ประเภท: ACTION/RPG
ผู้พัฒนา: EIDOS MONTREAL
ผู้ผลิต: EIDOS
ผู้จัดจำหน่าย: -
เว็บไซต์: WWW.DEUSEX3.COM
ขณะนี้ JC Denton ยังไม่ลืมตาขึ้นมาดูโลก... ยังไม่มีหลักฐานว่ามีมนุษย์คนไหนนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงร่างกายของตนเอง... (ใน Deus Ex ภาคแรกคุณได้รับบทเป็น JC Denton สายลับผู้มีนาโนเทคโนโลยีฝังในร่างกาย) ขณะนี้คือปี 2027 คุณจะได้สวมบทบาทเป็น Adam Jansen พนักงานรักษาความปลอดภัยบริษัทไบโอเทคโนโลยีชื่อ Sarif... บริษัทของคุณถูกกลุ่มชายชุดดำลึกลับโจมตี... ทุกคนตายหมด... ยกเว้นคุณคนเดียว... คุณจึงออกตามหาสาเหตุ
ห้องแล็บ Augmentation ดูอึมครึมเอาซะจริงๆ
Deus Ex 3 กำลังอยู่ในขั้นตอนก่อนผลิตโดยทีมงาน Eidos Montreal และเป็นทีมงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคแรกเลย (ถ้าหากเรามองย้อนกลับไปว่าทีมงานที่พัฒนา Invisible War คือทีมงานเดียวกับที่พัฒนา Deus ภาคต้นฉบับ แต่ Invisible War กลับออกมาเป็นหล่นออกมาไกลต้นพอสมควร... มันก็อาจจะดีแล้วที่ Eidos ใช้เลือดใหม่หมด) อย่างไรก็ดีทาง Eidos ยังคงให้ผู้แต่งเรื่องราวในภาคแรก Sheldon Pacotti มาเป็นที่ปรึกษาด้านเนื้อเรื่อง และตอนนี้เขาก็ได้เปิดไฟเขียวให้กับสคริปต์ที่ทางทีมงานใหม่ได้เรียบเรียงขึ้นอย่างลงตัวเรียบร้อยแล้ว
ถึงเราไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ในห้อง Mainframe 5 แต่ติดป้ายอย่างนี้ไม่หลงทางแน่ๆ
งั้นคำถามก็จะกลายเป็นว่า... “ทีมงานเก่ายังทำไม่ได้... แล้วทีมงานใหม่จะทำได้ดีแค่ไหนกันเชียว?” Jean-François Dugas หัวหน้าผู้ออกแบบเกมยืนยันว่า พวกเขาได้ช่วยกันวิเคราะห์อย่างจริงจังเพื่อหาปัจจัยที่ทำให้ Deus Ex ภาคแรกนั้นพิเศษออกไป จนทำให้มันได้รับรางวัลเกมยอดเยี่ยมถึงขั้นกลายเป็นตำนาน เพื่อที่จะนำมาต่อยอดออกไปอีกในภาคใหม่นี้ Jean-François กล่าวว่าเขามีความทรงจำดีๆ กับเกมนี้มาก แต่เมื่อนำกลับมาเล่นใหม่ในอีกแปดปีให้หลัง เขาก็ได้เห็นในอีกหลายๆ แง่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ข้อสรุปก็คือ Deus Ex 3 จะเป็นเกมแอ็กชั่นที่แฝงความเป็น RPG และตัวเกมแบบ Open-Ended ที่ผู้เล่นสามารถเล่นได้ในแบบที่ตนเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นแฮ็กเกอร์ไฮเทค สายลับจอมซุ่มยิง หรือจะเป็นแรมโบ้ขาลุยพร้อมปืนจรวดในมือ และที่สำคัญคือไม่ว่าคุณจะเล่นแบบไหน เกมก็จะปรับให้เข้ากับการเล่นของคุณทุกครั้งไป จุดแข็งของ Deus Ex ในภาคแรกคือความเป็นไปได้หลากหลายในการทำภารกิจ แต่สำหรับขาลุยคงต้องส่ายหน้าตั้งแต่เริ่มเกม เพราะพ่อหนุ่ม JC ของเรานั้นยิงปืนได้แย่ติดอันดับโลกเลยทีเดียว ทีมงานจึงจะทำการปรับปรุงในจุดนั้นด้วย
ในอนาคตนาโนเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคุณตั้งแต่ในครรภ์
การต่อสู้ในเกมนี้จะเป็นแบบตรงไปตรงมามากขึ้นเหมือนที่เกิดกับ Rainbow Six ซึ่งคุณจะไม่ยิงปืนได้แย่เพราะค่าความสามารถต่ำเกินอีกต่อไป และคาดว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้อีกหลายๆ คนหันมาชอบเกมนี้มากขึ้นแน่นอน เพราะแม้ว่า Deus Ex ในภาคแรกจะได้รับรางวัลและคำชมมากมายจากหลายสำนักเกม แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจ จุดเด่นที่ทำให้ Deus Ex เป็นเกมที่อยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนก็คือ... แนวความคิดที่ว่าการการลุยเหลกไม่ใช่ทางออกเดียวเสมอไป เมื่อกระสุนไม่ใช่คำตอบ Deus Ex ทำให้คุณมองหาวิธีอื่นเพื่อบรรลุภารกิจของคุณต่อไป (ยิ่งฝืนจะเอาปืนพกไปงัดกับหุ่นยนต์รบติดอาวุธพร้อมสรรพมากเท่าไหร่ ทางเลือกอื่นๆ ที่มีมาให้ในเกมก็เริ่มหมดความหมายลงเท่านั้น)
ความเป็นมนุษย์สำคัญกับคุณมากแค่ไหน?
ชายผู้มีปืนกลสามลำกล้องอยู่ใน “ข้อมือ” เดาเอาว่าเขาไม่ใช่พวกรักสงบ
ทางเลือกว่าก็คือ Nano-Augmentation หรือการฝังนาโนเทคโนโลยีลงในร่างกายแล้วให้ความสามารถพิเศษต่างๆ เช่น ยกลังเหล็กหนักอึ้ง ใช้ตาโซนาร์มองทะลุกำแพง หรือแม้แต่ทำให้พวกหุ่นยนต์มองคุณไม่เห็น แม้จะอยู่ใกล้ตรงปลายจมูกก็ตาม และอรรถรสจากการคิดหาวิธีใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เองที่ทำให้เกมนี้สนุกและต่างออกไปจากเกมอื่นๆ
แต่ใน Deus Ex 3 นี้ Augmentation จะไม่ใช่นาโนเทคใต้ผิวหนังที่ดูสะอาดตาอีกต่อไป คุณจะเริ่มเกมอย่างมนุษย์ธรรมดาที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ คุณจะถูกกดดันจนต้องดัดแปลงตนเองในที่สุด ด้วยชิ้นส่วนจักรกลที่ออกแบบให้ดูคล้ายอวัยวะเทียมในปัจจุบัน อย่างเช่นมือข้างใหม่ที่ทำด้วยเหล็กกล้าหุ้มแผ่นพลาสติกสีเนื้อจะมาแทนที่มือเก่า ชิ้นส่วนคุณติดตั้งลงไปแต่ละชิ้นจะแทนที่เลือดเนื้อของคุณ และให้ความสามารถพิเศษใหม่ๆ พร้อมกับรูปลักษณ์ที่ผิดแปลกออกไปในเวลาเดียวกัน
