ดูท่าจะแยกจากสงครามไม่ออกเสียแล้วสำหรับทีมพัฒนา Creative Assembly ที่คราวนี้ขออำลาความขัดแย้งแห่งโลกอดีตและเหตุการณ์อ้างอิงประวัติศาสตร์ (ซีรีส์ Total War) มาสู่โลกในอนาคตหลังหายนะครั้งใหญ่ ซึ่งดูท่าทางจะไม่ได้ทำให้มนุษย์บนโลก (ที่เหลืออยู่จำนวนน้อยนิด) หันมาสามัคคีกันมากขึ้นแต่อย่างใด กับ Stormrise เกม RTS ที่ทาง Creative Assembly สัญญาว่ามันจะเป็นการปฏิวัติเกมแนว RTS ไปตลอดกาล
Stormrise จับเหตุการณ์บนโลกหลังความวินาศสันตะโรทางภูมิอากาศครั้งมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์ คนบนโลกถูกบีบให้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่มีลงไปหลบภัยอยู่ใต้พื้นพิภพและเฝ้ารอคอยให้หายนะผ่านพ้นไป โชคร้ายที่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับเลือกให้รอด ผู้คนจำนวนไม่น้อยถูกปล่อยให้เผชิญชะตากรรมอย่างน่าเวทนา เหมือนฟ้าประทานที่บางส่วนสามารถเอาชีวิตรอดไปได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมสุดหฤโหด เพราะพันธุกรรมในร่างกายเกิดการแปรเปลี่ยนจนแทบจำไม่ได้ พวกเขาถูกขนานนามว่า Sai พวกเขาใช้ร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปในการดำรงชีวิตอยู่บนพื้นที่ซึ่งยังใช้อาศัยได้บนโลก เมื่อวันเวลาล่วงเลยผ่านกลุ่มคนที่ลงไปหลบภัยอย่างเห็นแก่ตัวใต้พื้นดินหรือ Echelon ก็กลับขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนว่าทำให้ศึกแย่งชิงความเป็นเจ้าของโลกผุพังใบนี้เริ่มต้นขึ้น
หลายคนคงเดาได้แล้วว่า Echelon จะมีกองทัพที่เน้นในด้านของเทคโนโลยีทั้งในด้านอาวุธ, ชุดเกราะหรือหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ ส่วนฝ่าย Sai จะใช้บริการนักรบกลายพันธุ์หรือไม่ก็สัตว์ประหลาดที่สามารถควบคุมจิตใจฝ่ายตรงข้ามได้ เป็นต้น ทาง Creative Assembly เปิดเผยว่า เมื่อเกมวางตลาดแต่ละฝ่ายจะมียูนิตพื้นฐานฝั่งละ 9 ยูนิต โดยทั้ง 9 ยังอัพเกรดได้อีก 3 ระดับ (Standard, Heavy และ Elite) ยูนิตของทั้ง 2 ฝ่ายมีการหักล้างกันได้ในเชิงของค้อน กรรไกร และกระดาษเหมือนเกม RTS ทั่วไป ถ้าคุณอยากเพิ่มจำนวนหรือความแข็งแกร่งของยูนิตของฝ่ายตน ที่คุณต้องทำก็คือเข้ายึดครอง Gigawatt (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) แหล่งทรัพยากรเพียงอย่างเดียวของเกมนี้ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทั้งแผนที่ Gigawatt ยังสามารถอัพเกรดตัวเองเพื่อติดตั้งป้อมปืนหรือการป้องกันอื่นๆ ในการคุ้มกันตนเองได้อีกด้วย
แล้วมันต่างกับเกมแนว RTS ที่ผ่านมาตรงไหนเหรอ? อย่างแรกคือในเรื่องของแผนที่ เกม RTS โดยทั่วไปแผนที่จะเป็นเพียงแค่พื้นดินแบนราบที่ประดับประดาไปด้วยสิ่งกีดขวางต่างๆ ซึ่งอย่างดีก็ทำลายได้บ้างเท่านั้น แต่สำหรับ Stormrise แผนที่จะมีลักษณะพิเศษเหมือน "ขนมชั้น" คือมีมุมมองของความสูงเข้ามาแทนที่ อย่างเช่น อาคารลานจอดรถที่เป็นชั้นๆ, ระบบอุโมงค์ใต้ดินอันสลับซับซ้อน หรือคลังสินค้าขนาดใหญ่ อีกสิ่งหนึ่งคือมุมมองการเล่นของคุณ เกมนี้จะให้คุณมีมุมมองบุคคลที่สามคล้ายๆ กับเกม Full Spectrum Warrior ถูกแล้ว...