Left 4 Dead : คำจำกัดความใหม่ของเกมแบบ Co-Op ที่จะทำให้คุณอาบทั้งเลือด เหงื่อ และน้ำตา

แชร์เรื่องนี้:
Left 4 Dead : คำจำกัดความใหม่ของเกมแบบ Co-Op ที่จะทำให้คุณอาบทั้งเลือด เหงื่อ และน้ำตา

ประเภท: FIRST-PERSON SHOOTER
ผู้พัฒนา: VALVE
ผู้ผลิต: VALVE/EA
ผู้จัดจำหน่าย: -
เครื่องที่ต้องการ: P4 3GHZ, 1GB RAM (2GB VISTA), GEFORCE 6600/RADEON 9600 128MB VIDEOCARD, 7.5GB HD SPACE, INTERNET CONNECTION
เครื่องที่แนะนำ: DUAL-CORE CPU, 2GB RAM, GEFORCE 9800GT/RADEON 4850 VIDEOCARD, BROADBAND INTERNET
จำนวนผู้เล่นสูงสุด: 8
ESRB RATING: M
DRM: ONLINE ACTIVATION; MUST INSTALL AND RUN STEAM CLIENT; UNLIMITED INSTALLS

     ในที่สุดความช่วยเหลือก็มาถึง หลังจากการต่อสู้อันยาวนานและโหดร้าย ในที่สุดคุณและเพื่อนอีกสามคนก็เดินทางมาถึงดาดฟ้าของโรงพยาบาลที่อยู่ในสภาพเละสุดขีด เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยลงจอดเพื่อรับคุณและเพื่อนไปสู่ที่ปลอดภัย ท่ามกลางห่ากระสุนและซากศพ คุณและเพื่อนอีกสองคนฝ่าฟันไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์... แต่เพื่อนของคุณอีกคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขาเลยมาช้าไปเสี้ยววินาที ทันใดนั้นลิ้นที่ยาวดุจงูก็โผล่มาจากความมืด มันพันเข้าที่ขาของเพื่อนคุณแล้วลากเขากลับไปยังฝูงซอมบี้ที่คุณเพิ่งจะหลุดพ้นมา นี่คือจังหวะที่คุณต้องตัดสินใจ... คุณจะกระโดดลงจาก ฮ. เพื่อไปช่วยเพื่อน (ขณะเดียวกันก็ทำให้ชีวิตของทุกคนใน ฮ. ตกอยู่ในอันตรายด้วย) หรือ... คุณจะบอกกับตนเองว่าคุณไม่อาจช่วยเขาได้ ยอมเสียน้อยดีกว่าเสียมาก ทำเป็นหูทวนลมกับเสียงกรีดร้องของเพื่อนคุณขณะที่ฝูงซอมบี้กระหายเลือดกรูกันเข้ามาฉีกร่างเขาเป็นชิ้นๆ มีบางคนว่า “หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของเกมคือการตัดสินใจที่คุณจะได้เลือกทำ” และผมก็คิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้นับว่าเป็นการตัดสินใจที่น่าสนใจที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่ผมเคยพบเห็นมา

     เนื้อเรื่องของ Left 4 Dead เป็นเนื้อเรื่องแนวเดียวกับภาพยนตร์ เกม หรือนิยายเกี่ยวกับซอมบี้ทั่วๆ ไป... คุณคือหนึ่งในสี่ผู้รอดชีวิตอยู่ท่ามกลางหายนะที่ทำให้คนอื่นๆ กลายเป็นซอมบี้ คุณและเพื่อนๆ ต้องเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B เพื่อหนีตาย แต่ก็มีกองทัพซอมบี้คอยขวางทางคุณอยู่ L4D แสดงความเคารพให้กับเหล่าภาพยนตร์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเกม ด้วยฉากโหลดเกมที่ดูราวกับเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์สยองขวัญและข้อมูลหลังจบฉากที่นำเสนอในรูปแบบคล้ายๆ กับเครดิตเวลาภาพยนตร์ฉายจบ โดย L4D มีแคมเปญให้เล่นทั้งหมด 4 แคมเปญ มีความยาวเฉลี่ยแคมเปญละประมาณชั่วโมงนิดๆ แต่ละแคมเปญได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณเล่นพร้อมกับเพื่อนอีกสามคนผ่านทาง LAN หรือไม่ก็บริการจับคู่ของ Steam แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเล่นคนเดียวไม่ได้เพราะถ้าคุณจะฉายเดี่ยว AI ก็จะก้าวเข้ามาควบคุมเพื่อนของคุณอีกสามคนให้ 

     แต่ละแคมเปญจะเริ่มด้วยผู้รอดชีวิต 4 คนใน “ห้องนิรภัย” หรือ Safe Room ซึ่งในนั้นจะมีอาวุธ กระสุน และยาตุนไว้เพียบ ประตูของห้องแน่นหนาพอที่จะกันไม่ให้ซอมบี้พังเข้ามา (แต่หน้าต่างก็ยังพอมีช่องให้ซอมบี้ยื่นแขนเข้ามาไขว่คว้าหาเหยื่อ) ทันทีที่คุณเดินผ่านประตูนิรภัยไปคุณควรจะโยนประสบการณ์การเล่นเกมยิงแบบเป็นทีมที่คุณมีทั้งหมดทิ้งไปด้วย เพราะใน L4D การผลัดสายตาจากคนอื่นๆ เป็นเสมือนการเชื้อเชิญความตาย