การคงอยู่ของผู้ที่มีรอยตำหนิจากการดัดแปลงเหล่านี้จะนำมาซึ่งความแตกแยกอย่างใหญ่หลวงทางสังคม ระหว่างตัวพวกเขาเองกับมนุษย์ปกติ และนั่นจะเป็นประเด็นมุมมองหลักของ Deus Ex 3 ต่ออนาคต โดยเกมจะเริ่มในโลกที่แบ่งพรรคแบ่งพวกออกเป็นกลุ่มๆ และ Jean François ยังจะหยิบเอาประเด็นการเหยียดเชื้อชาติในอเมริกาช่วงปี 1950 - 1960 มาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการสร้างมโนภาพ ทัศนคติ และปัญหาต่างๆ ที่ผู้ผ่านการดัดแปลงจะได้เจอใน Deus Ex 3 อีกด้วย
เหตุการณ์ในเกม Deus Ex 3 นี้จะอยู่ในช่วงประมาณปี 2027 โดยทางทีมงานจะหยิบยกเอาประเด็นความขัดแย้งในช่วงใกล้ๆ นี้มาใส่ไว้ในเรื่องด้วย อย่างเช่น Oscar Pistorius ที่มีขาพิการทั้งสองข้างและเคยถูกปฏิเสธการเข้าร่วมแข่งโอลิมปิกที่ปักกิ่งในปีนี้ เพราะเท้าเทียมของเขามีประสิทธิภาพสูงกว่าข้อเท้าของมนุษย์ 30% โดย Jean-François มองความขัดแย้งนี้ว่าเป็นตัวอย่างแรกในเกมของเขาที่แสดงถึงความกดดันอันเนื่องมาจากความแตกต่างสุดโต่งทางตรรกะและอคติต่อกัน ระหว่างมนุษย์ที่มีร่างกายเป็นเลือดเนื้อโดยสมบูรณ์กับมนุษย์ที่ไม่ใด้เป็นเช่นนั้น
Augmentation และทักษะต่างๆ บางอย่างนั้นขอเพียงแค่มีไว้ก็จะเพิ่มความสามารถ แต่การกลายเป็นจักรกลโดยเนื้อแท้นั้นจะทำให้คุณใช้กระบวนท่าต่อสู้แบบพิเศษได้ ซึ่ง Jean-François ยังไม่ได้อธิบายมากนักแต่เขาเปรยๆ ถึงกระบวนท่าสุดโปรดที่ใช้ปลิดชีพศัตรูรอบตัวได้พร้อมกันถึง 4 คน
ภาคใหม่ มุมมองใหม่?
อีกจุดที่จะทำให้ Deus Ex 3 เริ่มจะแตกต่างออกไป โดยมุมกล้องจะดึงกลับมาให้คุณเห็นกระบวนท่าพิเศษที่กำลังทำอยู่ และจะเปลี่ยนไปเป็นมุมมองบุคคลที่สามเมื่อคุณใช้ระบบกำบังแบบใหม่ของเกม เหมือนกับใน Rainbow Six Vegas ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเอื้อให้กับการรบเชิงกลยุทธ์มากกว่าเพราะมุมกล้องจะช่วยให้คุณเห็นมากขึ้นว่าพวกศัตรูกำลังทำอะไรอยู่ แต่การใช้มุมกล้องแบบนี้จะดูเป็นธรรมชาติหรือไม่ก็ยังไม่สำคัญตอนนี้ เพราะ Deus Ex 3 ยังเพิ่งจะเสร็จในขั้นก่อนการพัฒนาเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีไอเดียอยู่แล้วว่าสิ่งที่พวกเขาอยากได้นั้นคืออะไร... เพียงแต่ทำออกมาแล้วดีอย่างที่คิดหรือไม่ และจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไรก็ต้องรอดูกันอีกครั้ง
เมืองเซี่ยงไฮ้ในเกมถูกออกแบบใหม่โดยสร้างคร่อมอยู่บนเมืองเก่า
ฉากของเรื่องในตอนนี้ก็เริ่มจะดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น โดยถึงแม้ว่าจะตั้งไว้ที่ 25 ปีก่อนหน้า Deus Ex ภาคแรกแต่จากตัวอย่างภาพร่างและภาพภายในเกมที่ออกมานั้นดูเป็นอนาคตกว่ามาก และยังมีตัวอย่างบางฉากของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่สร้างขึ้นใหม่โดยคร่อมทับเมืองเก่า และทิ้งเมืองเก่านั้นไว้ภายใต้เงามืดที่ดูอึมครึมน่าเวทนา
