหมือนกันเพียงแค่หา diving suit ที่อยู่ในแผนที่ให้เจอเท่านั้น แต่ระบบหลายๆอย่างคงไม่ได้เจ๋งเหมือนกับในโหมด single-player หรอกนะครับ มันจะช้า อืดอาดสุดๆ แต่ในความต้วมเตี้ยมนั้นจะมีความถึกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ทดแทน แน่นอนว่าถ้าคุณโชว์เดี่ยวไม่ได้ร่วมมือกับผู้เล่นคนไหน การล้มลงคุณที่บักอึดขนาดนี้เป็นเรื่องยากสุดๆ อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะกลายเป็นจุดสนใจสำหรับผู้เล่นหลายคนที่พร้อมจะสามัคคีชุมนุมกันเพื่อโค่นล้มคุณลงให้ได้ และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือในโหมด Big Daddy คุณไม่สามารถใช้ plasmids ในการโจมตีได้ซะอีกแน่ะ
การต่อสู้ใน multiplayer ช่างน่าลุ้นระทึก ยิ่งพอ Big Daddy โผล่เข้ามายิ่งมันส์สุดยอด แต่ที่ประทับใจมากที่สุดใน BioShock 2 นี้คงเป็นเรื่องที่เราได้เห็นถึงความตั้งใจของ Digital Extremes และ 2K ที่สร้างสรรค์สิ่งน่าสนใจเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน BioShock ที่ไม่ได้มีโหมด multiplayer ไว้เป็นเพียงไม้ประดับในการเล่นแบบ single-player มันมีคำอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องสู้กันในโหมดนี้ รวมไปถึงการเข้าถึงอาวุธและ plasmids ต่างๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ยิ่งทำให้เรารู้สึกสนใจการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง รวมไปถึงในการต่อสู้อีกประเภทที่เหลือใน Survival of the Fittest ที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งหากคุณไม่ต้องการเล่นแบบ Free for Fall ทั้งฉากหลังที่เป็นสงครามกลางเมืองแบบนั้นทำให้การต่อสู้ดูขลังมากยิ่งขึ้น
BioShock 2 มีตารางการวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ครับ