     การต่อสู้เอาชีวิตรอดใน L4D นั้นดุเดือดเลือดพล่าน เลือดสาด และน่าสยดสยองในระดับที่เกมสยองขวัญน้อยเกมนักจะสามารถเทียบชั้นได้ ซอมบี้นักวิ่งร้อยเมตรสไตล์ 28 Days Later จะชาร์จเข้ามาหาคุณจากทั่วทุกทิศเพียงเพื่อจะขอลองลิ้มชิมรสเนื้อสดๆ ของคุณ AI “ผู้กำกับ” ของ L4D ทำหน้าที่ของมันในการกำกับการเข้าจู่โจมคุณได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีการเว้นจังหวะให้พอหายใจหายคอก่อนจะส่งฝูงซอมบี้ฝูงต่อไปมาในทิศทางที่แตกต่างและยากจะคาดเดา ผลลัพธ์ที่ได้มันช่างไร้ที่ติ เพราะแม้จะมีหลายครั้งที่ฝูงซอมบี้บุกเข้ามาโจมตีคุณจากพื้นที่ที่คุณได้เคลียร์ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากมานั่งคิดดูยังไงก็ไม่สมเหตุสมผล เพียงแต่ใน L4D คุณจะไม่มีเวลาคิด เพราะคุณจะมัวแต่สนุกกับการยิงฝูงซอมบี้

     อาจจะเป็นเพราะว่าจนถึงบัดนี้ยังไม่มีเกมพีซีเกมไหนที่มีโหมด Co-Op ดีๆ ให้เล่นเลยก็เป็นได้... แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด L4D ก็เป็นเกมพีซีเกมแรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมต้องเล่นเป็นทีมอย่างแท้จริงถ้าหากผมต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ในเกมที่เล่นเป็นทีมเกมอื่นๆ (ยกเว้นบางเกม... ข้อยกเว้นที่เด่นที่สุดในกรณีนี้เห็นจะเป็น Counter Strike) คำว่า “ทีม” คือกลุ่มผู้เล่นที่มารวมตัวกันในตอนแรก ซึ่งพอเกมเริ่มคนในทีมทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะแยกตัวออกไปทำอะไรตามใจก็ได้ เพราะถ้าตายไปก็เกิดใหม่ (แล้วก็ออกไปทำอะไรตามใจต่อไปซ้ำๆ เช่นนี้เรื่อยไป) แต่ใน L4D การเกิดใหม่ไม่ใช่สิทธิอันชอบธรรม แต่เป็นสิทธิที่คุณต้องแลกมา หากคุณตายไปเพื่อนของคุณก็ต้องลุยต่อไปโดยไม่มีคุณ จนกว่าพวกเขาจะไปเจอผู้รอดชีวิตคนใหม่ (ซึ่งก็คือคุณ ที่ทาง “ผู้กำกับ” เป็นคนจับไปวางไว้) หรือไม่คุณอาจจะต้องล่องลอยเป็นวิญญาณดูเพื่อนของคุณต่อสู้ไปจนกว่าจะถึงห้องนิรภัยห้องต่อไป แต่เหล่าผู้รอดชีวิตก็เป็นกลุ่มคนที่อึดไม่ใช่ย่อยอยู่แล้ว และหากพลังชีวิตลดลงต่ำกว่าศูนย์ เพื่อนๆ ของคุณก็ยังมีชุดปฐมพยาบาลที่พอจะช่วยให้คุณลุกขึ้นมาสู้ต่อไปได้สักสองสามครั้งก่อนที่จะต้องไปนั่งรอรอต่อไปแบบถาวร

บอสซอมบี้สยองขวัญ

     หากเทียบกับซอมบี้ระดับบอสทั้ง 5 แบบแล้ว พวกซอมบี้ลิ่วล้อก็ใช่ว่าจะเป็นลูกกะจ๊อกไร้สมรรถภาพ ถึงแม้พวกมันจะกรูกันเข้ามาทีละเป็นสิบแต่หากทีมผู้รอดชีวิตมีทีมเวิร์คที่ดี ซอมบี้ลิ่วล้อก็ไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้... เพียงแต่หน้าที่ของพวกมันไม่ใช่การเอาชนะผู้รอดชีวิต แต่เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อเปิดโอกาสให้เหล่าซอมบี้ระดับบอสสามารถเข้าถึงผู้รอดชีวิตได้ ซอมบี้ระดับบอสเหล่านี้ต่างหากที่คุณจะต้องกลัว และการทำงานเป็นทีมเท่านั้นที่จะทำให้คุณรอดชีวิตได้ เพราะซอมบี้ระดับบอสสามารถขึ้นคร่อมคุณ ทำให้คุณไม่สามารถปกป้องตัวเองได้จนกว่าเพื่อนของคุณจะมาช่วย ถึงแม้การมีซอมบี้ระดับบอสจะเป็นอะไรที่ผิดคอนเซ็ปต์กับทฤษฎีทั่วไป แต่เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความหลากหลายของซอมบี้นั้นช่วยเพิ่มรสชาติของความเป็นแอ็กชั่นให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ช่วยให้การต่อสู้กับซอมบี้ที่ปกติจะมีแค่ชนิดเดียวไม่น่าเบื่อในระยะยาว ทุกครั้งที่เราได้ยินเสียงเรอของเจ้า Boomer และเสียงกรีดร้องของ Witch อยู่ใกล้ๆ ยังช่วยเพิ่มความตึงเครียดให้ L4D กลายเป็นเกมที่ไม่เหมาะสำหรับคนที่สุขภาพหัวใจอ่อนแอ

MOD ซอมบี้ของ TEAM FORTRESS?