ศิลปะในเกมนี้จะเป็นแบบผสมผสานระหว่างข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในแบบไซไฟ กับศิลปะสไตล์เรอเนซองซ์ของยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 14 - 16 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกรีกและโรมัน แต่การที่ Eidos ตัดสินใจทำบรรยากาศออกมาเป็นอนาคตเลยนั้นจะทำให้แฟนๆ จำนวนมหาศาลผิดหวังแน่ เพราะ Harvey Smith หัวหน้าโครงการ Invisible War เองก็เคยยอมรับว่าการออกนอกลู่จากโลกความจริงมากไปนั้นถือเป็นความผิดพลาดใหญ่เลยทีเดียว
ชุดแล็บแบบอนาคตส่งตรงจาก Invisible War
Readmeซ้ายล่าง เกมที่ย้อนกลับไปยังรากเหง้าเดิมของซีรีส์แล้วค่อยทำการปรับปรุง
แต่ข่าวดีก็คือฉากในเกมภาคนี้จะกว้างมากและมีหลากหลายเส้นทางให้เลือกเดินในการทำแต่ละภารกิจ โดย Jean-François กล่าวว่าฉากใน Invisible War ดูเหมือนอุโมงค์อุดอู้จนเกินไป และนั่นเป็นการบอกใบ้ว่าเกมเช่น Deus Ex 3 นี้ควรจะเป็นแบบมหากาพย์ที่อาจจะใหญ่กว่ากว่าภาคแรกด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าโทนของเกมโดยทั่วไปจะต้องยังคงดูลึกลับและอึมครึมเหมือนที่ควรจะเป็น แต่ทีมพัฒนายังอยากจะเพิ่มความหลากหลายเช่นบางฉากในเวลากลางวันเข้าไปอีกด้วย
แฟนๆ แบบฮาร์ดคอร์ของ Deus Ex ภาคแรกหลายคนอาจจะยอมรับศิลปะแบบล้ำสมัยและการรบแบบตรงไปตรงมาสไตล์ Rainbow Six ได้ยาก แต่เกมที่ได้รับประสบการณ์มาจากความยิ่งใหญ่ของ Deus Ex และความล้มเหลวของ Invisible War (หลายคนอาจจะบอกว่า Invisible War ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายแต่ไม่โด่งดังเท่าที่คาดเท่านั้น) คงไม่ออกมา “แย่” แน่ๆ
ตอบคำถามที่คุณอยากรู้
RPG?
Deus Ex 3 เป็นเกม Action-RPG เหมือนกับภาคแรก (Deus Ex)
เนื้อเรื่อง/พล็อต?
เนื้อเรื่องเป็นจุดเด่นของซีรียส์ Deus มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว... ซึ่งภาคนี้ก็ไม่ต่างกัน มันจะมีทั้งการสมคบคิด การหักหลัง ศีลธรรม สมเป็น Deus Ex แน่นอน
FIRST PERSON หรือ THIRD PERSON
Deus Ex 3 เป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First Person) แต่ก็จะมีบางจังหวะของเนื้อเรื่องที่คุณได้เห็นเกมในมุมมองบุคคลที่สาม แต่ไม่ใช่เพื่อการเล่นแต่เป็นเพื่อการบอกเล่าเรื่องราวมากกว่า
ฟื้นพลังชีวิตอัตโนมัติ?