บอกลา Bird Eye View มุมมองจากท้องฟ้าซึ่งเป็นมุมมองปกติของเกม RTS 1ทั่วไป) เพราะคุณจะเห็นในสิ่งเดียวกับยูนิตที่คุณกำลังควบคุมเห็น แต่จำนวนยูนิตมันไม่ใช่แค่ทีมสองทีม จำนวนยูนิตที่ต้องจัดการจะเท่าๆ กับ RTS ทั่วไปเลยทีเดียว! เมื่อนำสองอย่างนี้มารวมกันนั่นหมายความว่า Stormrise จะเป็นเกม RTS สามมิติเต็มรูปแบบและไม่มีทางที่คุณจะมองเห็นภาพรวมของสมรภูมิรอบตัวคุณ ถ้าฝ่ายตรงข้ามซ่อนกองกำลังไว้บนอาคารลานจอดรถ โดยที่คุณไม่ใส่ใจตรวจสอบคุณก็อาจถูกซุ่มโจมตีจนพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ ในทางกลับกันคุณเองก็สามารถทำได้และมันไม่ใช่แค่การส่งยูนิตเข้าไปอยู่ภายในสิ่งก่อสร้างเท่านั้น คุณยังจัดตำแหน่งเพื่อหลบหลีกการถูกตรวจเจอได้อีกด้วย
แผนที่ซึ่งไม่ได้เน้นแนวระนาบแต่เน้นรายละเอียดในด้านความสูงและจำนวนชั้น, มุมมองบุคคลที่สาม และจำนวนยูนิตที่ไม่ได้ลดลงจาก RTS ปกติ แล้วจะควบคุมกันยังไง? นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นห่วงเพราะมันเป็นเรื่องที่ทาง Creative Assembly เตรียมพร้อมรับมือมากที่สุด ด้วยระบบที่เรียกว่า "Whip Select" ซึ่งอาศัยเกมแพดเป็นหลัก (ชักได้กลิ่นไม่ดี) โดยอนาล็อกสติ๊กด้านซ้ายใช้ในการเปลี่ยนมุมมองของยูนิตที่คุณกำลังควบคุม ถ้ากด A ควบคู่จะเป็นการเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งนั้นๆ ส่วนอนาล็อกสติ๊กด้านขวาจะช่วยให้คุณกระโดดจากยูนิตที่คุณกำลังควบคุมไปยังยูนิตใดๆ ก็ตามบนแผนที่ โดยเมื่อคุณกดจะปรากฏลำแสงเลเซอร์ออกจากตัวยูนิตที่กำลังควบคุม แค่คุณเลื่อนลำแสงไปเรื่อยๆ จนพบยูนิตที่ต้องการแล้วกด A ตัวคุณก็เปลี่ยนจะไปควบคุมยูนิตตัวนั้นแทน หรือคุณอาจใช้ "Quick Whip" คือแค่เลื่อนลำแสงไปที่ไหนก็ได้ แล้วเกมจะย้ายตัวคุณไปควบคุมยูนิตที่อยู่ใกล้ตำแหน่งดังกล่าวที่สุดให้โดยอัตโนมัติ ระบบเหล่านี้ไม่เกี่ยงว่ายูนิตของคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหนทั้งบนดาดฟ้าตึก, ถ้ำใต้ดิน หรือห่างไกลเป็นโยชน์ มุมมองบุคคลที่สามจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ขอแค่ให้กองทัพของคุณมีการวางตำแหน่งให้หลากหลายเข้าไว้ แล้วคุณก็จะเหมือนมีดวงตาบินรอบแผนที่โดยปริยาย นอกจากนี้คุณยังสามารถออกคำสั่งให้ยูนิตใดๆ ก็ตามผ่านการ Whip โดยไม่ต้องย้ายไปควบคุมได้อีกด้วย มันจะมีประโยชน์มากถ้าคุณกำลังควบคุมยูนิตซึ่งอยู่บนที่สูงและมองเห็นภาพสนามรบด้านล่างได้อย่างทั่วถึง
ในส่วนของโหมดมัลติเพลเยอร์ Stormrise จะมีเกมการดวลระหว่างผู้เล่นฝั่งละ 4 คน ที่ใครอยากโดดเข้าโดดออกตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากแตกความสามัคคีเกมยังมีโหมด Co-Op 2 คนช่วยกันรบทั้งในแบบออนไลน์หรือบนหน้าจอเดียวกัน
Stormrise จะเป็นเกม RTS ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะเส้นแบ่งกั้นระหว่างพีซีและคอนโซล ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่มีเกมแนวไหนเป็นปราการอันยิ่งใหญ่เท่า RTS อีกแล้ว ชาวพีซีอาจเป็นกังวล แต่ทาง Creative Assembly ก็ยืนยันหนักแน่น พวกเขาไม่มีวันลืมเมาส์และคีย์บอร์ด Stormrise ได้ถูกปรับแต่งให้ใช้งานได้ง่ายกับทุกรูปแบบการควบคุม พวกเขายังอ้างด้วยว่ากลุ่มนักทดสอบของเวอร์ชั่นพีซีต่างชื่นชอบระบบ Whip Select เป็นอย่างมากและก็อยากให้ลองคิดในแง่ความแปลกใหม่ที่ Stormrise นำมาเสนอ ในปี 2552 นี้แหละเราคงได้รู้กันว่า Stormrise คือการปฏิวัติหรือจะเป็นได้แค่กบฏ