     เวลาคุณเล่น L4D แบบออนไลน์ ความสำคัญของทีมเวิร์คนั้นอาจจะทำให้หลายๆ คนหงุดหงิดได้... อย่างน้อยในช่วงแรก การที่คุณสามารถมองทะลุกำแพงไปเห็นเค้าโครงของเพื่อนร่วมทีมของคุณได้นั้น จริงๆ แล้วก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนทำงานเป็นทีมได้โดยที่ไม่ต้องมี Mini Map โผล่มาให้รกจอ แต่เกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกม FPS แบบออนไลน์ก็คงทราบดีว่า ขนาดคุณกับเพื่อนเล่นเกมอยู่ในร้านเน็ตร้านเดียวกันคุณยังไม่สามารถโน้มน้าวให้เพื่อนของคุณมาช่วยคุ้มกันคุณได้เลย แล้วจะทำยังไงคุณถึงจะสามารถสื่อสารผ่าน Voice Chat หรือ Text Chat ให้ผู้เล่นคนอื่นที่อาจจะนั่งอยู่อีกซีกโลกหนึ่งให้กลับมาเล่นเป็นทีมได้ ในเมื่อผู้เล่นเหล่านั้นคุ้นเคยกับการออกไปลุยเดี่ยวแบบแรมโบ้มากกว่า คำตอบคือ... ไม่มีทางเลยในช่วงแรก ประสบการณ์อันโหดร้ายเท่านั้นที่จะสอนผู้เล่นว่าใน L4D ไม่มีใครต้องการแรมโบ้ (แรมโบ้โดนรุมทึ้งไปนานแล้ว) แต่ต้องการคนที่เล่นเป็นทีมเท่านั้น

      อาวุธที่ผู้รอดชีวิตมีให้เลือกใช้นั้นมีเพียงอาวุธหลักหนึ่งชนิดเท่านั้น ซึ่งผู้เล่นต้องเลือกในช่วงต้นภารกิจว่าเขาอาจะใช้ปืน Uzi หรือปืนลูกซอง นอกจากนั้นแล้วคุณยังมีปืนพกซึ่งมีกระสุนไร้ขีดจำกัด บวกกับระเบิดแป๊บหรือไม่ก็ระเบิดขวดอีกหนึ่งลูก ช่วงท้ายๆ ของภารกิจคุณจะสามารถเปลี่ยนมาใช้ปืนกล M16 หรือไม่ก็ปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติ หรือไม่ก็ปืนไรเฟิล ซึ่งการที่ผู้เล่นมีอาวุธและกระสุนที่จำกัดก็ถือว่าเป็นการบังคับให้ผู้เล่นทำงานเป็นทีมในทางอ้อมอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากไม่มีอาวุธใดที่เป็น “คำตอบสุดท้าย” สำหรับทุกสถานการณ์ (และพวกซอมบี้จะกรูกันมาแบบไม่ให้คุณได้มีโอกาสโหลดกระสุนใหม่) แต่ว่าอาวุธทีมีให้เลือกใช้นั้นกลับจืดไปหน่อย เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วชนิดของอาวุธนั้นมีเพียงแค่สามแบบหลักๆ เท่านั้น (ปืนกลยิงรัว, ปืนลูกซอง, ปืนไรเฟิลยิงไกล) ซึ่งปืนไรเฟิลนั้นจะใช้งานได้จริงๆ ก็ในสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างเท่านั้น แต่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างแคบนั้นโอกาสที่คุณจะมานั่งส่องกล้องเล็งหัวซอมบี้นั้นแทบจะไม่มีเลย เพราะทีมของคุณจะต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา นอกจากนั้นปืนไรเฟิลยังต้องใช้เวลาโหลดกระสุนนานมาก ซึ่งก็ทำให้มันไม่เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดเช่นกัน L4D จะดียิ่งกว่านี้อีกถ้าหากมีอาวุธหลากหลายกว่านี้ (อาวุธสองชนิดที่ผุดขึ้นมาในสมองผมทันทีคือ เลื่อยไฟฟ้า หรือปืนไฟ) ...แต่อาวุธที่มีให้ใช้ตอนนี้ก็เพียงพอสำหรับการเอาตัวรอด