Deus Ex 3 จะใช้ระบบฟื้นพลังชีวิตโดยอัตโนมัติ โดยผู้พัฒนาต้องการให้ผู้เล่นเล่นเกมได้โดยไมต้องมาคอยเสาะหา Health Pack ในทุกซอกทุกมุม แม้จะแตกต่างจากภาคก่อนๆ อย่างมากแต่ทางทีมงานเชื่อว่ามันคือวิวัฒนาการที่ดีและสมควรเปลี่ยนแปลง
ระบบที่กำบัง?
ทางทีมงานได้มีการอัพเดตการออกแบบเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกหลบหลังที่กำบังได้... โดยมุมมองจะเปลี่ยนจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งมาเป็นมุมมองบุคคลที่สาม (เพื่อให้เห็นศัตรู) แต่พอคุณออกจากที่กำบังเกมก็จะกลับมาเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งอีกครั้ง ทีมงานมองว่าระบบนี้เป็นทางเลือกมากกว่า “ข้อบังคับ”
ระบบซ่อนเร้น
ระบบซ่อนเร้นใน Deus Ex 3 นั้นวัดจากระยะการมองเห็นและการได้ยิน คุณจะซ่อนตัวตรงไหนก็ได้ตราบใดที่มีอะไรบังรายกายของคุณและไม่ส่งเสียง ทางทีมงานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Metal Gear Solid และด้วยระบบแสงเงาของใน Deus Ex 3 ศัตรูจะไม่รู้เลยว่าคุณซ่อนกายอยู่ห่างไปเพียงสามฟุต
AUGMENTATION และช่วงเวลา?
Adam ใช้ Mechanical Augmentation ส่วน Paul และ JC ก็เป็นรายแรกๆ ที่ใช้ Nano Augmentation ซึ่งการทำเนื้อเรื่องแบบย้อนเวลากลับไปดูจุดเริ่มต้นก็เป็นเรื่องธรรมชาติ Mechanical Augmentation จะเห็นการดัดแปลงชัดกว่า Nano ที่ดูเหมือนคนปกติมากๆ
โหลด/เซฟ เปลี่ยนฉากช้าไหม?
แม้แผนที่เราจะมีความซับซ้อน แต่ทางทีมพัฒนาได้นำระบบการโอนถ่ายข้อมูลแบบ Streaming Data เข้ามาประยุกต์ใช้ ซึ่งมันก็ทำให้การโหลดระหว่างฉากภายในและฉากภายนอกเป็นไปอย่างราบลื่นไม่มีกระตุกจนน่ารำคาญแน่ๆ
แฮ็กระบบ?
การแฮ็กระบบเป็นส่วนสำคัญของการเล่น (ไม่ใช่เป็นเพียงมินิเกมแบบใน BioShock) โดยคุณสามารถอัพเกรด Augmentation ของคุณให้มีความสามารถพิเศษด้านการแฮ็กได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อย (คล้ายๆ กับทักษะ Lockpick ในเกม RPG แนวแฟนตาซีล่ะมั้ง) แต่มันจะดูเท่มากๆ ด้วย
ทางเลือกและผลลัพธ์?
The social aspect of the game is extremely important. Do not fear.
Choice and consequence is a major design influence. This is still a Deus Ex game.
โลก... สภาพแวดล้อม?
ทางทีมงานตระหนักดีว่าสภาพแวดล้อมนั้นมีความสำคัญกับเกม RPG อย่าง Dues มากขนาดไหนและพยายามสร้างพื้นที่ให้คุณสำรวจมากที่สุด เพิ่มตัวละคร NPC ซึ่งมีบทบาทกับเนื้อเรื่องเข้าไปให้มากที่สุด เพิ่มทางเลือกในการทำภารกิจเข้าให้มากที่สุด ทั้งหมดก็เพื่อสร้างโลกอนาคตที่สมจริง
การพัฒนาตัวละคร?