HOPES/FEARS
+ เกมนี้เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน พวกเราก็ชอบความทะเยอทะยาน, แผนที่และการควบคุมรูปแบบใหม่น่าสนใจมากๆ
- ถ้า Whip Select ไม่รุ่งก็เน่าแบบไม่ต้องสงสัย, แฟนๆ พีซีอาจใจหายที่ RTS ของพวกเรากำลังผูกมิตรกับฝั่งคอนโซล
VITALS
ประเภท: REAL-TIME STRATEGY
ผู้พัฒนา: CREATIVE ASSEMBLY
ผู้ผลิต: SEGA
ผู้จัดจำหน่าย: -
เว็บไซต์: WWW.STORMRISEGAME.COM
THE EVENT
ในอนาคตภาวะโลกร้อนเข้าขั้นวิกฤติ นักวิทยาศาสตร์มือพระกาฬจากทั่วโลกรวมหัวกันเพื่อแก้ไขปัญหา เวลานานนับสิบปีกับการวิจัยและผลที่ได้รับคือ สนามพลังขนาดยักษ์ที่พร้อมใช้ขจัดปัญหายิบย่อยอย่างโลกร้อนให้หมดไปตลอดกาล ก้าวแรกคือความสำเร็จแต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็บังเกิด เพราะสิ่งแวดล้อมยิ่งใหญ่เกินกว่ามันสมองมนุษย์มากนัก มหาพายุก่อตัวขึ้นโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ รู้เพียงชื่อเรียกขานของเหตุการณ์ The Event พายุมรณะพัดถล่มทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นพิภพจนสิ้นซาก มีการสร้างหลุมหลบภัยใต้ดินขนาดยักษ์สำหรับกลุ่มคนที่ได้รับเลือกเท่านั้นเพื่อเข้าสู่ภาวะ "จำศีล" จนกว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะผ่านพ้น คนที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นโลกส่วนใหญ่ต้องตาย แต่ก็ธรรมชาติอีกนั่นแหละที่คัดเลือกพวกเขาบางส่วนให้อยู่รอดกลายเป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ในนาม Sai เวลาหมุนเวียนไปเรื่อยๆ เรื่องราวของ "มนุษย์" ผู้หลับใหลกลายเป็นเพียงตำนานไปเสียแล้ว Sai อาศัยร่างกายที่เปลี่ยนแปลงและเศษซากแห่งเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต แม้ไม่ผาสุกแต่ก็ทนอยู่ได้ อย่างไรเสียเหมือนธรรมชาติยังไม่คลายความอาฆาต ประตูหลุมหลบภัยเปิดออกอีกครั้ง Echelon มาแล้ว...
ในช่วงแรกทำท่าเหมือนไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสองเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล Sai ใช้ความสามารถทางร่างกาย ส่วน Echelon ใช้มันสมองและเทคโนโลยีสำหรับสร้างอารยธรรมมนุษย์ขึ้นมาใหม่ แต่ความแคลงใจเริ่มก่อตัว Echelon คือกลุ่มคนที่ได้รับการคัดเลือก พวกเขาจึงมอง Sai ไม่ขึ้นและรังเกียจการใช้ชีวิตที่อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณ Sai ก็ไม่พอใจความถือตัวของ Echelon พวกเขาไม่ได้อาศัยชุดเกราะหรือเครื่องจักรใดๆ ความสามารถของ Sai มาจากภายในและ Echelon คือตัวการที่ทำให้ The Event เกิดขึ้น ศึกตัดสินหาผู้ครอบครองครองโลกที่แท้จริงเริ่มตั้งเค้า
มันกลายพันธุ์ไปอีท่าไหนล่ะนี่?
ขอแสดงความยินดี...ภาวะโลกร้อนหายไปแล้ว ข่าวร้ายคืออย่างอื่นก็หายไปด้วย
สาบาน! นี่เกม RTS จริงๆ
ใครคิดว่าแน่พอสำหรับเทคโนโลยีแห่ง Echelon ก็เข้ามา!
ว่าแต่นี่มันเกม Stormrise หรือ Prince of Persia เวอร์ชั่น Postapocalyptic กันแน่?