      ถึงแม้คุณจะเป็นเซียน Counter Strike แต่ก็คงจะมีซอมบี้สักตัวสองตัวที่รอดจากกระสุนเข้ามาประชิดตัวคุณสำเร็จ คุณจะรู้จักถึงความสยองที่แท้จริงเมื่อคุณอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ที่กำลังพยายามรุมแทะเนื้อของคุณเป็นอาหาร คุณสามารถกดปุ่มเมาส์ขวาเพื่อเหวี่ยงอาวุธของคุณฟาดมันให้ถอยกลับไป เปิดโอกาสให้คุณถอยหรือใส่กระสุนใหม่ได้ แต่การเหวี่ยงปืนไม่ใช่ทักษะที่มีไว้ใช้ในยามคับขันเท่านั้น แต่คุณยังสามารถใช้ผลักเจ้า Boomer กลับไปก่อนจะยิงมันเพื่อไม่ให้โดนเมือกพิษของมันเวลาที่มันระเบิด

มุกตลกซอมบี้

      แม้ว่าคุณจะสามารถประเมิณค่าต่างๆ ได้ แต่แคมเปญทุกแคมเปญจะมีโครงสร้างคล้ายๆ กันก็คือ... มีห้าฉาก (โดยมี Safe Room คอยคั่นฉากแต่ละฉาก) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่มีให้คุณทำมีเพียง ยิงแหลกพร้อมๆ กับมุ่งไปที่ทางออกให้เร็วที่สุด เพราะทาง Valve มีการใส่ลูกเล่นลงไปเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนจังหวะการเล่น ตัวอย่างเช่น บางครั้งคุณต้องกดปุ่มบางปุ่มเพื่อเปิดทางเดิน (อาทิ เอารถแวนพุ่งชนประตูที่ล็อกอยู่) แต่สถานการณ์แบบนี้มักจบลงด้วยคำเตือนว่า “เตรียมพร้อมรับมือฝูงซอมบี้!” จังหวะหยุดพักแบบนี้เป็นเหมือนการบอกคุณว่า ให้มองดูสภาพแวดล้อมดีๆ แล้วหาตำแหน่งเหมาะๆ คอยต้อนรับซอมบี้นับร้อยที่จะกรูเข้าทันทีที่คุณ “กดปุ่ม” (คุณอาจเอาระเบิดขวดขว้างไส่พื้นที่ที่พวกมันจะวิ่งผ่าน หรือสร้างพื้นที่คอขวดขึ้นมาก่อนกดปุ่ม)

     นอกจากนั้น นานๆ ครั้ง AI ผู้กำกับยังจะมีการส่งซอมบี้ระดับบอสชื่อ Tank มาจู่โจมพวกเรา มันเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งมากเสียจนดนตรีเปลี่ยนมาเป็นสะท้อนบรรยากาศที่อึมครึม หน้าจอของคุณจะเริ่มสั่น เป็นเหมือนการเตือนผู้รอดชีวิตว่า หายนะกำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเขา ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องเปลี่ยนแผนการเล่นแล้ว (กล่าวคือ ออกจากห้องแคบๆ เพื่อหาที่กว้างๆ พอที่จะหลบหลีกการโจมตีของ Tank ได้ ที่โล่งๆ จะช่วยให้ทุกคนเล็งยิงได้สะดวกขึ้น) ซอมบี้ระดับบอสอีกตัวที่จะทำให้คุณต้องเปลี่ยนแผนการเล่นคือ Witch ซึ่งจะทำให้คุณต้องปิดไฟฉายแล้วอ้อมหลบซอมบี้สาวจอมโหดตัวนี้ไปอย่างเงียบที่สุด ถึงแม้ว่า Witch จะส่งเสียงร้องไห้เตือนผู้รอดชีวิต แต่ความโหดของเธอมันโอเวอร์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ AI ผู้กำกับจับเธอไปวางไว้ตรงหัวมุม หรือตำแหน่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการ “ปลุก” เธอได้ เจอจังหวะจำเป็นต้องเจ็บตัวแบบไม่มีทางเลือกแบบนี้ก็อาจทำให้ผู้เล่นเซ็งเอาได้เหมือนกัน