ตัวละครของคุณจะได้รับค่าประสบการณ์ตามเกม RPG ปกติทั่วไป เพียงแต่... คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะนำค่าประสบการณ์นั้นมาใช้อัพเกรดตัวเอง (Augmentation) หรืออัพเกรดอาวุธของคุณ ซึ่ง Augmentation ที่มีให้เลือกหลากหลายจะส่งผลกระทบกับรูปแบบการเล่นของคุณ
เนื้อเรื่องของ Deus Ex
เรื่องราวในโลกของ Deus Ex นั้นเกิดขึ้นในปี 2052 ท่ามกลางความยุ่งเหยิงและสับสนในสังคม โรคระบาดร้ายแรงและไร้ทางรักษาชื่อ "Gray Death" แพร่กระจายไปสู่ประชากรทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มีเพียง “Ambrosia” วัคซีนสังเคราะห์ซึ่งสามารถต่อต้านผลของไวรัสได้
แต่ “Ambrosia” นั้นมีจำนวนที่น้อยมากและขาดแคลน เพราะเหตุนี้จึงทำให้ “Ambrosia” ถูกแจกจ่ายให้แก่เหล่าผู้คนชั้นสูงเช่นผู้มีอำนาจในรัฐบาล เหล่าทหารระดับสูง หรือนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำเท่านั้น ส่งผลให้เหล่าประชาชนคนธรรมดาทั่วไปถูกทอดทิ้งจึงเกิดการจราจลและความวุ่นวายไปทั่วโลก มีการก่อตั้งองค์การก่อการร้ายขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้เกิดขึ้นมากมายหลายกลุ่ม
เพื่อทำการต่อต้านองค์กรเหล่านี้ สหประชาชาติ (UN) ได้ทำการขยายฐานอำนาจไปทั่วโลกและจัดตั้ง (UNATCO) กลุ่มต่อต้านผู้ก่อการร้ายขึ้น....เรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ JC Denton ตัวเอกของเกมเจ้าหน้าที่ของ (UNATCO) ได้รับภารกิจแรก...
เรื่องราวในเกม Deus Ex นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวของทฤษฎีสมคบคิด การหักหลัง องค์กรลับต่างๆ และเรื่องราวปริศนาอันลึกลับมากมาย... นอกจากนั้นตัวเกมยังประสบความสำเร็จจนส่งผลให้มีภาคต่อตามมาคือ Deus Ex: Invisible War ซึ่งเป็นเรื่องราวให้หลังตอนจบของภาคแรก 20 ปี... หากคุณผู้อ่านยังไม่เคยเล่นเกมทั้งสองภาคมาก่อน ผมแนะนำให้ไปหามาเล่นดูกันครับเพราะเรื่องราวๆ ต่างๆ และระบบในเกมนั้นสนุกมากๆ (ถึงกราฟิกอาจจะดูเก่าไปหน่อยในทุกวันนี้ก็ตาม)
เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจ
ในตัวเกมภาคแรกนั้นผู้เล่นจะสามารถสังเกตได้ว่าทิวทัศน์ในเกมในเมืองนิวยอร์กนั้นไม่มีตึกคู่ World Trade Center ซึ่งภายหลังเกมวางจำหน่ายไปได้ 1 ปี ตึกก็ถูกผู้ก่อการร้ายทำลายลง ทางผู้พัฒนาออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่ภายในเกมไม่มีตึกคู่ก็เพราะว่าข้อจำกัดของ Texture Memory ส่วนของข้อมูลนั้นได้มีการสร้างไว้แล้วแต่ท้ายที่สุดก็ต้องถูกตัดทิ้ง ซึ่งทำให้ระหว่างการพัฒนาทางทีมงานจึงบอกว่าสาเหตุที่ไม่มีตึกคู่ World Trade Center นั้นก็เป็นเพราะถูกผู้ก่อการร้ายทำลายซึ่งระบุไว้ใน Storyline ของเกม... ซึ่งต่อมาตึกก็โดยทำลายลงจริงๆ...