      ฉากที่ห้าซึ่งเป็นฉากสุดท้ายของแคมเปญ ในที่สุดกลุ่มผู้รอดชีวิตก็เดินทางมาถึงจุดช่วยเหลือ พวกเขาใช้วิทยุส่งสัญญาณว่าพวกเขาพร้อมที่จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาจะต้องเอาตัวรอดจากการโจมตีของฝูงซอมบี้ที่เข้มข้นและดุเดือดที่สุด ฉากสุดท้ายนี้นับว่าเป็นฉากที่ตื่นเต้นเอามากๆ เป็นฉากการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายระหว่างกลุ่มผู้รอดชีวิตอาวุธครบมือ กับฝูงซอมบี้ที่บุกมาจากทุกทิศทุกทางจนกว่า ฮ. กู้ภัยจะเดินทางมาถึง พอ ฮ. มาถึงผู้รอดชีวิตก็ต้องวิ่งหนีตายไปยัง ฮ. โดยฝูงซอมบี้จะยิ่งโจมตีหนักที่สุดเหมือนเป็นการสั่งลา คนที่จะรอดชีวิตมาได้นั้นต้องเป็นคนที่มีฝีมือจริงๆ และต่อให้ฝีมือสูงส่งขนาดไหนก็มักจะรอดมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด นับเป็นจังหวะที่เสียวและมันส์สุดๆ ไปพร้อมๆ กัน ทีมผู้รอดชีวิตเจนศึกของเราตะลุยผ่านเนื้อเรื่องของ L4D ได้โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง แม้ว่ามันจะดูไม่ยาวนานนักสำหรับเกมเต็มหนึ่งเกม แต่ผมแนะนำว่า... ลองเล่นมันอีกครั้ง เพราะ AI ผู้กำกับจะสร้างความแปลกใหม่หลากหลายให้กับ L4D ทุกครั้งที่คุณเล่นด้วยการเปลี่ยนอาวุธ เปลี่ยนที่วางไอเทม (กระสุน ที่เก็บของ ถังระเบิด) เปลี่ยนการวางตำแหน่งของศัตรู มีรอบหนึ่งที่ทีมงานของเราซุ่มโจมตีฝูงซอมบี้โดยใช้ถังแก๊สสองถังที่เราเจอ ผลคือ... ฝูงซอมบี้ผู้โชคร้ายโดนย่างสดอย่างง่ายดาย แต่พอเราเล่นผ่านฉากนี้อีกครั้ง เรากลับไม่พบถังแก๊สเลยสักถังเดียว เราก็เลยต้องเปลี่ยนแผนมาตั้งรับการโจมตีโดยคิดว่าฝูงซอมบี้จะกรูกันมาทางเดิม ที่ไหนได้มันกลับกรูกันออกมาจากท่อระบายอากาศที่อยู่ด้านหลังเรา เล่นเอาเราตกใจไปตามๆ กัน พอคุณเล่นระดับ Normal จนคุณเริ่มคุ้นเคย ผมแนะนำให้ปรับมาเป็นระดับ Advanced และ Expert ซึ่งผมรับรองว่าความท้าทายจะเพิ่มขึ้นจนทำให้คุณสามารถเล่นแคมเปญเดิมได้โดยไม่เบื่ออีกหลายรอบ (แถมยังมี Achievement ไว้ให้ปลดล็อกอีกด้วย)

สี่คนก็พอแล้ว?

      ข้อติเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมมีกับ L4D ก็คือ การที่ผมไม่สามารถปรับแต่งตัวละครในเกมของผมได้เลยแม้แต่น้อย แม้ผู้รอดชีวิตทั้งสี่ (Bill, Louis, Zoey และ Francis) จะดูดีเอามากๆ ในเวอร์ชั่นล่าสุด (เอนจิ้น Source ทำให้การแสดงออกทางสีหน้ามีความละเอียดชัดเจนมากยิ่งขึ้น เสียงพากย์ก็ทำได้ลงตัวกับเนื้อหาของเกมมาก) แต่การที่ผมถูกบังคับให้สวมบทบาทเป็นหนึ่งในตัวละครทั้ง 4 คนมันไม่เข้ากับสไตล์ของผม อีกอย่างหนึ่งคือ... บางทีคุณก็ไม่สามารถเลือกได้ว่าคุณจะได้รับบทเป็นตัวละครตัวไหน สรุปคือ... ต้องมีผู้โชคร้ายคนหนึ่งที่ต้องเล่นเป็นผู้หญิง ผมไม่ได้บอกว่าผู้หญิงไม่เก่งนะ เพราะตัวละครทุกตัวใน L4D มีความสามารถเท่ากันแม้จะหน้าตาต่างกันก็ตาม แต่การที่เกมในยุคใหม่แบบนี้ไม่มีตัวเลือกให้ผู้เล่นก็ถือว่าน่าประหลาดใจเหมือนกัน

      นอกเหนือจากข้อติติงเล็กๆ น้อยๆ อย่างการที่เราไม่สามารถล็อกประตูกันฝูงซอมบี้ได้ การไม่มีเลื่อยไฟฟ้าให้เราหั่นซอมบี้เป็นชิ้นๆ และการที่ไม่มีฉากห้างสรรพสินค้าให้เราเล่นแล้ว Left 4 Dead คือเกมยิงซอมบี้ที่นำเสนอความสนุกตามความคาดหวังของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด มันคือเกมที่ทำให้คุณตะโกนบอกเพื่อนของคุณขณะที่คุณนอนเจ็บอยู่กับพื้นว่า “ทิ้งผมไว้ที่นี่! ยังไงผมก็ไม่รอดอยู่แล้ว! หนีไป! ไป!” พร้อมๆ กับชักปืนพกคู่ของคุณออกมากระหน่ำใส่คลื่นซอมบี้ที่กำลังถาโถมตามกลุ่มเพื่อนของคุณมา ชีวิตของคุณสามารถซื้อเวลาอันมีค่าให้กับพวกเขาได้... แค่นั้นก็คุ้มแล้ว แต่พอคุณรู้ว่าคุณสามารถเล่นเป็นซอมบี้ระดับบอสได้ คุณก็แทบจะลืมไปเลยว่าประสบการณ์เมื่อครั้งคุณเป็นผู้รอดชีวิตนั้นมันยอดเยี่ยมขนาดไหน การที่ Left 4 Dead หันมาเน้นการเล่นโดยใช้ทีมเวิร์คโดยไม่เน้นที่เนื้อเรื่องอาจจะทำให้มันไม่โดนใจเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นคนเดียวเท่าไหร่ แต่สำหรับคนอื่นๆ ที่เคยฝันว่าพวกเขาจะทำอย่างไรหากตกอยู่ในสภาวะวันซอมบี้โลกแตก... Left 4 Dead คือประสบการณ์ที่คุณ “ห้าม” พลาด

พื้นที่ซอมบี้ระบาด

NO MERCY

     สภาพเมืองที่เราคุ้นเคย เรียบง่าย แต่ท้ายที่สุดจะผันมาเป็นนรก พื้นที่ที่แคบๆ ระหว่างอาคาร ซากอพาร์ทเมนท์ รถไฟใต้ดิน ทางระบายน้ำ และสถานที่ก่อสร้าง รูปแบบการเล่นเป็นการต่อสู้ห้องต่อห้อง ค่อยๆ ร่วมมือกันเคลียร์ไปทีละห้อง พื้นที่เหมาะกับการป้องกันยกเว้นฉากจบบนดาดฟ้าที่คุณต้องต้านฝูงซอมบี้ในชุดคนไข้ ชุดพยาบาล และเสื้อคลุมคุณหมอสีขาว

DEATH TOLL

     การหนีทางน้ำด้วยเรือเหมือนจะเป็นไอเดียที่ดีในตอนแรก ฉาก Death Toll เป็นแคมเปญออกแนวชนบทหน่อย มีป่าโปร่งเป็นฉากแรก ต่อด้วยทางน้ำ และตามมาด้วยเมืองเล็กๆ ฉากไคลแมกซ์เกิดขึ้นที่โรงเก็บเรือที่มองเห็นเนินเขาใกล้ๆ ฝูงซอมบี้จะวิ่งลงเนิน ฝ่าต้นไม้มาโจมตีคุณจากรอบด้านในขณะที่คุณรอให้เรือกูภัยมาช่วย ระวัง Smoker ที่จะคอยฉกตัวคุณลงมาจากหลังคาโรงเก็บเรือนะ!

DEAD AIR

     ทิ้งสัมภาระของคุณไว้ ออกวิ่งบนรันเวย์กันดีกว่า สภาพแวดล้อมจะมีทั้งเรือนกระจก ตามมาด้วยการโดนซอมบี้แอร์โฮสเตสจู่โจม และการยืนหยัดต่อสู้ตรงจุดที่รับกระเป๋า นับว่าเป็นจุดเด่นของแคมเปญนี้เลยทีเดียว ซึ่งก็สามารถทดแทนฉากจบของ Dead Air ที่ไม่ค่อยเร้าใจเท่ากับฉากจบของแคมเปญอื่นๆ ได้ดี (เครื่องบินตกลงมาสร้างความยุ่งเหยิงบนลานบิน ฝูงซอมบี้ค่อยๆ บุกฝ่าซากเครื่องบินมาโจมตีคุณ แต่กลับไม่มีซากปรักหักพังให้คุณใช้เป็นที่มั่นได้เลย) Dead Air เป็นแคมเปญที่มีพื้นที่โล่งกว้างซึ่งก็ทำให้ปืนไรเฟิลล่าสัตว์เป็นอาวุธที่เด่นขึ้นมา

BLOOD HARVEST

     เป็นแคมเปญที่ยากที่สุดของ L4D อย่างไม่ต้องสงสัยเลย Blood Harvest เป็นพื้นที่ป่าหนาทึบ ซึ่งก็ทำให้ซอมบี้สามารถเข้าถึงตัวเราได้โดยไม่รู้ตัว ส่วนฉากอุโมงค์ก็สำหรับการต่อสู้ระยะประชิด ส่วนฉากลานเก็บรถไฟก็เป็นฉากที่มีการโจมตีที่หนักหน่วง ฉากไคลแมกซ์เป็นการโจมตีบ้านที่มีทุ่งข้าวโพดที่เหมาะกับการถูกซุ่มโจมตีล้อมรอบอยู่ (อย่างกับฉากที่หลุดมาจากภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกๆ ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว) ซอมบี้จะปีนเข้ามาทางหน้าต่าง ประตูทุกบาน

มันสมอง AI ก็อร่อยไม่แพ้กัน

      คุณจะเชื่อใจยอมให้ Bot คุ้มกันหลังให้คุณหรือไม่? อืม... เชื่อได้และก็ไม่ได้ในขณะเดียวกัน พวกมันจะปกป้องคุณจากการโดนโจมตีจากด้านหลังด้วยการเล็งที่แม่นยำ วิ่งเข้ามาช่วยคุณเวลาที่คุณโดนเจ้า Hunter หรือ Smoker เข้ามาพัวพัน ที่แน่ๆ คือพวกเขาจะอยู่ลุยกับคุณตลอดทาง แต่คุณไม่สามารถสื่อสารอะไรที่เป็นประโยชน์ได้เลย ซึ่งก็ทำให้การสั่งการ วางแผน ทำงานเป็นทีมกับ Bot นั้นเป็นไปไม่ได้ (คุณไม่สามารถซุ่มโจมตีไม่สามารถสั่งให้ Bot ตัวหนึ่งคุ้มกันประตูหรือมุมตึก ไม่สามารถเชื่อใจได้ว่าพวกมันจะวิ่งตามคุณมาทันเวลาใส่หลวงพ่อโกยวิ่งหา Safe Room) แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณต้องสังเวยชีวิตพวกเขาเพื่อให้ตัวคุณเองรอดตาย คุณก็จะไม่รู้สึกผิดมากมายอะไร

คำเตือน: Bot ไม่ค่อยมีประโยชน์นักหากคุณปรับระดับความยากของเกมสูงเกิน Normal

     อย่างไรก็ดี Bot ก็มีลูกเล่นแจ๋วๆ อยู่อย่างหนึ่งคือ... ถ้าหากมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งหลุดไปจากเกม (จะเน็ตหลุด หรือเดินไปหาข้าวกินก็แล้วแต่) Bot จะเข้ามาควบคุมตัวละครของเขาแทนจนกว่าจะมีผู้เล่นคนอื่นเข้ามาสวมบทบาทผู้รอดชีวิตคนนั้นอีกครั้ง แม้มันจะไม่ใช่ทางออกที่เพอร์เฟ็กต์ (เพราะ Bot ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ดีนักในเกมระดับโหดๆ) แต่มันก็ยังดีกว่าการที่ตัวละครตัวนั้นจะหายไปเลย หรือไม่ก็ยืนทื่อเป็นท่อนไม้รอให้ซอมบี้มารุมเขมือบ และทำให้ทีมเสียเปรียบยิ่งไปกว่านี้

ตายแล้วก็ยังสนุกได้

SMOKER

     ซอมบี้ตัวสูงโย่งที่มีลิ้นยาวเหมือนกบเป็นอาวุธ หากผู้รอดชีวิตโดนลิ้นของมันพัน เขาจะมีเวลาประมาณหนึ่งวินาทีก่อนที่เขาจะโดนลากไปรุมทึ้ง หากผู้รอดชีวิตโดนจับตัวไปได้ ทางรอดเขามีทางเดียวคือรอให้เพื่อนผู้รอดชีวิตคนอื่นมาช่วย (ด้วยการโจมตีเจ้า Smoker) การเล่นเป็น Smoker ก็เหมือนเล่นเป็น Sniper เพราะคุณจะคอยจ้องๆ ลอบโจมตีจากหลังคา

HUNTER

      ซอมบี้สวมเสื้อฮู้ดที่มีความว่องไวสูงเข้าประชิดตัวผู้รอดชีวิต Hunter สามารถกระโดดได้ไกลมากเพื่อเข้าตะครุบเหยื่อ มันจะนั่งคร่อมและเริ่มทึ้งเหยื่อที่มันจับได้จนกว่าจะมีผู้รอดชีวิตคนอื่นมาโจมตีมัน เวลาที่คุณไปช่วยผู้รอดชีวิตคนอื่นก็ควรจะคอยระวังการซุ่มโจมตีของ Hunter เอาไว้ด้วย

BOOMER

      ซอมบี้ตัวอ้วนพองน่ารังเกียจ เจ้า Boomer มีรูปแบบการโจมตีอยู่สองแบบคือ... อ้วกพิษใส่เหล่าผู้รอดชีวิต หรือไม่ก็พุ่งเข้าใส่กลุ่มผู้รอดชีวิตโดยหวังว่าจะถูกยิง หาก Boomer ถูกยิงมันจะระเบิดเมือกมาปกคลุมกลุ่มผู้รอดชีวิต ซึ่งถ้าผู้รอดชีวิตคนไหนโดนเมือกของ Boomer เข้าก็จะถูกฝูงซอมบี้พุ่งเข้ามารุมทันที หากคุณสามารถละเลงเมือกใส่ผู้รอดชีวิตได้ครบสี่คนและนั่งดูฝูงซอมบี้นับโหลๆ พุ่งเข้ามารุมหมาหมู่กลุ่มผู้รอดชีวิต นับว่าเป็นเป้าหมายชั่วร้ายสูงสุดของ Boomer

TANK

     ซอมบี้พี่เบิ้มกล้ามโต พวกมันเป็นซอมบี้หายาก แต่เวลาพวกมันเข้ามาใกล้คุณ เพลงจะเปลี่ยนไปเพื่อเป็นการเตือนถึงหายนะที่กำลังย่างกรายเข้ามาหาผู้รอดชีวิต ถ้าหากมันเข้ามาประชิดตัวผู้รอดชีวิตได้ การฟาดครั้งเดียวของ Tank สามารถส่งผู้รอดชีวิตลอยละลิ่วได้สบายๆ Tank แข็งแรงพอที่จะยกก้อนคอนกรีตขนาดใหญ่เขวี้ยงใส่ผู้รอดชีวิตจากระยะไกลได้เช่นกัน

WITCH

     Witch เป็นซอมบี้ตัวเดียวที่ผู้เล่นไม่สามารถเลือกเล่นได้... ทำไมน่ะเหรอ? ก็เธอเก่งเกินไปน่ะสิ Witch จะถูกสุ่มให้ปรากฏตัวก็ที่ใดที่หนึ่งบนแผนที่ เธอจะนั่งร้องไห้อยู่ตัวเดียวไม่ข้องเกี่ยวกับซอมบี้ตัวอื่นๆ จนกว่าจะมีผู้รอดชีวิตที่ซื่อบื้อพอที่จะหัดไฟฉายไปส่องหน้าเธอ หากเธอตกใจเธอจะกลายสภาพเป็นซอมบี้ที่อันตรายที่สุดในเกม การโจมตีครั้งเดียวทำให้ผู้รอดชีวิตล้มคว่ำได้ง่ายๆ อย่าไปยุ่งกับเธอหากไม่จำเป็น!

เมื่อผู้ถูกล่าพลิกโผมาเป็นผู้ล่า

เกิดมาเสียชาติเกิดหากคุณไม่ได้เล่นเป็นซอมบี้ในโหมดคนสู้ซอมบี้ของ LEFT 4 DEAD

     ไม่ว่าโหมดเล่นคนเดียวหรือโหมดช่วยกันเล่นของ Left 4 Dead จะน่าตื่นเต้นขนาดไหน แต่โหมดมัลติเพลเยอร์ที่ให้ผู้เล่น 8 คนได้แบ่งฝ่ายปะทะกันเองนั้นเป็นอะไรที่ระทึกใจเหนือชั้นกว่า ผู้เล่นจะแบ่งออกเป็นสองทีม ผลัดกันสวมบทบาทเป็นผู้รอดชีวิตและซอมบี้ระดับบอสโดยใช้ฉากทั้ง 5 ของแคมเปญแคมเปญหนึ่ง แล้วมันน่ากลัวตรงไหน? ก็ L4D สามารถจับเอาความรู้สึกของการถูกล่าเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ในฐานะผู้รอดชีวิต คุณรู้ว่าคุณไม่สามารถหลบซ่อนได้ (เพราะคนที่เล่นเป็นซอมบี้สามารถมองทะลุกำแพงมาเห็นคุณได้เหมือนที่เพื่อนคุณเห็นคุณ) นอกจากนั้นบอสซอมบี้ยังมองเห็นบันไดที่พวกเขาสามารถใช้ปีนไปยังพื้นที่ที่ผู้รอดชีวิตไม่สามารถเข้าถึงได้ หลังจากนั้นก็กระโดดลงมาจู่โจมคุณ แม้ว่าการเก็บบอสซอมบี้รายตัวจะเป็นเรื่องง่ายทำให้พวกมันไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่ แต่ถ้าพวกมันทำงานร่วมกันเพื่อแยกผู้รอดชีวิตออกจากกัน อันตรายจากบอสซอมบี้จะยิ่งทวีคูณหลายเท่าตัว จังหวะที่สะใจที่สุดก็คงจะเป็นจังหวะที่คุณประสบความสำเร็จจากการหาจังหวะดีๆ แยกผู้รอดชีวิตออกจากกลุ่มและเก็บเขาซะ แต่ฝ่ายซอมบี้ก็ต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดที่ว่า ผู้เล่นจะไม่สามารถเลือกชนิดของซอมบี้ที่จะเล่นได้ โดยเกมจะสุ่มเลือกให้ พบซอมบี้เจ๋งๆ อย่าง Tank เกิดก็จะสุ่มผู้เล่นไปควบคุม ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้ใครใช้แผนการเล่นเดิมๆ ซ้ำได้

     ระบบการให้คะแนนของโหมดนี้ก็อัจฉริยะพอๆ กัน เพราะ L4D จะนับคะแนนเฉพาะตอนที่คุณเล่นเป็นผู้รอดชีวิต โดยอ้างอิงว่าคุณสามารถเอาตัวรอดไปได้ไกลที่สุดแค่ไหน (ยิ่งไปไกลเท่าไหร่ยิ่งได้คะแนนมากขึ้นเท่านั้น) จะว่าไปก็คล้ายๆ กับฟุตบอล ชัยชนะวัดกันที่ใครเดินเกมรุกทำประตูได้มากกว่ากัน ไม่ใช่ว่าใครป้องกันได้ดีกว่า เพียงแต่ผู้เล่นสองฝั่งเป็นซอมบี้กับคนติดอาวุธครบมือเท่านั้น คนที่เล่นเป็นซอมบี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องคะแนนและสามารถหันไปเน้นสิ่งที่ซอมบี้ทำได้ดีที่สุด นั่นคือ... ฆ่าคน

     สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับ L4D เห็นจะเป็นการที่ Valve ทำตัวเป็นนักธุรกิจที่ดี... พวกเขาทิ้งเกมไว้ให้เราอยากเล่นมากกว่านี้ ที่เห็นกันชัดๆ คือการปล่อยแผนที่สำหรับเล่นแบบคนสู้ซอมบี้มาเพียง 2 ใน 4 แผนที่เท่านั้น แต่ Valve ก็บอกว่าพวกเขามีแผนจะทำให้แผนที่แคมเปญอีก 2 แผนที่สามารถรองรับการเล่นแบบคนสู้ซอมบี้ได้ โดย Valve เองนั้นมีชื่อเสียงว่าเป็นค่ายเกมที่ทำเนื้อหามาเสริมหลังจากเกมวางขายแล้วได้ดีมากๆ แต่ถ้าพูดถึงในตอนนี้... แผนที่ที่เล่นโหมดคนสู้ซอมบี้ได้นั้นมีเพียง 2 แผนที่เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้:

เรื่องที่คุณอาจสนใจ